เวบบอร์ดสำหรับผู้ชื่นชอบระบบการฉายภาพเคลื่อนไหว
ภาพยนตร์ของเรา...การฉายภาพด้วยแผ่นฟิล์ม => ชุมทางหนังไทยในอดีต โดย มนัส กิ่งจันทร์ => ข้อความที่เริ่มโดย: ฉัตรชัยฟิล์มshop ที่ 14 กรกฎาคม 2013, 17:45:11
-
ชุมทางหนังไทยในอดีต โดย มนัส กิ่งจันทร์
บทความทั้งหมดและการภาพยนตร์ไทยคงเหลือ จัดทำโดย คุณมนัส กิ่งจันทร์
ผม ฉัตรชัย สุวรรณโสภา และสมาชิกเวป THAICINE ต้องขอขอบคุณ ที่คุณมนัส กิ่งจันทร์ ที่อนุญาตให้เอาบทความมาลงในเวป THAICINE
ติดตามได้ทาง facebook
https://www.facebook.com/groups/156185157894883/permalink/173899939456738/#!/groups/156185157894883/
ทุกวันอาทิตย์ พบกับรายการ อินไซด์บันเทิง หนังไทยในอดีต ทางโทรทัศผ่ามดาวเทียมจาน PSI ช่อง 175 เวลา 19.00-20.22 น.
-
(http://image.ohozaa.com/i/21c/PkyBzs.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/wZM6YRW7nHNmDWuj)
มนัส ชุมทางหนังไทยในอดีตชุมทางหนังไทยในอดีต Thai Old Movie Station
บทที่ 1
ชุมทางหนังไทยในอดีต เสนอฉาย
หรือจะปล่อยให้หนังไทยตายจริงๆ
โดย มนัส กิ่งจันทร์
... สวัสดีครับทุกท่าน..วันนี้ ก็ได้เวลาที่พวกเราจะกลับสู่คืนสภาวะปกติของการโพสระบบเดิมๆ แล้วนะครับ..ก็จะขอเริ่มต้นด้วยความรักความห่วงใยที่มีต่อหนังไทยในอดีต... ซึ่งทุกวันนี้ค่อยๆ เลือนหายไปจากคนไทยมากขึ้นเรื่อยๆ ผมเองวิตกถึงเรื่องนี้มานานหลายสิบปีแล้วครับ.. แต่ก็ไม่รู้จะแก้ปัญหาอย่างไร นอกจากการช่วยพูดช่วยเขียนและช่วยหนังไทยก่อน..เรื่องนี้ ผมเขียนถึงไว้นานแล้ว.. วันนี้ ก็เลยจะนำกลับมาให้อ่านทบทวนกันอีก...ตอนนั้น ผมตั้งชื่อเรื่องว่า “หรือจะปล่อยให้หนังไทยตายจริงๆ” ลองอ่านดูนะครับ....
แม้ว่า วันเวลาจะผ่านมานานแล้ว..แต่ความรู้สึกว่าที่หนังไทยเก่าๆ กำลังจะตาย ใครจะช่วยได้ ก็ยังคงวนเวียนอยู่ในหัวผมตลอดมา “หรือจะปล่อยให้หนังไทยตายจริงๆ” นั้น ผมเขียนไว้ในหนังสือฟิล์มแอนด์สตาร์ส ฉบับที่ 24 ประจำเดือนกรกฎาคม 2547 วันนี้ ก็เลยต้องนำกลับมาอ่านอีกครั้ง...ตอนนั้นผมเขียนไว้ว่า.. ผมเคยคิดจะนำภาพดาราเก่า ๆ มาลงบ้าง แต่เนื้อที่มีจำกัด จึงเลือกใช้ใบปิดหนังซึ่งสื่อความหมายถึงหนังเรื่องนั้น ๆ ได้ดีกว่ามาลงอยู่เสมอ แต่ Film & stars ฉบับนี้อายุครบ 2 ปี จึงเลือกภาพพระเอก-นางเอกหนังไทยสมัยก่อน ๆ มาลงด้วย บางคนก็ยังมีผลงานให้เราเห็นอยู่ บางคนก็อำลาวงการไปแล้ว ปัจจุบัน นิตยสารที่บอกเล่าถึงอดีตของหนังไทยเหลือน้อยเต็มที บางเล่มก็แค่นำใบปิดหนังมาโชว์และเขียนถึงสั้น ๆ ไม่มีรายละเอียดที่ควรจะบอกให้รู้เกี่ยวกับหนังเรื่องนั้น ๆ Film & stars เล็งเห็นถึงความต้องการของคนรักหนังไทยเก่า ๆ ดีว่าต้องการข้อมูลลึกแค่ไหน เพียงไร จึงจัดคอลัมน์นี้ไว้ให้รำลึกถึงอดีตของหนังไทยซึ่งถือว่า เป็นมรดกของชาติไปแล้ว แต่ขณะนี้ มีสิ่งที่น่าเป็นห่วงอย่างมากก็คือ คนไทยกลุ่มหนึ่งที่ไม่เคยดูหนังไทย