• ชื่อไทย : ตำรับรัก ยอดคนก้นครัว
• ปีที่เปิดตัว : 2566
• เข้าฉายในไทย : 25 มกราคม 2567
• นำแสดง : Juliette Binoche, Benoit Magimel, Emmanuel Salinger
• กำกับโดย : Anh Hung Tran
• เขียนโดย : Marcel Rouff, Anh Hung Tran
• ประเภท : Drama / History / Romance
• ความยาว : 135 นาที
• เรต : PG-13
• สร้างโดย : France / Belgium
• จำหน่ายโดย : HAL Distribution
เรื่องย่อ The Taste of Things มันคือเรื่องราวความสัมพันธ์ของชายหญิงคู่หนึ่ง โดแดง (เบอนัวต์ มาจิเมล) ผู้ได้รับขนานนามว่านโปเลียนแห่งศาสตร์กระยาหาร และ อูชินี (จูเลียต บิโนช) แม่ครัวคู่ใจที่ปรุงอาหารด้วยกันมากว่า 20 ปี ความสัมพันธ์ของทั้งสองเบ่งบานทั้งในและนอกครัว จนวันหนึ่งการมาเยือนของเจ้าชายแห่งยูเรเซีย ผู้มาท้าดวลพร้อมกับพ่อครัวคู่ใจ และการป่วยลึกลับของอูชินี ที่อาจแยกทั้งสองจากกัน
ในช่วงเวลาที่คอหนังกำลังใจจดจ่อรอดูว่าเรื่องใดกันที่จะคว้ารางวัลออสการ์หนังต่างประเทศอยู่นั้น ทาง HAL ผู้จัดจำหน่ายที่เฟ้นเอาของดีมาฉายในเมืองไทยอยู่เรื่อยๆ เขาก็หยิบเอาหนังฝรั่งเศสที่เล่าเรื่องของแม่ครัวสาวกับนักชิมอาหารหนุ่ม และใช้ผู้กำกับชาวเวียดนาม ตรัน อาห์น ฮุง มาฉายในเมืองไทย หนังเรื่องนี้ได้เป็นตัวแทนของฝรั่งเศสเข้าชิงออสการ์ ‘The Taste of Things’ หรือชื่อไทย ‘ตำรับรักยอดคนก้นครัว’
รีวิวหนัง ‘ตำรับรักยอดคนก้นครัว’ ท่ามกลางความสงสัยในสาเหตุที่ฝรั่งเศสเลือกหนังเรื่องนี้เข้าชิง เหนือกว่า ‘Anatomy of a Fall’ เราจะเรื่องนั้นลงไปก่อน หันมาสนใจในสิ่งที่หนังเลือกเล่าให้เราได้เสพและซึมซับกัน
หนังเรื่องนี้ต้อนรับเราเข้าสู่โลกของเขาด้วยภาพชีวิตของ โดแดง หนุ่มเครางาม เขาคือเชฟและนักชิมอาหาร ที่ได้รับสมญา นโปเลียนแห่งศาสตร์กระยาหาร กับ อูชินี่ แม่ครัวที่ทำอาหารได้เก่งมาก เธอสามารถประกอบอาหารได้อย่างหมดจดเพียงได้สูตรอาหารที่โดแดงเขียนให้ ทั้งคู่ทำอาหารด้วยกันมานานถึง 20 ปี จนต่างหลงรักต่อกัน และแม้โดแดงจะพยายามสักเท่าไหร่ แต่ดูท่าทางอีกฝ่ายก็ไม่เคยตอบรับคำขอแต่งงานของเขาสักที
ทำให้หนังเรื่องนี้อบอวลไปด้วยมวลความรักของคนสองคน แต่ที่มากกว่านั้นก็คือ ความอบอวลของอาหารเมนูต่างๆ ที่ถูกปรุงขึ้นจากความรักอาหารของฟู้ดเลิฟเวอร์สองคน
