กระทู้เมื่อเร็วๆ นี้

หน้า: [1] 2 3 ... 10
1

• ชื่ออังกฤษ : Haunted Universities 3
• ปีที่เปิดตัว : 2567
• เข้าฉายในไทย : 30 พฤษภาคม 2024
• นำแสดง : จุฑาวุฒิ ภัทรกำพล, อิษยา ออสุวรรณ, ณิชาภัทร ฉัตรชัยพลรัคน์, ชาติชาย ชินศรี
• กำกับโดย : นนทวัฒน์ นำเบญจพล, อัศฏา ลิขิตบุญมา, สรวิชญ์ เมืองแก้ว, อรุณกร พิค
• ประเภท : Horror
• ความยาว :  130 นาที
• สร้างโดย : Thailand
• จำหน่ายโดย : Sahamongkolfilm International Co.,Ltd บริษัท สหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด


เรื่องย่อ Haunted Universities 3

           เทอม 3 หนังผีไทยสุดเฮี้ยน เตรียมปลุกตำนานเรื่องเล่าเขย่าขวัญในรั้วมหาวิทยาลัยทั่วไทย วัดใจคนกล้า ท้าทายทุกโสตประสาท มาเห็นด้วยตา มากรีดร้องไปพร้อมกับพวกเขา

           ขอต้อนรับสู่ภาคเรียนสยองเทอมใหม่กับภาพยนตร์ไทยสยองขวัญแห่งปี ที่จะปลุกตำนานเรื่องเล่าและพิธีกรรม “บนบาน บายศรี ขอขมา” ในรั้วมหาวิทยาลัยของไทยให้หลอนสะพรึงสุดขีด


จากตำนาน “ขบวนแดง” สุดเฮี้ยน สู่หนังสยอง “ขบวนแห่” สุดโหด

           เรื่องเล่าอันโด่งดังของมหาวิทยาลัยชื่อดังทาง “ภาคเหนือ” ที่ถูกเรียกขานว่า “ขบวนแดง” ตามตำนานเล่าถึงลูกสาวผู้แสนงดงามของเจ้าเมืองที่ตกหลุมรักกับทาสหนุ่มแบกเสลี่ยงต่างชนชั้น เจ้าเมืองรู้เข้าจึงสั่งให้ยุติความสัมพันธ์และประหารตัดคอทาสหนุ่มนายนั้นรวมถึงทาสอื่นทั้งขบวน จนทำให้เจ้านางตรอมใจตายตามไป จากนั้นในทุกคืนเข้าพรรษา เจ้านางพร้อม “ขบวนแห่ไร้หัว” จะปรากฏตัวให้เห็น ทำให้นักศึกษาต่างขวัญผวากันมายาวนานหลายต่อหลายรุ่น


จากตำนาน “พี่เทค” สุดลึกลับ สู่ภาพยนตร์สุดระทึกวิพากษ์ระบบโซตัส

           เรื่องเล่าของมหาวิทยาลัยทาง “ภาคอีสาน” เกี่ยวกับ “พี่เทค-น้องเทค” และ “การรับน้องใหม่” อันน่าขนลุก ตำนานเล่าถึงรุ่นน้องเฟรชชีผู้เดินทางจากต่างจังหวัดเพื่อมาสอบสัมภาษณ์ แต่ยังไม่มีที่พัก โชคดีบังเอิญเจอรุ่นพี่อาสาพาไปพักที่หอพักหนึ่ง แต่พอรุ่นน้องตื่นขึ้นมากลับพบว่าที่แห่งนี้กลายเป็นหอพักที่ถูกทิ้งร้างมานานโข แล้ว “รุ่นพี่ปริศนา” เมื่อคืนนี้คือใครกันแน่!


จากตำนาน “ศาลล่องหน” สู่ภาพยนตร์สยองขวัญวายป่วง

           เรื่องเล่าจาก “ภาคกลาง” เกี่ยวกับ “ศาลล่องหน” ของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ ซึ่งมักจะมีนักศึกษาได้พบเห็นศาลต่างที่ต่างรูปแบบกันเป็นประจำ ถ้าใครพบและรู้เรื่องศาลนี้แล้วก็จะไม่มีวันได้เห็นอีก เป็นที่น่าแปลกใจจนเกิดเป็นประเด็นถกเถียงกันในหมู่นักศึกษารุ่นเก่าและใหม่ว่าศาลนี้มีอยู่จริงหรือไม่


หนัง เทอม 3 นำแสดงโดยใครบ้าง

• ตาต้า ชาติชาย ชินศรี รับบท ฮ่องเต้

          ผู้ไม่เชื่อเรื่องเล่าที่สืบต่อกันมา แต่ต้องเข้าไปพัวพันกับตำนานสยองเอาถึงตายอย่างไม่คาดฝัน

• อุ้ม อิษยา ฮอสุวรรณ รับบท ก้อย

          สายมูยืนหนึ่ง จนอาถรรพ์สุดสยองทำให้เธอต้องพิสูจน์มิตรภาพที่อาจแลกด้วยความตาย

• อัด อวัช รัตนปิณฑะ รับบท ซัน

          ผู้ท้าทายความลึกลับแต่ไม่ลบหลู่ พร้อมเผชิญหน้าอย่างเด็ดเดี่ยวไม่มีถอย

• จั๊มพ์ พิสิฐพล เอกพงศ์พิสิฐ รับบท เอิร์ธ

          ผู้คิดต่าง พูดตรง พร้อมงัดกับระบบคร่ำครึ ดาหน้าท้าอันตรายเพื่อพิสูจน์ความจริงอย่างถึงที่สุด

• มาร์ช จุฑาวุฒิ ภัทรกำพล รับบท วาฬ

          หนุ่มสุดกวนชวนหาทำ วีรกรรมซัพพอร์ตเพื่อนทำเสียวสยองทั้งมหาลัย

• แพรวา ณิชาภัทร ฉัตรชัยพลรัตน์ รับบท มินท์

          สาวปากดี ขี้นอยด์ เอาแต่ใจ จนทำให้เพื่อนฝูงต้องเจอกับค่ำคืนหลอนลั่นลืมไม่ลง

• มาร์ค ศิวัช จำลองกุล รับบท ฮาเลย์

          ตัวตึงเรื่องสยอง ผู้ต้องรับจบภารกิจผีเฮี้ยนโดยไม่รู้อีโหน่อีเหน่

           พร้อมเผยโฉมหน้าเหล่านักศึกษาใหม่ ไม่ว่าจะเป็น “ตาต้า ชาติชาย” (สัปเหร่อ), “อุ้ม อิษยา” (สยามสแควร์), “อัด อวัช” (ดอยบอย), “จั๊มพ์ พิสิฐพล” (เพื่อน(ไม่)สนิท), “มาร์ช จุฑาวุฒิ” (ฝากไว้..ในกายเธอ), “แพรวา ณิชาภัทร” (ซีรีส์ Friend Zone เอา-ให้-ชัด) และ “มาร์ค ศิวัช” (ซีรีส์ บังเอิญรัก) ที่จะมาร่วมเผชิญชะตากรรมสยองเลือดสาดคาดไม่ถึง

                     หนังเทอม 3 ได้ผู้กำกับเจเนอเรชั่นใหม่มากฝีมืออย่าง เบิ้ล นนทวัฒน์ นำเบญจพล (ดอยบอย), นัทสอ สรวิชญ์ เมืองแก้ว (ผู้ร่วมเขียนบท ดิว ไปด้วยกันนะ), ตู้ อัศฎา ลิขิตบุญมา (ผู้ช่วยผู้กำกับ ดิว ไปด้วยกันนะ), โจ้ อรุณกร พิค  (ส้มป่อย) ผนึกกำลังโปรดิวซ์โดย มะเดี่ยว ชูเกียรติ ศักดิ์วีระกุล และ โขม ก้องเกียรติ โขมศิริ เตรียมหลอนไปพร้อมกันได้ 30 พฤษภาคม นี้ ในโรงภาพยนตร์


