ผู้เขียน หัวข้อ: MCU บทที่ 5 Quantum & Kang  (อ่าน 44 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ หลวงจีนหอไตร

  • หลวงจีนหอไตร Channel
  • Moderator
  • มือใหม่ ปรับชั้นต้องโพสรวม 30 กระทู้
  • ***
  • กระทู้: 25
  • พลังใจที่มี 0
  • เพศ: ชาย
  • หลวงจีนหอไตร ภาพยนตร์ เก่า-ใหม่
MCU บทที่ 5 Quantum & Kang
« เมื่อ: 12 พฤศจิกายน 2023, 15:11:37 »
ปี 1963 ที่โลก ฮาเวิร์ด สตาร์ค และ แอนทอน แวนโก้ นักฟิสิกซ์ซึ่งอพยพลี้ภัยมาจากรัซเซีย ร่วมกันสร้างเตาปฏิกรณ์อาร์คขึ้นมาได้สำเร็จ กลายเป็นวิทยาการพลิกโลก

ปี 1967 ฮาเวิร์ดไล่แอนทอนออก เพราะฮาเวิร์ดจับได้ว่า แอนทอนแอบขายความลับบริษัทสตาร์คอินดัสทรีส์ให้รัฐบาลรัสเซีย รัฐบาลสหรัฐฯจึงต้องเนรเทศไล่แอนทอนกลับรัสเซีย


หนังสือพิมพ์รายงานข่าวแอนทอนถูกเนรเทศ (Ironman 2)

ปี 1968 แอนทอนให้กำเนิดลูกชาย ไอแวน แวนโก้ แอนทอนเล่าให้ลูกชายฟังเสมอเรื่องที่ตนเองและฮาเวิร์ดร่วมกันคิดค้นเตาปฏิกรณ์อาร์ค แต่ตนเองกลับไม่เคยได้รับเครดิตหรือเงินทองชื่อเสียงเลย ไอแวนลูกชายแอนทอนจึงเจ็บแค้นครอบครัวสตาร์คมาก

ปี 1969 ฮาเวิร์ดเชิญให้ ดร.แฮงค์ พิม นักกีฎวิทยาหนุ่มชาวอเมริกัน และ นักวิทยาศาสตร์สาวที่ชื่อ เจเน็ต แวน ไดน์ ภรรยาดร.พิม ให้มาเป็นนักวิทยาศาสตร์และที่ปรึกษากับชิลด์ พร้อมกับที่ฮาเวิร์ดสนับสนุนให้ด็อกเตอร์พิมกับเจเน็ตวิจัยงานทดลองของทั้งสองได้อย่างเต็มที่


ดร. แฮงค์ พิม (Ant-Man 1)

ด็อกเตอร์พิมนั้นสนใจเกี่ยวกับวิถีชีวิตและสังคมของสายพันธุ์มดทุกชนิดบนโลก จนกระทั่งด็อกเตอร์พิมมีความคิดริเริ่มที่จะผลิต “อนุภาคพิม” ขึ้นมา เพื่อย่อส่วนทุกอย่างที่อนุภาคพิมเข้าไปควบคุมสิ่งนั้นรวมถึงสิ่งมีชีวิต ให้เล็กเท่ากับมด

และด็อกเตอร์พิมยังคิดค้น “ชุด” ที่มีไว้บรรจุอนุภาคพิม เพื่อควบคุมการย่อส่วนให้ได้ตามความต้องการอีกด้วย ซึ่งเจเน็ตนั้นก็ช่วยงานสามีด้านค้นคว้าสูตรอานุภาคพิมและชุดมาโดยตลอด


เจเน็ต แวน ไดน์ (Ant-Man 2)

จนกระทั่งด็อกเตอร์พิมผลิตชุดได้สำเร็จ พร้อมๆกับอานุภาคพิมด้วย รวมถึง EMP Communication Device หรือเครื่องสื่อสารกับมด ซึ่งด็อกเตอร์พิมเรียกชุดของเค้าว่า ANT-MAN suit หรือชุดแอนท์-แมนนั่นเอง และด็อกเตอร์พิมกับเจเน็ตยังได้ผลิตชุดของเจเน็ตขึ้นมาด้วยเช่นกัน โดยเรียกชุดของเจเน็ตว่า WASP suit หรือชุดวอส์ป