แต่ก็ร้องยี้ไปกับเขาด้วยเมื่อมีใครพูดถึงหนังไทย ถ้าคนกลุ่มนี้เพิ่มปริมาณมากขึ้นเรื่อย ๆ เห็นทีหนังไทยทั้งใหม่และเก่าคงไปไม่รอดแน่ ๆ หนังไทยเป็นเหมือนของใกล้ตัวจึงถูกคนไทยมองข้ามไปอย่างไม่มีคุณค่า หากไม่มีอะไรมากระทุ้งแรง ๆ (อย่างกรณี โหมโรง) แล้ว ก็ไม่ค่อยจะออกไปดูหนังกัน การปลุกจิตสำนึกให้คนไทยรักหนังไทยจึงเป็นสิ่งสำคัญและเป็นหน้าที่ของทุก ๆ ฝ่ายที่จะต้องให้ความร่วมมือ
มีอยู่ครั้งหนึ่งที่ผมกับเพื่อนออกตามหากากฟิล์มหนังไทยเก่า ๆ ในต่างจังหวัด แล้วก็ต้องประหลาดใจ เมื่อไปเจอกับคู่แข่งซึ่งเป็นคนไทยด้วยกัน แต่เขาตามหาเฉพาะฟิล์มหนังเขมรเพราะหลังจากสงครามยุติ ก็มีคนเขมรอยากจะดูหนังเก่า ๆ ที่แสดงโดย ดีเสวต เจียยุทธร กวงซัมเฮือน กันอีก แต่หาฟิล์มไม่ได้ เลยสันนิษฐานว่า น่าจะมีอยู่กับคนไทยที่ไปฉายหนังในเขมรแล้วหนีภัยสงครามกลับมา หรือไม่เช่นนั้น หนังเขมรดัง ๆ อย่าง งูเก็งกอง กากี ปัญจะเทวี บัวขาวน้อย ถล่มฤทธิ์พญายักษ์ สังข์ทอง ฯลฯ ที่คนไทยสั่งซื้อฟิล์มมาฉายในเมืองไทย ก็น่าจะยังมีอยู่บ้าง ก็เลยต้องมาตามหาฟิล์มหนังเขมรในไทยเพื่อนำกลับไปอนุรักษ์ให้คนเขมรได้ดูกันอีก บังเอิญเพื่อนผมไปได้หนังเขมรเรื่อง สังข์ทอง กลับมา คนที่ตามหาฟิล์มหนังเขมรคนนั้นก็โทรศัพท์มาอ้อนวอนขอซื้อต่อ แต่เพื่อนผมก็บอกให้เขาไปหาฟิล์มหนังมิตร ชัยบัญชา มาแลกเอาไป เขาหายไปประมาณหนึ่งอาทิตย์ก็กลับมาพร้อมกับฟิล์มหนังมิตร ชัยบัญชาเรื่องหนึ่ง ซึ่งเพื่อนผมยังไม่มีจึงได้แลกเปลี่ยนกัน ก่อนเขาจะกลับ เพื่อนผมยังบอกให้เขาแวะไปจังหวัดสุรินทร์ เพราะที่นั่น ยังมีหนังเขมรเรื่อง บัวขาวน้อย อยู่ที่ช่างอนันต์ฯ ให้ลองไปถามดู ซึ่งภายหลังก็รู้ว่า เขาได้ฟิล์มหนังนั้นกลับไปด้วย เคยมีร้านให้เช่าเทป VDO เล่าให้ผมฟังว่า มีคนไทยในต่างประเทศมาสั่งซื้อม้วน VDO หนังไทยทุกเรื่องทั้งเก่าและใหม่ไปบ่อย ๆ ตอนแรกก็นึกว่าจะเอาไปขายหรือให้เช่าในต่างประเทศ แต่เขากลับบอกว่า ไปอยู่เมืองนอกนาน ๆ เห็นแต่หนังนอก ก็เลยคิดถึงหนังไทย อยากจะดูหนังไทย แต่ก็หาดูไม่ได้ จึงต้องกลับมาขอซื้อ เอาไปแบ่งกันดูในกลุ่มคนไทยที่นั่น
ทั้งสองกรณีเป็นตัวอย่างที่แสดงให้เห็นว่า อะไรก็ตามเมื่อไม่มีหรือเมื่อไม่อยู่แล้ว กฎธรรมชาติก็สอนให้คนเรารู้จักคิดถึงและออกแสวงหาสิ่งนั้น ๆ ถ้ายังพอตามหามาได้ ก็เป็นเรื่องโชคดีไป แต่ถ้าหาไม่ได้เพราะเราปล่อยปละละเลยหรือทิ้งขว้างนานเกินไปจนสิ่งนั้น ๆ สูญพันธุ์ไปหมด เราจะทำอย่างไรดี เราจะเอาอะไรมาทดแทนได้ หนังไทยก็เช่นกัน กว่าจะมีคนเห็นคุณค่าและออกตามเก็บกากฟิล์มหนังเก่า ๆ กลับมาอนุรักษ์ไว้ก็ช้าเกินกว่าอายุฟิล์มหนังบางเรื่องจะทนรอไหวแล้ว อย่างนี้เราจะทิ้งหนังไทยอีกหรือ นับตั้งแต่หนังไทยเรื่องแรกออกฉายมาจนถึงปัจจุบันจะมีทั้งหมดกี่เรื่องนั้น ก็ยังไม่เคยมีใครลองนับดู ถ้ากะโดยประมาณ ผมว่าน่าจะอยู่ราว ๆ 4,000 เรื่องขึ้นไป แต่เชื่อไหมครับ ปัจจุบันหนังเหล่านั้นมีโอกาสกลับมาให้ดูอีกในรูปแบบ VDO-VCD-DVD ตามท้องตลาดไม่เกิน 1,900 เรื่องเท่านั้น ซึ่งอุปสรรคหลัก ๆ ของการนำหนังไทยเก่า ๆ กลับมาอีกก็คือ
