ผู้เขียน หัวข้อ: MCU บทที่ 7 Spy Mission  (อ่าน 39 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ หลวงจีนหอไตร

  • หลวงจีนหอไตร Channel
  • Moderator
  • มือใหม่ ปรับชั้นต้องโพสรวม 30 กระทู้
  • ***
  • กระทู้: 25
  • พลังใจที่มี 0
  • เพศ: ชาย
  • หลวงจีนหอไตร ภาพยนตร์ เก่า-ใหม่
MCU บทที่ 7 Spy Mission
« เมื่อ: 12 พฤศจิกายน 2023, 15:35:56 »
ผู้ก่อตั้งหน่วยชิลด์มี 3 คน ตายไปแล้ว 2 คนคือ ผู้พันฟิลลิปแก่ตาย และฮาเวิร์ดประสบอุบัติเหตุรถยนต์คว่ำตาย (แท้จริงโดนบัคกี้ฆ่า) เหลือเพียงคนเดียวคือ เพกกี้ คาร์เตอร์ เพกกี้จึงวางมือเกษียณตัวเองไปเลย หน่วยสายลับชิลด์แห่งอเมริกาจึงต้องมีผู้อำนวยการ และผ.อ.คนแรกของหน่วยชิลด์ก็คือ ผ.อ.เคลเลอร์

ที่อเมริกา เอ็น’โจบู น้องชายของกษัตริย์ที’ชาก้าแห่งวากานด้า ได้รับภารกิจของหน่วยสายลับวอด็อกแห่งวากานด้าไปอเมริกา เพื่อช่วยเหลือคนผิวดำที่ถูกเอาเปรียบ ทำให้เอ็น’โจบูเริ่มมีความคิดจะนำเอาความรู้ความสามารถของวากานด้าออกไปช่วยเหลือผู้คนผิวดำทั่วโลก แต่ทำไม่ได้เพราะวากานด้าเป็นประเทศปิดมายาวนาน


เอ็น’โจบู เชื้อสายเผ่าโกลเด้นแห่งวากานด้า (Black Panther 1)

ปี 1992 ที่วากานด้า เอ็น’โจบู จึงร่วมมือกับ ยูไลซีส คลอว์ พ่อค้าของเถื่อนอันดับต้นๆของโลก ทำการปล้นแร่ไวเบรเนียมออกมาเกือบสองตัน เหตุการณ์นี้ทำให้หัวหน้าเผ่าพรมแดนเสียชีวิตด้วย แม้ว่าคลอว์จะถูกจับตีตราทำโทษขั้นสูง แต่คลอว์ก็หนีออกมาจนได้


รอยสักบนคอของคลอว์ ภาษาแอฟริกาท้องถิ่น แปลว่า หัวขโมย (Black Panther 1)

ซูรี หน่วยสายลับวอร์ด็อกแห่งวากานด้า ซึ่งแฝงตัวมาเป็นคนสนิทของเอ็น’โจบูอีกที จึงรีบรายงานที’ชาก้าหัวหน้าเผ่าโกลเด้น ซึ่งคือแบล็คแพนเธอร์และกษัตริย์แห่งวากานด้า ว่าเอ็น’โจบูน้องชายของที’ชาก้าคือผู้อยู่เบื้องหลังการขโมยแร่ไวเบรเนียม

ที่เมืองโอ๊คแลนด์ รัฐแคลิฟอร์เนีย ที’ชาก้าจึงมาหาน้องชาย และเกิดอุบัติเหตุ ที’ชาก้าพลั้งมือสังหารเอ็น’โจบูน้องชายของตนเพื่อปกป้องซูรี ที’ชาก้ารีบกลับวากานด้า และทิ้งศพน้องไว้เช่นนั้น


ที’ชาก้า (Black Panther 1)

เอ็น’จาดาก้า ลูกชายของเอ็น’โจบู เห็นเพียงยานบินล้ำสมัยที่มีเทคโนโลยีล่องหนบินออกไปจากอพาร์ทเม้นท์ตน เอ็น’จาดาก้ารีบขึ้นไปบนห้อง พบเพียงศพพ่อที่มีกรงเล็บแบล็คแพนเธอร์อยู่บนหน้าอก

