ภาพยนตร์ของเรา...การฉายภาพด้วยแผ่นฟิล์ม > ชุมทางหนังไทยในอดีต โดย มนัส กิ่งจันทร์

บทที่ 439 รวมรายชื่อหนัง 2,000 กว่าเรื่องจากโครงการขึ้นบัญชีหนังไทยสูญพันธุ์

<< < (2/2)

นายเค:
          ไอ้ย่ามแดง ยังมีเหลืออยู่ แ้ม้ว่า ภาพจะไม่ค่อยสวยและเต็มจอ กล้องส่ายไป ส่ายมา ก็ตาม..แต่ก็ยังดีกว่า ไม่มีอะไรเหลือเลย..ยังมีหนังไทยอีกมากกว่า 2 พันเรื่องที่ต้องสูญพันธุ์เพราะขาดการเหลียวแลแต่แรก.. ขาดการคิดที่จะเอามาแปลงลงเทปไว้ก่อน..นะครับ ส่วนหนังไทยที่จะขึ้นบัญชีสูญพันธู์ในวันนี้ก็คือ หนัง 35 มม.พากย์เสียงในฟิล์ม เรื่อง หน้าเนื้อใจเสือ นำแสดงโดย สมบัติ-ภาวนา.. ออกฉายครั้งแรกวันที่ 21 พฤษภาคม 2520 ที่โรงหนังศาลาเฉลิมกรุง.. ชื่อตั้งดีครับ ผมยังไม่เคยดูเลยครับ ตอนนี้ ก็คงยากแล้วครับที่จะได้ดู..


หนังไทยเก่าๆ ที่สูญพันธุ์ยังมีอีกมากนะครับ ต้องค่อยๆ ไล่บอกกล่าวไปเรื่อยๆ นะครับ..

          สวัสดีครับ.. วันนี้ หนังไทยที่จะขึ้นบัญชีสูญพันธุ์ ก็คือ หนัง 35 มม. พากย์เสียงในฟิล์มเรื่อง พ่อจอมโวย นำแสดงโดย สมบัติ-ภาวนา..ออกฉายครั้งแรกวันที่ 25 ตุลาคม 2517 โรงหนังศาลาเฉลิมกรุง.. ซึ่งปัจจุบันหาชมไม่ได้แล้วครับ มีใครจำได้บ้างครับ.. วันนี้ ก็เลยต้องกลายเป็นหนังไทยสูญพันธุ์อีกหนึ่งเรื่อง..


          หนังไทยสูญพันธุ์เรื่องต่อไปก็คือ หนัง 35 มม.พากย์เสียงในฟิล์มเรื่อง บ้องไฟ ออกฉายครั้งแรกเมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2519 ที่โรงหนังเพชรพิมาน 75-ออสการ์ ซึ่งตอนนี้ ก็หาดูไม่ได้แล้วครับ..


           ใช่ครับ โรงหนังเพชรพิมาน นั้น ผมยังหาภาพไม่ได้เช่นกัน เคยแต่ได้ข่าวว่า โรงหนังถูกไฟไหม้ด้วย..เพชรพิมาน 75...  หนังไทยที่จะขึ้นบัญชีสูญพันธุ์เรื่องต่อไป ก็คือ หนัง 35 มม.พากย์เสียงในฟิล์ม เรื่อง เอ็ม.16 นำแสดงโดย กรุง-อุเทน...ออกฉายครั้งแรกเมื่อวันที่ 21 เมษายน 2521 ที่โรงหนังเจ้าพระยา ก็เป็นหนังสร้างตามกระแสหนังบู๊ในยุคนั้น ซึ่งผู้ร้ายนิยมใช้ปืนเอ็ม 16 หนังก็เลยใส่ชื่อเรื่องนี้ ตอนนี้ ไม่เหลืออะไรไว้ให้ดูแล้วครับ..


           สวัสดีครับ หนังไทยที่จะขึ้นบัญชีสูญพันธุ์เรื่องต่อไปก็คือ หนัง 35 มม.พากย์เสียงในฟิล์มเรื่อง แผ่นเสียงตกร่อง นำแสดงโดย ไพโรจน์-เนาวรัตน์.. ออกฉายครั้งแรกวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2522 ที่โรงหนังสยาม-ศาลาเฉลิมไทย-ออสการ์ หนังเรื่องนี้ผมเคยดูจากจอกลางแปลงสมัยนั้น ตอนนั้น หน่วยฉายหนังที่ผมเคยไปช่วยฉาย เขามีหนังเรื่อง ลูกทุ่งดิสโก้ แต่อีกบริการหนึ่งเขาได้หนังเรื่อง แผ่นเสียงตกร่อง มาฉาย นัยว่า เป็นหนังที่กล่าวขานถึงคนดูว่าเป็น ปัญญาชน แต่ในทางรายได้แล้ว กลับไม่ค่อยดีนัก.. และทุกวันนี้ หนังก็ไม่มีดูแล้ว...


           ทิตยา โดย องุ่น ประศาสน์วินิจฉัย เคยสร้างหนังหลายเรื่อง เช่น
พยานบาป (2517 ยอดชาย-ภาวนา) /
ข้าวนอกนา ปี 2518 /
เงาราหู ปี 2519 /
รักต้องกระซิบ ปี 2522 /
ดาวพระศุกร์ ปี 2524 สรพงศ์ /
หาเมียให้ผัว ปี 2524 สรพงศ์ /
รักครั้งแรก ปี 2524

ก็ช่วยป้าูชูศรีสร้างด้วยครับ...

           หนังไทยที่จะขึ้นบัญชีสูญพันธุ์เรื่องต่อไปก็คือ หนัง 35 มม.พากย์เสียงในฟิล์มเรื่อง หึง..หนังแนวตลกๆ ..ออกฉายครั้งแรกวันที่ 3 มิถุนายน 2520 ที่โรงหนังโคลีเซี่ยม ซึ่งตอนนี้ ไม่มีเหลือให้ดูแล้วครับ..


           หนังไทยที่จะขึ้นบัญชีสูญพันธุ์เรื่องต่อไปคือ หนัง 35 มม.พากย์เสียงในฟิล์มเรื่อง ฟ้าเปลี่ยนสี..นำแสดงโดย ยอดชาย-นัยนา...ออกฉายครั้งแรกวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2518 ที่โรงหนังศาลาเฉลิมกรุง..  ซึ่งตอนนี้หาดูไม่ได้แล้วครับ..เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ต้องสูญพันธุ์ไปครับ.. และที่ไม่เกี่ยวกับหนังเรื่องนี้เลย ก็เคยมีคำกลอนที่ว่า.. ฟ้ายังเปลี่ยนสี สตรี ไฉนเลยจะไม่เปลี่ยนใจ..ตื้อเท่านั้นที่จะครองโลก...

           สำหรับหนังไทยที่จะขึ้นบัญชีสูญพันธุ์เรื่องต่อไปก็คือ หนัง 35 มม.พากย์เสียงในฟิล์มเรื่อง นี่หรือผู้หญิง นำแสดงโดย ยอดชาย-ภาวนา.. ออกฉายครั้งแรกวันที่ 22 มกราคม 2517 ที่โรงหนังเอ็มไพร์ ซึ่งปัจจุบัน ไม่เหลือหนังให้ดูแล้วครับ..


           ผมเองตั้งหัวข้อนี้ขึ้นมาเขียน ก็เขียนไป ยังเสียใจ ยังเสียดาย.. สิ่งที่ทำให้หนังไทยเก่าๆ ประมาณ 2 พันเรื่องต้องสูญพันธุ์ไปนั้น ถ้ายุคแรกๆ ก็เกิดจากความไม่รู้ว่า ในอนาคตจะมีสิ่งอื่นๆ ที่จะเข้ามาฉายทดแทนฟิล์มหนังได้ (เทปวีดีโอ) เมื่อหนังฉายจนหนังตกยุคไปแล้ว ก็เลยปล่อยกากฟิล์มทิ้งขว้าง หรือเก็บฟิล์มไว้เฉยๆ จนฟิล์มเสียหายไปตามกาลเวลา.. ข้อนี้คือ ตายไปก่อน จะมีใครคิดช่วยนะครับ.. ประการที่ 2 ที่ทำให้หนังไทยสูญพันธุ์อีก ก็คือ พอเริ่มรู้ว่า มีระบบวีดีโอเทปมาทดแทนแล้ว แม้จะมีคนกลุ่มหนึ่งต้องการจะนำกากฟิล์มหนังไทยเก่าๆ มาอัดลงเทปวีดีโอไว้ แต่ก็ถูกต้านจากคนอีกกลุ่มหนึ่งที่ยังไม่ยอมให้มีการนำกากฟิล์มไปอัดลงเทปวีดีโอ (เรียกว่า ติดรสนิยมเดิมๆ นะครับ) พอถึงจุดหนึ่ง แม้อยากจะอัดลงเทปแล้ว แต่กากฟิล์มก็ดันหมดอายุ เสียหายไปก่อนอีก.. อันนี้ เรียกว่า กว่าจะรู้ ก็สายเกินไป..

           ต่อมาเมื่อข้อมูลหนังไทยเก่าๆ หายาก มีอุปสรรคมากๆด้วย คนที่ทำหนังให้เช่า เขาก็เลยสั่งซื้อหนังจากต่างประเทศมาทำวีดีโอให้เช่าดีกว่า.. ซึ่งข้อนี้ ก็ยิ่งทำให้ตลาดหนังไทยเก่าๆ ตีบตันลงไปเรื่อยๆ อีก ครั้นพอจะมีคนคิดจะทำวีดีโอหนังไทยเก่าๆ ก็มาติดปัญหาค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้นเรื่อยๆ แต่รายได้จากการขายกลับน้อยลงไป หนังไทยเก่าๆ ขายยากขึ้นเพราะขาดการส่งเสริมให้คนไทยสนใจอดีตของหนังไทยเป็นเหตุผลหลัก.. (ต่างกับหนังต่างประเทศที่มีการสร้างข้อมูลไว้ให้ค้นหาได้ง่ายๆ) และแล้ววันหนึ่ง.. หนังไทยเก่าๆ ก็อวสานไปในตัว.. ตอนนี้ แม้หนังไทยบางเรื่องจะยังพอมีฟิล์มต้นฉบับหรือเนกาตีฟอยู่บ้าง แต่หากคิดจะทำเทปวันนี้ ต้นทุนจะสูงมากๆ มากกว่าเดิมหลายเท่า จนไม่มีใครคิดจะทำแล้วครับ..ข้อนี้เอง ก็เลยเป็นจุดหนึ่งที่ทำให้พวกเราหลายคนที่ต้องการจะดูหนังไทยเก่าๆ คิดหาวิธีที่จะดูหนังไทยเก่าๆ จึงต้องออกตามหากากฟิล์มมาฉายดูกันเองครับ..

