ผู้เขียน หัวข้อ: ถ้าได้เห็นสภาพฟิล์มหนัง ตอนที่พวกเราได้มานั้น ก็อาจนึกจะอยากดูหนังเก่าๆ กันบ้าง  (อ่าน 46 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ มนัส กิ่งจันทร์

  • มนัส กิ่งจันทร์ ภาคสอง ชุมทางหนังไทยในอดีต
  • Moderator
  • พี่น้อง thaicine Gold member
  • ***
  • กระทู้: 2814
  • พลังใจที่มี 35
  • เพศ: ชาย
    • มนัส ชุมทางหนังไทยในอดีต
    บางที ถ้าได้เห็นสภาพฟิล์มหนัง ตอนที่พวกเราได้มานั้น ก็อาจนึกจะอยากดูหนังเก่าๆ กันบ้าง?

    กองฟิล์มนี้ มีหนังมิตร ชัยบัญชา อยู่ 2 เรื่อง สภาพฟิล์มก็คือ เก่าเก็บ เก็บจนกระเป๋าฟิล์มเปื่อย แล้วเขาก็ทิ้งกระเป๋าฟิล์มไป นำฟิล์มไปวางกองๆ รวมกันไว้ที่ผนังห้อง ซึ่งเป็นบ้านไม้คล้ายๆ กระท่อม ทั้งลม แดด ฝน พัดผ่านผนังห้องได้ตลอดเวลา

    คนฉายหนังคนสุดท้ายนี้ ชื่อว่า ลุงจันทรา.. ฉายและก็พากย์หนัง 16 มม. มาจนหมดสมัยนิยม ลุงแกก็เก็บฟิล์มไว้ตั้งแต่ยังมีกระเป๋าใส่ฟิล์ม กระทั่งตัวแกตายไป ก็มีเพื่อนๆ ที่เคยไปงานศพที่บ้านแก ก็มองเห็นว่า มีกระเป๋าฟิล์มหนัง 16 มม.อยู่ในบ้านด้วย แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรเพราะเป็นธรรมชาติของคนฉายหนังที่ชอบเก็บของไว้

    กระทั่งต่อมา ข่าวเรื่องลุงจันทรา ตายแล้ว ยังมีฟิล์มหนังอยู่ ก็มาถึงหูพวกเรา ตอนนั้น เรารู้แต่เพียงว่า ลุงจันทรา ฉายหนังอยู่ที่อำเภอเปือยน้อย จังหวัดขอนแก่น พวกเราก็พากันนั่งรถไปถามหา.. ถามจนเจอบ้านลุงจันทรา ที่เคยฉายหนัง 16 มม. อยู่ที่ เปือยน้อย แรกๆ เจอญาติๆ ทางเมีย ก็บอกว่า ไม่มีฟิล์มหนังแล้ว ขายทิ้งไปกับเครื่องฉายหมดแล้ว

     แต่เพราะความอยากจะหารูปถ่ายลุงจันทราขณะฉายหนังว่า จะพอมีถ่ายไว้บ้างไหม.. หลานๆ ของลุง ก็เลยเราพาเดินไปหาเมียลุงจันทราที่บ้านหลังนี้แหละครับ เราจึงได้พบฟิล์มกองนี้กองอยู่ ตอนนั้น ก็ยังไม่รู้ว่า จะเป็นหนังเรื่องอะไร ?? ไม่ได้ตรวจดูฟิล์มด้วย แต่เพราะฟิล์มหนัง 16 มม. นั้นหาได้ยาก และหนังลุงจันทราที่เหลือๆ ก็เหลืออยู่แค่นี้ คิดว่าเป็นโชค เป็นวาสนาที่หนังได้เจอเรา หนังจะได้มาเกิดอีก เราจึงนำฟิล์มทั้งหมดกลับมา วันนั้น วันที่ 26 กรกฎาคม 2563 ครับ