เอ็น’จาดาก้าได้รับรู้ข้อมูลวากานด้ามาพอสมควรแล้วก่อนพ่อตาย แถมยังมีสัญลักษณ์ชาววากานด้าใต้ปากล่างด้านล่าง หลังจากพ่อตาย เอ็น’จาดาก้าจึงศึกษาข้อมูลของวากานด้าเพิ่มเติมจากบันทึกพ่อ และจากประวัติศาสตร์โลก เพื่อรอวันกลับไปล้างแค้นให้พ่อของตน


เอ็น’จาดาก้ากอดศพพ่อ (Black Panther 1)

ปี 1992 สถาบันห้องแดงแห่งรัสเซีย ที่นี่มีผู้นำคือ ผู้พันเดรคอฟ สถาบันห้องแดงคือองค์กรสายลับสุดยอดของรัสเซีย เดรคอฟทำการส่งสายลับมาที่อเมริกา 4 คน เพื่อจารกรรมหน่วยชิลด์โดยเฉพาะ สายลับที่ปลอมเป็นพ่อคือ สายลับจอมพลังนามว่า อเล็กซี่ โชสตาคอฟ ฉายา (เร้ดการ์เดี้ยน) หน้าที่คือดูแลสายลับอีกสามคนให้ปลอดภัย


เร้ดการ์เดี้ยน ซุปเปอร์โซลเยอร์หนึ่งเดียวของรัสเซีย (Black widow 1)

สายลับที่ปลอมเป็นแม่คือ  ฉายา Black Widow (แบล็ควีโด) ซึ่งเป็นมันสมองของสถาบันห้องแดง เมลิน่าคือผู้รับภารกิจหลักในปฏิบัติการแฝงตัวครั้งนี้ นั่นคือการปลอมตัวตนเข้าทำงานเป็นสเมียนตัวเล็กๆให้หน่วยงานจารชนลับของสหรัฐฯที่ชื่อ S.H.I.E.L.D. (ชิลด์) เมลิน่าทำการจารกรรมข้อมูลของชิลด์ไปมากมาย ซึ่งในข้อมูลเหล่านั้นดันมีข้อมูลของไฮดร้าด้วย


เมลิน่า โวสโตคอฟ แบล็ควีโดผู้ปราดเปรื่อง (Black widow 1)

สายลับที่ปลอมเป็นพี่สาวคนโต คือ นาตาชา เอเลียนอฟน่า โรมานอฟ หน้าที่ไม่มีอะไร ทำเนียนไปเฉยๆ แต่ช่วยอะไรได้บ้างนิดหน่อย เพราะนาตาชาก็ฝึกฝนการต่อสู้อมาจากสถาบันห้องแดงมาพอสมควรแล้ว

และสายลับเด็กสาวกำพร้าอีกคนที่แฝงตัวเป็นน้องสาวคนสุดท้องคือ เยเลน่า เบโลว่า ซึ่งเยเลน่านั้นก็เด็กเกินกว่าจะเข้าใจว่า สิ่งเหล่านี้คือสิ่งจอมปลอม เยเลน่าคิดว่ามันคือชีวิตจริงๆ ครอบครัวจริงๆ นาตาชาและเยเลน่าน้องสาวปลอมๆของเธอ ผูกพันธ์กันสเมือนพี่น้องแท้ๆ เพราะต้องแสดงบทบาทพี่น้องอยูร่วมกันในอเมริกานานไม่มีกำหนด เด็กสาวน้อยทั้งสองเริ่มคุ้นชินกับวิถีชีวิตอิสระเสรีแบบอเมริกันชน


เยเลน่า เบโลว่า สายลับตัวน้อยที่ยังไม่รู้เรื่องรู้ราว (Black Widow 1)

