• ชื่อไทย : อบิเกล
• ปีที่เปิดตัว : 2567
• เข้าฉายในไทย : 18 เมษายน 2567
• นำแสดง : Melissa Barrera, Dan Stevens, Alisha Weir
• กำกับโดย : Matt Bettinelli-Olpin, Tyler Gillett
• เขียนโดย : Guy Busick, Stephen Shields
• ประเภท : Horror / Thriller
• ความยาว : 109 นาที
• เรต : R
• สร้างโดย : Ireland / USA
• จำหน่ายโดย : UIP Thailand
เรื่องย่อ Abigail อบิเกล หลังจากกลุ่มอาชญากรมือสมัครเล่น ลักพาตัวสาวน้อยนักบัลเล่ต์ ลูกสาวอายุ 12 ปีของเจ้าพ่ออาชญากรผู้ทรงอำนาจมาสิ่งที่พวกเขาต้องทำเพื่อจะรับเงินค่าไถจำนวน 50 ล้านดอลลาร์ ก็คือการเฝ้าเด็กหญิงเป็นเวลาหนึ่งคืน ในคฤหาสน์ที่โดดเดี่ยวเหล่าผู้กักขังเด็กเริ่มลดจำนวนลง ทีละคน ทีละคน และพวกเขาต้องขนหัวลุกมากขึ้นเมื่อพบว่าพวกเขาถูกขังอยู่ในคฤหาสน์กับเด็กหญิงที่ไม่ใช่เด็กปกติ
รีวิวหนัง Abigail อบิเกล การกลับมาครั้งนี้ของ แมตต์ เบตติเนลลิ กับ ไทเลอร์ กิลเลตต์ ก็ยังคงเอาไว้ซึ่งมาตรฐานของพวกเขา กับลายเซ็นที่เด่นชัดในผลงานที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายความสยองขวัญและระทึกขวัญแบบเปรอะเปื้อนด้วยคราบเลือดไหลนอง เป็นอีกหนึ่งที่ทั้งคู่ได้สรรค์สร้างความสยองออกมาได้ตรงจุดความบันเทิงในแบบที่ผู้ชมต้องการ ผสมผสานความตลกร้ายชวน..หึหึ ได้ตลอดทั้งเรื่อง ถึงแม้ว่ามันจะยังไม่ใช่ผลงานชิ้นโปรดเท่าไหร่สำหรับเราก็ตามที
โดยหนัง Abigail เรื่องนี้ยังคงใช้บริการ "กาย บูซิก" มือเขียนบทคนสนิทที่ร่วมงานของคู่หูคู่นี้มาหลายเรื่องแล้ว ร่วมด้วยนักเขียนหน้าใหม่ "สตีเฟน ชีลด์ส" มาช่วยเสกสรรปั้นเรื่องความสยองสุดหฤหรรษ์ในครั้งนี้ ที่คงต้องบอกว่ารสชาติของหนังก็ค่อนข้างเป็นอะไรที่คุ้นเคยเป็นอย่างดี ไม่มีอะไรที่สร้างความแปลกใหม่ได้มากนัก เป็นการหยิบยืมกลิ่นอายจากหนังสยองคลาสสิกเรื่องดัง ๆ มาประกอบร่างเป็นหนังเรื่องนี้ ที่คงเส้นคงวาในรูปแบบสูตรสำเร็จทั้งหมด
ออกจะเสียดายนิดเดียว ตรงที่หนังค่อนข้างเวิ่นเว้อไปหน่อย โดยเฉพาะช่วงแรก ๆ ที่ทำการปูเรื่องปูทางยาวเกินไป กินเวลาไปเกือบชั่วโมงกว่าจะเข้ามาสู่ไฮไลต์หลักของเรื่องได้ ที่ก็เป็นการกรุยทางเดินที่แอบชวนเบื่ออยู่เล็กน้อย แต่เมื่อหนังเข้าที่เข้าทางและจับจังหวะในเสน่ห์ของตัวเองได้แล้ว ก็ถือว่าเป็นการจุดเครื่องติดที่เอาจริง ๆ ดูไปแบบอย่างใช้หัวสมองคิดอะไรมาก เพราะหากจะถามถึงความสมเหตุสมจริงในหนังเรื่องนี้ มันหาไม่เจอหรอก ดูเอาเพลินไปอย่างเดียวก็พอ
ในแง่ความหฤหรรษ์ในพาร์ทความสยอง ก็ถือว่า Abigail มาด้วยลูกเล่นและกิมมิกที่ทำได้ถึงอยู่เหมือนกัน พวกเขารู้ดีกว่าคนดูต้องการเห็นอะไรและดูอะไร จึงทำการเซอร์วิสใส่เข้ามาได้ตลอดช่วงครึ่งหลังของเรื่อง แม้ว่าความสะเปะสะปะในหนังยังคลุ้งอยู่เต็มไปหมด พอ ๆ กับกลิ่นคาวเลือด ก็แอบสัมผัสได้อยู่เหมือนกันว่าหนังพยายามหาทางลงยังให้สวยงาม เพราะยิ่งเล่าไปก็ยิ่งบินขึ้นสูงขึ้นทุกที