           ส่วนหนังไทยที่จะขึ้นบัญชีสูญพันธุ์เรื่องต่อไปในวันนี้ก็คือ หนัง 35 มม.พากย์เสียงในฟิล์มเรื่อง ไอ้ขุนเพลง นำแสดงโดย ไพรวัลย์ ลูกเพชร ฉายครั้งแรกวันที่ 12 เมษายน 2523 ที่โรงหนังสเตลลา-ออสการ์-สามย่านรามา-มงคลรามา.. เป็นหนังสร้างอิงชีวิตนักร้อง ไพรวัลย์ ลูกเพชร ผมเคยดูจากจอกลางแปลง..ยังอยากจะดูอีกครับ แต่ว่าไม่มีเทป ไม่ฟิล์มอะไรให้เห็นอีกแล้วครับ.. (ปล. ถ้าสมมุติ เกิดมีคนเก็บกากฟิล์มเรื่องนี้ไว้เฉยๆ ที่บ้านมาจนถึงวันนี้ ถ้าเจอกากฟิล์มแล้ว ผมคิดว่า เครื่องฉายหนังที่พวกเรามีนั้น ก็ฉายได้ครับ ขอให้แต่เจอฟิล์มจริงๆ เถอะครับ..เพราะฟิล์มหนังนั้น หากวางไว้เฉยๆ ในบ้าน มีอากาศถ่ายเทสะดวก ไม่อับชื้นแล้ว ยังไงก็ฉายได้ครับ...)


           หนังไทยที่จะขึ้นบัญชีสูญพันธุ์ในวันนี้ก็คือ หนัง 35 มม.พากย์เสียงในฟิล์มเรื่อง ฐานันดร 4 นำแสดงโดย ไพโรจน์-ลลนา.. ออกฉายครั้งแรกเมื่อวันที่ 6 มกราคม 2522 ที่โรงหนังแกรนด์-พระโขนงรามา..  เคยดูอยู่แว่บๆ ตอนเป็นนักเรียนมัธยม แต่ไม่ค่อยชอบเท่าไร มันไม่บู๊.. แต่พอวันนี้ นึกอยากจะดู ก็กลับหาอะไรไม่ได้ วีดีโอก็ไม่มีใครทำไว้ ฟิล์มก็ไม่มีอีก...


           สำหรับหนังไทยที่จะขึ้นบัญชีสูญพันธุ์ในวันนี้ก็คือ หนัง 35 มม.พากย์เสียงในฟิล์มเรื่อง ไอ้หนังเหนียว นำแสดงโดย สมบัติ-สุพรรษา ออกฉายครั้งแรกวันที่ 6 มิถุนายน 2523 ที่โรงหนังเพชรเอ็มไพร์-เจ้าพระยา-เพชรคลองจั่น ซึ่งปัจจุบันไม่มีเทปวีดีโอ ไม่มีกากฟิล์มให้เห็นอีกเลย...


           เรื่องราวของหนังไทยสูญพันธุ์ยังมีอีกมากนะครับ.. โปรดติดตามตอนต่อไป..  มาถึงหนังไทยที่จะขึ้นบัญชีสูญพันธุ์เรื่องต่อไปคือ หนัง 35 มม.พากย์เสียงในฟิล์มเรื่อง ปลัดปืนโหด นำแสดงโดย กรุง-สรพงศ์... ออกฉายครั้งแรกวันที่ 9 กรกฎาคม 2519 ที่โรงหนังรามา-สิริรามา..  เป็นหนังบู๊ปนชีวิตหนักๆ ที่หลายคนถามหา แต่ว่าวันนี้ ไม่มีอะไรเหลือให้ดูแล้วครับ..


           หยุดติดต่อกันหลายวัน..ไม่ค่อยได้เข้าเฟสบุ๊กเพราะต้องสาระวนกับกากฟิล์มหนังไทยเก่าๆ ที่มารอคิวช่วยชีวิต..บางเรื่องก็ไม่คาดคิดว่า จะมีโอกาสเห็นกากฟิล์มอีก.. ยิ่งฉายไป ก็ยิ่งรู้ว่า กากฟิล์มเก่าๆ ที่บริการหนังกลางแปลงเขาเลิกฉายและทิ้งไปไหนนั้น แท้จริงแล้ว เรายังช่วยชีวิตได้.. ทั้งนี้ทั้งนั้นก็เพราะได้เครื่องฉายที่เดินนิ่มๆ เบาแรง ก็เลยลดแรงเสียดทานจากความบอบช้ำและบอบบางของกากฟิล์มที่เสียหายได้บ้าง.. หนังบางเรื่องที่คิดว่า จะไม่ได้เห็น ก็เลยได้เห็นอีก.. แต่ว่าคืนนี้มาดูหนังไทยที่จะขึ้นบัญชีสูญพันธุ์เรื่องต่อไปกันต่อนะครับ.. ก็ยังเป็นหนัง 35 มม.พากย์เสียงในฟิล์มเรื่อง มาลัยเสี่ยงรัก นำแสดงโดย วันดี ศรีตรัง-ยอดชาย เมฆสุวรรณ ออกฉายครั้งแรกเมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2517 ที่โรงหนังแกรนด์ ซึ่งปัจจุบันไม่มีวีดีโอ ไม่มีฟิล์มหนังให้เห็นแล้วครับ..


           หนังไทยที่จะขึ้นบัญชีสูญพันธ์ในวันนี้ก็คือ หนัง 35 มม. พากย์เสียงในฟิล์มเรื่อง ป่าทรายทอง นำแสดงโดย สมบัติ-วิยะดา..ออกฉายครั้งแรกเมื่อวันที่ 30 ธันวาคม 2518 ที่โรงหนังศาลาเฉลิมกรุง ซึ่งปัจจุบัน ไม่มีวีดีโอ วีซีดีและไม่มีฟิล์มเหลือแล้วครับ.. มีใครจำหนังเรื่องนี้ได้บ้างครับ..


           หนังไทยที่จะขึ้นบัญชีสูญพันธุ์เรื่องต่อไปก็คือ หนัง 35 มม.เสียงในฟิล์มเรื่อง ผ้าขี้ริ้วหัวเราะ นำแสดงโดย สรพงศ์-ลลนา.. ออกฉายครั้งแรกเมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน 2521 ที่โรงหนังเพชรรามา-เจ้าพระยา.. เป็นหนังตลกๆ แต่ว่าตอนนี้ไม่มีเหลือให้ดูแล้วครับ.. วีดีโอก็ไม่มีใครทำไว้.. กากฟิล์มก็หาไม่ได้แล้ว..


           หนังไทยที่จะขึ้นบัญชีสูญพันธุ์เรื่องต่อไปก็คือ หนัง 35 มม.พากย์เสียงในฟิล์มเรื่อง แม่ผัว นำแสดงโดย ยอดชาย-สุภัค.. ออกฉายครั้งแรกเมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน 2516 ที่โรงหนังเอ็มไพร์ ซึ่งวันนี้ ไม่มีให้ดูแล้วครับ..


           หนังไทยที่จะขึ้นบัญชีสูญพันธุ์เรื่องต่อไปก็คือ หนัง 35 มม.พากย์เสียงในฟิล์มเรื่อง เพลิงแพร นำแสดงโดย สมบัติ-อรัญญา ออกฉายครั้งแรกวันที่ 18 กันยายน 2519 ที่โรงหนังพาราเม้าท์-สามย่าน ซึ่งปัจจุบันไม่มีหนังเหลือให้ดูแล้วครับ


           หนังไทยที่จะขึ้นบัญชีสูญพันธุ์ในวันนี้ก็คือ หนัง 35 มม. พากย์เสียงในฟิล์มเรื่อง ยอดสงสาร ออกฉายครั้งแรกเมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน 2516 ที่โรงหนัีงเอ็มไพร์.. ที่ปัจจุบันเหลือเพียงแค่ภาพนิ่ง ส่วนตัวหนังหรือวีดีโอ ไม่มีเลยครับ..


           ครับ หนังไทยเก่าๆ ที่สูญพันธุ์ยังมีอีกเป็นพันๆ เรื่อง.. น่าเสียดายครับที่พวกเราช้าไปในการช่้วยหนัง..  หนังไทยที่จะขึ้นบัญชีสูญพันธุ์ในวันนี้คือ หนัง 35 มม.พากย์เสียงในฟิล์มเรื่อง วัยไฟ นำแสดงโดย ภาวนา-อุเทน.. ออกฉายครั้งแรกเมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม 2518 ที่โรงหนังแกรนด์-สามย่าน.. ซึ่งปัจจุบันไม่มีหนังเหลือให้ดูแล้วครับ..


           หนังไทยที่จะขึ้นบัญชีสูญพันธุ์ในวันนี้ก็คือ หนัง 35 มม.พากย์เสียงในฟิล์มเรื่อง เรารักกันไม่ได้ นำแสดงโดย สมบัติ-สุทิศา ออกฉายครั้งแรกเมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2513 ที่โรงหนังศาลาเฉลิมกรุง.. ซึ่งปัจจุับันไม่มีการนำออกเผยแพร่ เข้าใจว่า ไม่มีฟิล์มแล้ว


           หนังไทยที่จะขึ้นบัญชีสูญพันธุ์เรื่องต่อไป ก็คือ หนัง 35 มม.พากย์เสียงในฟิล์มเรื่อง พรายพิฆาต นำแสดงโดย อาภัสรา นางงามจักรวาล-ลือชัย ออกฉายครั้งแรกวันที่ 19 ตุลาคม 2510 ที่โรงหนังศาลาเฉลิมกรุง..  เรียกว่า ทำเป็นหนังฟอร์มยักษ์ในยุคนั้น แต่กระแสตอบรับก็ไม่ค่อยดีนัก สุดท้ายวันนี้ ไม่มีอะไรเหลือให้ดูอีกแล้ว นอกจากใบปิดหนังใบนี้เ่ท่านั้น..