ปี 1995 ขณะที่นาตาชาอายุได้ 11 ปี ครอบครัวสายลับรัสเซียกลุ่มนี้ก็ถูกชิลด์ล่วงรู้ และไฮดร้าที่แฝงตัวในชิลด์ก็รู้เช่นกัน สายลับทั้งสี่ชีวิตจึงหนีการไล่ล่าของชิลด์และไฮดร้าออกมาจากอเมริกาไปถึงคิวบาได้อย่างหวุดหวิด

หลังจากนั้น ครอบครัวปลอมๆทั้งสี่คน ก็ถูกจับแยกกันไปคนละทิศคนละทาง เร้ดการ์เดี้ยนถูกสถาบันห้องแดงหักหลังจับขังลืมตลอดชีวิต ส่วนเมลิน่ายังคงถูกบังคับให้ทำงานเป็นมันสมองหลักของสถาบันห้องแดง คอยวิจัยงานอย่างลับๆ เงียบๆ และนาตาชากับเยเลน่า ก็ถูกจับแยกกัน และฝึกต่อสู้ในสถาบันห้องแดงต่อไป


นาตาชา โรมานอฟ สายลับวัยรุ่นที่เริ่มมีทักษะการต่อสู้ (Black Widow 1)

ที่ดาวฮาล่า จักรวรรดิครี ผ่านมา ุ6 ปี ที่แครอลกลายเป็นเครื่องจักรสงครามทำงานให้สตาร์ฟอร์ซของครี แครอลและทีมก็ได้รับภารกิจบนดวงดาวทอร์ฟ่า สุดเขตพรมแดนของครี เพื่อช่วยชีวิตสายลับชาวครีที่ติดอยู่บนดาว ซึ่งมีชาวสครัลล์แปลงร่างเป็นชนพื้นเมืองยุบยับไปหมดบนดาวนี้


ศึกบนดาวทอร์ฟ่า (Captain Marvel)

ทีมสตาร์ฟอร์ซจึงโดนชาวสครัลล์ซุ่มโจมตี แครอลโดนเทโลสแม่ทัพชาวสครัลล์จับตัวไปได้สำเร็จ เทโลสเจาะเข้าไปในความทรงจำของแครอล เพื่อค้นหาพิกัดของดร.ลอว์สัน (ทาลอสรู้ว่าลอว์สันอยู่ฝ่ายตน) ทาลอสจึงตั้งพิกัดยานแม่ชาวสครัลล์บินไปที่โลกทันที


แครอลโดนสครัลล์เจาะความทรงจำ (Captain Marvel)

แต่แครอลเริ่มได้สติและดิ้นหลุดออกมาได้ ซึ่งความทรงจำครั้งเป็นมนุษย์ธรรมดาก็เริ่มกลับมาเช่นกัน และแครอลก็หนีออกมาขึ้นยานชูชีพและตกลงไปบนโลก

ปี 1995 เมื่อแครอลได้สติ เธอจึงพบว่าเธออยู่บนโลก ดาวที่ชาวสครัลล์ตั้งเป้าหมายมาตามหาดร.ลอว์สันนั่นเอง แครอลจึงเร่งรีบสื่อสารไปบอกยอนร็อกก์ให้รีบมาที่โลกโดยด่วน ก่อนที่สครัลล์จะพบเครื่องย้ายมวลสารและดร.ลอว์สัน ซึ่งแครอลจำไม่ได้ว่าดร.ลอว์สันตายไปแล้วเมื่อ 6 ปีก่อน และเครื่องย้ายมวลสารก็ระเบิดไปแล้วเช่นกัน


แครอลกลับมาบนโลกอีกครั้ง (Captain Marvel)

ที่โลก อเมริกา เอเจ้นท์ นิค ฟิวรี่ ระดับ 3 และเอเจ้นท์ฟิล โคลสัน ระดับ 1 แห่งหน่วยสายลับชิลด์ ได้รับรู้ถึงการแจ้งเหตุเรื่องของผู้หญิงคนนึงท่าทางประหลาด (แครอล) หน่วยชิลด์จึงรีบมาสอบสวนแครอล

