ผู้เขียน หัวข้อ: ถ้าวันนี้ ไม่มีระบบไฟล์ดิจิทัล หนัง 16 มม. มิตร ชัยบัญชา ก็ยากที่จะได้กลับมาอีก.  (อ่าน 75 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ มนัส กิ่งจันทร์

  • มนัส กิ่งจันทร์ ภาคสอง ชุมทางหนังไทยในอดีต
  • Moderator
  • พี่น้อง thaicine Gold member
  • ***
  • กระทู้: 2814
  • พลังใจที่มี 35
  • เพศ: ชาย
    • มนัส ชุมทางหนังไทยในอดีต
    ถ้าวันนี้ ไม่มีระบบไฟล์ดิจิทัล หนัง 16 มม. มิตร ชัยบัญชา ก็ยากที่จะได้กลับมาอีก.. ช่วงปี พ.ศ. 2492-ปี พ.ศ. 2515 เป็นช่วงที่แจ่มชัดที่สุดของการสร้างหนังไทย 16 มม. พากย์กันสดๆ ของเมืองไทยเรา
    มิตร ชัยบัญชา เป็นพระเอกหนังไทยคนเดียวที่แสดงหนัง 16 มม. พากย์สดๆ ไว้มากที่สุด (2501-2513) แต่เมื่อเมืองไทยเปลี่ยนกลับไปสร้างหนัง 35 มม. พากย์เสียงในฟิล์ม ก็ทำให้โลกของหนัง 16 มม. พากย์สดๆ ต้องปิดลง เรื่องราวของหนัง 16 มม. พากย์สดๆ กลายเป็นสิ่งที่ล้าสมัย.. และค่อยๆ เงียบหายไป

    หนังไทยเก่าๆ ถูกผูกไว้กับระบบฟิล์มหนัง 16 มม. ที่หากคิดจะฉาย อย่างแรก ก็จะต้องตามหาฟิล์มหนังเหล่านั้น กลับมาให้ได้ก่อน.. แล้วก็หาเครื่องฉายหนัง 16 มม. หาบทพากย์ หาคนมาพากย์หนัง.. ซึ่งยากที่จะพบกันได้อย่างสมดุลเพราะพอมีอย่างหนึ่ง ก็อาจจะไม่มีอีกอย่างหนึ่ง การฉายหนังไทยเก่าๆ ด้วยฟิล์ม 16 มม. จึงแทบจะเกิดขึ้นได้ยากและเป็นการลงทุนค่อนข้างสูง

    ช่วงที่มีการเลิกฉายหนัง 16 มม. พากย์สดๆ นั้น ก็ไม่รู้เหมือนกันว่า จะมีการทิ้งฟิล์มหนัง 16 มม. ไปมากน้อย แค่ไหน.. แต่ที่แน่ๆ หนัง 16 มม. พากย์สดๆ หลายๆ เรื่อง ที่คนคิดถึง ที่คนอยากจะดู ทุกวันนี้ ก็ยังตามหากากฟิล์มหนังไม่ได้เลย นั่นก็ย่อมแสดงว่า อิทธิพลของหนัง 35 มม. จอกว้าง บีบให้คนฉายหนัง จำต้องทิ้งฟิล์ม 16 มม. ไปเพราะขณะนั้น มันกลายเป็นของที่ไร้ค่าในวงการฉายหนังไปแล้ว

     แต่เพราะความที่พวกเรายังคิดถึง ยังอยากจะดูหนังเหล่านั้น จึงเริ่มต้นสืบหา ค้นหาฟิล์มหนัง 16 มม. ที่ยังจะพอหลงเหลืออยู่ ที่ยังไม่ถูกทิ้ง เหลือเรื่องอะไร ก็นำฟิล์มกลับมา ฟิล์มแต่ละเรื่อง ก็อยู่ในสภาพของคำว่า "กากฟิล์ม" จริงๆ เพราะผ่านการฉายมาอย่างหนัก ผ่านการตัดต่อ ตัดทอน ตัดทิ้งไปตามสภาพเวลาที่เขาฉาย การฉายหนังแบบ "ขอข้าว" หรือ "แลกข้าว" น่าจะเป็นกลุ่มสุดท้ายที่ฉายหนัง 16 มม.พากย์สดๆ

    สภาพฟิล์มที่พบส่วนใหญ่ จึงมักจะถูกตัดทอนหนังออกไป ให้ม้วนหนึ่งมีเวลาฉายประมาณ 30 นาที และหนังหนึ่งเรื่องก็จะมีแค่ 3 ม้วน ก็เป็นอันจบเรื่องแล้ว (ต้นฉบับหนัง ม้วนหนึ่งยาว 40-45 นาที และหนึ่งเรื่องมี 4-5 ม้วนจบเรื่อง)

    แหละนี่ จึงเป็นที่มาของข้อดีที่ปัจจุบันมีระบบไฟล์ดิจิทัลเพราะเรายังสามารถตัดต่อ ลำดับภาพและปรับแต่งภาพ ให้หนังที่เหลือๆ ฉายออกมาได้เหมือนหนังจริงๆ เรายังสามารถบันทึกเสียงพากย์ เสียงเอฟเฟค เสียงเพลงแบ็กกราวน์ ลงไปไฟล์ดิจิทัล เพื่อช่วยทำให้หนังเป็นเหมือนหนังจริงๆ อย่างปัจจุบันได้

    จริงๆ มิตร ชัยบัญชา กลับมานานแล้ว กลับมาด้วยระบบไฟล์ดิจิทัลที่ปัจจุบันเราสามารถฉายได้อย่างภาพยนตร์ แต่ก็นั่นแหละ วังวนของการฉายหนัง ก็ยังคงเหมือนเดิม "ไม่มีใคร อยากจะฉายหนังไทยเก่าๆ" ที่เขาไม่อยากจะฉาย ก็เพราะคนไม่นิยมดูหนังไทยเก่าๆ นั่นเอง บางครั้ง แม้แต่หนังไทยใหม่ๆ ฉายขึ้นจอกลางแปลง ก็ยังไม่ค่อยจะมีคนดูเลย แล้วประสาอะไรกับหนังมิตร ชัยบัญชา ที่เก่า 40-50 ปี ถึงจะมีคนอยากดู

    แต่ที่ผมลุ้นอยู่ทุกวันนี้ ก็เพราะนิตยสารสารคดี เล่มเดือนเมษายน 2566 นี้ เขาทำเล่ม "มิตร ชัยบัญชา" ขึ้นมา ก็เลยคิดว่า นิตยสารเล่มนี้อาจจะช่วยเป็นใบเบิกทางให้คนรุ่นใหม่ๆ ได้เริ่มรู้จักพระเอก มิตร ชัยบัญชา ขึ้นมาบ้าง..และบางที เขาก็อาจอยากจะดูหนัง 16 มม.ที่พระเอก มิตร ชัยบัญชา แสดงบ้างเท่านั้นครับ
(ภาพประกอบ : จากหนัง 16 มม. ปี 2507 เรื่อง ชายชาตรี 1 ใน 14 เรื่อง ซึ่งอยู่ในโครงการเดินสายฉายหนังกลางแปลง มิตร ชัยบัญชา)


"มนัส กิ่งจันทร์ ภาคสอง ชุมทางหนังไทยในอดีต" โดยเติมคำว่า "ภาคสอง" คั่นกลางไว้..
อดีตจากฟิล์มภาพยนตร์ ไม่มีวันตาย..