ตัวอย่างหนัง เทอม 3


เทอม 3 : ตัวอย่างแรก (Official Teaser)


เทอม 3 - ตัวอย่างเต็ม (Official Trailer : ซับอังกฤษ)


เทอม 3 : ตัวอย่างภาพยนตร์


BRING YOU DOWN : OST. เทอม3 (Official Teaser)


BRING YOU DOWN : OST. เทอม3 - 4EVE (Official Audio)


อัด - จั๊มพ์ ขอเป็นตัวแทนนักศึกษา รีแอ็กเพลง Bring You Down : เทอม3x4EVE


เปิดเทอมใหม่ เช็กประวัตินักศึกษาใหม่ : เทอม 3


ตำนานที่คุณได้ยินมา อาจไม่ใช่ความจริงหนึ่งเดียว : เทอม 3


3 หลอนจากรั้วมหา'ลัย ใน เทอม 3


ตัดเกรดวิชาผี ทายผีจากคำใบ้ : เทอม 3


MV. BRING YOU DOWN - 4 EVE : เพลงประกอบภาพยนตร์ เทอม 3 ( Official MV )


อย่าล้อเล่นกับตำนาน ทุกพิธีกรรม จงระวัง : เทอม 3


เบื้องหลังการถ่ายทำ MV. BRING YOU DOWN - 4 EVE X เทอม 3



ตัวอย่างหนัง เทอม 3



ภาพนิ่ง โปสเตอร์ เทอม 3 (2024)



2

• ชื่อไทย : เฟอร์รารี
• ปีที่เปิดตัว : 2567
• นำแสดง : Adam Driver, Penelope Cruz, Gabriel Noto
• กำกับโดย : Michael Mann
• เขียนโดย : Troy Kennedy Martin, Brock Yates
• ประเภท : Biography / Drama / History / Sport
• ความยาว : 130 นาที
• เรต : R
• สร้างโดย : USA / UK / Saudi Arabia
• จำหน่ายโดย : GDH 559 Co., Ltd (บริษัท จีดีเอช ห้าห้าเก้า จำกัด)


เรื่องย่อ Ferrari สปีดทวงบัลลังก์

           เรื่องราวของ เอ็นโซ เฟอร์รารี (อดัม ไดเวอร์) ตำนานแห่งวงการฟอร์มูล่าวัน อดีตนักแข่งที่ผันตัวมาเป็นผู้ผลิตที่กำลังเผชิญวิกฤตชีวิต เมื่อบริษัทที่เขาและภรรยา ลอรา (เพเนโลเป ครูซ) ปั้นมากับมือเมื่อ 10 ปีก่อนกำลังจะล้มละลาย ในขณะที่ชีวิตคู่ก็สั่นคลอนหลังจากเสีย ดิโน (กาเบรียล โนโต) ลูกชายไป แต่ด้วยแพสชันอันแรงกล้าในการแข่งรถ เขาจึงขอท้าทายขีดจำกัดด้วยการตัดสินใจพาทีมเฟอร์รารีลงแข่งขันรายการแข่งรถที่ทรหดที่สุดในประวัติศาสตร์ มิลเล มิเลีย ที่กินระยะทางกว่า 1,000 ไมล์ทั่วอิตาลีและเส้นชัยครั้งนี้จะเป็นความหวังสุดท้ายตัดสินอนาคตทั้งชีวิตของอาณาจักรเฟอร์รารี

เจาะประวัติ "Ferrari" ม้าลำพองจากอิตาลี สัญลักษณ์แห่งชัยชนะของมอเตอร์สปอร์ต


           หากจะพูดถึงรถยนต์ในวงการมอเตอร์สปอร์ตอย่าง F1 หรือรายการแข่งขันชื่อดังระดับโลกรายการต่าง ๆ ชื่อของ Ferrari มักจะผุดขึ้นมาเป็นอันดับแรก ๆ หรือในบรรดารถซูเปอร์คาร์กับสีแดงสด ก็ต้องมีแบรนด์ม้าลำพองติดอยู่ในลิสต์แน่นอน ด้วยประสบการณ์อันยาวนานและประสิทธิภาพของรถอันเกรี้ยวกราดทำให้ Ferrari มีชื่อเสียงทั่วโลก ทุกคนในวงการรถต่างให้การยอมรับว่ามันคือแบรนด์รถยนต์ที่ทรงคุณค่าของโลก

           เป็นปกติที่การจะไปอยู่จุดสูงสุดของวงการมอเตอร์สปอร์ต จนมีคนยอมรับย่อมไม่ใช่เรื่องง่าย ซึ่ง Ferrari เองก็เช่นกันครับแต่ว่าการมาของชายที่ชื่อ Enzo Ferrari ทำให้แตกต่างจากผู้ก่อตั้งแบรนด์รถคนอื่น ๆ นั่นเพราะเขาไม่ใช่นักธุรกิจเน้นยอดผลิตจำนวนมาก ไม่ใช่วิศวกรฝีมือดีที่สร้างนวัตกรรมใหม่ แต่เป็นชายผู้คลั่งไคล้ยานยนต์ 4 ล้อที่กระหายชัยชนะ ผู้ไม่ยอมตกอยู่ใต้การควบคุมของใคร


           เรื่องราวของ Ferrari ก็ต้องย้อนไปยังสมัยที่ Enzo ยังเป็นเด็ก ความจริงแล้วเขาไม่ได้มีความสนใจเรื่องเครื่องจักรกลมากนัก จนกระทั่งบิดาของเขาได้พาไปชมการแข่งขันรถยนต์ นั่นทำให้ความรักและคลั่งไคล้รถของเขาเกิดขึ้น ถึงอย่างนั้นความฝันที่จะได้ทำรถก็ยังไม่มาถึง เพราะในช่วงเวลาดังกล่าวได้เกิดสงครามโลกครั้งที่ 1 ในปี 1914 -1918 ทำให้กิจการเหล็กของบิดาต้องถูกขายลงไป พร้อมกับการเสียชีวิตของบิดาและพี่ชาย ทำให้ Enzo ต้องออกเดินทางไปหางานทำ จนในที่สุดงานของเขาก็มาลงตัวที่ Alfa Romeo บริษัทรถอิตาลีในตำแหน่งนักขับทดสอบรถยนต์

           การงานในช่วงชีวิตดังกล่าวถือว่าเป็นการเก็บเกี่ยวประสบการณ์อย่างล้ำค่าของ Enzo เพราะด้วยตำแหน่งหน้าที่ ทำให้เขาได้สัมผัสกับรถยนต์อย่างใกล้ชิด ทั้งความสวยงามและสมรรถนะ จนทำให้เขาได้ตั้งทีมแข่งภายใต้สังกัด Alfa Romeo ในชื่อ Scuderia Ferrari ซึ่งผลงานก็ทำได้ยอดเยี่ยมคว้าแชมป์สนามแรกในปี 1924


           ในระหว่างการทำทีมแข่งมันก็ทำให้เขาได้พบกับบุคลากรมากความสามารถอย่าง Luigi Bazzi ผู้อยู่เบื้องหลังการผลิตเครื่องยนต์รถ Alfa Romeo 2 Alfa158 รวมไปถึงการดึงตัวนักแข่งฝีมือดี Tazio Nuvolari กับ Targo Florio สองนักแข่งผู้เคยคว้าชัยชนะในศึก Mill Miglia ปี 1933 และศึก Germany Grand Prix ที่ Nurburgring ในปี 1935 มาร่วมทีม