แต่แล้วแครอลก็โดนชาวสครัลล์ซุ่มโจมตีก่อน ฟิวรี่เห็นชัดๆว่าแครอลยิงพลังแสงโฟตอนออกจากกำปั้นทั้งสองได้ และแครอลก็ไล่ล่าสครัลล์คนนั้นไปบนรถไฟ โคลสันกับฟิวรี่จึงรีบขับรถตามแครอลไป

แต่แครอลก็ไล่จับสครัลล์ตนนั้นไม่ได้ แครอลจึงตามเบาะแสดร.ลอว์สันไปที่อื่นต่อ และที่สำคัญ โคลสันที่นั่งรถมากับฟิวรี่ก็เป็นสครัลล์แปลงร่าง ฟิวรี่จึงขับรถชนรถบรรทุก ทำให้สครัลล์ตนนั้นตายคารถฟิวรี่

ฟิวรี่นำศพสครัลล์ตนนั้นมาผ่าดู โดยมีผ.อ.เคลเลอร์ ผู้นำหน่วยชิลด์ดูอยู่ด้วย ซึ่งแท้จริงแล้วเคลเลอร์ตัวจริงถูกจับไว้ เคลเลอร์คนนี้คือเทโลสแม่ทัพสครัลล์แปลงร่างมา


เทโลสและฟิวรี่ดูหมอผ่าศพสครัลล์ (Captain Marvel)

ฟิวรี่ใช้ทักษะสายลับตัวพ่อของตนเองตามจนพบกับแครอลอีกครั้ง และยอมรับแล้วเรื่องเอเลี่ยนมีอยู่จริง แครอลมีเบาะแสต่อไปคือโปรเจคพีกาซัส

ฟิวรี่จึงอาสานำแครอลไปที่นั่นด้วยตนเอง เมื่อทั้งสองไปถึงโปรเจคพีกาซัส แครอลกับฟิวรี่ก็พบกับกู๊สที่วนเวียนอยู่ในฐานมา 6 ปีโดยฟิวรี่ไม่รู้เลยว่า กู๊สคือสัตว์ต่างดาวพันธุ์เฟลอเคนสุดโหด คิดเพียงว่ากู๊สเป็นเพียงแมวธรรมดา และฟิวรี่ก็แอบใช้เพจเจอร์ของตนส่งข้อความไปหาเทโลสให้มาจับตัวแครอล


กู๊ส แมวส้มสุดโหด (Captain Marvel)

แครอลก็ได้เบาะแสใหม่ว่า ดร.ลอว์สันและนักบินคนหนึ่ง(ซึ่งก็คือตัวแครอลเอง) เครื่องบินตกตายในภารกิจลับสุดยอด ทันใดนั้นเทโลสก็นำหน่วยชิลด์มาตามจับแครอลตามที่ฟิวรี่แจ้งไปทางเพจเจอร์ ตอนนี้เองที่ฟิวรี่รู้แล้วว่าเทโลสคือสครัลล์ แต่โคลสันกล้าแหกกฎหน่วยชิลด์ และแอบปล่อยตัวแครอลกับฟิวรี่ไป


เอเจ้นท์ ฟิล โคลสัน เด็กใหม่ของชิลด์ (Captain Marvel)

แครอลยึดเพจเจอร์ฟิวรี่ และพาฟิวรี่หนีออกมาจากโปรเจคพีกาซัสโดยนำเครื่องบินรบบินออกมา กู๊สรู้หน้าที่จึงตามแครอลมาด้วย ซึ่งเบาะแสต่อไปของแครอลคือบ้านของ มาเรีย แลมโบ แครอลจึงขับเครื่องบินไปบ้านมาเรียทันที

ที่หลุยเซียน่า มาเรียเล่าให้แครอลฟังทั้งหมดว่า แครอลคือใคร ทันใดนั้นเทโลสและลูกน้องก็ปรากฎตัวขึ้น พร้อมกับยื่นข้อเสนอว่า พวกสครัลล์มีกล่องดำบันทึกเหตุการณ์เมื่อ 6 ปีก่อนวันที่ดร.ลอว์สันตาย แครอลจึงรู้ความจริงว่า ผู้ร้ายตัวจริงคือพวกครี สครัลล์เป็นผู้ถูกกระทำ