ด็อกเตอร์พิมคิดว่าถ้าสูตรนี้ไปอยู่ในมือคนผิด ต้องเกิดหายนะกับโลกแน่นอน ด็อกเตอร์พิมจึงทดลองใส่ชุดแอนท์-แมนด้วยตนเอง และประสบความสำเร็จในการย่อส่วนขยายส่วนได้เป็นอย่างดี รวมถึงเจเน็ตก็สวมชุดวอส์ปย่อส่วนขยายส่วนสำเร็จด้วยดีเช่นกัน


ดร.พิมและเจเน็ตในชุดแอนท์แมนและวอส์ป (Ant-Man 1)

ซึ่งการที่ด็อกเตอร์พิมประดิษฐ์วิทยาการพลิกโลกนี้ได้สำเร็จ ทำให้ฮาเวิร์ดตื่นเต้นเป็นอย่างมาก และอยากได้สูตรอนุภาคพิมของด็อกเตอร์พิม แต่ด็อกเตอร์พิมยังไม่ไว้ใจให้ใครได้สูตรนี้ไป

ปี 1970 ฮาเวิร์ด สตาร์ค และภรรยา มาเรีย สตาร์ค ก็ได้บุตรชายเพียงคนเดียวของทั้งสอง มาเรียและฮาเวิร์ดตั้งชื่อลูกชายของพวกเขาว่า Anthony Edward “TONY” Stark (โทนี่ สตาร์ค)

ปี 1972 ดร.โซล่าก็เสียชีวิตลงด้วยโรครุมเร้าหลายชนิด แต่ด้วยวิทยาการความรู้และเทคโนโลยีของชิลด์ จึงเก็บข้อมูลมันสมองความรู้ของดร.โซล่าไว้ในระบบคอมพิวเตอร์เซิฟเวอร์หลักของชิลด์ในฐานแรกที่นิวเจอร์ซี่ ด้วยว่าชิลด์เสียดายความรู้ความสารถของดร.โซล่านั่นเอง

แม้ร่างกายจะตายไป แต่ดร.โซล่าจึงกลับเป็นอมตะในระบบสมองกลแทน และนี่ก็เป็นอีกครั้งในการตัดสินใจผิดพลาดอย่างมหันต์ของชิลด์ ที่เก็บโซล่าไว้ในเซิฟเวอร์หลัก ดร.โซล่าร์จึงรวมรวบไฮดร้าซ่อนเร้นภายในชิลด์แบบลับๆได้ต่อไปเรื่อยๆ..


ดร.โซล่ากลายเป็นสมองกล (cap 2 Winter Soldier)

ปี 1974 งานสตาร์คเอ๊กโปว์ครั้งที่ 1 ก็เกิดขึ้นในปีนี้ และตั้งแต่ฮาเวิร์ดเข้ามาเป็นผู้ก่อตั้งหน่วยชิลด์ ฮาเวิร์ดก็ได้ทำการวิเคราะห์พลังงานแทซเซอแร๊คนานนับหลายสิบปี จนฮาเวิร์ดสามารถจำลองพลังงานแทซเซอแร๊คได้เป็นบางส่วน

แค่นี้ก็เพียงพอ ที่จะให้กำเนิดเป็นธาตุให้พลังงานตัวใหม่ แต่วิทยาการสมัยนั้นไม่เอื้ออำนวย ฮาเวิร์ดจึงซ่อนสูตรการสร้างธาตุตัวใหม่นี้ไว้ในผังโครงสร้างงานสตาร์คเอ๊กซ์โปว์ และอัดวีดีโอบอกใบ้ให้ลูกชาย โทนี่ สตาร์ค เอาไว้


ฮาเวิร์ดอัดวีดีโอให้โทนี่ดูในภายภาคหน้า (Ironman 2)

ณ กาแล็กซี่อันไกลโพ้น อีกฟากของจักรวาล เอเลี่ยนเผ่าพันธุ์สครัลล์ ที่มีความสามารถแปลงร่างได้  ได้ทำการแข็งข้อกับจักรวรรดิครี จึงถูก โรแนน ผู้กล่าวโทษ นำกองทัพถล่มดาวสครัลโลสอย่างหนัก


โรแนน ผู้กล่าวโทษ (Captain Marvel)