           จะเห็นได้ว่ารอบตัวของ Enzo แวดล้อมไปด้วยคนเก่ง ๆ ทั้งนั้น มันก็เพราะความรักความชอบที่เหมือนกันมักจะดึงดูดเข้าหากันเสมอ ตัวของ Enzo มีความมุ่งมั่นอย่างแรงกล้าตั้งแต่เด็ก จนถึงวัยทำงานว่าจะนำรถของตนสู่จุดสูงสุดของวงการมอเตอร์สปอร์ต ซึ่งความมุ่งมั่นแบบนี้ก็ก่อให้เกิดแนวคิดที่อาจจะขัดแย้งกับฝ่ายบริหาร ความทะเยอทะยานอยากที่จะเป็นอันดับ 1 ตัวจริง


           มันก็ทำให้ Enzo ต้องออกจาก Alfa Romeo ไปเมื่อปี 1939 โดยสาเหตุการออกของเขาบ้างก็ว่าไม่อยากสูญเสียความเป็นตัวเอง บ้างก็ว่าความเห็นไม่ตรงกัน จนถึงขั้นขัดแย้งกับผู้หลักผู้ใหญ่ในบริษัท แต่ไม่ว่าเหตุผลใดก็ตาม Enzo ได้ออกมาตั้งบริษัทเองใน Modena บ้านเกิดของเขา พร้อมกับช่างเครื่องยนต์ Luigi Bazzi แม้ว่าในช่วงเริ่มแรกพวกเขาต้องเจอกับวิกฤตสงครามโลกครั้งที่ 2 จนโรงงานโดนระเบิด แต่ในปี 1946 เขาก็เปิดโรงงานอีกครั้ง จากนั้นก็เป็นจุดเริ่มต้นการคว้าชัยชนะในสนามแข่งต่าง ๆ

           ด้วยความตั้งมั่นที่ชัดเจน ทำให้การผลิตรถในแต่ละรุ่น ถูกออกแบบมาเพื่อสนามแข่งขันโดยเฉพาะ ไม่ว่าจะเป็นรถแข่งสมรรถนะสูง รถฟอร์มูล่า 1 (F1) ถูกผลิตออกมาด้วยความพิถีพิถัน ทำให้ Ferrari เป็นจ้าวสนามในทุกรายการชื่อดังของโลกเช่น Le Mans 24 Hours, Formula 1 รวมถึงครองแชมป์ผู้ผลิตรถ, แชมป์โลกนักขับในวงการ F1 ยิ่งไม่ต้องพูดถึงรายการแข่งในอิตาลีเอง ม้าลำพองก็กวาดแชมป์มาได้ทั้งหมด


           จากความสำเร็จนี้ก็นำพาให้กำเนิดอะไรหลาย ๆ อย่างครับเช่นสุดยอดนักแข่งรถ F1 ที่ทุกคนต้องรู้จักคือ Michael Schumacher, Niki Lauda ในสังกัด Ferrari รวมถึงกำเนิดคู่แข่งตลอดกาลอย่าง Lamborghini ด้วย รวมไปถึงกำเนิดยอดรถแข่ง Ford GT40 จนเอาชนะได้ในการแข่ง Le Mans 24 Hours เรียกได้ว่า Ferrari เป็นทั้งผู้ดึงดูดบุคลากรระดับหัวกะทิ และให้กำเนิดคู่แข่งระดับเดียวกันไปด้วย

           อย่างไรก็ตามการมุ่งเน้นการแข่งรถโดยไม่เน้นแสวงหากำไร การผลิตเครื่องยนต์ที่ใช้มือคนผลิตไม่ใช่เครื่องจักรสายพาน ทำให้เกิดความสิ้นเปลืองและขาดทุน จนในที่สุด Ferrari ต้องยอมขายหุ้นให้กับ Fiat ถึง 90% แต่กระนั้น ด้วยชื่อเสียงความสำเร็จที่สั่งสมมาเป็นเวลานานก็ทำให้ทุกคนต่างยอมรับว่า Enzo Ferrari คือบุคคลทรงคุณค่าแห่งวงการมอเตอร์สปอร์ตโดยแท้จริง

           ปัจจุบันจึงไม่แปลกที่มีคนซื้อ Ferrari เพื่อซื้อความสำเร็จ ก็เพราะเบื้องหลังของแบรนด์ม้าลำพองนี้มาจากการแข่งขัน ชัยชนะ ความเป็นที่ 1 นั่นเอง จากเรื่องราวนี้ก็ยังทำให้ได้แง่คิดหลายอย่างครับ โดยเฉพาะความตั้งใจการมี Passion อย่างแรงกล้าทำให้มองเป้าหมายได้ชัดเจน ความทะนงตนไม่ยอมอยู่ใต้บัญชาใคร มันอาจจะเป็นดาบสองคม แต่มันก็มีข้อดีที่เราไม่เสียความเป็นตัวของตัวเอง


           อีกสิ่งที่น่าสนใจก็คือการกระตุ้นให้มีแรงจูงใจ ซึ่ง Ferrari เองเป็นแบรนด์รถแข่งที่มากล้นด้วยชัยชนะ ดังนั้นย่อมก่อให้เกิดการแข่งขันกันเอง ก็ยิ่งทำให้บุคลากรถูกกระตุ้นให้ตั้งใจทำงานเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นการแข่งในสนามหรือการทำงานนอกสนามแข่ง ตรงจุดนี้เหล่าผู้บริหาร อาจนำไปปรับใช้กับองค์กรของตนเองได้ไม่มากก็น้อยนะครับ

           ที่สำคัญมากที่สุดเลยก็คือการได้อยู่ในสภาพแวดล้อมด้วยคนเก่ง ๆ มีความสามารถ มันก็ทำให้เราได้พัฒนาศักยภาพ สามารถนำพาองค์กรไปสู่จุดหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพครับ


           ส่งท้ายด้วยเกร็ดน่ารู้ของ Ferrari กับสัญลักษณ์โลโก้ "ม้า" ที่มามาจาก Enzo เชื่อว่ามันคือความ "โชคดี" และมันยังเป็นสัญลักษณ์บนเครื่องบินรบของกองทัพอิตาลีในช่วงยุค 20s ด้วย มันจึงเป็นอะไรที่เหมาะเจาะมากกับการนำรูปม้ามาเป็นโลโก้ติดรถ ส่วนพื้นสีเหลืองหลังรูปม้ามาจากสีประจำเมือง Modena บ้านเกิดของ Ferrari และแถบด้านบนสีเขียว-ขาว-แดง คือสีธงชาติอิตาลีนั่นเอง

           ส่วนที่ว่าทำไม Ferrari ต้องเป็นสีแดง ก็เป็นเพราะว่าตอนที่เขาทำทีมแข่งให้กับ Alfa Romeo สีรถประจำทีมคือสีแดงนั่นเอง มีชื่ออิตาลีว่า Rosso Corsa หรือ Racing Red ในภาษาอังกฤษ ดังนั้นหากคุณมีเงินมากพอ การจะซื้อ Ferrari สีแดงเป็นอะไรที่คลาสสิก หรือเลือกสีอื่นก็ย่อมได้แต่มีข้อห้ามเพียงอย่างเดียวคือ "ไม่มีสีชมพู" เพราะ Ferrari เป็นสัญลักษณ์ของความดุดัน ดังนั้นจึงไม่มีสีหวาน ๆ อย่างสีชมพูให้เลือกนะครับ!!


