ผู้เขียน หัวข้อ: บทที่ 171 ชุมทางหนังไทยในอดีต เสนอฉาย สวรรค์บ้านนา (2526 ปิยะ-แสงเดือน)  (อ่าน 6024 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ ฉัตรชัยฟิล์มshop

  • Thaicine Movie Team
  • Moderator
  • พี่น้อง thaicine Gold member
  • ***
  • กระทู้: 11655
  • พลังใจที่มี 441
  • เพศ: ชาย
  • รักการฉายด้วยฟิล์ม

บทที่ 171
ชุมทางหนังไทยในอดีต เสนอฉาย
หนึ่งในโครงการภาพยนตร์ไทยคงเหลือ
สวรรค์บ้านนา (2526 ปิยะ-แสงเดือน)
โดย มนัส กิ่งจันทร์

(facebook 26 พฤษภาคม 2556)


สวรรค์บ้านนา 2526 ปิยะ


               “หน้าแล้ง เข้ากรุงมุ่งหางาน.. หน้าฝน กลับมาพบกัน..สวรรค์บ้านนา” ผมว่าเป็นคำกล่าวที่กล่าวได้ถูกต้องที่สุดสำหรับคนอีสานที่เข้ากรุงเทพฯ มาหาทำงาน... และเชื่อว่า ความรู้สึกแบบเดียวกันนี้จะมีอยู่ในใจของคนต่างจังหวัดที่อยู่ในกรุงเทพฯ กันแทบทุกคน.. การจากบ้านเกิดเมืองนอน.. จากคนที่รัก.. มักจะสร้างความเจ็บปวดให้กับคนที่ต้องพลัดพรากเสมอ ยิ่งหากคนๆนั้น กำลังตกอยู่ในห้วงแห่งความรักด้วยแล้ว ก็จะยิ่งทุกข์หนักเข้าไปอีก.. ยามที่เราอยู่ไกลกัน..เพลงเก่าแห่งอดีต ก็จะเป็นเสมือนเครื่องย้ำเตือนให้เราได้คิดถึงบ้าน..คิดถึงคนรัก..คิดถึงเพื่อนที่เคยเที่ยว เคยกินด้วยกัน.. แม้ทุกครั้งที่มีการจาก เรามักจะบอกกับตัวเองว่า สักวันหนึ่งเราจะกลับไปหา..จะกลับไปอยู่กับอดีตในวัยเด็กที่อยู่ เคยเที่ยวด้วยกันให้มันสนุกสนาน.. แต่พอเวลาหมุนเวียนเปลี่ยนไป สภาพสังคมและสิ่งแวดล้อมก็เปลี่ยนตาม..ใจคนก็เปลี่ยนผันไป.. วันเก่าๆ ในอดีตของบางคน จึงเหลือแต่ร่องรอยที่ถูกทิ้งไว้ “เป็นความทรงจำ” เท่านั้น..


               ปลายปี 2524 ผมเข้ามาเรียนต่อในกรุงเทพฯ ตอนนั้นเรียกว่า จากมาด้วยความรู้สึกที่ไม่อยากจะมาเลยเพราะอดีตในวัยเรียนชั้นมัธยมมันช่างสนุกสนานเหลือเกิน..ผมจะได้กลับบ้านเพียงปีละครั้งเท่านั้น ช่วงหนึ่งที่ผมกลับบ้าน... ผมก็จะไปหาเพื่อนที่เคยฉายหนังกลางแปลงด้วยกัน.. ไปพูดคุยถึงอดีตที่เคยไปฉายหนัง ไปดูหนัง... แล้วครั้งนั้นก็โชคดีครับ ที่คืนนั้นเพื่อนเขารับงานฉายหนังกลางแปลงจอหนึ่ง ใกล้ๆ โรงเรียนอนุบาลสุรินทร์ เขาชวนผมไปดูด้วย ผมก็ไปดูจอหนังที่ดูจะใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ไปดูเครื่องเสียงชุดใหม่ที่เสียงดังกว่าตอนที่ผมเคยฉายและเขาก็ลองฉายหนังให้ดู เป็นการฉายลองเครื่อง.. เขาหยิบหนังไทยมาม้วนหนึ่ง... บอกว่า จะให้ดูหนังที่ถ่ายทำในจังหวัดสุรินทร์.. ผมถามว่าเรื่องอะไร เขาบอกว่าเรื่อง “สวรรค์บ้านนา” ผมเห็น แอ๊ด คาราบาว ร้องเพลงวณิพกในหนัง.. เพื่อนบอกว่า หนังเรื่องนี้ดังมากที่จังหวัดสุรินทร์.. ผมได้แต่พยักหน้า..แล้วก็รีบกลับไปหาเพื่อนๆ อีกหลายคนเพราะมีเวลาอยู่สุรินทร์ไม่มากนัก จะต้องรีบกลับกรุงเทพฯ