เมืองไทย ภัทรถาวงศ์ พรายพิฆาต ถึงแม้จะเป็นภาพยนตร์ขึ้นบัญชีสูญพันธ์ แต่สิ่งที่หลงเหลือนอกจากใบปิดแล้วนั่นคือ แผ่นเสียงเพลงประกอบภาพยนตร์เรื่อง พรายพิฆาต ซึ่งมี 2 เพลงเอก เพลงพุทธธรรม ขับร้องโดยคณะสุเทพคอรัส และเพลงเหมือนสิ้นใจ - เพ็ญศรี พุ่มชูศรี ขับร้องแทนเสียงอาภัสรา ในภาพยนตร์.. ซึ่งบรรดาแผ่นเสียงที่ลงเพลงนี้ต่างระบุว่า จากเสียงร้องของ.. อาภัสรา หงสกุล

นี่คือเวอร์ชั่นในภาพยนตร์เรื่อง พรายพิฆาต ปี ๒๕๑๐


เพลงเหมือนสิ้นใจ


ดีครับ หนังไม่มี มีเพลงจากหนัง ก็ยังดีครับ..ว่างๆ ก็นำลิงค์เพลงนั้นๆ มาแปะไว้ใกล้ๆ กันก็ได้นะครับ..

           หนังไทยที่จะขึ้นบัญชีสูญพันธุ์ในวันนี้ก็คือ หนัง 35 มม.พากย์เสียงในฟิล์มเรื่อง รักจ๋ารัก นำแสดงโดย สมบัติ-เพชรา ออกฉายเมื่อวันที่ 22 ตุลาคม 2514 ที่โรงหนังแกรนด์.. ซึ่งปัจจุบันหาชมไม่ได้แล้วครับ ผมเองเคยเห็นแต่ใบปิดแบบนี้ปิดไว้ที่บริการหนังกลางแปลงแห่งหนึ่งในจังหวัดสุรินทร์ตอนผมเป็นเด็กๆ แต่ก็ไม่เคยได้ดูเลยครับ..


           หนังไทยที่จะขึ้นบัญชีสูญพันธุ์เรื่องต่อไปก็คือ หนัง 35 มม.พากย์เสียงในฟิล์มเรื่อง ไม่มีใครรักฉันจริง นำแสดงโดย นาท-ธัญญรัตน์..ออกฉายครั้งแรกวันที่ 26 ธันวาคม 2518 ที่โรงหนังแกรนด์ ซึ่งปัจจุบันนี้ไม่เหลือให้ชมแล้วครับ..


เมืองไทย ภัทรถาวงศ์ รักจ๋ารัก ถึงไม่พบฟิล์ม ส่วนเพลง ๗ เพลงก็พบแค่เพลงเอก ๑ เพลงคือเพลง รักจ๋ารัก จากผลงานของสมโภช ล้ำพงษ์... จากเสียงร้องของ สมบัติ เมทะนี และจินตนา สุขสถิตย์

           สำหรับพวกเราแล้ว เพียงแค่ได้กากฟิล์มมาฉายก็ดีใจแล้วครับ.. ถ้าทำจากเนกาตีฟต้องใช้เงินเยอะครับ..  หนังไทยที่จะขึ้นบัญชีสูญพันธุ์เรื่องต่อไปก็คือ หนัง 35 มม. พาำกย์เสี่ยงในฟิล์มเรื่อง ริมฝั่งแม่ระมิงค์ ออกฉายครั้งแรกวันที่ 17 มีนาคม 2515 ที่โรงหนังศาลาเฉลิมกรุง ซึ่งปัจจุบัน หาดูไม่ได้แล้วครับ..


           หนังไทยที่จะขึ้นบัญชีสูญพันธุ์เรื่องต่อไปก็คือเรื่อง ธารรักไทรโยค นำแสดงโดย สมบัติ-เพชรา เป็นหนังเพลงที่ผมเคยได้เห็นใบปิดมาตั้งแต่เด็กๆ แต่ยังไม่มีโอกาสได้ชม รอมาจนถึงวันนี้ก็คงหมดหวังแล้วครับ.. หนังออกฉายครั้งแรกวันที่ 30 กรกฎาคม 2514 ที่โรงหนังเอ็มไพร์.. ตัวเรื่องน่าจะเป็นหนัง 16 มม.พากย์สดๆ เฉพาะแต่เพลงเอกในหนังเท่านั้นที่ถ่ายด้วยฟิล์ม 35 มม.ครับ..


           อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ผมจะบอกว่า เป็นหนังไทยที่สูญพันธุ์ไปแล้ว แต่ในใจลึกๆ นั้น ก็ยังแอบคิดว่า นี่ ถ้าเรามีเวลามากๆ กว่านี้สักหน่อย เราน่าจะออกตลุยไปยังบริการฉายหนังกลางแปลงเก่าๆ ตามต่างจังหวัด เผื่อว่าจะฟลุ๊คเจอคนที่เขายังเก็บกากฟิล์มเก่าๆ ไว้บ้าง..  มาถึงวันนี้ นึกถึงสมัยก่อนที่ไปกับคุณโต๊ะ พันธมิตร ไปเจอกากฟิล์ม 35 มม. เยอะมากๆ แต่ตอนนั้นเราก็ไปเน้นหาแต่หนัง 16 มม. พอเจอหนัง 35 มม. แบบไม่จบเรื่องหรือบางม้วนก็เหลือความยาวอยู่เพียงครึ่งค่อนม้วนเอง ก็เลยไม่สนใจจะนำกลับมาเพราะคิดว่า ถ้าเราจะทำหนัง 35 มม.แล้ว ก็ไปเบิกฟิล์มเนกาตีฟมาทำจะดีกว่า แต่ที่ไหนได้ เรามารู้ในภายหลังว่า หนังบางเรื่องนั้น ก็ไม่มีฟิล์มเนกาตีฟแล้วครับ.. แถมบางเรื่องก็มีไม่ครบด้วย และมารู้อีกว่า การลงทุนทำจากฟิล์มเนกาตีฟมีขั้นตอนและค่าใช้จ่ายสูงมากๆ จนคนดูเล่นๆ อย่างเราๆ ไม่อาจทำได้แล้วครับ..

           ทางเดียวตอนนี้ที่จะช่วยหนังไทยเก่าๆได้ ก็คือ เราต้องวิ่งหากากฟิล์มมาทำดูกันเองแล้ว แบบว่า ได้ฟิล์มมาแค่ไหน ก็ทำแค่นั้นเพราะสิ่งที่เหลืออยู่นั้น ตอนนี้เรียกว่าเป็นประวัติศาสตร์หนังไทยที่เหลือแล้วครับ ถ้าไม่ทำ ถ้าไม่ดู ก็คือ อดดูชั่วชีวิต.. หมู่นี้ ผมเข้ามาเขียนเฟสบุ๊กน้อยกว่าที่เคยเป็นเพราะจะใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่กับการออกหากากฟิล์มหนัง.. พอได้มาก็ต้องมานั่งซ่อม นั่งต่อฟิล์ม แล้วก็ต้องฉายแปลงสัญญาณเก็บไว้ จากนั้นก็ค่อยๆ นำมาตัดต่อ ลำดับภาพ แต่งสีใหม่อีกครั้ง ซึ่งใช้เวลานานมากๆ กว่าจะได้มาแต่ละเรื่อง.. แต่เราก็ต้องทำแข่งกับอายุตัวเอง แข่งกับเวลา แข่งกับอายุกากฟิล์มที่จะหมดลงไปเรื่อยๆ มีเพื่อนบางคนถามว่า จะให้ช่วยอะไรได้บ้าง.. ตอนนี้ ถ้าขอเพื่อนได้ ก็อยากขอให้เพื่อนๆ ที่อยู่ต่างจังหวัดช่วยค้นหาบริการหนังกลางแปลงเก่าๆ ที่ยังพอเก็บกากฟิล์มไว้ หนังเก่าๆ ตั้งแต่ปี 2515 มาเรื่อยๆ ผมอยากได้มาทำภาพไว้ จะสั้นจะยาว ไม่เป็นไร ถ้าเจอ ถ้ามีแหล่งข่าวก็ช่วยบอกๆ กันบ้างนะครับ..

           หนังไทยที่จะขึ้นบัญชีสูญพันธุ์ในวันนี้คือ หนัง 35 มม. พากย์เสียงในฟิล์มเรื่อง ไอ้แดง นำแสดงโดย เพชรา-อนันต์ ฉายครั้งแรกเมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2516 ที่โรงหนังคาเธ่ย์ ซึ่งปัจจุบันไม่มีฟิล์มแล้วครับ เป็นหนังเรื่องแรกที่ อนันต์ สัมมาทรัพย์ เป็นพระเอก..


           ก่อนหน้าเรื่อง ไอ้แดง นั้น ป๋าต๊อก ในชื่อ ต๊อกบูมภาพยนตร์ โดย สมจิต ทรัพย์สำรวย จะสร้างเแต่หนังระบบ 16 มม. ก็มีเรื่อง ไอ้แดง นี่แหละครับที่เริ่มสร้างในระบบ 35 มม. พากย์เสียงในฟิล์ม แต่ว่าหนังไม่ค่อยประสบความสำเร็จเท่าไร ถ้าน้องเจ เมืองไทย ภัทรถาวงศ์ ทำเพลงเสร็จก็โพสให้ฟังต่อได้เลยนะครับ.. สำหรับหนังไทยที่จะขึ้นบัญชีสูญพันธุ์เรื่องต่อไปก็คือ หนัง 35 มม.พากย์เสียงในฟิล์มเรื่อง ลูกผู้ชาย ฉายครั้งแรกวันที่ 9 พฤษภาคม 2518 ที่โรงหนังแมคเคนน่า ครับ ตอนนี้ไม่มีให้ดูแล้วครับ..


           หนังไทยที่จะขึ้นบัญชีสูญพันธุ์ในวันนี้ก็คือ หนัง 35 มม.พากย์เสียงในฟิล์มเรื่อง ลูกเมียเช่า นำแสดงโดย กรุง-อรัญญา.. ออกฉายครั้งแรกวันที่ 19 เมษายน 2519 ที่โรงหนังศาลาเฉลิมกรุง.. ซึ่งปัจจุบันนี้ไม่เหลือให้ดูแล้วครับ..


