ผู้เขียน หัวข้อ: ตามรอย ชาติเสือ อีกแล้ว  (อ่าน 126 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ มนัส กิ่งจันทร์

  • มนัส กิ่งจันทร์ ภาคสอง ชุมทางหนังไทยในอดีต
  • Moderator
  • พี่น้อง thaicine Gold member
  • ***
  • กระทู้: 2814
  • พลังใจที่มี 35
  • เพศ: ชาย
    • มนัส ชุมทางหนังไทยในอดีต
ตามรอย ชาติเสือ อีกแล้ว
« เมื่อ: 30 พฤศจิกายน 2017, 20:22:06 »
        สวัสดีครับ ช่วงวัน สองวันนี้ ผมมีโอกาสได้พูด ได้คุย ได้รู้จักกับนักพากย์รุ่นใหญ่ๆ ที่เคยพากย์หนัง 16 มม.มาก่อน ก็เลยได้มีโอกาสถามไถ่ถึงฟิล์มหนังเรื่อง ชาติเสือ หนังเรื่องแรกของมิตร ชัยบัญชา กันอีกครั้ง

        ความเดิม.. ถ้าตามอ่านเรื่องที่ผมเขียนมาตลอด ก็คงจะนึกออกว่า ผมเคยพาไปตามรอยชาติเสือมาแล้วครั้งหนึ่ง.. เริ่มตั้งแต่ว่า พี่ออด ธีระชัย นักพากย์หนัง เจ้าของบริการหนังกลางแปลงสุรนารีภาพยนตร์ เคยขายฟิล์มหนัง 16 มม.เรื่อง ชาติเสือ ให้กับคุณบุญเลิศ แก้วขำ เพื่อไปเปิดบริการบุญเลิศภาพยนตร์ ที่จังหวัดอุดรธานี นานแล้ว ผมจึงตามรอยชาติเสือต่อไปจนได้ทราบว่า นักพากย์ชื่อ พี่จำเนียร ศรีหามาตย์ อายุ 76 ปี ใช้ชื่อพากย์ว่า อมรเทพ เคยพากย์หนังชาติเสือด้วย พี่จำเนียรเล่าให้ฟังว่า.. บุญเลิศภาพยนตร์นั้น เจ้าของชื่อ บุญเลิศ แก้วขำ เป็นคนปทุมธานี ไปเปิดบริการหนังกลางแปลงที่จังหวัดอุดรธานีกับพี่ชายโดยคุณบุญเลิศใช้ชื่อว่า บริการบุญเลิศภาพยนตร์ ส่วนของพี่ชายใช้ชื่อ บริการอุดรภาพยนตร์ แต่ตอนที่พี่จำเนียรพากย์ชาติเสือนั้น พากย์ในจอของบริการวิโรจน์ภาพยนตร์ จังหวัดขอนแก่น ตอนที่พากย์เรื่องชาติเสือนั้น ฟิล์มหนังก็เหลือเพียง 2 ม้วนครึ่ง แต่ก็ยังพากย์ให้คนดูได้รู้เรื่อง

        วันนี้ โชคดีที่ตามจนพบตัวคุณบุญเลิศ แก้วขำ ปัจจุบันอายุ 87 ปี โดยมีนักพากย์ท่านหนึ่งเป็นผู้ชี้ช่องว่า บริการแจ่มจันทร์ภาพยนตร์ อุดรธานี รู้จักกับบุญเลิศภาพยนตร์เป็นอย่างดี ผมจึงสอบถามไปยังแจ่มจันทร์ภาพยนตร์ ก็ได้ความว่า เคยรู้จักบุญเลิศภาพยนตร์จริง แต่ภายหลังที่บุญเลิศเลิกฉายหนังก็ย้ายไปอยู่ที่อื่นแล้ว คงมีแต่ลูกชายชื่อต๋อง ที่ยังอยู่อุดรธานีและให้เบอร์โทรคุณต๋องมา ผมโทรหาคุณต๋องก็ได้ความว่า พ่อบุญเลิศย้ายไปอยู่จังหวัดอ่างทองตั้งแต่ประมาณปี 2525 แล้วและให้เบอร์โทรพ่อบุญเลิศแก่ผม ผมโทรไปหาก็ทราบจากพี่เสนาะ แก้วขำ อายุ 73 ปี ภรรยาที่อยู่ด้วย จึงทราบว่า ตอนนี้ พี่บุญเลิศหูตึงแล้ว พูดเบาๆ จะไม่ค่อยได้ยิน พอได้ความว่า พี่เสนาะนั้นก็อยู่กับพี่บุญเลิศมาตั้งแต่ตั้งบริการฉายหนังที่อุดรฯ จึงขอข้อมูลจากพี่เสนาะแทนเกี่ยวกับการฉายหนังของบุญเลิศภาพยนตร์โดยได้ยินเสียงพี่บุญเลิศคอยเล่าบอกเป็นระยะ