สครัลล์ยื้อสู้ได้ไม่นาน ดาวสครัลโลสก็ยื้อไม่ไหว ดาวระเบิด สครัลล์ต้องหนีตายออกจากดาวบ้านเกิดกระจัดกระจายไปทั่วกาแล็กซี่ ชาวสครัลล์ต้องการเพียงบ้านใหม่ ชาวสครัลล์ส่วนนึงจึงแอบลี้ภัยมาอยู่บนดาวทอร์ฟ่า (Torfa) ซึ่งอยู่สุดเขตชายแดนจักรวรรดิครีอย่างเงียบๆ


เทโลส ผู้นำสครัลล์บนดาวทอร์ฟ่า (Captain Marvel)

ปี 1975 ณ จักรวรรดิครี ยอนดูที่เป็นเชลยศึกของครีมายาวนาน 20 ปี ก็ได้รับการช่วยเหลือจากหน่วยราเวเจอร์ นำโดยกัปตัน Stakar Ogord (สตาคาร์ โอกอร์ด) แห่ง House of Ogord (ตระกูลโอกอร์ด) ซึ่งเป็นแคลนที่ใหญ่ที่สุดในราเวเจอร์ สตาคาร์ต้อนรับให้ยอนดูอยู่ในราเวเจอร์ดุจดั่งพี่น้อง


กัปตัน สตาร์คาร์ โอกอร์ด แห่งราเวเจอร์ (Guardians of the Galaxy Vol.2)

ยอนดู รักและเคารพสตาคาร์ดั่งพี่ชาย มีพี่น้องเป็นสลัดอวกาศมากมายในราเวเจอร์ จนกระทั่งยอนดูได้เลื่อนขึ้นชั้นมาเป็นกัปตันยาน Elector (แอลเลคเตอร์) แห่งราเวเจอร์ในที่สุด และหลังจากนั้น ทุกคนก็เริ่มแยกย้ายกันปล้น

อีโก้ ที่ต้องการมีลูกที่ได้พลังเซเลสเทียลของตน ได้ว่าจ้างให้ ยอนดู อูดอนต้า นำลูกๆของตนมาที่ดาวอีโก้ เพื่อทดสอบพลังเซเลสเทียล แต่ไม่เคยมีลูกคนไหนได้พลังนี้เลย อีโก้จึงสังหารลูกๆเหล่านั้น และฝังไว้ในโพรงใต้ดินดาวตนเอง


กัปตัน ยอนดู อูดอนต้า แห่งราเวเจอร์ (Guardians of the Galaxy Vol.2)

เมื่อสตาร์คาร์รู้เรื่องราวของยอนดู ที่ลักพาตัวเด็กไปส่งให้อีโก้ สตาร์คาร์จึงโกรธยอนดูมากที่ทำเรื่องแบบนั้นได้ลงคอ จึงประกาศตัดขาดยอนดูจากความเป็นพี่เป็นน้อง ทำให้ยอนดูเสียใจมาก

ที่โลก แครอล แดนเวอร์ส (Carol Danvers) สาวน้อยผู้มีจิตใจกล้าหาญ เริ่มเรียนรู้การขับเครื่องบิน และวางแผนอนาคตไว้ว่า เมื่อเติบโตขึ้น เธอจะต้องขับเครื่องบินรบให้กับกองทัพสหรัฐให้จงได้


แครอล แดนเวอร์ส (Captain Marvel)

ปี 1980 อีโก้ ดวงดาวที่มีชีวิต ตัดสินใจลงมาที่โลก บริเวณรัฐมิซซูรี่ และเพาะเมล็ดพันธุ์ส่วนนึงของร่างเทพตนเองไว้ในผืนแผ่นดินโลกด้วยเช่นกัน แต่การมาที่โลก อีโก้ก็พบรักกับสาวสวยมนุษย์โลกนามว่า เมเรอดิธ ควิลล์

ทั้งอีโก้และเมเรอดิธมีความสัมพันธ์กันลึกซึ้ง จนมีลูกชายด้วยกันที่ชื่อ “ปีเตอร์ ควิลล์” หลังจากนั้นอีโก้จึงเดินทางออกจากโลกมุ่งสู่ห้วงอวกาศที่ไกลแสนไกลข้ามกาแล็กซี่ไปยังดาวดวงอื่นๆต่อไป


อีโก้ และ เมเรอดิธ (Guardians of the Galaxy Vol. 2)