แน่นอนว่า Abigail เป็นหนังแวมไพร์ที่มีไทม์ไลน์และขอบเขตเฉพาะเหตุการณ์นั้น ๆ ตามเรื่องย่อนั้นแหละ โดยที่หนังก็ไม่ได้มีการอธิบายและเสริมภูมิหลังตัวละครเอาไว้ให้ชัดเจนสักเท่าไหร่ แต่ออกมาได้เท่านี้ก็ถือว่าใช้ได้แล้ว เพราะแค่ความยาวร้อยนาทีนิด ๆ ของหนัง ก็คิดว่าค่อนข้างยาวเกินไปสำหรับหนังสยองขวัญยุคนี้ไปเสียแล้ว และอย่างน้อย ๆ หนังก็ทำได้ดีในแง่การแนะนำตัวละครหลักที่ค่อนข้างเยอะอยู่
ทางด้านเทคนิคงานสร้างก็ถือว่าสาแก่ใจดี ตอนนี้ก็รู้แล้วว่าทำไมผู้กำกับต้องขอโทษนักแสดงเกี่ยวกับการใช้เอฟเฟกต์เลือดในหนังเรื่องนี้ เพราะเอาจริง ๆ หนังก็น่าจะใช้เลือดเป็นตัน ที่จะได้ออกมาเป็นภาพที่คนดูจะสะใจตาม ๆ กันได้อย่างสมจริงนั่นแหละ ซึ่งในส่วนนี้พวกเขาก็ทำออกมาได้ดีตามมาตรฐาน และตอบโจทย์คนดูได้ดียิ่งนัก
ขณะที่พาร์ทการแสดงในหนัง Abigail นับว่าโชคดีที่ได้ทีมนักแสดงระดับดรีมทีมมาเจอกันเลยก็ว่าได้ "เมลิซซา บาร์เรรา" น่าจะกลายเป็นไอคอนิกประจำหนังสยองขวัญยุค 2020s นี้ไปแล้วเรียบร้อย เธอช่างเหมาะเจาะกับบทในหนังสยองแนวสู้ชีวิต ขณะที่ "แดน สตีฟเวนส์" กับ "แคทริน นิวตัน" ก็แสดงศักยภาพความเป็นมืออาชีพ ตีความและถ่ายทอดบทบาทออกมาได้อยู่หมัด และรับมือกับมันได้เป็นอย่าง
และที่ไม่พูดถึงคงไม่ได้ "อลิชา เวียร์" ดาราเด็กดาวรุ่งที่งานกำลังวิ่งเข้าใส่ หลังจากแจ้งเกิดจากหนังมิวสิคัล Matilda the Musical เมื่อไม่กี่ปีก่อน เรื่องก็เห็นถึงพัฒนาการ ทั้งวัยที่เติบโตขึ้นและทักษะการแสดงที่รับมือได้ดี แม้ว่าเธอจะต้องต่อบทต่อกลอนกับทีมนักแสดงผู้ใหญ่ทั้งหมดก็ตาม การสวมอินเนอร์เป็นแวมไพร์ร่างเด็กที่แก่ประสบการณ์มาเป็นร้อย ๆ ปี ก็นับว่าน้องหนูคนนี้รับมือได้อย่างช่ำชองจริง ๆ
ดังนั้นในภาพรวมแล้ว Abigail ถือว่าเป็นหนังสยองที่จัดอยู่ในลำดับตามมาตรฐานของคู่หูผู้กำกับคู่นี้ หนังค่อนข้างเซอร์วิสและตอบโจทย์ในสิ่งที่แฟน ๆ อยากจะเห็นได้เป็นอย่างดี แต่น่าเสียดายที่ยังมีบางจุดที่ค่อนข้างกระท่อนกระแท่นและสะเปะสะปะย้วยไปหน่อย กลับรู้สึกหลงรักในเสน่ห์ความสะพรึงในผลงานชิ้นก่อน ๆ ของพวกเขามากกว่า
แน่นอนว่าเรื่องนี้มันบันเทิง มันเลือดสาด แต่กลับยังไม่ค่อยรู้สึกสาแก่ใจได้ถึงที่สุด อารมณ์แบบว่าหนังที่ดูแล้ว..ก็ดูผ่านเลยไปเรื่องหนึ่งเท่านั้น แล้วเราได้ยินมาว่า Scary Movie เตรียมจะกลับมาสร้างสานต่ออีกครั้งในเร็ว ๆ นี้ เราก็เชื่อเลยเกินว่า Abigail น่าจะเป็นหนังสยองหนึ่งในนั้นที่จะถูกหยิบไปใช้อ้างอิงและยำจี้ เพราะบอกว่า..ศักยภาพมันชวนให้นึกถึงตำนานหนังยำจี้มากกว่าจริง ๆ