-
1. ไม่มีฟิล์มต้นฉบับ (เนกาตีฟ) หนังยุค 16 ม.ม.เป็นระบบที่ไม่มีฟิล์มต้นฉบับ (เนกาตีฟ) เพราะใช้ฟิล์มที่ถ่ายนั้นไปล้างและตัดต่อฉายได้เลย ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นหนังใบ้ เวลาฉายต้องพากย์สด ๆ เริ่มสร้างหลังเกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 เรื่อยมาจนถึงประมาณปี 2514 ดังนั้น โอกาสที่จะได้ดูหนัง 16 ม.ม.อีกจึงยากมาก เว้นแต่จะหากากฟิล์มหนังที่เหลือจากฉายในยุคนั้น ๆ มาได้ ซึ่งก็ไม่รู้ว่า ฟิล์มอยู่ที่ไหนกันบ้างและจะมีสภาพเป็นอย่างไร ยิ่งเป็นหนังดัง ๆ ทำเงินได้มาก ๆ ด้วยก็แทบไม่เหลือซากกลับมาให้เห็นอีกเลย
ถ้าเป็นหนัง 35 ม.ม. ก็จะมีฟิล์มต้นฉบับ (เนกาตีฟ) ทุกเรื่อง ซึ่งสามารถนำฟิล์มต้นฉบับนั้นกลับมาใช้เป็นแม่แบบได้อีก แต่ก็ยังมีปัญหาบ้างกับหนังรุ่นแรก ๆ ที่ต้องส่งฟิล์มต้นฉบับไปล้างและพิมพ์ฟิล์มในต่างประเทศเพราะทำให้มีฟิล์มต้นฉบับ(เนกาตีฟ)ตกค้างอยู่ที่ห้องแลปต่างประเทศจำนวนมาก แม้หอภาพยนตร์ฯ จะนำกลับคืนมาได้จากการ โครงการหนังไทยกลับบ้าน แต่ก็ไม่ครบ บางทีไม่ตรงกับชื่อเรื่องที่แจ้งไว้ นอกจากนี้ หนังดัง ๆ บางเรื่องที่ผู้สร้างยังรักยังหวง แล้วนำฟิล์มต้นฉบับ (เนกาตีฟ) ไปเก็บรักษาด้วยตนเอง แต่เก็บไม่ถูกวิธีจึงทำให้ฟิล์มต้นฉบับ (เนกาตีฟ) เสียหายเร็วกว่ากำหนด จึงไม่แน่เสมอไปว่า ถ้าเป็นหนัง 35 ม.ม.แล้วจะยังมีอยู่ครบทุกเรื่องหรือไม่ ถ้าไม่มีก็ต้องออกตามหากากฟิล์มหนังเหมือนเดิม แต่เนื่องจากฟิล์ม 35 ม.ม.มีอายุสั้นกว่าฟิล์ม 16 ม.ม.กากฟิล์มส่วนใหญ่ที่ได้มาก็ชำรุดเกินกว่าจะนำกลับมาใช้ได้อีก แม้จะมีบางเรื่องทำเป็นฟิล์ม 16 ม.ม.สโคป ซึ่งช่วยยืดอายุฟิล์มให้ยาวออกไปได้อีกระยะหนึ่ง แต่ที่พบก็มักจะมีรอยขีดข่วนหรือเส้นฝนแล้ว
2. ค่าลิขสิทธิ์ ผู้ถือลิขสิทธิ์หนังไทยก็คือ ผู้อำนวยการสร้าง (หรือผู้รับโอนสิทธิหรือทายาทในกรณีตาย) แต่ก็มักติดขัดในเรื่องการเจรจาซื้อลิขสิทธิ์เพราะผู้สร้างบางคนสร้างหนังไว้หลายเรื่อง เวลาจะขายก็อยากขายแบบเหมายกชุด ซึ่งไม่ตรงกับใจของผู้ซื้อที่อยากจะซื้อเพียงบางเรื่องเท่านั้น ให้เราตั้งข้อสังเกตไว้ก่อนว่า หนังบางเรื่องที่ยังไม่ออกสู่ท้องตลาดนั้นเพราะไม่มีฟิล์ม (ต้นฉบับหรือกากฟิล์ม) เป็นอย่างแรกก่อน แต่ถ้ามีฟิล์มแล้ว ก็ยังไม่เห็นหนังออกมาอีกแสดงว่า ติดปัญหาการซื้อลิขสิทธิ์เพราะฝ่ายผู้จะซื้อ ก็อยากจะซื้อถูก แต่ฝ่ายผู้จะขาย ก็อยากจะขายแพง ๆ บางครั้งเจ้าของลิขสิทธิ์หนัง 16 ม.ม.ก็บอกขายราคาสูงกว่าหนัง 35 ม.ม. ทั้ง ๆ ที่รู้ว่าหนัง 16 ม.ม.นั้น ผู้ซื้อจะต้องเอาไปลงทุนทำเสียงพากย์ ทำเสียงแบ็คกราวน์ใหม่หมด ก็ยังไม่ค่อยจะยอมลดราคาส่วนนี้ให้