               สวรรค์บ้านนา นำแสดงโดย ปิยะ ตระกูลราษฎร์-แสงเดือน ดารา-แสงดาว-ตะวัน-ดู๋-ดี๋-แอ๊ด คาราบาว-สุชาติ-สนธิ-อุดม-ชวลิต-ทองมี มาลัย-ดาวใต้ เมืองตรัง-เทพพร เพชรอุบล-สนธิ สมมาตร.. สร้างโดย รุ่งกิจฟิล์มโปรดักชั่น โดย กิตตภัทฒ์ รุ่งธนเกียรติ กำกับการแสดงโดย สุรสีห์ ผาธรรม เข้าฉายครั้งแรกวันที่ 22 ตุลาคม 2526 ที่โรงหนังเพชรรามา-เพชรเอ็มไพร์-สามย่าน-เจ้าพระยา..

               พอรู้ว่า เป็นหนังที่ถ่ายทำในจังหวัดสุรินทร์ จากวันนั้น ชื่อหนัง “สวรรค์บ้านนา” ก็ก้องอยู่ในหัวผมตลอดมา..เพราะอยากจะดูเต็มๆ เรื่อง แต่ว่าหนังออกโรงไปหมดแล้ว..ก็เลยได้แต่อาศัยฟังเพลง “ฝากเพลงถึงเธอ” เพลงเอกของเรื่องที่ร้องโดย สนธิ สมมาตร ที่ตอนไปสุรินทร์ เห็นเขาเปิดกันสนั่นเมือง.. แล้วทุกครั้งที่ผมได้เจอเพื่อนคนสุรินทร์ ก็มักจะถูกถามถึงหนังเรื่องนี้ว่า มีวีดีโอเทปหรือยัง.. ผมเองก็บอกว่า ยังตามหาไม่เจอเลย..




               วันเวลาผ่านไปจากปี 2527... เรื่อยมา... กระทั่งประมาณปี 2534 คุณกมล กุลตังวัฒนา ผู้สร้างหนังเรื่อง มนต์รักแม่น้ำมูล - ครูบ้านนอก ฯลฯ มาเช่าโรงหนังแอมบาสเดอร์ แถวๆ สะพานขาว ฉายหนังไทยเก่าๆ รุ่นมิตร-เพชรา... แล้วก็มีการขึ้นโปสเตอร์ว่าจะฉายหนังเรื่อง สวรรค์บ้านนา ด้วย.. แต่ตอนนั้น โรงหนังแอมบาสเดอร์กับบ้านที่ผมอยู่นั้นเรียกว่า อยู่กันคนละทิศเลย แต่ผมก็เฝ้ารอดูข่าวว่า เมื่อไรจะฉายสักที.. บังเอิญวันหนึ่งขณะที่ผมนั่งรถเมล์กลับบ้าน.. ผมมองเห็นร้านเช่าวีดีโอเขาโชว์ใบปิดหนังเรื่อง “สวรรค์บ้านนา” ไว้ ผมก็รีบลงรถเมล์ทันที...