           ดีนะครับที่ยังพอมีข้อมูลเหลือบ้างเพราะหนังหายเงียบไปเลย ไม่เคยมีวีดีโอเทปด้วย  หนังไทยที่จะขึ้นบัญชีสูญพันธุ์เรื่องต่อไปก็คือ หนัง 35 มม.พากย์เสียงในฟิล์มเรื่อง อะไรกันนักหนา ออกฉายครั้งแรกเดือนมิถุนายน 2516 ที่โรงหนังศาลาเฉลิมกรุง ซึ่งปัจจุบันไม่มีเหลือให้ดูแล้วครับ...

นายเค:
           เรื่องของหนังไทยสูญพันธุ์นั้นยังมีอีกมากมาย..ยิ่งค้น ยิ่งเขียน ก็ยิ่งรู้ว่า หนังไทยของเราได้สูญพันธุ์ไปเยอะมากๆ บางครั้งพอรู้ลึกๆ ก็ยิ่งอนาจใจกับเหตุผลในการที่ต้องสูญพันธุ์ เรียกว่า คนทำให้ตายไป ก็ทำโดยไ่ม่เจตนา ส่วนตัวหนังที่ตาย ก็เรียกว่า ตายโดยไม่รู้ตัว..นะครับ..  ยิ่งถ้าเป็นฟิล์มดำหรือฟิล์มธรรมดาแล้ว ยิ่งตายง่ายกว่าฟิล์มทองเสียอีก.. ตอนนี้ ผมกับคุณนุฯ ก็ได้แต่คิดว่า ทำอย่างไรเราถึงจะไปตามหาแหล่งที่เก็บฟิล์มดำฟิล์มธรรมดาให้ได้มากๆ เพราะอย่างน้อยๆ วันนี้ เราก็รู้แล้วว่า แค่เพียงเขาเก็บฟิล์มหนังใส่กระเป๋าหนังไว้เฉยๆ ในบ้าน มีอากาศถ่ายเทสะดวก หนังก็ยังอยู่ได้ เพียงแต่ว่า เราจะไปหาฟิล์มเหล่านั้นได้ที่ไหน..

           เมื่อคืนนึกถึงครูท่านหนึ่งที่จังหวัดร้อยเอ็ด ที่ผมเคยไปซื้อกากฟิล์ม ดอกคูนเสียงแคน ปี 2517 กับ อย่าแหย่ฉลาม ปี 2522 มาฉายเมื่อ 10 ปีที่แล้ว ตอนนั้นเราเลือกแต่หนังที่ฟิล์มค่อนข้างสมบูรณ์ โดยไม่ได้เหลียวแลฟิล์มที่เหลือเพียงกระเป๋าเดียว นึกถึงวันนี้แล้ว ก็อยากไปหาท่านอีก แต่ติดต่อไม่ได้ ไม่รู้ว่า ทิ้งฟิล์มไปหมดหรือยัง..ใครพอมีเพื่อนที่จังหวัดร้อยเอ็ดบ้างครับ จะขอวานให้เข้าไปดูในซอยนั้นหน่อยว่า บ้านครูท่านนี้ยังอยู่ที่เดิมหรือไม่ และยังเก็บฟิล์มหนังและเครื่องฉายไว้หรือไม่.. ฝากหน่อยนะครับ ..

           ส่วนหนังไทยสูญพันธุ์วันนี้ก็คือ เรือเพลง ที่ยอดรัก สลักใจ เล่น เจ้าของหนังบอกว่า ไม่มีฟิล์ม ไม่มีเทปแ้ล้วครับ ให้ผมช่วยตามหากากฟิล์มให้ด้วย แต่จนวันนี้ก็ยังหาไม่ได้ครับ หนังฉายครั้งแรกวันที่ 25 สิงหาคม 2522 ที่โรงหนังเมโทร-เพชรเอ็มไพร์ ครับ..


           ยิ่งนับวัน พวกเราก็ยิ่งรู้ว่า หนทางการตามหาฟิล์มหนังเก่าๆ นั้น ทำได้ยากมากขึ้นเรื่อยๆ หนังไทยเก่าๆ เหล่านี้จึงต้องเหลือแต่เพียงความทรงจำเท่านั้นครับ..  หนังไทยที่จะขึ้นบัญชีสูญพันธุ์ในวันนี้ก็คือ หนังเรื่อง อเวจีสีชมพู ออกฉายครั้งแรกเมื่อวันที่ 11 สิงหาคม 2515 ที่โรงหนังคาเธ่ย์ ซึ่งปัจจุบันไม่มีให้ดูแล้วครับ..


           สำหรับหนังไทยที่จะขึ้นบัญชีสูญพันธุ์เรื่องต่อไปก็คือ หนังเรื่อง ทายาทลูกทุ่ง นำแสดงโดย สุรชัย สมบัติเจริญ ออกฉายครั้งแรกวันที่ 20 กันยายน 2523 ที่โรงหนังศาลาเฉลิมไทย-วอชิงตัน ซึ่งปัจจุบันตามหาวีดีโอหรือกากฟิล์มมาฉายไม่ได้เลยครับ น่าเสียดายจริงๆ สูญพันธุ์ไปแล้วครับ..


           หนังไทยที่จะขึ้นบัญชีสูญพันธุ์ในวันนี้ก็คือ  เรื่อง สาวแสบ นำแสดงโดย ยอดชาย เมฆสุวรรณ-วาสนา ปฏิโก.. ฉายครั้งแรกวันที่ 17 มกราคม 2518 ที่โรงหนังเพชรเอ็มไพร์-เมโทร ซึ่งตอนนี้ไม่เหลืออะไรให้ดูแล้วครับ..


           หนังไทยที่จะขึ้นบัญชีสูญพันธุ์เรื่องต่อไปคือ  เรื่อง 4 นักเลง นำแสดงโดย กรุง ศรีวิไล-โสภา สถาพร.. ยังหาวันที่ออกฉายครั้งแรกไม่ได้ครับ..  ส่วนตัวหนังนั้น ไม่มีข่าวคราวอะไรเลยครับ มีท่านใดเคยได้ดูบ้างครับ.. หนังต้องเข้าฉายหลังจากปี 2514 ครับเพราะกรุงเล่นเรื่องแรกปี 2514..


           หนังไทยที่จะขึ้นบัญชีสูญพันธุ์วันนี้เป็น หนัง 16 มม.พากย์สดๆ เรื่อง 5 พยัคฆ์ร้าย นำแสดงโดย มิตร-สมบัติ ซึ่งออกฉายครั้งแรกเมื่อวันที่ 28 มกราคม 2508 ที่โรงหนังศาลาเฉลิมกรุง..  ว่ากันตามจริง หนัง 16 มม.นั้นสูญพันธุ์ได้ง่ายกว่าหนัง 35 มม.เพราะหนัง 16 มม.ไม่มีระบบฟิล์มต้นฉบับ แต่ที่ผมรีๆรอๆ ไม่อยากพูดก่อนก็เพราะคิดว่า หากเราเจอกากฟิล์มบ้าง ก็จะฉายได้ยิ่งกว่าฟิล์ม 35 มม.ในรุ่นเดียวกันครับ แต่วันนี้ก็ยังหาฟิล์มไม่ได้ครับ..


           หนังไทยที่จะขึ้นบัญชีสูญพันธุ์เรื่องต่อไปเป็น หนัง 16 มม.พากย์สดๆ เรื่อง 7 ป่าช้า นำแสดงโดย สุรสิทธิ์ สัตยวงศ์ ออกฉายครั้งแรกวันที่ 12 กันยายน 2511 ที่โรงหนังนิวบรอดเวย์ สามแยก..  เป็นหนังผีอีกเรื่องหนึ่งที่คนในยุคนั้นบอกว่า สร้างได้น่ากลัวเหมือนกับ แม่นาค รุ่น ปรียา รุ่งเรือง ..  ผมเองได้ยินชื่อ 7 ป่าช้า มาตั้งแต่เด็กๆ แต่ก็ไม่เคยมีโอกาสได้ดูเลยครับ สูญพันธุ์ไปแล้วครับ..


           หนังไทยที่จะขึ้นบัญชีสูญพันธุ์เรื่องต่อไป ก็คือ หนัง 35 มม.พากย์เสียงในฟิล์มเรื่อง 7 ป่าช้า นำแสดงโดย พอเจตน์-สุพรรษา ออกฉายครั้งแรกวันที่ 19 ธันวาคม 2523 ที่โรงหนังศาลาเฉลิมกรุง-สเตลลา-ศรีย่าน ซึ่งก็สูญพันธุ์ไปแล้วเช่นเดียวกัน 7 ป่าช้า รุ่นแรก..


           สมัยผมเป็นเด็กๆนั้น ผู้หลักผู้ใหญ่พูดถึงหนังผีที่น่ากลัวอยู่ไม่กี่เรื่องก็คือ แม่นาคปรียา เจ้าแม่ตะเคียนทอง แล้วก็ผี 7 ป่าช้า รุ่นแรกนี่แหละครับ เวลาเขาเล่าให้ฟัง เด็กๆ ก็นั่งฟังที่แคร่ตรงลานกว้างๆ ข้างทาง เล่าตอนค่ำๆ มองเห็นต้นมะพร้าวพริ้วไหวตามสายลม ก็ยิ่งน่ากลัว ได้แต่คิดว่า ทำอย่างไร เราจะได้ดูหนังจริงๆ บ้าง แต่ก็มีโชคดีที่ผีแม่นาคกับเจ้าแม่ตะเคียนทอง ยังมีฟิล์มเหลือและนำมาออกวีซีดีแล้ว ขาดแต่ผี 7 ป่าช้านี่แหละครับ ที่หาไม่ได้แล้ว..

           หนังไทยที่จะขึ้นบัญชีสูญพันธุ์เรื่องต่อไปก็คือ หนัง 16 มม.พากย์สดๆ เรื่อง 7 สมิง นำแสดงโดย พันคำ-อรสา ออกฉายครั้งแรกต้อนรับวันตรุษจีน ปี 2507 ที่โรงหนังพัฒนากร ซึ่งปัจจุบันทั้งหนัง ทั้งโรงหนัง ไม่เหลือให้เราได้เห็นแล้วครับ..