3. กรรมเก่า อันเกิดจากความมักง่ายในการทำหนังออกเป็นเทป VDO ยุคแรก ๆ และส่งผลทำให้คนเข็ดขยาด ไม่กล้าดูหนังไทยเก่า ๆ อีกจนถึงทุกวันนี้เพราะกลัวว่า ภาพจะไม่ดีหรือไม่ชัดเพราะสมัยก่อนเจ้าของหนังบางคนจะใช้กากฟิล์มหนังแทนการใช้ฟิล์มต้นฉบับ (เนกาตีฟ) ในการทำมาสเตอร์เทป ส่วนวิธีการทำมาสเตอร์เทป ก็ทำแบบง่าย ๆ โดยฉายจากกากฟิล์มไปที่จอ แล้วใช้กล้อง VDO ธรรมดาซูมเก็บภาพไว้ ซึ่งจะได้ภาพไม่คมชัด มีบางส่วนบางมุมของภาพขาดหายไปและวิธีนี้ยังไม่สามารถตกแต่งสีของภาพเพิ่มเติมได้ ทางที่ดีจะต้องนำฟิล์มต้นฉบับหรือกากหนังนั้น ๆ ไปเทเลซีนเก็บภาพตามแบบมาตรฐานจะดีกว่า
นอกจากนี้ ยังปัญหาเรื่องการตัดหนังเมื่อไปทำเป็นเทป VDO อีกเพราะบางบริษัทต้องใส่โลโก้ ใส่หนังตัวอย่าง ใส่โฆษณาเข้าไปด้วย จึงมีการตัดหนังแต่ละเรื่องให้จบในเวลา 105 นาที ทั้ง ๆ ความยาวหนังปกติมี 120 นาที คนก็เลยไม่อยากดู ยิ่งถ้าทำหนังออกมาไม่ชัดอีก ลูกค้าก็ค่อย ๆ หมดไปโดยปริยาย ครั้นพอมาถึงยุคตลาด VCD ก็ยังมีการนำมาสเตอร์เทปตัวเดิมนี้ไปขายให้ทำ VCDกันอีก บางรายแย่กว่านั้น เล่นใช้ม้วน VDO ที่ออกให้เช่านั่นแหละมาเป็นแม่แบบในการผลิต VCD ความจริงยังมีหนังไทยเก่า ๆ หลายเรื่องที่ควรค่าแก่การนำกลับมาดูหรือเก็บสะสม แต่เมื่อคนซื้อเจอกับสภาพความมักง่ายในการทำมาสเตอร์เทปดังกล่าว ก็ถอดใจไม่อยากจะดู นี่แหละผลมาจากกรรมเก่า ดังนั้น การปลุกจิตสำนึกให้คนไทยรักหนังไทยอย่างเดียวคงไม่พอ ทางที่ดีเจ้าของหนังที่ยังมีฟิล์มต้นฉบับ (เนกาตีฟ) ควรที่จะนำฟิล์มนั้น ๆ มาใช้เทเลซีนจะดีที่สุด ถ้าเรื่องไหนหาฟิล์มต้นฉบับ (เนกาตีฟ) ไม่ได้ ก็ควรซ่อมกากฟิล์มให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้และบอกถึงเหตุผลด้วยว่า จำเป็นต้องทำหนังออกมาเพราะอะไร คนซื้อจะได้ไม่คิดว่า ตนเองถูกหลอก การได้ดูหนังไทยเก่า ๆ ก็เหมือนได้ดูประวัติศาสตร์อย่างหนึ่ง เพราะเราจะได้เห็นอดีตของสิ่งต่าง ๆ ที่เคลื่อนไหวบนจอหนัง ไม่ว่าจะเป็นดาราเก่า สถานที่ โบราณสถาน วัดวาอาราม เครื่องใช้ไม้สอยต่าง ๆ ตลอดจนขนบธรรมเนียมประเพณีในแต่ละยุคแต่ละสมัย ผมเชื่อว่า คนไทยคงไม่ใจดำกับหนังไทย แต่ตรงกันข้ามเขาพร้อมที่จะหลงใหลไปกับเสน่ห์ของหนังไทย ขอเพียงแต่ว่า ให้เจ้าของหรือผู้ผลิต VCD หนังไทยเก่า ๆ ช่วยทำให้ภาพออกมาดี ๆ สวย ๆ เท่านั้น ก็คงไม่มีใครปล่อยให้หนังไทยตายไปหรอกครับ...คลิกดูบางส่วนของ... หนังไทย.. อดีตที่ไม่มีวันตาย http://youtu.be/2CT1DqRcDvM
http://www.youtube.com/watch?v=2CT1DqRcDvM
-
มนัส ชุมทางหนังไทยในอดีตชุมทางหนังไทยในอดีต Thai Old Movie Station
บทที่ 41
ชุมทางหนังไทยในอดีต เสนอฉาย
โผน กิ่งเพชร ชกมวย ฉายจากฟิล์มหนังขายยาศรีอุดมโอสถ
โดย มนัส กิ่งจันทร์
(facebook 3 พฤษภาคม 2556)