    เมื่อตรวจเช็ค ก็พบว่า กองฟิล์มนี้มีหนังมิตร ชัยบัญชา อยู่ 2 เรื่อง (ทับเทวา อีกเรื่อง) สภาพฟิล์มมองจากภายนอกก็แย่ ฉายภาพออกมา ก็แย่อีกครับ.. เราฉายจนรู้ว่า เป็นหนังมิตรเรื่อง แสนสงสาร ปี 2511 ตอนฉายก็ลุ้นๆ ว่า หนังจะจบไหม.. แล้วหนังก็ยังจบเรื่องครับ แต่เนื้อหาไม่บริบูรณ์ ก็เป็นไปตามคาดคือ หนังถูกซอยทิ้ง เพื่อให้สั้นลง จะได้ฉายและพากย์ง่ายๆ เพื่อหยุดขายยา.. แสนสงสาร หนังเหลือมาประมาณ 1 ชั่วโมงครับ

    หนังกองนี้ ไม่มีบทพากย์แล้วครับ ขนาดกระเป๋าใส่ฟิล์มยังเปื่อย แล้วกระดาษบทพากย์ จะเหลือหรือครับ เราก็ฉายทำไฟล์ดิจิทัลจนเสร็จ แล้วก็เริ่มลงมือตัดต่อ ลำดับภาพ แล้วก็หาเรื่องย่อหนังมาอ่าน เพื่อทำความเข้าใจหนัง จากนั้นก็เริ่มแกะบทพากย์หนัง แกะโดยดูหนัง พากย์ไปเรื่อยๆ จนจบ จากนั้นก็ชวนเพื่อนๆ มาพากย์เปลี่ยนเสียงผมออกไปทีละคนครับ

    แรกๆ ก็คิดว่า เมื่อฉายโรงหนังหอภาพยนตร์ฯ เสร็จแล้ว ก็จะนำลงให้ดูในช่องยูทูป ชุมทางหนังไทย เลย แต่ก็มาติดขัดตรงที่เสียงเพลงแบ็กกราวน์ประกอบหนังนี่แหละครับ ผมก็ใช้เพลงต่างประเทศเป็นหลัก ก็ทำตามธรรมเนียมคนฉายหนัง 16 มม. สมัยก่อนที่เขานิยมใช้กัน ก็เลยติดลิขสิทธิ์ ก็เลยต้องลงเป็นหนังตัวอย่างสั้นๆ ไว้แทนครับ

    ผมเห็นคอมเม้นท์หนังมิตรหลายๆ เรื่องในช่องยูทูป ชุมทางหนังไทย บอกว่า อยากจะดูเต็มๆ เรื่องบ้าง.. ทำยังไง จะได้ดูบ้าง.. ก็บอกตรงนี้เลยว่า หนังมิตรทุกๆ เรื่อง ที่กลุ่มวัยหวานวันวาน กทม. หาฟิล์มมาได้และพากย์บันทึกเสียงไว้ 28 เรื่องนั้น ตอนนี้ อยู่ในโครงการฉายภาพยนตร์เพื่อการเรียนรู้ มิตรศึกษา ฉายให้ดูฟรีๆ ทั่วประเทศครับ เพียงแต่คุณๆ ต้องขวนขวาย รวมตัว หาเพื่อนๆ หาสถานที่ให้ เราก็จะไปหาคุณ ไปฉายให้ดูฟรีๆ กันครับ

    ภาพประกอบ : ล้อต๊อก-มิตร ชัยบัญชา-เพชรา เชาวราษฎร์-อดุลย์ ดุลยรัตน์ จากเรื่อง แสนสงสาร ปี 2511 เรื่องนี้ ล้อต๊อก รับบทเด่น บทเศร้าๆ ไม่ตลกอย่างที่เคยเห็นๆ มาครับ


"มนัส กิ่งจันทร์ ภาคสอง ชุมทางหนังไทยในอดีต" โดยเติมคำว่า "ภาคสอง" คั่นกลางไว้..
อดีตจากฟิล์มภาพยนตร์ ไม่มีวันตาย..