รวมพลคนเล่น Projector / Digital Cinema > การฉายภาพเคลื่อนไหวในระบบ Digital
ประวัติความเป็นมาเครื่องฉายโปรเจ็คเตอร์
rocket man:
อ้างอิงที่มาจาก http://www.learners.in.th/blogs/posts/309866
ประวัติความเป็นมาของโปรเจคเตอร์
Magic Lantern หรือ Lanterna Magica นับว่าเป็นบรรพบุรุษยุคเริ่มแรกของเครื่องฉายภาพ เมื่อปี ค.ศ.1671 นักวิทยาศาสตร์ชาวเยอรมัน Athanasius Kircher ได้อธิบายแนวคิดของอุปกรณ์สำหรับฉายภาพด้วยหลอดภาพที่ใช้น้ำมันเป็นเชื้อเพลิง เลนส์และภาพที่ถูกวาดลงบนแผ่นกระจกเพื่อฉายภาพไปบนจอภาพ อีกหลายปีต่อมาแนวคิดนี้ก็ได้ถูกพัฒนาและปรับปรุงโดยนักฟิสิกส์จนกลายเป็นอุปกรณ์ฉายภาพขึ้น ในสมัยนั้นการแสดงการฉายภาพด้วย Magic Lantern ที่เป็นที่นิยมกันในทวีปยุโรปเรียกว่า Phantasmagoria ในศตวรรษที่ 19 ขณะที่การแสดง Phantasmagoria กำลังเป็นที่เฟื่องฟูผู้ที่ทำการฉายภาพ (Projectionists) จะเดินทางไปตามสถานที่ต่างพร้อมด้วยเครื่องฉายภาพ Magic Lantern ของเขาและภาพสไลด์เป็นจำนวนมาก หนึ่งในการแสดงที่มีชื่อเสียง The Rat Swallower (การ์ตูนยุคเริ่มแรกถูกฉายโดย Magic Lantern) เป็นที่ชื่นชอบของเด็กๆเป็นอย่างมาก ต่อมาเมื่อมีการคิดค้นเทคนิคการถ่ายภาพได้สำเร็จก็ได้ก่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ขึ้นกับภาพถ่ายและภาพสไลด์ มีการนำเนอภาพสไลด์ของที่ดิน ขอบเขตพื้นที่สำคัญของประเทศต่างๆและภาพบุคคล ภาพถ่ายในลักษณะต่างๆมีความเป็นเรื่องเป็นราวมากขึ้นและมีออกมาวางจำหน่ายอย่างต่อเนื่อง ถึงแม้ว่า Magic Lantern และสไลด์จะประสพความสำเร็งอย่างสูงในยุคศตวรรษที่ 19 แต่ต่อมาก็ได้เสื่อมความนิยมลงเมื่อมีการคิดค้นประดิษฐ์ภาพเคลื่อนไหว (Motion Picture) เกิดขึ้น
rocket man:
ในช่วงยุคทศวรรษ 1950 ได้มีการคิดค้นประดิษฐ์อุปกรณ์สำหรับฉายภาพที่มีประสิทธิภาพที่สูงขึ้งมีความสามารถมากขึ้นอย่างเครื่องฉายภาพทึบแสง (Opaque Projector) เครื่องฉายภาพจากแผ่นใส (Over Head Projector หรือเรียกย่อว่า OHP) และเครื่องฉายภาพสไลด์ (Slide Projector) เริ่มแรกเครื่องฉายภาพทึบแสง (Opaque Projector) ได้ถูกประดิษฐ์ขึ้นโดยใช้แหล่งกำเนิดแสงชนิด Limelight เครื่องฉายภาพชนิดนี้ถูกใช้ในการฉายภาพจากหนังสือหรือภาพวาด เครื่องฉายภาพทึบแสง (Opaque Projector) ถูกผลิตและจำหน่ายเพื่อเป็นเครื่องมือที่ใช้ในการขยายภาพให้ใหญ่ขึ้นเพื่อฉายไปบนจอรับภาพสำหรับการบรรยายหรือการอภิปราย