... สวัสดีครับ..วันนี้ จะเปิดกรุฟิล์มหนัง 16 มม.ของหนังขายศรีอุดมโอสถ อำเภอทับคล้อ จังหวัดพิจิตร ซึ่งผมและเพื่อนๆ เดินทางไปขอยืมฟิล์มหนังมาจากพี่เพ็ชร ไชยธงรัตน์ ลูกชายเจ้าของหนังขายยาเมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 2556.. ก็อย่างที่เห็นๆ ในรูปนั่นแหละครับ..ผมกำลังดูฟิล์ม 16 มม.สโคป เรื่อง ไม่มีวันที่เราจะพรากจากกัน ว่า ทำไมหัวม้วนหนังจึงเป็นฟิล์มขาว-ดำ.. แล้วพอส่องดูภาพ ก็เห็นเป็นการชกมวยสากล.. เมื่อนำไปฉายก็เป็นการชกมวยสากลแชมเปี้ยนโลกจริงๆ แต่ว่า มีฟิล์มอยู่แค่ยกเดียวนะครับ.. เสียงพูดบรรยายประกอบการชกก็เป็นภาษาต่างประเทศ ผมก็ไม่ค่อยถนัดแถมเรื่องหมัดๆ มวยๆ ผมก็ไม่คุ้นว่า จะเป็นใครต่อยกับใคร ได้ยินเสียงฝรั่งพูดเหมือนเป็น “โผน กิ่งเพชร” แต่ไม่แน่ใจนะครับ.. วันนี้ ก็เลยตัดส่วนนี้ออกมาให้ดูก่อน.. ถามว่า ทำไม หนังกลางแปลงหรือหนังขายยาสมัยก่อนจึงต้องมีฟิล์มหนังข่าวแบบนี้แปะหัวม้วนหนังอยู่เสมอ.. ก็ตอบว่า เขาแปะไว้ฉายขั้นเวลาและเป็นการรักษาฟิล์มหัวหนังเรื่องจริงๆ นะครับเพราะบางครั้ง เวลาฉายหนังเขาอาจจะสาวฟิล์มต่อม้วนกัน ก็เลยหาหนังข่าวหรือหนังอื่นๆ มาต่อไว้นะครับ เผอิญว่า หนังหัวม้วนนี้เป็นหนังสำคัญ..ผมก็เลยนำมาให้ดู แต่ว่าเสียงจะเริ่มมีปัญหาแล้วนะครับ.. คลิกดูได้เลยครับ แล้วท่านใดมีข้อมูลการชกมวยคู่นี้ ก็ช่วยเพิ่มให้ด้วยนะครับ... http://youtu.be/s5WS9YIevKY
http://www.youtube.com/watch?v=s5WS9YIevKY
-
สวัสดีครับทุกท่าน..ผมเพิ่งมีโอกาสเข้ามาเห็นโพสต์ต่างๆ ที่คุณฉัตรชัย ไทยซีเน.. นำมาโพสต์ไว้ ณ ที่นี้ ต้องบอกก่อนเลยว่า ขอบคุณมากๆ ขอบคุณจริงๆ ที่ช่วยกันเผยแพร่เรื่องราวอดีตของหนังไทย ลำพังผมเองทำคนเดียวคงไม่รอดหรอกครับ ถ้าไม่มีเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ช่วยกันคนละไม้คนละมือ ขอบคุณคุณกำธรด้วยนะครับ.. ตอนนี้ ขอศึกษาวิธีโพสต์ก่อนนะครับ ต่อไปคงจะมีเรื่องราว เรื่องเล่า ภาพหนังเก่า มาเสนอพี่น้องนะครับ...
-
ยินดีต้อนรับ พี่มนัส กิ่งจันทร์ ครับ ..... ;D
-
จบแล้วครับ ชุมทางหนังไทยในอดีต โดย มนัส กิ่งจันทร์ ตอน ๑ แสดงความคิดเห็น และให้กำลังใจได้เลยนะครับ
-
คุณฉัตรชัย แบ่งโพสต์ไว้ตอนละ 50 เรื่อง ส่วนที่เหลือก็จะเว้นเนื้อที่ให้เพื่อนๆ แสดงความคิดเห็น.. แต่ว่าระหว่างรอเพื่อนๆ เข้ามาอ่านหรือแสดงความคิดเห็น ผมเองก็คิดว่า ผมมีสต๊อกรูปเก่าๆ อีกเป็นพันๆ รูปที่เคยโพสต์ไว้สมัยที่ยังเขียนอยู่ที่เว็บไทยฟิล์ม..ก็เลยจะนำมาโพสต์ ณ ที่นี้เผื่อว่า จะเป็นประโยชน์กับท่านที่สนใจบ้างนะครับ..
ภาพใบปิดเหล่านี้เป็นครั้งแรกๆ ที่ผมหัดโพสต์รูปที่เว็บไทยฟิล์ม..ตอนนั้น จะใช้วิธีเขียนสั้นๆ โดยเน้นไปที่ตัว ใบปิดหนัง โดยแต่ละใบปิดหนังที่โพสต์นั้น ผมจะเขียนเพิ่มเติม วันที่ฉายหนังครั้งแรกที่โรงหนังไหน ไว้ด้วยเพื่อเป็นข้อมูลและบ่งบอกถึงความเก่าของหนัง บางเรื่องก็จะบอกว่า มีฟิล์ม มีวีดีโอ ด้วยนะครับ...
