ผู้เขียน หัวข้อ: ผมก็อยากรู้ว่าขอบฟ้าเขาเขียว นั้นอยู่ที่ไหน.. ไม่มีวี่แวว จะพบกากฟิล์มเรื่องนี้  (อ่าน 168 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ มนัส กิ่งจันทร์

  • มนัส กิ่งจันทร์ ภาคสอง ชุมทางหนังไทยในอดีต
  • Moderator
  • พี่น้อง thaicine Gold member
  • ***
  • กระทู้: 2814
  • พลังใจที่มี 35
  • เพศ: ชาย
    • มนัส ชุมทางหนังไทยในอดีต
           ขอบฟ้าเขาเขียว.. หนังเรื่องนี้ ตามข้อมูลฯ ที่ผมจดบันทึกไว้ หนังเข้าฉายครั้งแรก วันที่ 9 มีนาคม 2516 ที่โรงหนังเพชรรามา กรุงเทพฯ ตอนนั้น ผมอายุ 11 ขวบ ก็ไม่รู้ว่า หนังได้เข้าฉายโรงหนังเมืองสุรินทร์บ้านผมเมื่อไหร่.. แต่ผมเห็นใบปิดหนังเรื่องนี้ครั้งแรกๆ ที่บริการหนังกลางแปลงเมืองสุรินทร์ ที่ชื่อบริการเหรียญชัยภาพยนตร์ ตอนนั้นเป็นบริการหนังที่ดังที่สุดของเมืองสุรินทร์ หนังมาถึงจอกลางแปลง ก็คงกินเวลาหลายปีเพราะสมัยนั้น พอดูหนังกลางแปลงทีไร หนังจะเป็นสีแดงๆ เป็นเส้นฝนบ้างแล้ว ก็แสดงว่า ต้องหลายๆ ปีครับ

           ที่ผมเห็นใบปิดหนังเรื่องนี้นั้น ก็เพราะว่า สมัยเด็กๆ ผมจะไปยืนรอเก็บเศษฟิล์มหนังที่เด็กหนังเขากรอและตัดทิ้งเวลาฟิล์มมันขาด ผมกับเพื่อนๆ ก็จะแย่งกันเก็บเศษฟิล์มนั้น มาฉายกันเล่นๆ ฉายเป็นหนังสไลด์ ถ้าเราฉายกลางวัน ก็จะใช้กระจกรับแสงแดดส่องไปยังตัวฟิล์มโดยมีแว่นขยายเลนส์นูน ส่งภาพออกไปที่จอหนังเล็กๆ ที่เราทำขึ้นมาเล่นๆ แต่ถ้าฉายกลางคืน ก็จะอาศัยแสงจากไฟฉายนะครับ

           ผมเห็นใบปิดหนังเรื่องนี้ ก็ชอบและอยากจะดูมากๆ แต่ก็ไม่รู้ว่า ทำไมเวลาบริการเหรียญชัย เขามีงานฉายหนังกลางแปลง เขาก็ไม่เคยเอาหนังเรื่องนี้ไปฉายเลย เศษฟิล์มหนังเรื่องนี้ ผมก็ไม่เคยเก็บได้ สมัยนั้นที่ฝาผนังสำนักงานบริการเหรียญชัยภาพยนตร์ เขาจะปิดใบปิดหนังไว้เต็มไปหมด ผมไปยืนดูบ่อยๆ และก็จะคอยสังเกตว่า จะมีใบปิดหนังอะไรใหม่ๆ มาปิดทับใบเดิมกันบ้าง ดูแล้วก็รอคอยว่า เมื่อไหร่จะดูหนังเรื่องนั้นๆ

           จากวันนั้นจนถึงวันนี้ ขอบฟ้าเขาเขียว ผมก็ไม่เคยได้ดูเลย.. ตอนนั้น ผมก็อยากรู้ว่า เขาเขียว นั้นอยู่ที่ไหน.. ช่วงที่พวกเราเริ่มออกตามหากากฟิล์มหนังไทยเก่าๆ ก็ไม่มีวี่แววเลยว่า จะพบกากฟิล์มเรื่องนี้ ก็ได้แต่คิดในใจว่า คงจะยากเพราะขนาดตอนผมเป็นเด็กๆ ฟิล์มกลางแปลง ก็ยังไม่เห็นฉายเลย อาจจะเป็นหนังดีที่ฉายบ่อยๆ จนเขาทิ้งกากฟิล์มที่ชำรุดไปแล้วก็ได้

           ทางรอดของหนังไทย 35 มม.ในยุคนั้น ก็เหลืออยู่ทางเดียวคือ ถ้าเขามีการพิมพ์ย่อเป็นฟิล์ม 16 มม.สโคปไว้ฉายบ้าง นั่นแหละครับ หนังถึงจะรอดเพราะฟิล์ม 16 มม.เป็นฟิล์มขนาดเล็ก หน้าแคบ เวลาฉาย เครื่องฉายหนังก็จะเดินเบาๆ เงียบๆ ทำให้ฟิล์มไม่ค่อยเสียเหมือนฉายด้วยเครื่อง 35 มม.. แต่ที่พูดๆ นี้ผมก็ไม่รู้หรอกครับว่า ผู้จัดจำหน่ายหนังเรื่องนี้ในสมัยนั้น เขาจะพิมพ์เป็นฟิล์ม 16 มม.รองรับไว้หรือไม่นะครับ และจากประสบการณ์นั้น หนังปี พ.ศ.ไล่ๆ กันที่เราพบกากฟิล์ม 35 มม.มักจะฉายไม่ค่อยผ่านเครื่องแล้ว แต่ถ้าได้ฟิล์ม 16 มม.มานั่นแหละ ถึงจะรอดครับ

ภาพประกอบเติมสี แล้วสวยครับ


"มนัส กิ่งจันทร์ ภาคสอง ชุมทางหนังไทยในอดีต" โดยเติมคำว่า "ภาคสอง" คั่นกลางไว้..
อดีตจากฟิล์มภาพยนตร์ ไม่มีวันตาย..