ตัวอย่างหนัง


ตัวอย่างแรก ภาพยนตร์ ‘FERRARI เฟอร์รารี’ I Official Teaser


ตัวอย่างเต็ม [Official Trailer]  ‘Ferrari เฟอร์รารี’


ภาพนิ่ง โปสเตอร์ Ferrari (2023)

 
 
 
 
 


ภาพโปสเตอร์











3

• ชื่อไทย : แค้นนี้ที่รอคิวล์
• ปีที่เปิดตัว : 2566
• นำแสดง : Bill Skarsgard, Jessica Rothe, Michelle Dockery
• กำกับโดย : Moritz Mohr
• เขียนโดย : Tyler Burton Smith, Arend Remmers, Moritz Mohr
• ประเภท : Action / Crime / Thriller
• ความยาว : 111 นาที
• เรต : R
• สร้างโดย : Germany / South Africa / United States
• จำหน่ายโดย : เอ็ม พิคเจอร์ส M Pictures


เรื่องย่อ Boy Kills World แค้นนี้ที่รอคิวล์

           เรื่องสุดแค้นที่รอคอยการสะสาง ของ "บอย" รับบทโดยดาราชายดาวรุ่งแห่งยุค "บิลส์.สภาร์สภาร์ด" ที่สาบานจะแก้แค้น ตระกูลสุดวิปลาสแห่งโลกอันเสื่อมทรามอย่าง "แวน เดอร์ คอย" ให้สิ้นซาก หลังจากครอบครัวของเขาถูกฆ่าตายอย่างโหดเหี้ยม อีกทั้งทำร้ายให้เขาหูหนวก และ เป็นใบ้ แต่ด้วยแรงผลักดันจากเสียงในหัวและความชอบในวีดีโอเกมในวัยเด็ก บอยจึงฝึกฝนวิทยายุทธ์กับหมอผีลึกลับที่ชุบเลี้ยงเขาจนเติบใหญ่ เพื่อไปทวงแค้นจากโลกอันแสนโหดเหี้ยมที่พรากทั้งชีวิตเขาไป

           เรื่องสุดแค้นที่รอคอยการสะสางของ บอย (บิลล์ สการ์สการ์ด) ที่สาบานจะแก้แค้น ตระกูลสุดวิปลาสแห่งโลกอันเสื่อมทรามอย่าง แวน เดอร์ คอย ให้สิ้นซาก หลังจากครอบครัวของเขาถูกฆ่าตายอย่างโหดเหี้ยม อีกทั้งทำร้ายให้เขาหูหนวก และ เป็นใบ้ แต่ด้วยแรงผลักดันจากเสียงในหัวและความชอบในวีดีโอเกมในวัยเด็ก บอยจึงฝึกฝนวิทยายุทธ์กับหมอผีลึกลับที่ชุบเลี้ยงเขาจนเติบใหญ่ เพื่อไปทวงแค้นจากโลกอันแสนโหดเหี้ยมที่พรากทั้งชีวิตเขาไป



ตัวอย่างหนัง


BOY KILLS WORLD แค้นนี้ที่รอคิวล์ [OFFICIAL TRAILER] | 30 พฤษภาคมนี้ ในโรงภาพยนตร์


BOY KILLS WORLD แค้นนี้ที่รอคิวล์ | OFFICIAL TRAILER [เสียงไทย]


ภาพนิ่ง โปสเตอร์ Boy Kills World (2023)

 
 
 
 
 


ภาพโปสเตอร์
















4

• ชื่อไทย : ห้องเรียนเดือด
• ปีที่เปิดตัว : 2566
• เข้าฉายในไทย : 30 พฤษภาคม 2567
• นำแสดง : Leonie Benesch, Anne-Kathrin Gummich, Rafael Stachowiak
• กำกับโดย : lker Catak
• เขียนโดย : Johannes Duncker, Ilker Catak
• ประเภท : Drama
• ความยาว : 98 นาที
• เรต : PG-13
• สร้างโดย : Germany
• จำหน่ายโดย : Mongkol Major มงคล เมเจอร์


เรื่องย่อ The Teachers’ Lounge ห้องเรียนเดือด

           คาร์ลา โนวัก (ลีโอนี บีนิช) เพิ่งได้งานเป็นครูโรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่งในเยอรมนี เธอทำงานนี้ด้วยความตั้งใจและทุ่มเท แต่ความสัมพันธ์อันราบรื่นระหว่างเธอกับลูกศิษย์ชั้นเกรด 7 ค่อยๆ สั่นคลอน เมื่อเกิดเหตุลักขโมยซ้ำแล้วซ้ำอีกในโรงเรียน

           The Teachers’ Lounge ผลงานสั่นประสาทของ อิลเคอร์ แชตัค ผู้กำกับเยอรมันเชื้อสายตุรกี ลูกศิษย์คนเก่งของผู้กำกับดัง วิม เวนเดอร์ส The Teachers’ Lounge ติดอันดับหนังเยี่ยมของนักวิจารณ์หลายคนในปี 2023 อีกทั้งยังเป็นหนัง 5 เรื่องสุดท้ายที่ได้เข้าชิง สาขาหนังนานาชาติ บนเวทีออสการ์ปีล่าสุด

           แรงบันดาลใจของหนังเกิดขึ้น สมัยที่ อิลเคอร์ แชตัค และ โยฮันเนส ดุงเคอร์ (ผู้เขียนบทร่วม) เรียนชั้นเดียวกันตอนมัธยม ณ โรงเรียนแห่งหนึ่งในตุรกี ชาทัคเล่าว่า “มีเด็กผู้ชายในห้องเรียน 2 คนเป็นหัวขโมย และโรงเรียนก็ทราบเรื่องแล้ว แต่อุบไว้ และมาดักจับระหว่างเรียน พวกครูเข้ามาในห้องแล้วสั่งให้เด็กผู้หญิงออกไปนอกห้อง ก่อนจะขอค้นกระเป๋าเงินเด็กผู้ชาย เพื่อจับเด็กสองคนนั้นพร้อมหลักฐาน ผมนึกถึงเหตุการณ์นั้น และคิดว่าน่าจะเป็นฉากเปิดที่ดีในหนังสักเรื่อง”

           ลีโอนี บีนิช บอกว่าเธอเป็นคนไม่ชอบเด็กเท่าไหร่ “ตอนฉันบอกเพื่อน ๆ ว่าต้องมาเล่นเป็นครู เพื่อนทุกคนคิดว่าฉันอยู่กับเด็กตลอดเวลาไม่ได้หรอก แต่ฉันก็ทำได้ เพราะเด็ก ๆ ในเรื่องน่ารักมาก” บีนิชสร้างชื่อครั้งแรกจากผลงาน The White Ribbon ของผู้กำกับไมเคิล ฮาเนเกอ และปรากฏตัวในซีรีส์ที่ดังระดับโลกอย่าง The Crown, Babylon Berlin และ Around the World in 80 Days


The Teachers’ Lounge ห้องเรียนเดือด 30 พฤษภาคม ในโรงภาพยนตร์[/glow]


ตัวอย่างหนัง


The Teachers’ Lounge ห้องเรียนเดือด - Official Trailer [ ตัวอย่างซับไทย ]



ภาพนิ่ง โปสเตอร์ The Teachers' Lounge (2023)

 
 
 
 
 



ภาพโปสเตอร์








ตัวอย่างหนัง The Teachers’ Lounge



5

• ชื่อไทย : บู๊ระห่ำ ล่าล้างนรก: นรกลงทัณฑ์
• ปีที่เปิดตัว : 2567
• เข้าฉายในไทย : 30 พฤษภาคม 2567
• นำแสดง : Ma Dong-Seok, Kim Moo-Yul, Park Ji-Hwan
• กำกับโดย : Heo Myung-Haeng
• เขียนโดย : Oh Sang-Ho
• ประเภท : Action / Crime / Thriller
• ความยาว : 109 นาที
• สร้างโดย : South Korea
• จำหน่ายโดย : Five Star Production Co.,Ltd บริษัท ไฟว์สตาร์ โปรดักชั่น จำกัด   


เรื่องย่อ บู๊ระห่ำ ล่าล้างนรก The Roundup

           4 ปีหลังจากเหตุการณ์ในปฏิบัติการณ์กวาดล้างในเขตการิบง หน่วยปราบปรามอาชญากรรมของกรมตำรวจได้รับมอบหมายภารกิจให้ตามจับตัวผู้ร้ายหนีคดีข้ามชาติ นายตำรวจ มาซอกโด และสารวัตร จอนอิลมัน รับรู้ว่ามีบางอย่างไม่ชอบมาพากลเกี่ยวกับการที่ผู้ต้องสงสัยเต็มใจจะยอมมอบตัวและเปิดโปงเรื่องราวอาชญากรรมที่เกิดขึ้น จากฝีมือของฆาตกรที่น่าสะพรึงกลัวนาม คังแฮซัง (ซนซอกกู) จนทั่งสองต้องเริ่มต้นการสืบสวนที่คังทิ้งไว้เบื้องหลัง…