-
เติมรูปอีกครับ... ยังคงเป็นใบปิดหนังไทย 4 เรื่อง
สิงห์สลาตัน..
สิงห์สั่งป่า..
นักเลงป่าสัก..
ชาติสิงห์ทุ่งสง..
ล้วนแต่หนังบู๊ๆ ที่คอหนังไทยสมัยนั้นถามหา..แต่ก็โชคดี รอดมาให้ดูเป็นแผ่นได้แล้ว 3 เรื่อง ส่วนอีกเรื่อง ชาติสิงห์ทุ่งสง ยังหาฟิล์มชัดๆ มาทำใหม่ไม่ได้ครับ...
-
ลงไปเรื่อยๆ นะครับ สำหรับใบปิดหนังไทยเก่าๆ พร้อมวันเดือนปี โรงหนังที่ออกฉายครั้งแรก..
แคนลำโขง.. เรื่องนี้สาบสูญ หาหนังดูไม่ได้แล้วครับ..
ลุย..เรื่องนี้ ยังมีเป็นวีซีดีนะครับ
ลาบเลือด..เรื่องนี้ ก็เป็นแผ่นเรียบร้อยแล้ว..
ทิพพ์ช้าง..เรื่องนี้ เคยฉายทางช่องไอบีซี แต่ยังไม่ออกแผ่นนะครับ..
-
โปสเตอร์สวยดีครับ อยากจะสะสมบ้าง เอามาสงเยอะๆครับ.. ;D
-
ตามปกติ กลุ่มคนรักหนังทั้งหลาย ต่างก็ชอบ ต่างก็เก็บสะสมกันไปคนละอย่าง.. ส่วนผมเองเน้นเก็บที่ตัวหนังไทยหนังเรื่อง..โปสเตอร์เหล่านี้ก็จะเก็บเป็นเพียงขนาด 4x6 นิ้ว..แต่หลังๆ เก็บเป็นไฟล์ในเครื่องคอมฯแทน เพื่อความสะดวกในการค้นหาและหาใช้งานนะครับ.. แล้วที่สะสมอีกอย่างก็คือ หนังสือดาราเก่าๆ ก็เพื่อทำข้อมูลนะครับ.. ตอนนี้ พอมีเพื่อนเยอะขึ้น ก็จะเรียกว่า แยกกันเก็บก็ได้ คราใดจะใช้งาน ก็จะมา รวมการเฉพาะกิจ นะครับ... ก็คงจะทยอยนำมาลงเรื่อยๆ นะครับ ทั้งใบปิดและภาพดาราเก่าๆ...
-
สมัยผมยังเด็ก ผมอยู่บ้านกับคุณย่า(ท่านเพิ่งเสียไปเมื่อเดือนที่แล้ว รวมอายุ 92 ปี) ที่บ้านจุดตะเกียงน้ำมันกาด ใช้ท่อนฟืนจุดไฟหุงข้าว ส่วนมากท่านจะอยู่ในสวนปลูกกล้วย,หัวมัน,อ้อย และอื่นๆขาย ตั้งแต่ตอนสายๆ เป็นต้นไปตลอดวัน จนกว่าจะพักเที่ยง และเลิกทำสวนในตอนเย็น อีกทั้งในช่วงเวลาที่ท่านไม่ได้ออกไปทำสวน ท่านก็จะนำใบมะพร้าวที่ตัดหัวตัดหางแช่น้ำทิ้งไว้ 1-2คืน มาเย็บเป็นใบมะพร้าวมุงหลังคาขาย สมัยก่อนคนที่ไม่มีเงินหรือที่เรียกว่าคนจนก็จะใช้ตับใบมะพร้าวนี่แหละครับไว้มุงหลังคา กันน้ำกันแดด ... ไปซะไกลกลับเข้ามาเรื่องที่อยากจะคุย
ช่วงเวลานั้นเรามีแต่วิทยุ ฟังกันแต่วิทยุ ที่บ้านมีวิทยุยี่ฮ้อ ธานินท์ เครื่องใหญ ส่วนที่ย่าใช้ก็จะเป็นเครื่องเล็ก มีสายสะพายหิ้วไปมาสะดวก ทุกครั้งที่ได้ยินเสียง จะเป็นละครวิทยุ และเท่าที่ผมจำได้หนังเกือบจะทุกเรื่องจะต้องผ่านการเป็นละครวิทยุมาก่อน มันคล้ายๆกับว่าทำให้คนติดละครวิทยุก่อน แล้วค่อยตามไปดูหน้าตาตัวละครกันบนจออีกที ละครวิทยุเรื่องไหนดังมาก เมือเอามาทำเป็นหนังก็จะดังกันไปใหญ่ แต่ถ้ารอหนังฟรี ก็อีกประมาณ 1 ปีถึงจะได้ดู ส่วนใหญ่ 90% ก็จะได้ดูในงานศพ
ที่ผมจำได้อีกก็เป็นงานศพของคุณย่าทวดผมเมือ่ประมาณ 2520 ก็ได้หาหนังมาฉาย 1 คืน(คืนก่อนเผา) ฉาย 3 เรื่อง หนึ่งในนั้นที่จำได้คือเรื่อง "นางงูเห่า" ตอนนั้นผมบวชเณรแต่ก็มานั่งดูด้วย .. ;D ;D
-
อ่านแล้ว สนุกดีครับคุณกำธร..เล่าไปเล่ามาก็เกี่ยวกับหนังจนได้นั่นแหละครับ...