เครื่องฉายภาพสไลด์ (Slide Projector) อุปกร์สำหรับฉายภาพที่ประกอบด้วยสี่ส่วนใหญ่ๆด้วยกัน แหล่งกำเนิดแสง ส่วนที่ใช้สะท้อนแสงไปยังแผ่นสไลด์ ส่วนที่ใช้แผ่นสไลด์และเลนส์ แสงจะถูกส่องผ่านแผ่นสไลด์และเลนส์ทำให้เกิดเป็นภาพขึ้นที่จอรับภาพ เครื่องฉายภาพสไลด์ (Slide Projector) เป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายในช่วงทศวรรษ 1950 ถึงทศวรรษ 1960 เครื่องฉายภาพจากแผ่นใส (Over Head Projector หรือเรียกย่อว่า OHP) เครื่องแรกถูกนำมาเป็นเครื่องมือที่ใช้ในการวินิจฉัยในการทำงานของตำรวจและถูกใช้เป็นครั้งแรกในกองทัพสหรัฐอเมริกาช่วงปี ค.ศ.1945 ซึ่งเป็นช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง หลังจากนั้น OHP ก็ได้มีการใช้กันอย่างแพร่หลายมากขึ้นในวงการการศึกษาและธุรกิจในช่วงทศวรรษ 1950 และทศวรรษ 1960 โดยผู้ผลิต OHP ในช่วงแรกๆคือบริษัท 3M
rocket man:
จากความร่วมมือของบริษัททางฝั่งยุโรปและบริษัทในประเทศญี่ปุ่นในช่วงปลายทศวรรษ 1970 ได้มีการพัฒนาสื่อสำหรับบันทึกข้อมูลภาพและเสียงโดยใช้แถบแม่เหล็กเรียกว่าวีดีโอเทป มีการบันทึกข้อมูลหลากหลายลงในวีดีโอเทปรวมทั้งภาพยนตร์โดยฉายออกทางจอมอนิเตอร์ซึ่งส่วนใหญ่จะใช้ฉายกับโทรทัศน์ แต่เนื่องจากการฉายภาพออกทางโทรทัศน์ให้ภาพขนาดเล็กไม่สามารถรองรับผู้ชมจำนวนมากได้จึงได้มีการพัฒนาอุปกรณ์ที่จะสามารถฉายภาพขนาดใหญ่ขึ้น
rocket man:
เครื่องฉายภาพวีดีโอ (Video Projector) อุปกรณ์ฉายภาพจากสัญญาณวีดีโอและฉายภาพไปบนจอรับภาพ (Projection Screen)
เครื่องฉายภาพวีดีโอในยุคแรกใช้เทคโนโลยี CRT (Cathode Ray Tube) ในการสร้างภาพโดยภาพจะถูกปรับความคมชัดและปรับขยายขนาดด้วยเลนส์เพื่อฉายออกไปที่จอรับภาพ เครื่องฉายภาพ CRT (CRT Projector) รุ่นใหม่สามารถฉายภาพสีโดยใช้ CRT สามสี (สีแดง สีเขียงและสีน้ำเงิน) และใช้เลนส์แยกต่างห่างสำหรับแต่ละสีในการฉายภาพ เครื่องฉายภาพ CRT ที่ได้รับความนิยมมีหลายยี่ห้อเช่นยี่ห้อ Barco , Electrohome , Mitsubishi , NEC , Panasonic และ Sony เครื่องฉายภาพ CRT เสื่อมความนิยมลงเรื่อยๆอันเนื่องมาจากขนาดเครื่องที่ค่อนข้างใหญ่ในปัจจุบันยังมีการผลิตเครื่องฉายภาพชนิดนี้อยู่บ้างแต่ก็สู้เครื่องฉายภาพรุ่นใหม่ๆที่ใช้เทคโนโลยี DLP , LCD หรือ LCOS ไม่ได้
rocket man:
เครื่องฉายภาพ LCD (LCD Projector) ได้ถูกประดิษฐ์ขึ้นโดยนักประดิษฐ์ชาวนิวยอร์กชื่อ Gene Dolgoff โดยมีแนวคิดที่จะสร้างเครื่องฉายภาพวีดีโอที่สามารถฉายภาพได้สว่างมากกว่าเครื่องฉายภาพ CRT แบบเก่า แนวคิดของเขาใช้องค์ประกอบเดียวกันกับเทคโนโลยี Light Valve (เทคโนโลยี Light Valve เป็นเทคโนโลยีที่แยกการสร้างภาพและแหล่งกำเนิดแสงออกจากกัน เครื่องฉายที่ใช้เทคโนโลยี Light Valve เช่นเครื่องฉายภาพของ Eidophor ซึ่งเป็น Television Projector , Barco และ JVC) ในการควบคุมปริมาณแสง และแยกแหล่งกำเนิดภาพกับแหล่งกำเนิดแสงออกจากกันทำให้สามารถใช้หลอดภาพที่มีพลังงานสูงสามารถให้ความสว่างมากขึ้น ในช่วงปี ค.ศ.1971 หลังจากที่ได้ลองใช้วัสดุหลายชนิดจนในที่สุดเขาก็ตกลงใช้ Liquid Crystal ในการควบคุมแสง เขาใช้เวลาอีกหลายปีในการพัฒนาจนกระทั่งในปี ค.ศ.1984 เขาก็ได้ใช้ Liquid Crystal Display (LCD) ในการสร้างโปรเจคเตอร์แอลซีดี (LCD Projector) เครื่องแรกของโลกขึ้น หลังจากประสบความสำเร็จกับโปรเจคเตอร์เครื่องแรกเขาก็สังเกตพบปัญหาในเรื่องของแสงสว่างที่ลดลงและรอยต่อของพิกเซลที่มีขนาดใหญ่ ดังนั้นเขาจึงคิดค้นระบบออพทิคเคิลแบบใหม่ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นซึ่งทำให้โปรเจคเตอร์มีความสว่างมากขึ้นและลดรอยต่อของพิกเซลลง Gene Dolgoff ได้จดสิทธิบัตรโปรเจคเตอร์ของเขาและก่อตั้งบริษัท Projectavision ซึ่งเป็นบริษัท LCD Projector แห่งแรกของโลกขึ้นในปี ค.ศ.1988 และในฐานะอนุกรรมการของ National Association Of Photographic (NAPM) Dolgoff และผู้ช่วยของเขา Leon Shapiro ได้เผยแพร่มาตรฐาน ANSI เพื่อใช้วัดความสว่าง (Brightness) , Contrast และความละเอียด (Resolution) สำหรับโปรเจคเตอร์
LCD ถูกนำมาใช้ร่วมกับ Overhead Projector ตัวระบบ LCD นั้นไม่มีแหล่งกำเนิดแสงของตัวเองเพียงแต่เป็นระบบที่ใช้ในการสร้างภาพและอาศัยแหล่งกำเนิดแสงจาก Overhead Projector เนื่องจากในการฉายภาพจำเป็นจะต้องใช้อุปกรณ์ถึงสองชิ้นคือตัวระบบ LCD ที่ใช้ในการสร้างภาพ (ระบบ LCD ที่ใช้ในการสร้างภาพหรือเรียกว่า LCD Panel ซึ่งในขณะนั้นมีขนาดค่อนข้างใหญ่) และส่วนที่ใช้ในการกำเนิดแสงคือ Overhead Projector ซึ่งใช้ในการฉายภาพไปยังจอรับภาพทำให้ไม่สะดวกในการใช้งานจนในที่สุดก็ได้เสื่อมความนิยมและเลิกผลิตไป
นำร่อง
[0] ดัชนีข้อความ
[#] หน้าถัดไป
Go to full version