เทโลสสั่งลูกน้องนักวิทยาศาตร์สครัลล์ โมดิฟายเครื่องยนต์ของเครื่องบินแครอล เพื่อให้บินออกไปนอกชั้นบรรยากาศโลกได้ แครอล, ฟิวรี่, ทาลอส, และกู๊ส, จึงเดินทางออกนอกชั้นบรรยากาศโลก เพื่อไปที่แลปลับของดร.ลอว์สัน


ภารกิจช่วยชีวิตชาวสครัลล์ (Captain Marvel)

ขณะที่คณะของแครอลเดินทาง หน่วยสตาร์ฟอร์ซนำโดยยอนร็อกก์ก็มาถึงโลกพอดี เมื่อยอนร็อกก์รู้ว่าแครอลรู้ความจริงแล้ว ยอนร็อกกซ์จึงรีบตามแครอลไปที่แลปฯลับ และรีบแจ้งให้โรแนนตามมาถล่มโลก

บนแลปฯลับของดร.ลอว์สันนอกชั้นบรรยากาศโลก แครอลพบกับแทซเซอแรคและชาวสครัลล์หลายๆคนบนนี้ รวมถึงโซเรนกับไกอาห์ลูกเมียร์ของเทโลสด้วย แครอลที่มีบันทึกสปีชีส์ของสิ่งมีชีวิตทั่วจักรวาล จึงให้กู๊สเผยตัวตนต่อหน้าฟิวรี่ว่าแท้จริงคือเฟลอเคนไม่ใช่แมวส้ม และกู๊สก็เขมือบแทซเซอแรคเก็บไว้ในท้องตัวเองซึ่งเป็นอีกมิตินึง ช่วงที่ยอนร็อกก์นำหน่วยสตาร์ฟอร์ซบุกมาจับตัวทุกคนพอดี


แลปฯลับอยู่ในยานลี้ภัยล่องหนลอยนอกชั้นบรรยากาศโลก (Captain Marvel)

ยอนร็อกก์ส่งแครอลเชื่อมทางจิตกับซูพรีมอินเทเลเจ้นของครี เพื่อกดพลังแครอลไว้ แต่ครั้งนี้แครอลสามารถหลุดออกจากการควบคุมของครีได้ และปลดปล่อยพลังคอสมิคในร่างออกมาได้เต็มที่ไม่มีกั๊กจนร่างเรืองแสง พลังคอสมิคของแครอลที่แผ่ไปทั่วยาน ทำให้ระบบไฟฟ้าขัดข้อง ทุกคนจึงหลุดพ้นจากการจับกุม


ร่างขั้นสุดของแครอล (Captain Marvel)

โดยมีกู๊ส คอยช่วยเขมือบพวกครีช่วยพวกสครัลล์และฟิวรี่หนี จนขึ้นยานลี้ภัยได้ทั้งหมด ด้านทางฟิวรี่นั้นนำกู๊สมาบนเครื่องบินรบที่มาเรียขับด้วย บนเครื่องบินนี้เอง กู๊สก็ข่วนที่ดวงตาข้างซ้ายของฟิวรี่ ด้วยพิษของกรงเล็บกู๊ส ทำให้ดวงตาฟิวรี่เกิดการอักเสบรุนแรงหนัก


ที่มาของฟิวรี่เสียตาไปข้างนึงเพราะกู๊ส (Captain Marvel)

ไม่มีใครในหน่วยสตาร์ฟอร์ซสู้แครอลได้เลยในนาทีนี้ แถมแครอลยังเหาะเป็นแล้วด้วยจากพลังคอสมิคในตัว แครอลไม่ฆ่ายอนร็อกก์ หากแต่จับใส่ยานตั้งพิกัดเดินทางกลับดาวฮาล่า เพื่อส่งข้อความไปว่า เธอจะยุติสงครามครีกับสครัลล์ลงให้ได้ แต่พวกของโรแนนก็มาถึงโลกพอดี และยิงจรวดทำลายล้างลงมามากมายหวังถล่มโลกให้สิ้น