คนดูจะได้เจอทุกอย่างที่ฟู้ดเลิฟเวอร์คนนึงจะได้เป็น ทั้งการออกไปเก็บผักที่ปลูกไว้เอง ห้องครัวขนาดใหญ่ที่มีเตาและเตาอบอยู่กลางห้อง มีหม้อหลายขนาด อุปกรณ์ทำครัวต่างๆ ที่แขวนเรียงรายบนข้างหนึ่งของผนังห้อง คนดูจะมองเห็นทุกขั้นตอนของกรรมวิธี เสมือนพวกเขาเดินเข้าไปอยู่ในห้องครัวนั้นด้วยตัวเอง ไอน้ำที่ล่องลอยเหนืออาหาร แทบจะส่งกลิ่นหอมออกจากมาจอหนัง และเป็นได้มากถึงขั้นทำให้ผู้ชมได้รู้สึกเหมือนเกือบได้นั่งชิมอาหารที่ปรุงรสโดยอูชินี่และโดแดง
ไม่แปลกเลยถ้าจะดูหนังเรื่องนี้แล้วรู้สึกหิว ท้องร้องจ๊อกๆ เพราะเหมือนคนทำเขาก็ตั้งใจให้เป็นอย่างนั้น
หนังมันถ่ายทอดวิถีและวัฒนธรรมการทำและทานอาหารของคนฝรั่งเศสอย่างเต็มเปี่ยม บทสนทนาของเหล่ามิตรสหายนักชิมของโดแดงนั้นอาจมีประวัติศาสตร์ปะปนแต่ก็ล้วนวกเข้ามาเกี่ยวข้องกับเมนูอร่อยลิ้นที่พวกเขาทาน ส่วนความสัมพันธ์ที่แสนอบอุ่นของสองฟู้ดเลิฟเวอร์คือหวานเลี่ยนแต่บ่งบอกถึงความรู้สึกที่เปี่ยมล้นของคนที่เป็นทั้งคู่หูในห้องครัวและพาร์ทเนอร์ของชีวิต
ถ้าจะว่ากันในด้านเนื้อเรื่อง มันไม่ได้สลับซับซ้อนถึงขั้นจะเป็นหนังตัวแทนประเทศเข้าชิงออสการ์ได้แน่ แต่ถ้าว่ากันในกระบวนถ่ายทอดความเป็นฝรั่งเศสนั้นก็ถือว่าหนักแน่นอยู่
แต่อีกด้านที่สัมผัสได้ว่าเขาละเอียดบรรจงสร้างสรรค์ออกมาไม่แพ้เมนูอาหาร นั่นก็คือ ดนตรีประกอบที่ไพเราะรื่นหูยิ่งนัก กับอีกอย่าง การถ่ายภาพ โดยการจัดวางแสงที่สวยงามเกินบรรยาย การเคลื่อนกล้องที่พอเหมาะพอเจาะกับสิ่งที่จะเล่าในฉากนั้นๆ กลายเป็นหนังที่บรรเจิดทั้งฟังดนตรีผ่านหูและดูงานภาพด้วยตา
ยังมีอีกหนึ่งอย่างที่สร้างความประทับใจในหนังเรื่องนี้ นั่นคือ น้อง Bonnie Chagneau-Ravoire ที่เล่นเป็นพอลลีน เด็กสาวหน้าใหม่ที่ได้รับการชักชวนเข้ามาในห้องครัว และสร้างความประทับใจให้กับโดแดงอย่างมาก ด้วยเซ้นส์ด้านอาหารที่โดดเด่นเกินวัย น้องน่ารักมากจนกลายเป็นกลายเป็นความประทับใจส่วนตัว
กลับออกมาจากโรงหนังยังรู้สึกหิวอาหารฝรั่งเศสอยู่เลย ดีนะที่รอบนี้พิเศษตรงได้ชมอาหารฝรั่งเศสดับหิว ไม่งั้นคงแย่แน่! หนังจะเข้าฉายในบ้านเรา 25 มกราคมนี้ จัดจำหน่ายโดย HAL Distribution ชมตัวอย่างได้ที่ด้านล่างนี้ครับ