           หนังไทยที่จะขึ้นบัญชีสูญพันธุ์เรื่องต่อไปก็คือ หนัง 16 มม.พากย์สดๆ เรื่อง กลางดงเสือ นำแสดงโดย ไชยา-เมตตา ออกฉายครั้งแรกเมื่อวันที่ 29 มีันาคม 2506 ที่โรงหนังคาเธ่ย์ยุคใหม่ ซึ่งปัจจุบันหาดูหนังไม่ได้แล้วครับ..


           สวัสดีครับ หนังไทยที่จะขึ้นบัญชีสูญพันธุ์เรื่องต่อไปก็ึิึคือ หนัง 16 มม.พากย์สดๆ เรื่อง กะล่อนทอง นำแสดงโดย ฉลอง สิมะเสถียร.. ออกฉายครั้งแรกวันที่ 2 พฤษภาคม 2500 ที่โรงหนังศาลาเฉลิมกรุง..  หนังเก่ามาก พระเอกก็รุ่นเก่าๆ ที่ตอนนี้หาดูอีกไม่ได้แล้วครับ..


           หนังไทยที่จะขึ้นบัญชีสูญพันธุ์เรื่องต่อไปก็คือ หนังเรื่อง กิโมโน นำแสดงโดย สมควร กระจ่างศาสตร์ ออกฉายครั้งแรกวันที่ 4 ธันวาคม 2502 ที่โรงหนังเอ็มไพร์ ตอนนี้ถามหาหนังไม่ได้แล้วครับ คงเหลือแต่ใบปิดแบบนี้แหละครับ..


           หนังไทยที่จะขึ้นบัญชีสูญพันธุ์เรื่องต่อไปก็คือ หนัง 16 มม.พากย์สดๆ เรื่อง กุหลาบดำ นำแสดงโดย ทักษิณ แจ่มผล ซึ่งยังหาวันแรกฉายไม่ได้และปัจจุบันก็เหลือเพียงใบปิดใบนี้เพียงใบเดียวครับ..


           หนังไทยที่จะขึ้นบัญชีสูญพันธุ์เรื่องต่อไปก็คือ หนัง 16 มม.พากย์สดๆ เรื่อง กุหลาบแสนสวย นำแสดงโดย ชนะ ศรีอุบล-อมรา อัศวนนท์ ออกฉายครั้งแรกปี 2502 ที่โรงหนังเอ็มไพร์..  ถึงวันนี้ไม่เหลืออะไรแล้วครับ มีเพียงภาพใบปิดหนังเท่านี้แหละครับ..


ทศพร นานามั่นคง แล้ว รักริษยา ล่ะครับ อยากดูมาก


           รักริษยา นั้น ยังมีเทปให้ดูได้ที่หอภาพยนตร์ฯ นะครับ ลองแวะไปขอดูได้ฟรีครับ.. หนังไทยที่จะขึ้นบัญชีสูญพันธุ์เรื่องต่อไปก็คือ หนัง 35 มม. พากย์เสียงในฟิล์มเรื่อง ข้าวก้นบาตร นำแสดงโดย สมบัติ-นัยนา ออกฉายครั้งแรกเมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม 2520 ที่โรงหนังเพชรเอ็มไพร์.. เรื่องนี้หลายคนถามหา แต่ว่าวีดีโอก็ไม่เคยเห็น ตัวฟิล์มหนังก็หาไม่ได้แล้วครับ สูญพันธุ์ไปอีกเรื่องครับ..


           หนังไทยที่จะขึ้นบัญชีสูญพันธุ์เรื่องต่อไปก็คือ หนัง 16 มม.พากย์สดๆ เรื่อง ขุนโจร 5 นัด นำแสดงโดย สุรสิทธิ์ สัตยวงศ์ ออกฉายครั้งแรกเมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 2500 ที่โรงหนังพัฒนากร ซึ่งปัจจุบันไม่มีอะไรเหลือให้ดูแล้วครับ..


           หนังที่ สุรสิทธิ์ เล่นเป็นพระเอกนั้นหายากครับ เห็นๆ ที่ออกจำหน่ายก็มีแต่ แม่นาคพระโขนง ปรียา-สุรสิทธิ์ ส่วนเรื่องอื่นๆ นั้นก็เล่นสมทบแล้วครับเช่น โรงแรมนรก..

           สำหรับหนังไทยที่จะขึ้นบัญชีสูญพันธุ์ในวันนี้เป็นหนัง 16 มม.พากย์สดๆ เรื่อง ขุนโจรสามร้อยยอด ออกฉายครั้งแรกวันที่ 3 ธันวาคม 2499 ที่โรงหนังศาลาเฉลิมกรุง ซึ่งวันนี้หาอะไรที่เกี่ยวกับหนังไม่ได้แล้ว นอกจากใบปิดโฆษณาใบนี้เท่านั้นครับ..


           หนังไทยที่จะขึ้นบัญชีสูญพันธุ์เรื่องต่อไปก็คือ หนัง 16 มม.พากย์สดๆ เรื่อง คนองปืน นำแสดงโดย ทักษิณ-อมรา ออกฉายครั้งแรกวันที่ 22 ตุลาคม 2502 ที่โรงหนังเอ็มไพร์.. ครับ


           หนังเรื่อง แผลเก่า รุ่นที่ ท้วม ทรนง เล่นเป็นพระเอกนั้น ผมไม่มีครับ แต่เคยไปดูวีดีโอที่หอภาพยนตร์ฯ เขาทำเก็บไว้แล้ว แต่เป็นวีดีโอรุ่นเก่าๆ ภาพยังไม่ค่อยชัดนัก พอดูได้ครับ...  สำหรับหนังไทยที่จะขึ้นบัญชีสูญพันธุ์เรื่องต่อไปก็คือ หนัง 16 มม.พากย์สดๆ เรื่อง คู่พิศวาส นำแสดงโดย ฤทธี นฤบาล-อุษา อัจฉรานิมิตร ออกฉายครั้งแรกเมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม 2504 ที่โรงหนังศาลาเฉลิมกรุง-เฉลิมบุรี..  วันนี้ เหลือแค่ใบปิดแค่นี้แหละครับ...


           เรื่อง ทายาทลูกทุ่ง ที่คุณทศพร นานามั่นคง ถามถึง ผมไม่แ่น่ใจว่าหมายถึงเสียงเพลงในเรื่องหรือครับที่ว่า ไม่ใช่เสียงของ สุรชัย..เรื่องนี้ฉายปี 2523 ผมเคยดูจากหนังกลางแปลงเพียงครั้งเดียว จำรายละเอียดเสียงของหนังไม่ได้ครับ..ตอนนี้ ก็ยังหาวีดีโอหรือฟิล์มหนังมาฉายอีกไม่ได้เลยครับ..ถ้าดูจากใบปิดแล้ว จะบอกว่า หนังมีเพลง 12 เพลง ผมจำได้เพลงเดียวคือ ตุ๊กตาใจดำ เพราะตอนนั้นเพลงชุด ตุ๊กตาใจดำ สาวมอญคนสวย กำลังดังมากๆ


ดูภาพนิ่งและเรื่องย่อของ ทายาทลูกทุ่ง นะครับ..มี 4 แผ่นเรียงกันครับ..








           หนังไทยที่จะขึ้นบัญชีสูญพันธุ์เรื่องต่อไปก็คือ หนัง 35 มม.พากย์เสียงในฟิล์มเรื่อง เงินคือพระเจ้า นำแสดงโดย นาท ภูวนัย-มยุรา ธนะบุตร ออกฉายครั้งแรกวันที่ 12 พฤษภาคม 2520 ที่โรงหนังพาราไดซ์-พระโขนงรามา.. ซึ่งวันนี้ไม่เหลือให้ดูแล้วครับ..


           หนังไทยที่จะขึ้นบัญชีสูญพันธุ์เรื่องต่อไปก็คือ หนัง 16 มม.เรื่อง จ้าวชีวิต นำแสดงโดย แสน สุรศักดิ์ ออกฉายครั้งแรกวันที่ 8 มิถุนายน 2505 ที่โรงหนังบรอดเวย์ สามแยก ซึ่งปัจจุบันก็เหลือใบปิดโฆษณาให้ดูแค่นี้แหละครับ..


           หนังไทยที่จะขึ้นบัญชีสูญพันธุ์เรื่องต่อไปก็คือ หนัง 16 มม.เรื่อง จ้าวป่าช้า นำแสดงโดย วิน วิษณุรักษ์-เยาวเรศ นิสากร.. ซึ่งหาอะไรไม่ได้เลย นอกจากใบปิดใบนี้เท่านั้น..


           หนังไทยที่จะขึ้นบัญชีสูญพันธุ์เรื่องต่อไปก็คือ หนัง 16 มม.พากย์สดๆ เรื่อง เงินจางนางจร นำแสดงโดย สมบัติ-เพชรา ออกฉายครั้งแรกวันที่ 15 พฤษภาคม 2513 ที่โรงหนังคาเธ่ย์ ซึ่งปัจจุบันหาชมไม่ได้แล้วครับ..


           หนังไทยที่จะขึ้นบัญชีสูญพันธุ์เรื่องต่อไปก็คือ หนัง 16 มม.พากย์สดๆ เรื่อง เจ้าเมือง นำแสดงโดย สมบัติ-พิศมัย ออกฉายครั้งแรกวันที่ 23 กรกฎาคม 2508 ที่โรงหนังเฉลิมบุรี ซึ่งวันนี้ไม่เหลือแล้วครับ..


           หนังไทยที่จะขึ้นบัญชีสูญพันธุ์เรื่องต่อไปก็คือ หนัง 16 มม.พากย์สดๆ เรื่อง จันทร์เจ้า นำแสดงโดย สมบัติ-เพชรา ออกฉายครั้งแรกเมื่อวันที่ 28 ธันวาคม 2510 ที่โรงหนังเฉลิมบุรี ซึ่งวันนี้ไม่เหลือหนังให้ดูแล้วครับ.. แหละนี่ก็เป็นอีก 1 ในจำนวน 2 พันกว่าเรื่องของหนังไทยเก่าๆ ที่ต้องสูญพันธุ์ไปทั้งที่เจตนาและไม่เจตนาครับ..


           ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาเยี่ยมชมกระทู้บทนี้นะครับ กระทู้บทนี้ ผมตั้งใจเขียนไปเรื่อยๆ เพราะหนังไทยที่สูญพันธุ์ไปนั้นมีมากกว่า 2 พันเรื่อง ก็คงต้องบอกกล่าวกันไปเรื่อยๆ อย่างน้อยๆ ก็เพื่อจะให้ทุกท่านได้รับรู้ถึงอ่อนด้อยของความเป็นหนังไทยเก่าๆ ที่ขาดคนเหลียวแลอย่างจริงใจและจริงจังกระทั่งทำให้เกิดกรณีหนังไทยสูญพันธุ์ขึ้นมามากถึง 2 พันกว่าเรื่อง...วันนี้ หนังไทยที่จะขึ้นบัญชีสูญพันธุ์เรื่องต่อไปก็คือ หนัง 16 มม.พากย์สดๆ เรื่อง เจ้าสาว นำแสดงโดย สมบัติ-อรัญญา ออกฉายครั้งแรกเมื่อวันที่ 30 เมษายน 2513 ที่โรงหนังศาลาเฉลิมกรุง ซึ่ง ณ วันนี้เหลือแต่เพียงใบปิด โชว์การ์ดเท่านั้น..


           หนังไทยที่จะขึ้นบัญชีสูญพันธุ์เรื่องต่อไปก็คือ หนัง 16 มม.พากย์สดๆ เรื่อง จอมเจ้าชู้ นำแสดงโดย สมบัติ-อรัญญา ออกฉายครั้งแรกวันที่ 30 เมษายน 2514 ที่โรงหนังศาลาเฉลิมกรุง.. ซึ่งถึงวันนี้ ไม่เหลือหนังให้ดูแล้วครับ..


           ทุกครั้งที่ต้องบอกว่า ขึ้นบัญชีหนังไทยสูญพันธุ์เรื่องต่อไป.. ผมก็รู้สึกปวดแสบหัวใจไปทุกครั้ง..คิดแล้วก็น้อยใจแทน "อดีตของหนังไทย" ครับ ที่ขาดคนเหลียวอย่างจริงใจมาแต่ต้น อดีตมันก็เลยขาดๆ หายๆ ไป 2 พันกว่าเรื่อง นี่ถ้าสมัยนั้นมีคนช่วยกันเก็บอย่างจริงจัง จริงใจ ไม่เห็นแก่ตัว..นึกถึงประโยชน์ของมรดกหนังไทยมากกว่านี้ เราก็คงจะเห็นอดีตของหนังไทยมากกว่าที่มีในปัจจุบันนะครับ ใจจริงผมอยากให้หนังไทยทุกๆ เรื่องมีอยู่ให้ดูได้ ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบฟิล์มหรือวีดีโอหรืออย่างอื่นๆ แต่วันนี้ก็รู้แล้วว่า ไม่อาจเป็นจริงได้....วันนี้ก็จะขึ้นบัญชีสูญพันธุ์เรื่องต่อไปนะครับ เรื่อง เจ้าสาวเรือพ่วง นำแสดงโดย ครรชิต-เพชรา ออกฉายวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2516 ที่โรงหนังเอ็มไพร์ ซึ่งวันนี้ก็ไม่เหลือให้ดูอีกแล้วครับ..


          ครับ กระทู้บทนี้ จะลงเฉพาะใบปิดหนังไทยที่ขึ้นบัญชีสูญพันธุ์นะครับ.. ส่วนที่ขอดูใบปิดหนังที่ แสน สุรศักดิ์ เป็นพระเอกนั้น ก็คงต้องหาโอกาสลงกันต่อๆ ไปนะครับ หนังที่ แสน สุรศักดิ์ เป็นพระเอกนั้นหาดูได้ยากครับ.. พวกเราโชคดีที่ได้มาเรื่องหนึ่งครับ ผมเขียนไว้นานแล้วอยู่ในบทที่ 18 หนึ่งในโครงการภาพยนตร์ไทยคงเหลือ ดรรชนีนาง (2504 พิศมัย-แสน)

คลิกดู.. บทที่ 18 หนึ่งในโครงการภาพยนตร์ไทยคงเหลือ ดรรชนีนาง (2504 พิศมัย-แสน)
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=262217197256258&set=o.156185157894883&type=1&theater

คลิกดูหนังได้ครับ...หนึ่งในโครงการภาพยนตร์ไทยคงเหลือ ดรรชนีนาง (2504 พิศมัย-แสน)


           หนังไทยที่จะขึ้นบัญชีสูญพันธุ์เรื่องต่อไปก็คือ หนัง 16 มม.พากย์สดๆ เรื่อง ฉุยฉาย นำแสดงโดย เนาวรัตน์ หวังในธรรม-ทักษิณ-อาคม.. ออกฉายครั้งแรกเมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 2505 ที่โรงหนังเอ็มไพร์ ซึ่งปัจจุบันไม่เหลือหนังให้ดูแล้วครับ.. สูญพันธุ์ไปอีกเรื่อง..


           หนังไทยที่จะขึ้นบัญชีสูญพันธุ์ในวันนี้ก็คือ หนัง 16 มม.พากย์สดๆ เรื่อง โฉมตรูภูธร นำแสดงโดย สมบัติ-อรัญญา ออกฉายครั้งแรกวันที่ 30 กรกฎาคม 2514 ที่โรงหนังศาลาเฉลิมกรุง ซึ่งปัจจุบันหาชมไม่ได้แล้วครับ..


           หนังไทยที่จะขึ้นบัญชีสูญพันธุ์เรื่องต่อไปก็คือ หนังเรื่อง ชตารัก นำแสดงโดย ชลิต-สมพิศ ออกฉายครั้งแรกวันที่ 20 พฤศจิกายน 2497 ที่โรงหนังศาลาเฉลิมกรุง.. ตอนนี้ไม่เหลืออะไรให้ดูแล้วครับ..


           หนังไทยที่จะขึ้นบัญชีสูญพันธุ์เรื่องต่อไปก็คือ หนัง 16 มม.พากย์สดๆ เรื่อง ชบาไพร นำแสดงโดย ชนะ ศรีอุบล-เพชรา ออกฉายครั้งแรกวันที่ 30 พฤศจิกายน 2508 ที่โรงหนังเฉลิมบุรี ซึ่งวันนี้ไม่เหลือแล้วครับ สูญพันธุ์ไปอีกเรื่องหนึ่ง


           หนังไทยที่จะขึ้นบัญชีสูญพันธุ์เรื่องต่อไปก็คือ หนัง 35 มม.พากย์เสียงในฟิล์มเรื่อง ชะตาชีวิต นำแสดงโดย ยอดชาย-เพชรา ออกฉายครั้งแรกวันที่ 13 พฤศจิกายน 2519 ที่โรงหนังศาลาเฉลิมกรุง ซึ่งทุกวันนี้หาดูไม่ได้แล้วครับ

นายเค:
           นานมาแล้ว สมัยที่มีการทำหนังเรื่อง ขวัญ-เรียม ออกมาฉายนั้น ผมเขียนถึงเรื่องนี้ แผลเก่านี้และส่งรูปโปสการ์ดไปให้บริษัทหนังสือเขาสแกนรูปประกอบข้อเขียน แล้วก็ไม่ได้รับรูปกลับคืนมาครับ ก็เลยไม่มีรูปตามที่ถามถึง แต่ว่าไม่ใช่เป็นใบปิดหนังนะครับ เป็นเพียงโฆษณาหนังเฉยๆ มีอยู่รูปหนึ่งที่เผยแพร่ในอินเตอร์เน็ต เป็นภาพอย่างข้างล่างนี้ครับ ...................................

           ไม้ เมืองเดิม หรือ ก้าน พึ่งบุญ ณ อยุธยา เกิดเมื่อปี 2448 เริ่มเขียนนิยายในปลายปี 2478 แผลเก่า เป็นนวนิยายเรื่องยาวเรื่องแรก (ยาว 166 หน้าพิมพ์) ที่สร้างชื่อให้กับ ไม้ เมืองเดิม จนมีงานเขียนนิยายเรื่อง แสนแสบและอีกหลายเรื่องติดตามมา
ไม้ เมืองเดิม ถึงแก่กรรมในปี 2485 ด้วยอายุเพียง 37 ปี ทิ้งผลงานให้เป็นอนุสรณ์ไม่น้อยกว่า 38 เรื่อง ที่นำมาสร้างเป็นภาพยนตร์แล้ว เช่น

ศึกบางระจัน (2509)
ขุนศึก (2519) เกวียนหัก
(2521) แสนแสบ (2521)
รอยไถ (2522) พลอยทะเล (2530) เป็นต้น

           แต่ที่ประสบความสำเร็จสูงสุดและปัจจุบันได้นำกลับมาสร้างเป็นภาพยนตร์อีกก็คือ ตำนานรัก ขวัญ เรียม เรื่องแผลเก่า  แต่เดิม แผลเก่า เคยเป็นภาพยนตร์มาแล้ว 2 ครั้งโดย บูรพาศิลป์ภาพยนตร์ ครั้งแรกในปี 2483 นำแสดงโดย สมพงษ์ จันทรประภา อบเชย ชุ่มพันธ์ กำกับการแสดงโดย พรานบูรพ์ ครั้งที่ 2 ในปี 2497 นำแสดงโดย ชีพ ชูพงษ์ (ท้วม ทรนง) พรทิพย์ โกศลมัชชกิจ กำกับการแสดง โดย อรรถ อรรถไกรวัลวที ฉายที่ศาลาเฉลิมกรุง


           หนังไทยที่จะขึ้นบัญชีสูญพันธุ์เรื่องต่อไปก็คือ หนัง 16 มม.เรื่อง ชาติสมิง นำแสดงโดย สุรสิทธิ์ สัตยวงศ์-อมรา อัศวนนท์ ออกฉายครั้งแรกวันที่ 30 เมษายน 2502 ที่โรงหนังศาลาเฉลิมกรุง-เฉลิมบุรี ซึ่งปัจจุบันหาชมไม่ได้แล้วครับ..