           สามปีหลังจากเหตุการณ์กวาดล้างกลุ่มยาเสพติดในเกาหลี สุดยอดตำรวจมือปราบอย่าง มาซอกโด( ดอน ลี) และหน่วยสืบสวนนครบาลก็ยุ่งอยู่กับการไล่ล่าอาชญากรที่ค้ายาเสพติดผ่านทางแอปจัดส่งสินค้า จนมาพบว่าผู้เผยแพร่แอปนี้ได้เสียชีวิตอยู่ที่ฟิลิปปินส์ ไม่นานนักพวกเขาก็เชื่อมโยงได้ว่าคดีนี้น่าจะเกี่ยวพันกับธุรกิจพนันออนไลน์ผิดกฎหมายที่ใหญ่โตซึ่งมีความเชื่อมโยงกันอย่างผิดปกติ ในฟิลิปปินส์อดีตนักรบรับจ้างกองกำลังพิเศษอย่าง แบกชางกี (คิมมูยอล) ก็ได้รวบอำนาจเบ็ดเสร็จในวงการพนันออนไลน์ผิดกฎหมายของเกาหลีด้วยวิธีการลักพาตัว กักขัง และทำร้ายร่างกายหรือแม้กระทั่งฆาตกรรม ขณะเดียวกันในเกาหลีซีอีโออัจฉริยะด้านไอที ชางดงชอล(อีดงฮวี) ก็กำลังวางแผนการที่ยิ่งใหญ่กว่านั้น นักสืบมาซอกโด ได้ขอความช่วยเหลือจาก จางอีซู (พัคจีฮวาน) และด้วยความสนับสนุนจากทีมสืบสวนไซเบอร์ หน่วยสืบสวนนครบาลก็เริ่มรวบตัวอาชญากรบางคน


ตัวอย่างหนัง The Roundup Punishmen


ตัวอย่างภาพยนตร์ The Roundup บู๊ระห่ำล่าล้างนรก (Official Trailer)


ตัวอย่าง The Round up: Punishment บู๊ระห่ำล่าล้างนรก: นรกลงทัณฑ์ 30 พฤษภาคมนี้ ในโรงภาพยนตร์


เมื่ออาชญากรไล่ฆ่าพวกเขา เขาจึงต้องกลับมา “ล่า” อีกครั้ง #TheRoundup #บู๊ระห่ำล่าล้างนรก 16 มิถุนายน


ภาพนิ่ง โปสเตอร์ The Roundup: Punishment (2024)

 
 
 
 
 





ภาพโปสเตอร์

























6
หนังใหม่ที่น่าสนใจกำลังจะเข้าฉาย / The Tenant : ผู้เช่า
« กระทู้ล่าสุด โดย เซียวเหล่งนึ่งฯ เมื่อ วันนี้ เวลา 17:01:22 »

• ชื่ออังกฤษ : The Tenant
• ปีที่เปิดตัว : 2567
• เข้าฉายในไทย : 16 พฤษภาคม 2567
• นำแสดง : ณัชพัณณ์ ปรมะเจริญโรจน์, อำภา ภูษิต, แอนโทเนีย โพซิ้ว
• กำกับโดย : อนันต์ รัศมี
• ประเภท : Horror
• สร้างโดย : Thailand
• จำหน่ายโดย : ฉายแสง แอด.เวนเจอร์ SHINESAENG AD.VENTURE CO., LTD.


เรื่องย่อ ผู้เช่า The Tenant

          เปิดตัวมาก็ฮือฮากันเลยทีเดียวสำหรับทีเซอร์โปสเตอร์แรก ผู้เช่า The Tenant จาก V-Love Studi หนังผีไทย ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากเรื่องเล่าความสยองขวัญที่เกิดขึ้นในหอพักแห่งหนึ่งที่ผู้เช่าคนใหม่จะต้องเข้ามาพบเจอ หนังนำแสดงโดย อำภา ภูษิต, ปีโป้ ณัชพัณณ์ ร่วมด้วย แอนโทเนีย โพซิ้ว รองอันดับ 1 มิสยูนิเวิร์ส กับผลงานการแสดงหนังเรื่องแรก พร้อมนักแสดงอีกมากมายที่จะมาเปิดประสบการณ์ดูหนังหอพักโคตรเฮี้ยน

           เรื่องราวของ ผู้เช่า The Tenant เริ่มต้นจากเหตุหญิงสาวฆ่าตัวตายในหอพักแห่งหนึ่ง จนทำให้ผู้เช่าที่อาศัยในหอแห่งนี้ต่างพากันย้ายออก จนเหลืออยู่เพียงไม่กี่ห้องเท่านั้น วันหนึ่ง มาร์ช (ณัชพัณณ์ ปรมะเจริญโรจน์) หนุ่มถังแตก นักศึกษาคณะนิเทศฯ ได้เข้ามาเช่าหอพักแห่งนี้ เนื่องจากค่าเช่าที่ถูกแสนถูก ในที่สุดเขาก็ได้รับรู้ความจริงว่าที่ห้องเช่าราคาถูกมากขนาดนี้ สาเหตุเพราะมีการฆ่าตัวตายในตึกนั่นเอง แต่เขาก็ยังคงต้องอยู่ในห้องเช่านี้ต่อไป เพราะต้องเซฟค่าใช้จ่ายที่มีอยู่อย่างจำกัดจำเขี่ยด้วย

          อย่างไรก็ตาม เขาไม่ใช่คนเดียวที่อาศัยอยู่ในหอพักแห่งนี้ เนื่องจากยังมีผู้เช่าห้องอื่น ๆ ที่ล้วนแล้วแต่ใจดีกับเขา ไม่ว่าจะเป็น ป้าธิดา เจ้าของห้องเช่าที่ใจดี ยิ้มแย้มแจ่มใส, นิด คุณแม่เลี้ยงเดี่ยว เงียบและไม่ค่อยสุงสิงกับใคร, ก๊อต นายแพทย์หนุ่มที่เป็นมิตรกับทุกคน รวมถึง ซอล นักศึกษาแพทย์แฟนคุณหมอ คนที่เขาสนิทที่สุด และยังเป็นคนที่ทำให้เขารู้สึกปลอดภัยกับหอพักแห่งนี้ด้วย จะมีก็เพียงแต่ เฟย หนุ่มเกเรลูกเจ้าของหอพัก ที่คอยระรานและสร้างความเดือดร้อนให้กับคนในหอพัก รวมถึงความน่ากลัวของผีที่อยู่ในหอพักแห่งนี้ก็สร้างความหวาดผวาให้กับคนในหอพักอยู่เนือง ๆ
          แต่วันหนึ่งมาร์ชก็ได้ล่วงรู้ความจริงถึงสาเหตุการตายของหญิงสาวว่าเธอไม่ได้ฆ่าตัวตาย แต่กลับกลายเป็นฝีมือของคนในหอพักที่เขาไว้ใจ ชายหนุ่มพยายามขอความช่วยเหลือจากคนอื่น ๆ ในหอพัก แต่เขากลับพบเจอกับสิ่งที่เลวร้ายและน่ากลัวจนทำให้เขาได้รับอันตราย เขาจะรอดพ้นจากฝีมือของผีหรือฝีมือของคนได้หรือไม่ เรื่องราวในหอพักนี้จะเป็นอย่างไร และระหว่างผีและคนใครจะน่ากลัวกว่ากัน รอพิสูจน์พร้อมกันได้เร็ว ๆ นี้