แต่อีโก้ ก็แอบกลับมาโลกโดยที่เมเรอดิธไม่รู้ เพื่อฝังมะเร็งไว้ในตัวเมเรอดิธ เพราะอีโก้เริ่มรักเมเรอดิธจริงๆ และนั่นจะทำให้แผนการอันยิ่งใหญ่ของตนไขว้เขว กำจัดเมเรอดิธทิ้งไปจะเป็นการดีกว่า

ที่กลางอวกาศอันไกลโพ้น.. High Evolutionary สิ่งมีชีวิตอัจฉริยะที่มีความรู้สูงปรี้ด ได้ทำการสร้างชีวพันธุกรรมและสร้างอารยธรรมบนดวงดาวต่างๆมากมาย หนึ่งในนั้นคือชาวโซเวอเรี่ยน (Sovereign) ที่มีผิวสีทอง รูปร่างหน้าตามงดงาม และมันสมองที่ฉลาดล้ำ ไฮอีโวลูชั่นนารี่ปล่อยให้ชาวโซเวอเรี่ยนนั้นปกครองดูแลวิวัฒนาการกันเองไม่ไปยุ่งเกี่ยว


อเยชา ผู้นำชาวโซเวอเรี่ยนที่ไฮอีโวลูชั่นนารี่เพาะพันธุ์ขึ้น (Guardians of the Galaxy Vol.2)

ที่โลก และไฮอีโวลูชั่นนารี่ก็ลงมาที่โลกในยุค 80′ รู้สึกถูกใจกับวัฒนธรรมและงานศิลปะของมนุษย์โลก เขาจึงตั้งใจจะเอาการดำรงชีวิตของมนุษย์ยุค 80′ เป็นต้นแบบเพื่อสร้างอารยธรรมที่ไร้ที่ติของตนเองซักวันนึง แต่ยังไม่สำเร็จ เพราะเขายังไม่สามารถทำให้สัตว์เดรัจฉานวิวัฒนาการให้มีสมองชาญฉลาดได้เทียบเท่าฮิวแมนนอยอย่างมนุษย์นั่นเอง ซึ่งไฮอีโวลูชั่นนารี่จับสัตว์บนโลกไปหลากหลายสายพันธุ์ขึ้นยานไปด้วย


ไฮอีโวลูชั่นนารี่ ผู้หลงไหลการวิวัฒฯ (Guardians of the Galaxy Vol.3)

ที่หน่วยชิลด์ ด็อกเตอร์พิมมีเพื่อนนักวิทยาศาสตร์ในชิลด์ที่สนิทกัน 2 คน นั่นก็คือ ดร.บิล ฟอสเตอร์ และ ดร.เอไลแอส สตาร์ ซึ่งด็อกเตอร์พิมกับบิลสนิทสนมกันมาก ถึงขนาดร่วมด้วยช่วยกันทำโปรเจค “โกไลแอธ” ขึ้นมา

ซึ่งโกไลแอธ เป็นโปรเจคที่ทำให้ผู้สวมชุดโกไลแอธ สามารถขยายร่างให้ใหญ่ขึ้นได้ แต่ด็อกเตอร์พิมกับบิลก็มีความเห็นไม่ตรงกัน ทั้งสองจึงหมางเมินกันไป โปรเจคโกไลแอธจึงหยุดพัฒนานับตั้งแต่นั้น


ดร.บิล ฟอสเตอร์ (Ant-Man 2)

สองสามี-ภรรยานั้น ฝึกการใส่ชุดมหัศจรรย์นี้จนกระทั่งควบคุมชุดได้อย่างสมบูรณ์แบบ ชุดวอส์ปดั้งเดิมของเจเน็ตมีสีแดงเหมือนชุดแอนท์-แมน แต่พิเศษกว่าคือมีปีกบินได้ ซึ่งเจเน็ตและด็อกเตอร์พิมมีแผนที่จะสร้างชุดวอส์ปรุ่นอัพเกรดอีกตัวนึงด้วย แต่ยังอยู่ในขั้นทดลอง (ชุดสีทอง)


ชุดวอส์ป No.2 สีทอง (Ant-Man 1)

ปี 1980 ไอเซอาห์ แบรดลีย์ ซุปเปอร์โซลเยอร์ผิวดำชาวอเมริกัน ถูกรัฐบาลจับขังวิจัยและทรมานโดยกองทัพของตัวเองยาวนานถึง 30 ปี จนกระทั่งพยาบาลคนนึงสงสารจึงช่วยหนี และลงบันทึกว่าเอไซอาห์ตายไปแล้ว หลังจากนั้น ไอเซอาห์ก็หลบอยู่ในเงามืดของสังคมผิวดำอเมริกัน ไม่ยุ่งเกี่ยวกับโลกภายนอกอีก

