ใยพระพรหม นำฉัน ให้มาได้เจอ พานพบเธอ แต่ให้เธอ มีเขาผูกพัน สุดเฉลย เอ่ยความช้ำ กรรมเรานั่น..ได้ดูครับ แต่ดูไม่จบ..“รักต้องห้าม” หนังที่สร้างขึ้นจากเพลงดังของหมอวราห์ วรเวช ซึ่ง พันธุ์เทพ อรรถไกวัลวที สร้างเป็นหนัง 35 มม. นำแสดงโดย สมบัติ-พิศมัย-เนาวรัตน์ วัชรา โดยมี ชุติมา สุวรรณรัตน์ เป็นผู้กำกับการแสดง ออกฉายเมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน 2515 ที่โรงหนังแมคเคนน่า กรุงเทพฯ เรียกได้ว่า เป็นหนังรักเรียกน้ำตาคนดูในยุดนั้นจริงๆ ผมมีโอกาสได้ดู รักต้องห้าม นี้จากจอหนังกลางแปลงสมัยยังเป็นเด็กนักเรียน ตอนนั้นหนังเขามาฉายแบบฉุกละหุกจริงๆ เพราะที่โรงหนังศรีสุรินทร์ เขามีดนตรีลูกทุ่งวงใหญ่มาแสดง 2 รอบบ่าย-ค่ำ ตอนแสดงรอบบ่ายก็ไม่มีปัญหาอะไร แต่พอรอบค่ำซึ่งเป็นรอบที่จะทำเงินได้มากๆ นั้น ผมก็ได้ยินคนแถวๆ บ้านผม เขาพูดกันว่า มีหนังกลางแปลงฉายที่หลังสถานีรถไฟสุรินทร์ ซึ่งก็อยู่เยื้องๆ กับโรงหนังศรีสุรินทร์นั่นแหละ ตอนนั้นผมก็ยังเด็ก ก็ฟังรู้บ้าง ไม่รู้บ้าง แต่ก็ได้ใจความว่า เป็นการฉายแย่งคนที่จะมาดูดนตรีที่โรงหนังศรีสุรินทร์เพราะนักร้องหัวหน้าวงมีเรื่องขัดใจกับสถานีวิทยุเพราะไม่ยอมไปออกวิทยุกับเขา ผมก็รีบเผ่นอ้าวๆๆ ไปที่หลังสถานีรถไฟ ก็เห็นเขาตั้งจอหนังกันแต่หัววัน พอพลบค่ำหน่อยๆ เขาก็รีบฉายหนังกันทันที ก็เรียกว่าบางคนที่ไม่ตั้งใจจะไปดูดนตรี มาเจอจอหนังเข้า ก็เกิดเปลี่ยนใจ สมัยนั้น ตั๋วโรงหนังตามปกติ ชั้นบนแพงสุดก็ 6-15 บาท แต่เวลามีดนตรีมาเล่นนั้น ตั๋วจะอยู่ที่ 50-60 บาท ปี 2516 ก็ถือว่าแพงละครับ..
ถ้าไม่ตั้งใจมาดูดนตรีจริง ๆ ก็ไขว้เขวเหมือนกัน..หนังที่เขาเอามาฉายชนดนตรีในคืนนั้นก็คือเรื่อง รักต้องห้าม ผมก็ยืนดูหนังอยู่ใกล้ๆ เครื่องฉาย หนังเรื่องนี้ยาวมาก แต่ดูได้แค่ 2-3 ม้วนเท่านั้นเอง คนฉายเขาก็หยุดฉาย..แล้วก็ประกาศว่า คืนนี้ หยุดฉายแค่นี้ก่อน เอาไว้ดูวันหลังเพราะคืนนี้อยากจะให้ไปดูดนตรีที่มาเล่นที่โรงหนังก่อนเพราะนานๆ เขาจะมาสักที..อ้าวไงเป็นงั้นไป..ผมก็ได้ยินเด็กหนังเขาพูดกันว่า เขาคุยกันได้แล้ว เก็บจอกลับบ้าน..ปัจจุบัน รักต้องห้าม เป็นหนังที่หากากฟิล์มมาฉายอีกไม่ได้แล้วและคิดว่า คงไม่มีหวังจะได้ดูอีกแล้ว อย่างไรก็ตาม ต่อมาปี 2531 รักต้องห้าม ก็ถูกนำมาสร้างใหม่อีกครั้ง แต่เปลี่ยนชื่อเรื่องเป็น รักด้วยชีวิต นำแสดงโดย อภิชาติ-สินจัย-ปัญญา-วจี แต่ไม่มีเพลงนี้นะครับ..
ภาพนิ่งจากหนังสือดาราเก่า "รักต้องห้าม ปี 2515"