          ทั้งนี้ ผู้เช่า The Tenant หนังผีไทย แนวระทึกขวัญปนสืบสวนสอบสวน เป็นผลงานการกำกับของ อนันต์ รัศมี โดยมี ดร.อภิรักษ์ ชัยปัญหา เขียนบทภาพยนตร์ และถ่ายทอดภาพโดย อ.ประยุกต์ ศรีทองกูล Photographer director ควบคุมการผลิตโดย ทีม V-love studio หนังวางกำหนดเข้าฉายไว้พฤษภาคม 2567



ตัวอย่างหนัง The Tenant


ผู้เช่า The Tenant I Official Trailer


ภาพนิ่ง โปสเตอร์ ผู้เช่า (2024)

 
 
 
 
 


ภาพโปสเตอร์























7

• ชื่อไทย : เดอะ การ์ฟิลด์ มูฟวี่
• ปีที่เปิดตัว : 2567
• เข้าฉายในไทย : 22 พฤษภาคม 2567
• นำแสดง : Chris Pratt, Samuel L. Jackson, Hannah Waddingham
• กำกับโดย : Mark Dindal
• เขียนโดย : Paul A. Kaplan, Mark Torgove, David Reynolds
• ประเภท : Animation / Adventure / Comedy / Family / Fantasy
• ความยาว : 101 นาที
• เรต : PG
• สร้างโดย : UK / USA / Hong Kong
• จำหน่ายโดย : Sony Pictures Thailand


เรื่องย่อ The Garfield Movie เดอะ การ์ฟิลด์ มูฟวี่

          เรื่องราวของ การ์ฟิลด์ (คริส แพรตต์) ที่วันหนึ่งได้พบกับ วิก (แซมมวล แอล. แจ็กสัน) แมวจรข้างถนนโดยไม่คาดฝัน วิคคือพ่อของการ์ฟิลด์ที่หายสาบสูญไปนานแสนนาน การ์ฟิลด์และ โอดี (นิโคลัส เฮาลต์) คู่หู จำต้องจากจอน ออกจากบ้านที่แสนอบอุ่นสุขสบาย เพื่อไปร่วมด้วยช่วยกันกับวิคในการผจญภัยสุดหินและการปล้นสุดหฤหรรษ์ งานนี้การ์ฟิลด์ต้องเจองานหิน และต้องเอาชนะกลุ่มตัวร้าย เดิมพันครั้งนี้ใหญ่และยากแบบที่การ์ฟิลด์จะกวนโอ๊ยไม่ออกอีกต่อไป

รีวิวหนัง “The Garfield Movie”

          กลับมาคราวนี้ เจ้าแมวส้มตัวป่วนจะชวนคุณผู้ชมมาพบกับความสนุกแบบเต็มอิ่มจุใจ ในหนังแอนิเมชัน “The Garfield Movie” เดอะ การ์ฟิลด์ มูฟวี่ การออกเดินทางครั้งใหม่ในรอบทศวรรษ ที่เต็มไปด้วยรสชาติแห่งความสุข แถมกอบโกยรายได้เปิดตัวในตลาดโลกแบบจุกๆ นี่จึงเป็นการปลุกกระแสแมวส้มให้กลับมาฮิตได้ไม่น่ายาก พร้อมละเลงมุมมองใหม่ระหว่างการ์ฟิลด์ และพ่อของเขา ผ่านเรื่องราวอันแสนอลวน จนเราไม่สามารถหยุดรอยยิ้มได้เลย

          “The Garfield Movie” เป็นเรื่องราวของ การ์ฟิลด์ ในวันหนึ่งเขาได้พบกับ วิค แมวจรจัดข้างถนนผู้เป็นพ่อของเขา หลังจากไม่ได้เจอกันเลยเป็นเวลานานหลายปี นั่นทำให้ การ์ฟิลด์ และ โอดี้ จำต้องลาจาก จอน และบ้านอันแสนสุขสบาย เข้ามาพัวพันกับอดีตแสนอันตรายพ่อของเขา พวกเขาจึงต้องลงเรือลำเดียวกันกับวิคในการผจญภัยสุดหินและการปล้นสุดหฤหรรษ์ ที่เต็มไปด้วยการเสี่ยงอันตรายและความเฮฮาแบบไม่คาดคิด

          เสิร์ฟความสนุกและเรียกรอยยิ้มจนถึงขั้นหัวเราะออกมาตั้งแต่เริ่มต้น เพราะเจ้าแมวส้มแสดงความป่วนแบบไม่มีพัก แม้ว่าจะพอมองพล็อตเนื้อหาและการดำเนินเรื่องได้ตั้งแต่ช่วงแรก แต่ด้วยความสนุกในมุกต่างๆ คาแรคเตอร์ของตัวละครมันจึงชวนให้เรามองผ่าน และผ่อนคลายไปชั่วขณะ ซึ่งปมหลักๆ ของหนังแอนิเมชันที่เคยผ่านตามาบ้าง คงหนีไม่พ้นเรื่องครอบครัว ความฝันในชีวิต และมิตรภาพ ซึ่งนั่นก็มีให้เราได้เห็นในภาพยนตร์เรื่องนี้

          โดยการดำเนินเนื้อหาค่อนข้างมีชั้นเชิงระดับหนึ่งในแบบฉบับย่อยง่าย ผูกปมปัญหาหลักของสองพ่อลูก และศัตรูตัวร้ายเอาไว้ได้แบบกระชับรวดเร็ว และนำพาไปสู่การร้อยเรียงเรื่องราวการผจญภัยที่เต็มไปด้วยความหรรษา ทว่าในระหว่างนั้นมันมีอุปสรรคมาให้พ่อลูกได้แก้อคติและความสัมพันธ์ที่ไม่ลงรอยกัน แม้ว่านี่คือความธรรมดาที่เราได้เห็นมาบ่อยครั้ง แต่พอมาเจอกับความป่วนของการ์ฟิลด์ โอดี้ และตัวละครอื่นๆ ทำให้มันผสมผสานความสนุก และเรียกรอยยิ้มออกมาได้อย่างกลมกล่อม

          อีกทั้งสิ่งที่ชอบในบทของภาพยนตร์เรื่องนี้ คือมีการเผยให้เห็นการเติบโต การเรียนรู้ และพัฒนาการของตัวละคร และยังมีบทสรุปของตัวละครที่จบลงได้อย่างสวยงาม เสริมสร้างให้บทมันสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น ไม่ทิ้งตัวละครใดให้จางหายไป นอกจากนี้ ยังได้ข้อคิดของการเป็นครอบครัวเดียวกัน การทำความเข้าใจกันและกันโดยไม่มองในแง่มุมเดียวเท่านั้น มันจึงเป็นโมเมนต์ที่ทำให้เรารู้สึกเพลิดเพลิน และเข้าถึงช่วงอารมณ์ที่ถ่ายทอดออกมา

          แน่นอนว่าความสนุกที่จะขาดไปไม่ได้เลย คือคาแรคเตอร์ของเจ้าแมวส้ม การ์ฟิลด์ ตัวละครนี้ส่งผ่านความกวนโอ๊ยแบบเต็มกำลัง ตั้งแต่วัยเด็กจนถึงปัจจุบันเขานั้นสุขสบายไม่น้อย แต่พอเขาต้องออกผจญภัยนอกบ้านนั่นทำให้การ์ฟิลด์ได้เรียนรู้ทักษะการใช้ชีวิตมากขึ้นจากพ่อของเขา และเข้าขากันได้เป็นอย่างดี หรือแม้อต่ โอดี้ เจ้าสุนัขตัวโปรดที่ได้ซีนไปหลายฉากเพราะความเก่งกาจและรักพวกพ้องของเขา หรือจอน เจ้าของพวกเขาทำให้เราเห็นมุมมองของคนรักสัตว์เป็นชีวิตจิตใจ รวมถึงตัวร้ายที่ร้ายแบบฮาๆ มันเป็นความกลมกล่อมที่พาให้เรื่องนี้สนุกตั้งแต่ต้นจนจบ