               เดินเข้าไปในร้าน ถามหาวีดีโอเรื่อง สวรรค์บ้านนา... เขาก็บอกว่า ไม่ได้เป็นสมาชิก ให้เช่าไม่ได้..ครั้นจะสมัครเป็นสมาชิก ร้านก็อยู่ไกลบ้านเหลือเกิน แต่เพราะความอยากดู อยากได้ ผมก็เลยขอซื้อเขามาม้วนหนึ่ง...ไปถึงบ้านก็รีบเปิดดูทันที... สวรรค์บ้านนา ทำเป็นเทปวีดีโอให้เช่าโดยบริษัท VRC สภาพตัวหนังนั้น ภาพพอดูได้.. แต่เสียงไม่ใสเท่าที่ควร...ทั้งม้วนจะมีความยาวประมาณชั่วโมงห้าสิบนาที.. ดูแล้วก็รู้ว่า หนังถูกตัดไปเยอะมากเพราะต้นฉบับน่าจะยาวประมาณ 2.20 ชั่วโมง...แต่เอาเถอะ ผมได้ดูแค่นี้ ก็ดีแล้ว...

               กระทั่งต่อมาไอบีซี เคเบิ้ลทีวี ก็นำเรื่องนี้มาฉายอีก ตัวภาพจะเป็นคนละตัวกัน แต่ว่าความยาวหนัง จะสั้นกว่าอีก เรียกว่า บางฉากที่ในม้วนวีดีโอมีภาพ แต่ไอบีซีไม่มี ถ้าไอบีซีมี ม้วนวีดีโอกลับไม่มีภาพ..ผมก็เลยลองเอามาต่อรวมกันดูๆ ก็จะได้ความยาวเพิ่มอีกนิดหน่อยเป็น 2 ชั่วโมง 10 นาทีได้


               อะไรที่ทำให้วันนี้ ผมต้องพูดถึงเรื่อง สวรรค์บ้านนา.. สวรรค์บ้านนา เป็นหนังที่สะท้อนชีวิตของคนอีสานที่มุ่งเข้ากรุงเทพฯ มาขายแรงงาน... ตัวละครหลายคนต่างเป็นตัวแทนชีวิตคนอีสานหลายๆ กลุ่ม..บางคนมาเป็นเด็กปั๊มน้ำมัน..เป็นเด็กเสริฟ..มาขายลาบ ส้มตำ.. บ้างก็มาขับแท็กซี่..มาทำงานโรงงาน..มาเป็นนักร้อง..มาเรียนหนังสือ..หนังจะสะท้อนให้เห็นวัฒนธรรมอย่างหนึ่งคือ การกลับบ้านไปทำนา...เพราะแค่เห็นฝนตก...หัวใจของคนอีสานก็ร่ำร้องอยากจะกลับบ้านไปทำนาแล้ว...หนังจะอุดมไปด้วยเพลงมากมาย.. มีทั้งหมอลำ-ลูกทุ่ง-ลูกกรุงและที่แปลกตาที่สุด ก็จะเป็น แอ๊ด คาราบาว ที่ขณะนั้นยังไม่ดังเต็มที่มาร่วมแสดงและร้องเพลงอีกหลายเพลง เช่น สวรรค์บ้านนา..ผู้เฒ่า..วณิพก..