           หนังไทยที่จะขึ้นบัญชีสูญพันธุ์เรื่องต่อไปก็คือ หนัง 16 มม. พากย์สดๆ เรื่อง ชาติเหมราช นำแสดงโดย สมบัติ-อรัญญา ออกฉายครั้งแรกวันที่ 13 มกราคม 2513 ที่โรงหนังเอ็มไพร์ ซึ่งปัจจุบันหาชมไม่ได้แล้วครับ..  สูญพันธุ์ไปอีกเรื่อง สำหรับท่านที่สงสัยว่า ทำไมหนังไทยจะต้องสูญพันธุ์ด้วยนั้น คำตอบอย่างหนึ่งก็คือ เมื่อกากฟิล์มหนังยังอยู่ ยังพอจะฉายได้ กลับไม่มีการคิดจะเก็บภาพจากฟิล์มไว้ในรูปแบบอื่นๆ คนที่ชอบฟิล์มหนัง ก็จะกอดฟิล์มไว้จนถึงที่สุด ไม่ยอมให้ใครนำฟิล์มมาฉายเก็บภาพไว้ในรูปแบบวีดีโอ (ตอนนั้น เพิ่งมีวีดีโอออกใหม่ๆ) เขาก็กอดไว้จนฟิล์มเหม็นเปรี้ยว ฉายไม่ได้ แล้วในที่สุดก็ต้องทิ้งไปโดยไม่มีอะไรเหลืออีกเลย แล้วสมัยนั้นหนัง 1 เรื่อง บางครั้งก็เหลือฟิล์มมาเพียงชุดเดียวทั้งประเทศด้วย..

           สมัยนั้นคนฉายหนังจากฟิล์มบางคนก็คิดว่า ไอ้วีดีโอเทปหรือโทรทัศน์นี่แหละคือ ผู้ที่เข้ามาทำให้ความนิยมของหนังโรง หนังกลางแปลงเสื่อมความนิยมลง คนไม่ดูหนังโรง ไม่ดูหนังกลางแปลงเพราะจะดูวีดีโอที่บ้าน ซึ่งก็มีส่วนถูกต้องบ้าง แต่ข้อนี้ เขาลืมคิดไปว่า วีดีโอและทีวีนั้นต่างก็ต้องพึ่งวัตถุดิบจากฟิล์มหนังเช่นกัน แล้วต่อมาเมื่อฟิล์มหนังไทยหาได้ยากขึ้น วีดีโอและทีวีก็เลยสั่งหนังต่างประเทศเข้ามาแทน คราวนี้ หนังไทยยิ่งตายไปใหญ่เลยครับ..  แล้วพอวันหนึ่งก็มีคนเฒ่าคนแก่ก็มานั่งบ่นเสียดายที่ไม่มีหนังไทยเก่าๆ ให้ดูบ้าง บางคนก็เล่าความหลังว่า หนังต่างประเทศสู้หนังไทยไม่ได้ แต่ไม่มีหลักฐานใดยืนยันฉายให้เราดู บางคนก็แนะนำว่า หนังเรื่องนั้นดีมากๆ คนดูเยอะมากๆในปีนั้นๆ แต่วันนี้ ก็เป็นเพียงลมปากเพราะเราขาดหลักฐานที่จะทำให้คนยุคใหม่ได้เห็นคล้อยตามหรืออย่างน้อยๆ ก็ให้ดูเพื่อศึกษาถึงวิวัฒนาการการสร้างและการดูหนังของคนไทยสมัยก่อนว่า มีความเป็นมาอย่างไรบ้าง.  เมื่อเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นกับหนังไทยเป็นพันๆ เรื่อง มากกว่า 2 พันเรื่องแล้วที่ต้องสูญพันธุ์ไปในวันนี้ จะมีใครฉุกคิด..ที่จะช่วยหนังไทยเก่าๆ กันบ้างครับ..


           หนังเรื่อง ชาติสมิง นั้น หาดูไม่ได้แล้วครับ ผมมีเศษฟิล์มหนังเก่าๆ ที่สุรสิทธิ์ เล่นไว้ โพสอยู่ใน บทที่ 303 หนึ่งในโครงการภาพยนตร์ไทยคงเหลือ สั่งอินทรีย์ขาวถล่มกรุง (2501 สุรสิทธิ์-ศรินทิพย์-น้ำเงิน)

คลิกดู.. บทที่ 303หนึ่งในโครงการภาพยนตร์ไทยคงเหลือ สั่งอินทรีย์ขาวถล่มกรุง (2501 สุรสิทธิ์-ศรินทิพย์-น้ำเงิน)
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=291457064332271&set=o.156185157894883&type=1&permPage=1

คลิกชม... หนึ่งในโครงการภาพยนตร์ไทยคงเหลือ สั่งอินทรีย์ขาวถล่มกรุง (2501 สุรสิทธิ์-ศรินทิพย์-น้ำเงิน)


           สำหรับหนังไทยที่จะขึ้นบัญชีสูญพันธุ์นั้น ยังมีอีกเป็นพันๆ เรื่องนะครับ เดี๋ยวค่อยๆ ว่ากันไปนะครับ ช่วงนี้กำลังเช็คข่าวเรื่องตามหากากฟิล์มหนังอยู่ครับ..  สำหรับหนังไทยที่จะขึ้นบัญชีสูญพันธุ์เรื่องต่อไปก็คือ หนังเรื่อง ชะอำอำพราง นำแสดงโดย เชาว์-สุพรรณ บูรณะพิมพ์ เก่ามากครับฉายปี 2498 ที่โรงหนังบรอดเวย์ ครับ


          หนังไทยที่จะขึ้นบัญชีสูญพันธุ์เรื่องต่อไปก็คือ หนัง 16 มม.พากย์สดๆ เรื่อง ชายต้องสู้ นำแสดงโดย ไชยา-อัจฉรา ออกฉายครั้งแรกปี 2503 ซึ่งปัจจุบันไม่เหลือให้ดูแล้วครับ..


           ถามหา.. ใครพอมีรูปดาราเก่าที่ชื่อว่า ราชันย์ กาญจนมาศ บ้างครับ.. ผมขอย้ายมาตอบที่นี่นะครับ.. รูปดาราท่านนี้ ผมเองก็มีเท่านี้แหละครับ ภาพแรกจะเป็นภาพวาดบนใบปิดหนังหนังเรื่อง จ้าวชีวิต..


           ส่วนอีกภาพหนึ่งจะเป็นภาพที่ลงในหนังสือดาราเก่านี่แหละครับ.. ราชันย์ กาญจนมาศ ที่คุณทศทิศ คําสอนทา ถามถึงครับ..


           สวัสดีครับทุกท่าน..  พอบอกว่า เป็นหนังไทยสูญพันธุ์เพราะนับถึงวันนี้ เราก็หาอะไรจากหนังมาดูอีกไม่ได้เลยนั้น..แต่เมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมา ที่พวกเราเดินทางไปขอนแก่น ไปร้อยเอ็ด ก็นับเป็นโชคดีที่พวกเราได้เสี่ยงเดินทางกันไปเพราะวันนั้นพวกเราได้พบหนังไทยที่ขึ้นบัญชีสูญพันธุ์กว่า 20 เรื่อง เราได้นำฟิล์มกลับมาเกิดใหม่อีกครั้ง..  บางเรื่องฟิล์มอายุ 40 กว่าปี บางเรื่องฟิล์มก็อายุเกือบ 40 ปีแล้ว..  แต่ก็ยังฉายได้เพราะเจ้าของเขาหวง เขาใส่กล่องไม้ไว้เป็นอย่างดี เพียงแค่อยู่ในที่อากาศถ่ายเทได้สะดวกเท่านั้น ก็สามารถช่วยชีวิตฟิล์มหนังได้แล้วครับ เดี๋ยวคอยดูจากเทปสัมภาษณ์จากร้อยเอ็ดที่ผมจะฉายในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้แล้วนะครับ...  กรุฟิล์มของโรงหนังเฉลิมเอกครั้งนี้ ช่วยทำให้หนังไทยที่สูญพันธุ์ไปแล้ว กลับมาชีวิตอีกหลายสิบเรื่องเลยครับ โชคดีจริงๆ ครับ

           กระทู้บทนี้ ผมตั้งใจเขียนถึงหนังไทยที่สูญพันธุ์หรือสาบสูญไปแล้ว โดยดูจากข้อมูลที่ปรากฏอยู่ตามท้องตลาดทั่วไปว่า เคยมีหนังออกมาเป็นวีดีโอเทปตั้งแต่ช่วงปี 252..กว่ามาหรือไม่..เคยมีการเผยแพร่ทางสถานีโทรทัศน์มาหรือไม่และมีใครอัดเทปจากโทรทัศน์ไว้บ้าง..สุดท้ายก็ดูจากว่า เคยมีใครนำฟิล์มหรือกากฟิล์มหนังนั้นๆ ออกมาฉายเผยแพร่หรือไม่..ถ้าคำตอบคือ ไม่มี..นั่นก็หมายถึงว่า หนังเหล่านั้นเป็นหนังที่สูญพันธุ์หรือสาบสูญไปแล้วเพราะการไม่มีอยู่ การไม่เคยเห็นหนังอีกเลย ก็ต้องสันนิษฐานไว้ก่อนว่า ไม่มีหนังแล้วเพราะหนังเป็นสื่อที่สร้างออกมาเพื่อฉายสู่สาธารณชน มิใช่สร้างไว้ฉายดูคนเดียว..

           แม้ว่า การเปิดเผยว่า หนังเรื่องไหนเป็นหนังที่สูญพันธุ์ดูจะเป็นการทำร้ายจิตใจคนรักหนังหรือคนที่รอคอยความหวังว่า จะได้ดูหนังเหล่านั้นไปบ้าง แต่นั่นก็มิใช่เหตุผลที่เราจะต้องปกปิดว่า หนังไทยเหล่านั้นไม่มีแล้ว.. ตรงกันข้าม พอผมบอกว่า หนังไทยเรื่องไหนสูญพันธุ์ไปแล้ว กลับเป็นแรงส่งให้เพื่อนๆ หลายคนคิดว่า ถ้าเราช่วยกันหา หนังก็อาจไม่สูญพันธุ์หรือกลับมาอีกได้..  ตัวอย่างที่เห็นชัดๆ ก็คือ การไปได้กากฟิล์มหนังมาจากโรงหนังเฉลิมเอก ร้อยเอ็ด ทำให้เราได้หนังไทยสูญพันธุ์กลับมาอีกหลายสิบเรื่อง แม้บางเรื่องจะไม่สมบูรณ์ แต่นั่นก็ยังทำให้ประวัติศาสตร์ส่วนนั้นกลับคืนมาบ้าง มิใช่แต่จะนั่งคอยนอนคอยรอให้ประวัติศาสตร์เกิดขึ้นเอง..