สำหรับคนต่างจังหวัดแล้ว ละครวิทยุ เป็นสื่อโฆษณาที่ดีกว่าหนังสือพิมพ์ หนังสือดารา..เพราะคนฟังแล้วก็จะจินตนาการและเกิดความอยากดูหนังขึ้นมา..
ละครไหนดังๆ ก็จะเหมือนที่คุณกำธรบอกนั่นแหละครับ...คนจะแห่กันไปดู.. คิดแล้วแปลกนะครับ คนดูหนังสมัยก่อนนั้น เขาอ่าน เขาฟังละครวิทยุกันจนรู้เรื่อง
หมดแล้ว เขาก็ยังไปดูหนัง.. แต่คนสมัยนี้ ห้ามไม่ให้ใครเล่าเรื่องหนังให้ฟังก่อนไปดูนะครับ..
เห็นพูดถึง ดูหนังงานศพ.. ผมเองตอนเป็นเด็กๆ หนังที่ผ่านสายตามาเกือบ 99% นั้น ล้วนแต่เป็นหนังกลางแปลงและเป็นหนังงานศพเป็นส่วนใหญ่ครับ
"นางงูเห่า" ผมเองก็เคยดูจากหนังกลางแปลง แต่ทุกวันนี้ เสียดายครับ หาฟิล์มดูอีกไม่ได้เลยครับ...
-
ผมเคยปิดวิก....เทพธิดา บ้านไร่....หนังของ เสี่ยเม้ง เสรี ภาพยนตร์ ปี 10 คุณมนัส ช่วยหาใบปิดให้ด้วยครับ
และ ใบปิด พยัคฆ์ร้าย ใต้สมุทร อีกเรื่องหนึ่งครับ.....ขอบคุณมาก...ครับ.
-
มาแล้วครับ..ใบปิดโปสเตอร์หนังไทยเก่าๆ 2 ใบแรกตามคำขอนะครับ..
เทพธิดาบ้านไร่.. หนัง 16 มม.ที่ปัจจุบันหาฟิล์มไม่ได้แล้วครับ มีหลายคนอยากจะดูอีก แต่ก็จนปัญญาในการตามหา..
หนังออกฉายครั้งแรกเมื่อวันที่ 29 ธันวาคม 2510 ที่โรงหนังคาเธ่ย์...
พยัคฆ์ร้ายใต้สมุทร.. ก็เช่นกัน หาฟิล์มอีกไม่ได้แล้ว หนังออกฉายครั้งแรกเมื่อวันที่ 8 กันยายน 2510 ที่โรงหนังคาเธ่ย์..
เดนนรก.. เป็นหนัง 35 มม.แล้วครับ มีออกเป็นแผ่นซีดีแล้วครับ
สาวบัวตอง.. ก็เป็นหนัง 35 มม.เช่นกัน เคยออกเป็นม้วนวีดีโอให้เช่าแล้วครับ..เปิดเรื่องมาก็ร้องเพลง สาวบัวตอง...
-
ขอบคุณ....ท่าน มนัส กิ่งจันทร์...มากๆเลยครับ....2 เรื่องนี้ค้นหามานาน...ครับ. เอ้อ...มีเรื่องรบกวน ท่าน มนัส ช่วยหา ใบปิด หนังไทย ดอกอ้อ กบเต้น
อยากดัง ให้หน่อยครับ เคยปิดวิกครับ ขอบคุณมากๆ ครับ.
-
มาแล้วครับ ใบปิดที่อาจารย์ขอไว้.. ดอกอ้อ กบเต้น อยากดัง..
แล้วเมื่อวานนี้ ผมเดินไปสำรวจ บริการพิทักษ์ภาพยนตร์ ในซอยวัดใหญ่ศรีสุพรรณ แล้วน่ะครับ
ผมเขียนไว้ในกระทู้เดิมนะครับอาจารย์...
-
ขอบคุณ...ท่านมนัส...กิ่งจันทร์....มากครับ....ช่างรวดเร็ว...ดีแท้....สุดยอดเลยครับ.. เหมือนหนัง ขุมทรัพย์สุดขอบฟ้าเลย.ตามหาหนังไทยในอดีต...มาถึงซอยวัดใหญ่ศรีสุพรรณ...ได้ไง .ทั้งที่ผมก็ไม่ได้ไป นานแล้ว...ถึงไปก็จำไม่ได้....โอ....สุดยอดของการผจญภัย.....เยิ่ยมมากเลยท่าน.
ใบปิดหนัง ของคุณมนัส ผมจะนำประกอบเรื่องราวในอดีต มาเผยแพร่ ต่อไปนะครับ ขอบคุณอีกครั้งครับ.
( ภาพประกอบวัดหลักสี่ บ้านแผ้ว ปี 11 - 14 ปิดวิกประจำ ย้ายไปหัวข้อ การพากย์ ย้อนยุค ครับ.)