               ในฐานะคนสุรินทร์แล้ว หนังเรื่องนี้อาจจะเรียกว่า เป็นประวัติศาสตร์ของสุรินทร์ก็ได้...เพราะผู้สร้างหนังก็เป็นคนสุรินทร์ คนกำกับก็เป็นคนอีสาน นักแสดงประกอบก็เป็นคนอีสาน สถานที่ถ่ายทำส่วนใหญ่ก็จะอยู่ที่จังหวัดสุรินทร์และอุบลฯ ฉากที่ปิยะและแสงเดือน พระเอก-นางเอกของเรื่องซึ่งเป็นคนรักนั่งคุยกันห้วยเสนง อ่างเก็บน้ำที่คนสุรินทร์รู้จักดี...  ฉากใกล้จบ ช่วงที่ปิยะจะพาคนรักหนีพ่อไปกรุงเทพฯ แล้ว ทองมี มาลัย ซึ่งแสดงเป็นพ่อ มาตามหาที่สถานีรถ บขส.สุรินทร์ ปิยะจึงไปหลบที่ร้านขายอาหาร ฟังเสียงพ่อตาพูดให้อภัยลูกเขยทางเครื่องกระจายเสียงของสถานีรถ บขส.. ฉากที่ แอ๊ด คาราบาว ซึ่งตามกลุ่มคนอีสานมาเพื่อจะแต่งเพลงแนวใหม่และเมื่อแต่งเสร็จ ก็มีการนำไปร้องโชว์ที่โรงหนัง ซึ่งผมเข้าใจว่า น่าจะเป็นโรงหนังเพชรเกษม สุรินทร์ เพราะเกี่ยวข้องกับผู้สร้างหนัง ภาพที่คนสุรินทร์ดูหนังแล้วอดขำกันไม่ได้...ฉากในหนังจะเป็นฉากเศร้าๆ นะครับ..


               นางเอกถูกพ่อจับแยกกับพระเอก โดยส่งนางเอกมาขายของที่ห้างฮั่วฮวดเฮง วงเวียนน้ำพุ ใจกลางเมืองสุรินทร์ ซึ่งเป็นร้านชื่อดังในสมัยนั้น.. พระเอกก็ไม่รู้ว่านางเอกอยู่ที่ไหน..ก็เลยไปที่สถานีวิทยุแห่งประเทศไทยสุรินทร์ แถวๆ หน้าสถานีรถไฟสุรินทร์..ไปขอเพลงครับเพราะก่อนหน้านั้น ในหนังจะบอกว่า พระเอกขอเพลงให้นางเอกฟังเป็นประจำ จนมีเพลงรักเป็นของตัวเอง...โฆษกเขาก็เลยเปิดเพลง “ฝากเพลงถึงเธอ” ให้ แล้วท่อนกลางๆ เพลง โฆษกจะพูดเสริมขึ้นว่า คนที่รักมาคอยอยู่ที่ห้วยเสนง...ขณะเปิดเพลง นางเอกก็ได้ยินเสียงเพลงนี้จากวิทยุที่เปิดไว้ในห้าง.. เรียกว่า พอได้ยินเพลง นางเอกก็ได้แต่เมอลอย.. ตาซึมๆ เหมือนจะร้องไห้..พอนางเอกฟังโฆษกพูดว่า คนที่รักมาคอยอยู่ที่ห้วยเสนงเท่านั้น..นางเอกก็วิ่งออกจากห้างฯ วิ่งผ่านวงเวียนน้ำพุเพื่อที่จะไปห้วยเสนง....

               ที่ผมบอกว่าเป็นฉากเศร้าๆ แต่คนสุรินทร์ขำกันก็คือ ถ้าวัดระยะทางจากวงเวียนน้ำพุไปถึงห้วยเสนงนั้น น่าจะไกลประมาณเกือบ 7-8 กิโลเมตรได้..แต่นางเอกวิ่งไปถึงห้วยเสนงด้วยเวลาไม่ถึงครึ่งนาที เพลงยังไม่ทันจบดี นางเอกก็ได้เจอพระเอกที่ห้วยเสนงแล้ว...แบบนี้จะไม่คนสุรินทร์ขำได้ไงครับ... นอกจากนี้ หนังยังถ่ายทอดให้เห็นงานบุญประเพณีสำคัญต่างๆ เช่น บุญบั้งไฟ แห่เทียนพรรษา.. ให้เห็นถึงวิถีชีวิตและความเป็นอยู่ของคนอีสานแบบไม่ปิดบังตามสไตล์ของผู้กำกับตุ๊กตาทองอย่าง สุรสีห์ ผาธรรม...