          ด้านงานภาพและแอนิเมชันรังสรรค์ออกมาได้แบบไม่มีข้อกังขา เพราะลื่นไหลสบายตาในทุกฉากทุกตอน โทนของความสดใสพาให้เราได้เจริญหูเจริญตาไปกับช่วงเวลานั้นๆ ดั่งในเมนูอาหารของการ์ฟิลด์ชวนหิวตามไม่น้อย จนออกจากโรงภาพยนตร์มาต้องหาพิซซ่า ลาซานญ่ามารองท้องตาม หรือแม้แต่ในอุปกรณ์ต่างๆ การออกแบบตัวละครที่นอกจากตัวละครหลัก มันเป็นการออกแบบที่ส่งไปถึงคาแรคเตอร์นั้นๆ ได้เป็นอย่างดี อีกทั้งงานดนตรีบิวท์อารมณ์ได้ดีทีเดียว ทั้งตอนสนุก หรือตอนครอบครัวปรบมือรัวๆ เลย

          ถือเป็นการปลดล็อคความอ่อนล้าของร่างกายและสมองได้เป็นอย่างดี เพราะ The Garfield Movie มอบรอยยิ้มให้กับเราตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงในตอนท้ายที่สุด มีทั้งรสชาติความสนุก ฟีลดีในความสัมพันธ์ และความเข้าใจกัน แม้ว่าพล็อตจะเดาทางง่าย ย่อยไวไปบ้าง ไม่ได้มีความซับซ้อนมากเท่าไรนัก แต่เอกลักษณ์ความสนุกของหนังยังสร้างความจดจำให้กับเราได้เป็นอย่างดี ทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้น่าจะตีตลาดของเหล่าคุณผู้ชมทุกเพศทุกวัยได้ไม่ยาก และฝากความสุขอันแสนอิ่มเอมใจในรอบทศวรรษของเจ้าแมวส้มการ์ฟิลด์


ตัวอย่างหนัง


ตัวอย่างภาพยนตร์ The Garfield Movie [Official - Sub Thai]


Garfield - มาฟัง Let It Roll กัน!


GARFIELD | เสียงการ์ฟิลด์เวอร์ชันไทยเริ่ดเว่อร์


GARFIELD | ตลก ป่วน กวน แสบ!


GARFIELD | ในหนังจะกวนขนาดไหนต้องไปดู!


GARFIELD | อยู่ในบ้านเป็นแมวส้มตัวน้อย นอกบ้านเป็นพเนจรจัดตัวตึง!


GARFIELD | เหมียวตัวตึงประจำบ้าน


GARFIELD | การผจญภัยครั้งหย่ายยยของการ์ฟิลด์


GARFIELD | แมวส้มตัวตึงทั้งตำแหน่งทั้งตำนาน!


GARFIELD | ความการ์ฟิลด์ที่แท้ทรูมันต้องยังงี้!


GARFIELD | การผจญภัยครั้งนี้จะป่วน แสบ ซี้ดแค่ไหน!


GARFIELD | บันเทิงแน่งานนี้ เพราะการ์ฟิลด์จัดหนัก!


GARFIELD | บันเทิงแน่งานนี้ เพราะการ์ฟิลด์จัดหนัก!


GARFIELD | ทาสแมว ทาสหมา ก็ห้ามพลาดการ์ฟิลด์!


GARFIELD | การ์ฟิลด์ = ชอบชีส ขี้แซะ เกลียดวันจันทร์


GARFIELD | งานนี้แมวบ้านตัวตึงจะแสบขนาดไหน?!



ภาพนิ่ง โปสเตอร์ The Garfield Movie (2024)

 
 
 
 
 


ภาพโปสเตอร์





























































8

• ชื่อไทย : เดอะ สเตรนเจอร์ส อำมหิตฆ่าไม่สน
• ปีที่เปิดตัว : 2567
• เข้าฉายในไทย : 16 พฤษภาคม 2567
• นำแสดง : Gabriel Basso, Rachel Shenton, Ella Bruccoleri
• กำกับโดย : Renny Harlin
• เขียนโดย : Alan R. Cohen, Alan Freedland
• ประเภท : Horror
• ความยาว : 91 นาที
• สร้างโดย : USA
• จำหน่ายโดย : Mongkol Major มงคล เมเจอร์


เรื่องย่อ The Strangers: Chapter 1 (เดอะ สเตรนเจอร์ส อำมหิตฆ่าไม่สน)

          The Strangers: Chapter 1 เดอะ สเตรนเจอร์ส อำมหิตฆ่าไม่สน ปฐมบทความสยอง พร้อมไล่เชือดไม่สนหน้าไหน

          "ไม่ใช่การรีเมก" และ "ไม่ใช่ภาคต่อ" แต่ The Strangers: Chapter 1 เป็นหนังเขย่าขวัญสุดคัลท์ที่รวบตึงความโหดโคตรอำมหิตครั้งใหม่ของ ฆาตกรหน้ากาก เดอะ สเตรนเจอร์ส ฆาตกรหน้ากากแบบจัดเต็ม เมื่อมันมาแบบไม่เลือกเวลาและฆ่าแบบไม่สนกฎเกณฑ์ ผ่านการกำกับของ เรนนี ฮาร์ลิน ผู้กำกับมือเก๋าที่เอาอยู่ทั้งหนังแอ็คชั่นและหนังสยองขวัญอย่าง Die Hard 2 และ A Nightmare on Elm Street 4: The Dream Master

เรื่องราวของคู่รักดวงซวยที่วางแผนไปเริ่มชีวิตใหม่แถบแปซิฟิกตะวันตกเฉียงเหนือ แต่รถพวกเขาดันเสียกลางทางทำให้ต้องค้างคืนที่บ้านพักกลางป่าแห่งหนึ่ง โดยที่ไม่รู้เลยว่ากำลังจะกลายเป็นเหยื่อของกลุ่มคนแปลกหน้าผู้สวมหน้ากากประหลาดที่พร้อมเคาะประตูบ้านและไล่ฆ่าไม่สนหน้าไหน


รีวิว The Strangers: Chapter 1 (เดอะ สเตรนเจอร์ส อำมหิตฆ่าไม่สน)

          สำหรับหนังเรื่องนี้ส่วนตัวผมได้เห็นข่าวมาบ้างแบบผ่านๆ รู้แค่ว่าเป็นหนังฉบับรีเมก แต่ผมก็ไม่เคยได้ดูต้นฉบับมาก่อนเหมือนกัน เห็นพล็อตเรื่องว่าน่าสนใจเลยตัดสินใจไปดู เข้าไปดูแบบไม่ได้คาดหวังอะไรเลย แต่ขนาดไม่ขาดหวังก็ยังเดินออกจากโรงมาแบบผิดหวังอยู่เหมือนกัน มันไม่เชิงผิดหวังหรอก เรียกว่าเสียดายมากกว่า เพราะตัวหนังมันมีหลายอย่างที่ดูดีและเข้าท่า แต่ดันมาตกม้าตายกับเรื่องบทที่ทำให้ภาพรวมของหนังออกมาดูแย่ไปเลย บทเขียนมาได้แบบหนังสยองขวัญเกรดบีมากๆ ดูไปหงุดหงิดไป พระเอกนางเอกในเรื่องนี่ถูกเขียนมาแบบโง่สุดๆ อารมณ์แบบถูกเขียนมาให้โง่เพื่อให้เรื่องมันดำเนินต่อไปได้ ในชีวิตจริงไม่น่าจะมีใครที่ทำตัวแบบพระเอกนางเอกในเรื่องนี้หรอกหากตกอยู่ในสถานการณ์แบบนั้น