ปี 1987 ชิลด์ได้ข่าวจากสายลับของตนในยุโรป ว่าทหารไฮดร้าที่ยังหลงเหลืออยู่นั้น กำลังทำการทดลองลับๆกับมนุษย์อยู่ในเบอร์ลินตะวันออก ฮาเวิร์ดหลังจากได้ทราบข่าว จึงเข้ามาพบกับด็อกเตอร์พิมเพื่อขอยืมชุดแอนท์-แมนให้ มิทต์ คาร์สัน ใส่ชุดไปบุกฐานไฮดร้าที่เบอร์ลิน ซึ่งมิทท์คือหัวหน้าหน่วยป้องกันมาตุภูมิของชิลด์ (มิทท์คือไฮดร้าในคราบชิลด์) แต่ด็อกเตอร์พิมไม่ให้ ทั้งสองจึงมีปากเสียงกันเล็กน้อย


มิท คาร์สัน (Ant-Man 1)

เพ็กกี้ คาร์เตอร์ เข้ามาห้ามอัจฉริยะทั้งคู่ และเพกกี้ก็ให้ฮาเวิร์ดออกไปคอยข้างนอกก่อน เธอจะเจรจากับด็อกเตอร์พิมเอง เพกกี้ทดสอบด็อกเตอร์พิม ด้วยการให้ด็อกเตอร์พิมใส่ชุดแอนท์-แมน และเพกกี้ก็ใช้ปืนจ่อยิงด็อกเตอร์พิมทันที แต่ด็อกเตอร์พิมก็ย่อส่วนหลบกระสุนได้อย่างรวดเร็ว

เพกกี้จึงไปคุยกับฮาเวิร์ดให้ด็อกเตอร์พิมไปลุยเบอร์ลินด้วยตนเอง ถึงแม้ฮาเวิร์ดจะไม่ค่อยเห็นด้วย เพราะด็อกเตอร์พิมเป็นนักวิทยาศาสตร์ แต่ก็ไม่มีใครในหน่วยชิลด์ใส่ชุดแอนท์-แมนได้ ฮาเวิร์ดจึงยอมรับกับการตัดสินใจของเพกกี้เรื่องให้ด็อกเตอร์พิมลุยเบอร์ลิน


เพกกี้ คาร์เตอร์ 1 ใน 3 ผู้ก่อตั้งชิลด์ (Ant-Man 1)

เมื่อด็อกเตอร์พิมบุกฐานไฮดร้าที่เบอร์ลินตะวันออก ด็อกเตอร์พิมจึงรู้ว่าไฮดร้าทำการทดลองล้างสมองมนุษย์นั่นเอง(เหมือนบัคกี้) ที่สุดแล้วด็อกเตอร์พิมกับชุดแอนท์-แมนของเค้าก็ปฎิบัติภารกิจทำลายฐานนี้และช่วยผู้ทดลองได้สำเร็จ

ตั้งแต่นั้นมา เพกกี้ก็ให้ความสำคัญกับด็อกเตอร์พิมและผลักดันเพื่อบรรจุให้เป็นสายลับพิเศษทันที ฮาเวิร์ดก็ไม่คัดค้านเพกกี้ แต่ฮาเวิร์ดก็ยังไม่ล้มเลิกความคิดอยากได้สูตรอานุภาคพิมอันนี้อยู่ดี


ฮาเวิร์ด สตาร์ค 1 ใน 3 ผู้ก่อตั้งชิลด์ (Ant-Man 1)

ชิลด์ได้รับข่าวกรองจากสายลับในยุโรปว่า กลุ่มแบ่งแยกดินแดนของรัสเซีย ขโมยจรวดนิวเคลียร์ไปจากกองทัพรัสเซีย และยิงมาที่สหรัฐ เพื่อหวังให้ทั้งสองประเทศมหาอำนาจทำสงครามกันเอง ชิลด์จึงส่งแอนท์-แมนหรือด็อกเตอร์พิมไปยับยั้งจรวดนิวเคลียร์ทันที


ด็อกเตอร์พิม อยู่ชิลด์มา 18 ปีแล้ว (Ant-Man 1)