               เพราะเหตุที่ตัววีดีโอที่ผมมีอยู่นั้น ไม่ค่อยจะสมบูรณ์นัก.. ช่วงที่ผมออกตามหาฟิล์มหนังตามต่างจังหวัด ก็มักจะแอบถามหาฟิล์มหนังเรื่อง สวรรค์บ้านนา เสมอ... ก็เรียกว่า ถามจนโดนเพื่อนแซวเลยล่ะครับว่า หนังมีอะไรดี..ผมก็ตอบเล่นๆ ไปว่า เป็นหนังประจำจังหวัดสุรินทร์...ตอนที่ไปร้อยเอ็ด ผมก็เห็นฟิล์มอยู่ก๊อบปี้หนึ่ง แต่บริการหนังเร่เขายังไม่ขาย.. ส่วนที่จังหวัดสุรินทร์นั้น เห็นเพื่อนๆ บอกว่า มีอยู่ก๊อบปี้หนึ่งที่บริการสัจจาภาพยนตร์เก็บไว้ฉาย แต่สภาพเป็นเส้นฝนมากแล้ว.. เคยให้เพื่อนๆ ลองตามหาให้อีก แต่ก็ไม่มีข่าวเลย กระทั่งมีโอกาสคุยกับคนของสุรสีห์ ผาธรรม จึงได้รู้ว่า

               ช่วงปี 2534 มีการทำฟิล์มขึ้นมาชุดหนึ่ง แต่ว่าปล่อยฟิล์มขายออกไปแล้ว..และแจ้งว่า ฟิล์มต้นฉบับยังเก็บรักษาไว้...แต่ตอนที่ค่ายพันธมิตรทำวีซีดี ดีวีดีขาย ผมก็ยุจนได้เรื่องแล้วว่า เขาตกลงจะทำ สวรรค์บ้านนา ออกมาขายด้วย..แต่ก็เกิดเหตุขัดข้องเรื่องฟิล์มอีก..ก็เลยไม่มี สวรรค์บ้านนา ตัวชัดๆ เต็มๆ เรื่องออกมาให้เห็นจนทุกวันนี้...คราใดที่ได้ดูหนัง สวรรค์บ้านนา.. ก็อดที่จะคิดถึงบ้าน.. คิดถึงอดีตต่างๆ ที่สุรินทร์ไม่ได้.. แม้วันนี้บางสิ่งบางอย่างจะไม่มีให้เห็นอีกแล้ว แต่ สวรรค์บ้านนา ก็ยังคงเป็นภาพแห่งอดีตที่ทำให้ผมเกิดความรู้สึกดีๆ และทดแทนในสิ่งที่ไม่อาจกลับคืนมาได้แล้ว..

แล้วคุณล่ะครับ..  มีหนังเรื่องอะไรที่ทำให้คุณคิดถึงบ้าน คิดถึงใครบางคนบ้างหรือเปล่า... แหละนี่ก็คือ หนึ่งในโครงการภาพยนตร์ไทยคงเหลือ สวรรค์บ้านนา ปี 2526




คลิ๊กดูที่นี่...
สวรรค์บ้านนา ปี 2526

 





Opening Title สวรรค์บ้านนา


สวรรค์บ้านนา 2526 ปิยะ-แอ๊ด คาราบาว (เฉพาะฉากทำนา)

....................................












« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 28 พฤษภาคม 2015, 13:07:02 โดย นายเค »


ฉัตรชัย สุวรรณโสภา 
88/1 ม.4 ต.บางโตนด อ.โพธาราม จ.ราชบุรี 70120   
E-mail chatchai_suw@hotmail.com    โทร 081-7636195 
ต่อพงศ์ภาพยนต์ ระบบ 35 ม.ม.  ฉัตรชัยภาพยนตร์ กลางแปลงย้อนยุค 16 ม.ม.
ธ.ไทยพาณิชย์  สาขาบิ๊กซีราชบุรี ชื่อบัญชี ฉัตรชัย สุวรรณโสภา  หมายเลขบัญชี  940-202235-1

ออฟไลน์ นาย บรรชา บุตรบุญตอม

  • มือใหม่ ปรับชั้นต้องโพสรวม 30 กระทู้
  • *
  • กระทู้: 1
  • พลังใจที่มี 0
ผมอยากได่หนังเรื่องนี้ครับ แบบ วีชีดีมีไหมครับ