-
ครับผม รออ่านอยู่นะครับ... และวันนี้ ก็มาดูใบปิดหนังกันต่อนะครับ เริ่มจาก
หนึ่งในล้าน.. หนังตลกๆ แต่ว่ายังหาดูไม่ได้ มีแต่วีดีโอที่อัดจากทีวีเท่านั้น
ไอ้ขุนทอง.. โชคดีที่ยังเจอกากฟิล์มนะครับ ตอนนี้เขาทำออกมาขายแล้วครับ หนังเรื่องสุดท้ายที่จะเห็น เพชรา เชาวราษฎร์
ไอ้นก.. เรื่องนี้ หายเงียบไปเลยครับ
แผ่นดินวิปโยค..มีทั้งฟิล์มให้เราเห็นๆ และมีทั้งแผ่นจำหน่ายแล้วครับ..หนังที่สร้างเรื่อง พระธาตุพนม ล่ม..
-
เห็นใบปิด ..แผ่นดินวิปโยค...นึกได้ว่า.หลายเดือนมาแล้ว มีสมาชิก..ประกาสขายฟิล์ม หนัง เรื่องนี้..แต่ยังนึกไม่ออก..ใครหนอ..ประกาศขาย...ราคาค่อนข้าง
แพง...เพราะเป็นหนังหายาก.มากๆ.
ในหัวข้อ สหภัณฑ์ ภาพยนตร์ เรื่องหน่วยหนัง ให้เช่าฟิล์มหนัง เฉลิมกรุง....ยุค 16 ม.ม ได้ข้อมูลนักพากย์หนัง เปี๊ยก แป๊ะยิ้ม เพิ่มเติม ดังนี้
6 อุษา ฟิล์ม มีหนัง นางพรายตานี หนึ่ง ต่อ เจ็ด 7 ประจัญบาน ( ส.อาจนจินดา )
และที่สำคัญ มีรููปเจ้าของถ่ายคู่กับ จอมพลประภาส จารุเสถียร ใส่แว่นตาดำ ด้วย )
และ สร้างหนัง กำไลหยก ด้วย
7 อภิวันท์ ภาพยนตร์ เปี๊ยก แป๊ะยิ้ม บอกว่า หน่วยนี้ก็มีหนังไทยเยอะ มี เด็กวัด คลุมถุงชน ตาลเดี่ยว
สาวบัวตอง มงกุฎเพชร ท่าน ส.จ. ทองดี ( บางแพ ) ก็มาอยู่ที่ด้วย พากย์หนังด้วย
มีอยู่รายการหนึ่ง ติดงาน ให้เปี๊ยก หิ้วหนัง ไปพากย์สด งานของ ส.ส ทวิช กลิ่นประทุมอยู่ครั้งเดียว
8 คุณโต้ง ฟิล์ม มีหนังดัง นำ้ผิ้งป่า
9 ศุภชัย ภาพยนตร์ มีหนังดัง ปี่แก้วนางหงส์
10 กรุงเทพ ฟิล์ม
11 เป๊๊ยก แป๊ะยิ้ม นักพากย์ เคย ซื้อหนังไทยดัง สวรรศ์เบิ่ยง ฉัตรดาว ไว้รับงาน ตอนหลังขายหมดเลย.
( ถ้าท่าน มนัส มีใบปิด ช่วยแปะให้หน่อย....ขอบคุณมากๆ...ครับ..)
-
ขอบคุณอาจารย์มากๆ ครับ..สำหรับข้อมูลการเ่ช่าฟิล์มหนังต่างๆ นี่ถ้าบริการหนังเหล่านั้น ยังเก็บฟิล์มไว้ ก็ดีนะครับ..
มาดูรูปภาพใบปิดที่อาจารย์พูดถึงนะครับ...
เจ็ดประจัญบาน.. หาฟิล์มไม่ได้แล้วครับ..
ฉัีตรดาว.. ก็หาหนังไม่ได้เช่นกัน..
เด็กวัด.. ก็ไม่มีข่าวฟิล์มแล้วครับ..
ตาลเดี่ยว.. นั้น คุณโต๊ะพันธมิตร ตามฟิล์มเจอและนำมาออกแผ่นแล้วครับ..
-
ต่ออีกนะครับ..
นางพรายตานี.. หาฟิล์มเจอแล้วและออกเป็นแผ่นซีดีแล้วครับ
น้ำผึ้งป่า.. ฟิล์มหายเงียบไปเลยครับ..
ปี่แก้วนางหงษ์.. นี่ก็เช่นกัน ไม่มีข่าวอีกเลยครับ
มงกุฏเพชร.. ก็ไม่มีข่าวฟิล์มอีกเลยครับ
-
สุดท้ายตามที่อาจารย์ถามถึงแล้วน่ะครับ..
สวรรค์เบี่ยง.. ก็เป็นหนังที่หาฟิล์มอีกไม่ได้เช่นกัน
หนึ่งต่อเจ็ด.. นี่ก็หาฟิล์มไม่ได้อีก.. ผมเจอแต่ ชุมทางหาดใหญ่ ครับ
-
เพื่อความเหมาะสม รายการ ปิดวิกหนังไทย ผมย้าย ไปหัวข้อ การพากย์หนังย้อนยุค แล้วครับ
ขอรบกวน ถ้ามี ใบปิดหนัง ขวัญเรือน กับ ยอดแก่น ช่วยหาให้หน่อยครับ ขอบคุณครับ.
-
ตามไปแล้วครับ อาจารย์..