           วันนั้น สิ่งที่เพื่อนๆ ดีใจออกนอกหน้ามากที่สุดก็ต้องที่มองเห็นกระเป๋าใส่ฟิล์มหนังเรื่อง เจ้าพ่อ 7 คุก ตั้งวางอยู่..  แม้ว่าข้างในกระเป๋า จะเป็นเรื่อง เจ้าพ่อ 7 คุก จริงๆ แต่ตราบใดที่เรายังไม่ได้ฉายออกมา เราก็ยังพูดไม่เต็มปากว่า เราช่วยหนังเรื่องนี้มาได้แล้วครับ.. แต่ตอนนี้ ประวัติศาสตร์ต้องบันทึกว่า คนไทยเรายังมีหนังเรื่องนี้และอีกหลายๆ เรื่องอยู่ครับ.. ข้อนี้จึงเป็นอนุสติเตือนใจว่า ถ้าเราช่วยกันพยายามออกค้นหา เราก็อาจได้ประวัติศาสตร์ส่วนนั้นกลับคืนมาบ้างนะครับ..


           พรุ่งนี้ วันเสาร์ ก็จะถึงคิวฉายหนังไทยที่สูญพันธุ์ไปแล้วอีก 4-5 เรื่องครับ ซึ่งจากการประเมินดูฟิล์มคร่าวๆ แล้ว ก็น่าหนักใจครับ  คุณอุ้ย Thawatchai Jai-aue เพราะงวดนี้มีฟิล์มเปราะๆ ขอบหนามเตยแตกด้วยครับ จะรอดหรือเปล่า พรุ่งนี้ต้องลุ้นครับ.. มาที่คุณเจน อักษราพิจารณ์ นะครับ เจ้าพ่อ 7 คุก นั้นเป็นหนังฟอร์มใหญ่มากๆ แค่ต้นๆ เรื่องที่สมบััติเปิดฉากแหกคุกตลอด ก็ตรึงคนดูในยุคนั้นได้แล้ว ผมเองซื้อตั๋วใบเดียวที่โรงหนังศรีสยาม สุรินทร์ นั่งเบียดกับน้องชายเมื่อปี 2520 จำหนังเรื่องนี้ได้ดี พยายามตามหามาตลอด แต่ก็คว้าน้ำเหลวมาตลอด นี่ถ้าไม่มีการจุดประกายตามรอย สาวเครือฟ้า จากคุณเจนแล้ว พวกเราก็ยังคงไม่ได้ไปร้อยเอ็ดหรอกครับ..

           ครับ เสาร์-อาทิตย์นี้ พวกเราหลายคนช่วยกันทำให้หนังไทยที่สูญพันธุ์กลับมามีชีิวิตอีกหลายเรื่องครับ แม้บางเรื่องจะได้มาเพียงครึ่งเรื่องก็ยังดีกว่า ไม่มีเหลือครับ.. บางเรื่องก็ได้มาแบบถลอกปอกเปิด ภาพลอกๆ สีซีดๆ อย่างหนัง 16 มม.ปี 2508 เรื่องนี้ครับ รัดใจ...ดูแทบไม่ออกว่า ใครเป็นใคร ฟิล์มโดนน้ำทั้ง 4 ม้วน แต่ก็พอเดาๆ เรื่องได้ว่า เป็นฉากอะไรบ้าง..


เจน อักษราพิจารณ์ ขอบคุณครับ ผมได้ดูไอ้คลั่งทะเลโหด แนวเดียวกับเสือน้อย ส่วนไฟนรกขุมโลกันต์ นั้น คุณยุทธนา มุกดาสนิท เปลี่ยนแนวกำกับจากแนวก้าวหน้ามาเป็นแนวไซไฟแบบไทย ๆ มีกำลังภายในด้วย

           น้ำตาทมิฬ มีภาพแค่นี้นะครับ.. ส่วน เลือดข้น ยังไม่มีครับ มีแต่เพลงจากหนังที่ได้มาจากน้องเจ ธนภัทร ครับ..


Charoen Tanmahapran เลือดข้น เป็นบทประพันธ์ของ อดุลย์ ราชวังอินทร์ ตีพิมพ์ในนิตยสาร"เดอะริง"มาก่อนสร้างเป็นภาพยนตร์เเมื่อ พ.ศ.๒๕๐๗ ผู้กำกับ: ประทีป โกมลภิส นำแสดงโดย: ไชยา สุริยัน, ภาวนา ชนะจิต, ชนะ ศรีอุบล, ประจวบ ฤกษ์ยามดี, เยาวเรศ นิสากร, แก่นใจ มีนะกนิษฐ์

Pong Utt ไชยา สุริยัน เป็นพระเอกท่ีหล่อ คมหวานมาก เล่นหนังไม่มากตัวไม่สูงใหญ่ เหมือนมิต สมบัติ เมื่อก่อนสมัยผมเป็นเด้ก คนจะคลั่งใคล้ แต่มิตร สมบัติ หารู้ไม่มีพระเอกหนังไทยท่ทงคุณค่า ที่บทบาทหหาตัวจับยากมาก เขาคือ ม.ล.อภิรัฐ จรูญโรจน์ หรือไชยา สุริยัน นั่นเอง

          คุณ Totsatit Kumsontra ถามหาข้อมูลหนังไทยเก่าๆ มา แต่เผอิญว่าตอนนี้ ผมมุ่งเน้นไปที่การตามหากากฟิล์มหนังไทยเก่าๆ เป็นหลัก.. ระยะหลังๆ นี้ ผมก็เลยไม่ค่อยได้หาได้เติมข้อมูลจำพวกชื่อเรื่องหนัง. ภาพนิ่ง ภาพใบปิดหนังหรือเรื่องย่อหนังเลย..ลำพังเวลาหาฟิล์มและทำข้อมูลไว้ ก็เกือบไม่พอแล้วครับ.. ครั้นจะแนะนำให้ไปค้นหาที่ไหน ก็ดูจะมืดมนสำหรับหนังเ่ก่าๆ แบบนี้..สมัยนั้น ผมต้องใช้วิธีไล่เปิดหนังสือพิมพ์รายวันเก่าๆ ดูและจดชื่อ จดรายละเอียดไว้..จากนั้นก็เร่ไปหาเพื่อนๆที่มีใบปิดหนัง มีหนังสือดาราเก่าๆ ไปขอเขาบ้าง ไปซื้อเขาบ้าง แล้วก็มานั่งสแกน ทำข้อมูลเก็บไว้ในเครื่องคอมฯ ก็ทำสิ้นสุดไว้เมื่อปี 2542 เองครับ แล้วก็ไม่ได้ทำอีกอย่างที่บอกตอนต้น.. หนังปี 2505 นั้น ผมเขียนโพสไว้แล้ว ตามข้อความนี้นะครับ.. ถ้าไม่เขียนถึงเรื่องไหน ก็แสดงว่า ข้อมูลยังค้นไปไม่ถึง..ถ้าไม่ลงรูปใบปิดไว้ ก็แสดงว่า ยังไม่ได้ใบปิดมานะครับ...ตอนนั้นเขียนไว้ว่า....

          วันนี้ ก็จะเป็นหนังไทยที่ออกฉายตามโรงหนังในกรุงเทพฯ เมื่อปี 2505..  ครับ ซึ่งจากตรวจนับจากโฆษณาที่ตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์รายวันและหนังสือบันเทิงเก่าๆ แล้วพบว่า ปี 2505 มีหนังไทยออกฉายนับได้ประมาณ 44 เรื่องดังนี้ คือ สิงห์เมืองชล / ปืนเดี่ยว / โจรแพรแดง / เหมยฟ้า / อ้อมอกสวรรค์ / วิมานรักสีชมภู / ยอดรัก / บันทึกรักของพิมพ์ฉวี / วัยรุ่นวัยคนอง / สุริยาที่รัก / ตะวันยอแสง / สายเลือดสายรัก / ม่านน้ำตา / จอมจงอาง / เมฆมรกต / ทับสมิงคลา / นันทาวดี / พาฝัน / ดอกหญ้า / นางทาส / มือปืนสติเฟื่อง / สิงโตหยก / วายร้ายตลาดเก่า / ลำเนาไพร / สิงห์กองปราบ / อุดมเด็กดี / จ้าวชีวิต /ยอดขวัญจิต / ดอกแก้ว / จอมใจเวียงฟ้า / กัลปังหา / แม่ยอดสร้อย / ปัทมานางแก้ว / ตุ๊กตาพเนจร / ฉุยฉาย / รุ่งทิพย์ / คีรีมาศ / ลูกเหลือขอ / สกาวเดือน / สิงห์เดี่ยว / มังกรเหลือง / วิญญาณรัก / วิญญาณรักแม่นาค / หมู่กล้าตาย////

          ในจำนวนหนังไทย 44 เรื่องนั้น เท่าที่ตรวจพบว่า ยังมีหนังหลงเหลือให้เราดูได้จริงๆ คือ มีจำหน่ายตามท้องตลาด หรือมีการนำออกฉายทางโทรทัศน์และมีคนอัดเก็บไว้ หรือมีการตามหากากฟิล์มพบและนำออกเผยแพร่แล้ว โดยแบ่งเป็นที่ทำออกขายตามท้องตลาดมีอยู่ 5 เรื่อง คือ อ้อมอกสวรรค์ / บันทึกรักของพิมพ์ฉวี / ม่านน้ำตา / จอมจงอาง / กัลปังหา // ...และที่เหลือเป็นกากหนังและมีการนำออกเผยแพร่แล้วอยู่ 4 เรื่องคือ ทับสมิงคลา (กากฟิล์มไม่จบ-หอภาพยนตร์ฯ) / ดอกหญ้า (กากฟิล์มไม่จบ-ชุมทางฯ) / วายร้ายตลาดเก่า (กากฟิล์มไม่จบ-ชุมทางฯ) / แม่ยอดสร้อย (กากฟิล์มไม่จบ-ชุมทางฯ) ///.. สรุปแล้ว หนังไทยปี 2505 ทั้ง 44 เรื่อง เหลือมาให้เห็นอีกแบบจบและไม่จบเรื่อง ขณะนี้นับได้เพียง 9 เรื่องครับ นอกนั้นอีก 35 เรื่อง ยังไร้ร่องรอยและอาจจะสูญพันธุ์ไปแล้วครับ.. โปสเตอร์ ตลุยฮาเร็ม ผมไม่มีครับ เคยถ่ายได้มาแค่นี้เองครับ..

นำร่อง

[0] ดัชนีข้อความ

[*] หน้าที่แล้ว

Go to full version