แครอลบินยับยั้งและทำลายจรวดทิ้งทั้งหมด แถมยังบินออกไปนอกบรรยากาศโลกทำลายยานรบของครีอย่างง่ายดาย โรแนนจึงสั่งถอนกองยานรบไปก่อน ตอนนี้โรแนนจึงมีเป้าหมายใหม่ นั่นคือจับตัวแครอลไปเป็นอาวุธในภายหลัง


โรแนนต้องถอยไปตั้งหลักก่อน (Captain Marvel)

หลังจากที่ทุกอย่างจบลง ฟิวรี่ออกความเห็นว่า แครอลควรใช้ชื่อ Captain Marvel (กัปตันมาร์เวล) แครอลคืนเพจเจอร์ให้ฟิวรี่ และบอกว่าเธอดัดแปลงให้เพจเจอร์ส่งสัญญาณโดยตรงถึงเธอได้ไกลถึง 2 กาแล็กซี่

หลังจากนั้น แครอลก็บินนำชาวสครัลล์ที่อยู่บนยานลี้ภัยออกไปจากระบบกาแล็กซี่ทางช้างเผือก เพื่อค้นหาดาวดวงใหม่ให้ชาวสครัลล์ และไปสะสางกับครีด้วย


แครอลอยู่กลางอวกาศได้โดยไม่ต้องสวมชุดอวกาศ (Captain Marvel)

ที่ฐานชิลด์ ด้านทางฟิวรี่นั้นบอกกับโคลสันว่า เริ่มคิดโปรเจคค้นหายอดมนุษย์บนโลก เพื่อปกป้องภัยคุกคามจากนอกโลก ฟิวรี่เห็นฉายานักบินของแครอลว่า Carol “Avenger” Danvers บนรูปถ่ายเครื่องบินของแครอล ฟิวรี่จึงตั้งชื่อโปรเจครวมยอดมนุษย์นี้ว่า Avengers


ที่มาของทีมอเวนเจอร์ มาจากฉายานักบินแครอล (Captain Marvel)

กู๊ส ที่ตามฟิวรี่มาจนถึงโต๊ะทำงานฟิวรี่ในหน่วยชิลด์ ก็สำรอกเอาแทซเซอแรคที่ตนเองกลืนออกมาคืน ตอนนี้แทซเซอแรค หรือ สเปซสโตน จึงอยู่ในความครอบครองของชิลด์อีกครั้ง


กูซคายแทซเซอแรคคืนให้ฟิวรี่บนโต๊ะทำงาน (Captain Marvel)

ปี 1995 ด้านทาง กัปตัน มาเรีย แลมโบ เจ้าหน้าที่นักบินระดับสูงของกองทัพอากาศสหรัฐฯ เพื่อนรักของแครอล ก็ได้อนุมัติให้ริเริ่มก่อตั้งหน่วย The Sentient Weapon Observation and Response Division หรือเรียกสั้นๆว่า S.W.O.R.D. ซึ่งอยู่ภายใต้รัฐบาลสหรัฐ

โมนิก้า แรมโบ จึงเติบโตและซึมซับภารกิจของหน่วยซอว์ดมาตั้งแต่เด็ก และตั้งปณิธาณไว้ว่า จะเติบโตไปเป็นนักบินหญิงที่เก่งกาจเหมือนแม่มาเรียและน้าแครอลให้จงได้


โมนิก้า แรมโบ (Wanda Vision ss.01)


วิเคราะห์ภาพยนตร์และซีรี่ย์ อย่างตรงไปตรงมาครับผม

moviesoldnew.com@gmail.com
www.luangjeanhortri.com
https://www.facebook.com/moviesoldnew
https://twitter.com/MoviesOldNew
https://www.youtube.com/@Lhuangjeanhortri/featured
ติดต่อ 0986398253
เลขบัญชี 001-8101-661 (กสิกร KBANK)  กุลชาติ จันกระโทก