เจเน็ตขอด็อกเตอร์พิมไปปฎิบัติภารกิจนี้ด้วย ด็อกเตอร์พิมขัดใจเจเน็ตไม่ได้ จึงยอมให้เจเน็ตใส่ชุดวอส์ปไปลุยภารกิจด้วยกัน

ด็อกเตอร์พิมและเจเน็ตขึ้นไปบนจรวดนิวเคลียร์ และด็อกเตอร์พิมก็พยายามเจาะจรวด แต่เจาะยังไงก็ไม่เข้าเพราะทำจากไทเทเนียม จรวดนิวเคลียร์ก็กำลังจะถึงชายฝั่งอเมริกาในอีกไม่กี่อึดใจ


แอนท์แมนและวอส์ปพยายามเจาะหัวรบ (Ant-Man 1)


เจเน็ตจึงตัดสินใจปิดตัวควบคุมสเถียรและย่อส่วนจนเล็กกว่ามด เล็กกว่าอะตอม เพื่อแทรกโมเลกุลของจรวดเข้าไปทำลายวงจรข้างใน และเจเน็ตก็ทำสำเร็จ จรวดตกลงนอกชายฝั่งอเมริกาโดยไม่ระเบิด แต่เจเน็ตก็หายสาปสูญไปเลยนับตั้งแต่บัดนั้น

ที่มิติควอนตัม ที่นี่อยู่เหนือกาลเวลา เจเน็ตหลงอยู่ที่นี่จนกระทั่งไปพบกับชาวควอตัมเมี่ยน กลุ่มสิ่งมีชีวิตหลากหลายสปีชีส์ที่กำเนิดที่นี่บ้าง หรือหลงทางมาแบบเจเน็ตบ้าง เจเน็ตจึงต้องจำเป็นเรียนรู้มีชีวิตอยู่รอดจากสัตว์ประหลาดในมิติควอนตัมแห่งนี้

ที่โลก ด็อกเตอร์พิมนั้นเศร้าโศกเสียใจกับการหายสาปสูญไปของเจเน็ตภรรยาสุดที่รัก และเริ่มหมกมุ่นกับการค้นหาความเป็นไปได้ที่เจเน็ตหายไป จนทำให้ด็อกเตอร์พิมละเลยโฮปลูกสาววัย 10 ขวบของตนเอง


โฮป แวน ไดน์ (Ant-Man 2)

โฮปนั้นสูญเสียทั้งแม่ แถมพ่อยังห่างเหินไปอีก ทำให้โฮปเคว้งคว้างตั้งแต่เด็ก โดยที่ด็อกเตอร์พิมเก็บชุดวอส์ปสีทองของเจเน็ตเอาไว้ และไม่พัฒนาชุดวอส์ปสีทองอีกเลย

ปี 1988 ที่โลก โดยในระหว่างนี้ ด็อกเตอร์พิมก็ยังทำงานสายลับพิเศษบุกลุยผู้ก่อการร้ายต่างๆในทวีปยุโรปให้ชิลด์เช่นเดิม มีครั้งนึงด็อกเตอร์พิมปะทะเทนริงส์ของเวิ๋นหวู่ด้วย

แฮงค์พยายามจะช่วยเจเน็ตกลับมาจากมิติควอนตัม จึงคิดค้นการสร้างอุโมงค์ควอนตัมขึ้น แต่แบบแปลนการสร้างอุโมงค์ควอนตัม กลับโดนเพื่อนนักวิทยาศาสตร์ในชิลล์คือเอไลแอสขโมยไปแอบสร้างแบบลับๆในบ้านตนเอง

เอไลแอสไม่สามารถควบคุมให้อุโมงค์ควอนตัมมีความเสถียรได้ จึงทำให้เกิดการระเบิดขึ้น เอไลแอสและภรรยาตายในทันที หากแต่ลูกสาว เอวา สตาร์ กลับรอดชีวิต


ดร.เอไลแอส สตาร์ (Ant-Man 2)

แต่การรอดชีวิตของเอวา ก็แลกมาด้วยการถูกรังสีควอนตัมทำปฏิกิริยากับร่างกาย ทำให้อนุภาคร่างกายไม่เสถียร เซลนั้นแยกและประกอบรวมกันใหม่  เอวาจึงสามารถแทรกผ่านวัตถุใดๆก็ได้เหมือนผี เอวาจึงถูกหน่วยชิลด์นำไปฝึกฝนตั้งแต่เด็ก เพื่อเป็นสายลับ