        สมัยแต่ก่อนนั้น พี่บุญเลิศเคยเป็นคนหิ้วหนัง 16 มม.ไปฉายตามโรงหนงต่างๆ โดยมีพี่เสนาะตามไปด้วย ต่อมาจึงคิดไปปักหลักฉายหนังกลางแปลงที่จังหวัดอุดรธานี โดยซื้อเครื่องฉาย 16 มม.และซื้อฟิล์มหนัง ชาติเสือ จากพี่ออด ธีรชัย ไป (ต่อมาก็ซื้อขายกันมาเรื่อยๆ พอรู้ว่า พี่ออด ยังอยู่ พี่บุญเลิศก็ดีใจ อยากจะเจอกันอีก) พี่บุญเลิศไปเปิดฉายหนัง 16 มม.ที่อุดรฯ กิจการเจริญรุ่งเรือง มีหนัง 16 มม.เข้าออกบริการหลายๆ เรื่อง มีการแลกเปลี่ยนซื้อขายกับคนฉายหนังด้วยกันตลอดกระทั่งเปลี่ยนไปฉายหนัง 35 มม.จอกว้าง กิจการก็ยังดี มีจอฉายหนังถึง 7 จอ หนัง 35 มม.ที่ทำเงินดังๆ ที่จำได้ก็คือ ชูชก กัณหาชาลี ต่อมาบริการฉายหนังกลางแปลงเกิดการแข่งขันกันสูง ทำให้พี่บุญเลิศต้องยุบหน่วยฉายหนังลงไปเรื่อยๆ กระทั่งปี 2521 จึงเลิกกิจการฉายหนัง แต่ก็ยังคงเก็บกากฟิล์มไว้ซึ่งรวมทั้งกากฟิล์ม 16 มม.ด้วย ตอนนั้นกากฟิล์มจะเก็บอยู่บ้านตรงข้ามโรงหนังเฉลิมวัฒนา แต่เกิดน้ำท่วมเมืองอุดรฯ ทำให้กากฟิล์มที่อยู่ชั้นล่างเสียหายไปหมด แต่ก็ยังพอมีฟิล์มเหลืออยู่ ครั้นต่อมาก็เกิดไฟไหม้บ้านข้างเคียงอีก ก็มีการฉีดน้ำเลี้ยงคลุมบ้านพี่บุญเลิศด้วย ทำให้กากฟิล์มหนังที่เก็บไว้ชั้นบนเปียกน้ำ เสียหายไปอีก จึงนำกากฟิล์มทิ้งทั้งหมด

        พอถามถึงฟิล์มเรื่อง ชาติเสือ พี่บุญเลิศก็จำไม่ได้ว่า จะขายให้ใครไปก่อนไฟไหม้หรือก่อนน้ำท่วมหรือไม่ เพราะในระหว่างที่ยังฉายหนัง 16 มม.อยู่นั้น ก็จะมีการซื้อขายแลกเปลี่ยนฟิล์มหนังกันระหว่างคนฉายหนังบ้าง บางครั้งก็มีพวกหนังขายยาหน่วยเล็กๆ ในจังหวัดใกล้เคียงมาขอซื้อฟิล์มไปฉายบ้าง.. ตอนนี้ ก็เลยไม่รู้ว่า ชาติเสือ ที่เคยอยู่กับพี่บุญเลิศมานาน จะถูกน้ำท่วมหรือไฟไหม้.. หรือจะไปอยู่กับคนฉายหนังคนไหนครับ..


"มนัส กิ่งจันทร์ ภาคสอง ชุมทางหนังไทยในอดีต" โดยเติมคำว่า "ภาคสอง" คั่นกลางไว้..
อดีตจากฟิล์มภาพยนตร์ ไม่มีวันตาย..