          หากถามว่าพระเอกนางเอกโง่ยังไงบ้างผมก็คงเล่าได้ไม่หมด เพราะมันมีหลายซีนมากๆ ยกตัวอย่างง่ายๆ ก็อย่างช่วงต้นเรื่องที่จู่ๆ มีหญิงสาวแปลกหน้าเดินมาจากไหนไม่รู้มาเคาะประตูหน้าบ้านกลางดึก และอย่าลืมว่าทั้งคู่อยู่กลางป่า แต่หลังจากนั้นพระเอกก็ดันปล่อยให้นางเอกอยู่คนเดียวและออกไปเอายาที่รถเฉย ทว่ายังไม่หมดเพียงเท่านั้น เพราะทุกครั้งที่นางเอกตกใจหรือกลัว พระเอกก็จะกอดและปลอบตลอดแม้ว่าจะอยู่ในเวลาที่ควรวิ่งหนี ลีลาดราม่ากันไม่ยอมไปซักที ดูละหงุดหงิดสุดๆ นอกจากนี้ในส่วนของพล็อตเรื่องหลักๆ เองก็ไปไม่รอดเหมือนกัน พล็อตเรื่องแทบไม่มีอะไรเลย ดูแต่ต้นจนจบก็ยังไม่รู้ว่าคนแปลกหน้าใส่หน้ากาก 3 คนนี้มาบุกไล่ฆ่าพระเอกนางเอกทำไม มันอาจจะมีการปูเรื่องไว้บ้างแหละ แต่ก็ปูไว้น้อยแบบน้อยมากๆ ซึ่งปกติแล้วหนังภาคแรกส่วนใหญ่มักจะต้องมีการปูเรื่องไปแล้วบ้างระดับหนึ่ง แต่ไม่ใช่กับหนังเรื่องนี้ เพราะเส้นเรื่องมันแทบไม่ได้เดินหน้าไปไหนเลย เขาเน้นขายฉากสยองขวัญและความระทึกขวัญอย่างเดียวเลย

          อย่างไรก็ตาม ถึงผมจะบ่นว่าบทมันห่วยมันแย่แค่ไหน แต่ก็ต้องยอมรับว่าส่วนอื่นๆ ที่เหลือของตัวหนังนั้นทำออกมาไม่ได้แย่ โดยเฉพาะเรื่องความสยองขวัญและความระทึกขวัญ ส่วนนี้คือทำได้ดีมากๆ ดูแล้วลุ้นตามแทบทุกฉาก จังหวะเคลื่อนกล้อง ไปจนถึงซาวน์ประกอบนี่บิ๊วอารมณ์แบบสุดๆ แถมตัวละครแปลกหน้าสามตัวเองก็ถูกดีไซน์ออกมาได้ดีมาก รูปลักษณ์ภายนอกที่ดูเยือกเย็นน่ากลัวบวกกับคาแรคเตอร์ตัวละครทั้ง 3 ที่แทบไม่พูดอะไร มันทำให้ตัวละครทั้ง 3 นี้ออกมาดูน่าขนลุกแบบสุดๆ แต่ยังมีอีกสิ่งที่เป็นส่วนสำคัญช่วยให้ภาพรวมของหนังออกมาดีขึ้นนั่นก็คือการแสดงของนางเอก ขนาดบทเขียนมาไม่ดี แต่นางเอกแสดงดีจนแบกหนังทั้งเรื่องได้ ซีนดราม่าซีนกลัวนี่คือตีบทแตกมากๆ ร้องไห้เก่งแบบสั่งได้เลย ส่วนพระเอกรวมถึงนักแสดงคนอื่นๆ ที่เหลือในเรื่องนั้นแสดงได้ธรรมดามาก ส่วนตัวผมมองว่าภาพรวมมันก็ไม่ได้เป็นหนังที่แย่ขนาดนั้น ถึงบทมันจะยังบกพร่องไปบ้าง แต่ฉากสยองขวัญ ความระทึกขวัญ และบรรยากาศในเรื่องนั้นเขาทำได้ดี เอาเป็นว่าอย่าเชื่อทั้งหมดที่ผมรีวิวเลย ทุกคนไปดูและตัดสินมันด้วยตาตัวเองจะดีกว่า คุณอาจจะชอบมันมากๆ ก็ได้ เพราะความชอบของคนเรานั้นแตกต่างกัน


ตัวอย่างหนัง The Strangers: Chapter 1


The Strangers Chapter 1 เดอะ สเตรนเจอร์ส อำมหิตฆ่าไม่สน - Official Trailer [ ตัวอย่างซับไทย ]


ลืมคนแปลกหน้าที่เคยผวา เปิดประตูรับ ‘เดอะ สเตรนเจอร์ส’


เตรียมนับถอยหลัง เปิดปฐมบท ‘ไล่เชือด’ สุดปั่นประสาท ‘The Strangers: Chapter 1 อำมหิตฆ่าไม่สน’


มันยิ่งจ้อง เรายิ่งผวา มันยิ่งเงียบ เรายิ่งร้องขอชีวิต ‘The Strangers: Chapter 1 อำมหิตฆ่าไม่สน’



ภาพนิ่ง โปสเตอร์ The Strangers: Chapter 1 (2024)

 
 
 
 
 




ภาพโปสเตอร์

















9

• ชื่อไทย : ล่าฝันเมืองเดือด
• ปีที่เปิดตัว : 2566
• เข้าฉายในไทย : 16 พฤษภาคม 2567
• นำแสดง : Wu Kang-ren, Jack Tan, Tan Kim Wang
• กำกับโดย : Jin Ong
• เขียนโดย : Jin Ong
• ประเภท : Crime / Drama
• ความยาว : 115 นาที
• สร้างโดย : Malaysia / Taiwan
• จำหน่ายโดย : Mongkol Major มงคล เมเจอร์


เรื่องย่อ Abang Adik

           เรื่องราวของ อาบัง (อู๋คังเหริน) กับ อาดิ (แจ็ก ตัน) เป็นเด็กกำพร้าที่ไม่มีบัตรประชาชนมาเลเซีย แม้ไม่รู้จักผู้ให้กำเนิด แต่ชายหนุ่มทั้งสองคนก็ทึกทักเอาว่าพวกเขาเป็นพี่น้องกัน อาบังเป็นคนหูหนวก และทนทำงานหนักเก็บเงินเพื่อถีบตัวเองและน้องชาย ให้พ้นจากความยากจน ในขณะที่อาดิไม่อยากเลือกหนทางลำบากแบบพี่ชาย ความฝันของเขาใหญ่กว่า และไฟในใจของเด็กหนุ่มก็รุ่มร้อนกว่า จนนำเขาไปในโลกอาชญากรรม ในขณะที่ทางการมาเลเซียเริ่มกวดขันเรื่องคนไร้สัญชาติ พร้อมกับปัญหาจากผู้มีอิทธิพลที่อาดิเข้าไปพัวพัน ความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นของสองพี่น้อง อาบัง-อาดิ กำลังจะได้รับการทดสอบ

 

ตัวอย่างหนัง Abang Adik


Abang Adik ล่าฝันเมืองเดือด - Official Trailer [ ตัวอย่างซับไทย ]


"หนึ่งในภาพยนตร์แห่งเอเชียที่ห้ามพลาดของปีนี้" #ABangAdik #ล่าฝันเมืองเดือด


เข้าชิง 7 รางวัลม้าทองคำปีล่าสุดชนะเลิศ “นักแสดงนำชายยอดเยี่ยม” รางวัลม้าทองคำ ABANG ADIK



ภาพนิ่ง โปสเตอร์ Abang Adik (2023)

 
 
 
 
 





ภาพโปสเตอร์













10
ขายฟิล์มโป๊ยเซียนสภาพดีสีสวย
มีรอยต่อ 1 แผลเท่านั้น ฟล์มพร้อมรีลราคา 2,600 บาทรวมส่งทั่วไทย

ขายฟิล์มโป๊ยเซียนตามสภาพ  ราคา 2,000 บาท  ราคาพิเศษก่อนหยุดสงกรานต์ 2,700 บาท
รวมส่งใครพร้อมจริงๆโทรมาทักมา
รายละเอียดโทรถาม 089-9927569 จะเล่าให้ฟัง
หน้า: [1] 2 3 ... 10