เอวา สตาร์ (Ant-Man 2)

ที่มิติควอนตัม หลังจากเจเน็ตอยู่ในนี้นานวันเข้า จึงเรียนรู้ที่จะหลบหลีกเอาชีวิตรอดจากสัตว์ประหลาดต่างๆได้คล่องแคล่ว กระทั่งวันนึง เจเน็ตก็พบยานเดินทางหล่นลงมาในมิติควอนตัม เจเน็ตไปที่ยานนั้น และได้รู้จักกับคนขับยานมา เขาผู้นั้นคือ นาธาเนียล ริชาร์ดส

นาธาเนียลบอกกับเจเน็ตว่า ตัวเขาคือมนุษย์โลกในศตวรรษที่ 31 (ก็คือประมาณ 1,000 ปี หลังจากนี้) เขาประสบอุบัติเหตุตกสู่มิติควอนตัม ยานเดินทางข้ามเวลาที่ชื่อ เก้าอี้แห่งเวลา ของนาธาเนียลนั้นขับเคลื่อนไม่ได้ เนื่องจากขุมพลังของยานที่ชื่อ แกนกลางเครื่องจักรแห่งพหุภพ นั้นเสียหาย


เก้าอี้แห่งเวลา หรือ ยานเดินทางข้ามพหุภพ (Ant-Man and the Wasp: Quantumania)

*** หมายเหตุ ; มิติควอนตัมเหมือนแดนสนธยา ที่กาลเวลาไม่ตายตัว มันอยู่นอกเหนือการไหลของเวลาปกติ ทำให้นาธาเนียลนั้นอยู่คนละช่วงเวลากับเจเน็ตในโลกภายนอก แต่มาเจอกันเวลาเดียวกันในมิติควอนตัมนะครับ***

เจเน็ตนั้นถูกนาธาเนียลหว่านล้อมว่า จะพาเจเน็ตย้อนเวลากลับไปที่เอกภพเดิมของเธอ หากเธอช่วยเขาซ่อมแซมพลังงานแกนเครื่องพหุภพได้ เจเน็ตกับแคงจึงช่วยกันซ่อมจนมันกลับมาทำงานอีกครั้ง


นาธาเนียล กับ เจเน็ต กลายเป็นเพื่อนซี้กัน (Ant-Man and the Wasp: Quantumania)

วินาทีที่เจเน็ตสัมผัสยานเก้าอี้แห่งเวลาที่กำลังเดินเครื่อง เจเน็ตก็นิมิตภาพว่านาธาเนียลนั้นเข่นฆ่าผู้คนไปนับไม่ถ้วนจากการกำจัดเอกภพอื่นๆที่ไม่ใช่เอกภพตนเอง นาธาเนียลคนนี้โหดเหี้ยมเลวร้ายเกินไป เจเน็ตจึงดึงแกนออก ใช้เครื่องขยายส่วนอนุภาคพิมปาใส่แกนเครื่องยนต์พหุภพ ผลทำให้แกนนั้นขยายใหญ่ นาธาเนียลก็ใช้แกนไม่ได้ และเจเน็ตก็หนีไป

เมื่อนาธาเนียลออกไปสู่มิติความเป็นจริงปกติไม่ได้ นาธาเนียลจึงเริ่มสร้างกองทัพชีวสังเคราะห์กึ่งจักรกลของเขาขึ้นมาในมิติควอนตัม ทำการยึดครองที่นี่ และตามล่าเจเน็ตไปทั่ว แต่ก็ไม่พบ

เดือดร้อนไปถึงพวกควอตัมเมี่ยน ที่ถูกแคงตามล่าเข่นฆ่าเพื่อหาตัวเจเน็ต พวกเขาจึงหลบเข้าไปซ่อนในมุมลึกลับของมิติควอนตัม ตั้งกลุ่มต่อต้านแคงขึ้นมา


วิเคราะห์ภาพยนตร์และซีรี่ย์ อย่างตรงไปตรงมาครับผม

moviesoldnew.com@gmail.com
www.luangjeanhortri.com
https://www.facebook.com/moviesoldnew
https://twitter.com/MoviesOldNew
https://www.youtube.com/@Lhuangjeanhortri/featured
ติดต่อ 0986398253
เลขบัญชี 001-8101-661 (กสิกร KBANK)  กุลชาติ จันกระโทก