บทที่ 284
ชุมทางหนังไทยในอดีต เสนอ
รวมภาพนิ่ง ศิลปิน-ดาราหนังไทยเก่า
โดย มนัส กิ่งจันทร์(facebook 29 มิถุนายน 2556) สวัสดีครับทุกท่าน.. เรื่องราวของศิลปินหรือดาราหนังไทยนั้น เมื่อครั้งที่รุ่งเรือง ก็เป็นที่พูดถึง โจษจันกันทั่วไป ครั้งดาวดวงนั้นร่วงโรย ลับลาจากฟากฟ้า ก็น้อยนักที่ผู้คนจะยังจดจำเขาเหล่านั้นได้.. พอนานวันเข้า ทุกสิ่งทุกอย่างก็จะถูกลืมและลบเลือนไปจากความทรงจำ.. กระทู้บทนี้ จึงเปิดขึ้นมาเพื่อนำเสนอภาพเก่าๆ ของศิลปินหรือดาราหนังไทยเหล่านั้นให้เปรียบประดุจว่า เรื่องราวของเขาเหล่านั้นจะยังคงอยู่กับพวกเราตลอดไป.. จะมีภาพนิ่งเป็นร้อยๆ ภาพให้ท่านได้ชมไปเรื่อยๆ และหากเพื่อนๆ ท่านใดจะร่วมนึกถึง ร่วมโพสต์ภาพ ก็เชิญเลยนะครับ.. ดูภาพ... https://www.facebook.com/photo.php?fbid=286466021498042&set=o.156185157894883&type=3&theater ผมเอง นอกจากเก็บหนังแล้ว ช่วงหนึ่งก็ต้องมีการตามไปเก็บหนังสือดาราเก่าๆ ด้วย ก็เก็บได้เป็นพันๆเล่มแหละครับ แต่ว่า ไม่ค่อยได้มาโพสต์เท่าไรเพราะไม่ค่อยมีเวลาสแกนหนังสือ กระทั่ง 5-6 ปีมานี้ ได้รู้จักกับพี่จุ๋มJum Manikhao พี่เขาเลยใจดี ช่วยนำหนังสือไปสแกนภาพให้ แต่ผมก็เลือกใช้เฉพาะภาพที่เกี่ยวกับหนังที่จะพูดถึงเท่านั้น ใช้ภาพไม่กี่ใบเพราะเนื้อที่การโพสต์มันจำกัด กระทั่งเฟสบุ๊กเขาเปลี่ยนระบบการโพสต์มาเป็นแบบนี้ ผมก็เลยต้องเปิดกรุขุดภาพเก่าๆ เหล่านี้มาให้เพื่อนๆ ได้ชมกัน กระทู้บทนี้จะเป็นการรวมภาพเก่าๆ ของศิลปินหลากหลายแขนงมาไว้รวมกันนะครับ...ภาพนี้มาจากหนังสือดาราเก่า.. ถ้าเป็นคนดูทีวีสมัยก่อนจะคุ้นกับชื่อนี้ครับ ก.เก่งทุกทาง..นี่แหละครับพ่อแม่ลูก..ส่วนลูกน้อยนั้น เข้าใจว่า โตมาแล้วจะเป็นคุณเอกราชฯ ที่อ่านข่าวกีฬากับรายการเรื่องเล่าเช้านี้ ช่อง 3 นะครับ...
ภาพนี้จะเป็นคุณกัณฑรีย์ นาคะประภา ภรรยาของคุณฉลอง สิมะเสถียร พระเอกเก่านะครับ..นำมาให้ดูแค่หน้าเดียว..
สมัยแต่ก่อนนั้น จะมีละครวิทยุ.. ที่เราคุ้นชื่อ คณะแก้วฟ้า ท่านนี่แหละครับ..
ดาวตลกเก่าท่านนั้น ชื่อ จำรูญ หนวดจิ๋ม..แต่ไ่ม่มีหนวดนะครับ..
กลายเป็นว่า คนที่มีหนวดเป็น สุคนธ์ คิ้่วเหลี่ยม..คนนี้
ส่วนท่านนี้ ก็เป็นนักร้อง เคยไปแสดงหนังด้วย นงลักษณ์ โรจนพรรณ..
เช่นกัน ท่านนี้ก็เป็นนักร้อง ไปแสดงหนังบ้าง แล้วก็ไปเป็นภริยานักร้อง..ผุสดี วงศ์กำแหง..ภริยาคุณสุเทพ วงศ์กำแหง ครับ..
แล้วก็ท่านนี้ครับ ยักษ์ใหญ่แห่งวงการหนังไทย..ภาพยนตร์สหะนาวีไทย.. คุณสุพรรณ พราหมณ์พันธุ์ ผู้สร้าง เล็บครุฑ ปี 2500 อันโด่งดังและยังมีผลงานอีกหลายๆ เรื่อง..
ช่างผมดารา..อดิศักดิ์ มะลิแก้ว กำลังแต่งผมให้ เพชรา เชาวราษฎร์...
คู่นี้เก่าแก่ในวงการ..จรี อมาตยกุลกับภริยา..ซึ่งเคยเป็นผู้สร้างหนัง จำหน่ายหนัง..หนัีงสือเขาเขียนไว้อย่างไรบ้าง คลิกรูปอ่านดูได้ครับ..
หนังเรื่องนี้อาภัพจริงๆ...เรื่องก็มีอยู่ว่า วันนี้(29 มิย.56) ตอนบ่ายๆ คุณสุรินทร์ ด่านมงคล ที่เคยให้ผมยืมฟิล์มหนังมาฉายแปลงสัญญาณเมื่อหลายเดือนก่อน โทรบอกผมว่า ไปสนามหลวง 2 มาวันนี้ ก็ไปเจอคนขายฟิล์มหนังอยู่เรื่องหนึ่งคือ "วิญญาณไพร" บอกว่า รัตนาภรณ์ แสดง..แต่คนขายฟิล์มตั้งราคาไว้ 1 หมื่นบาท เป็นฟิล์ม 16 มม. 5 ม้วนจบ ถ้าฉายก็จะยาวประมาณ 2.25 ชม. คุณสุรินทร์ก็ไม่รู้จักหนังเรื่องนี้มาก่อน แต่ก็ต่อราคาไว้เล่นๆ แต่เ้จ้าของฟิล์มไม่ขายให้.. จึงโทรบอกผม.. ผมเองตอนได้ยินชื่อหนังใหม่ๆ ว่า วิญญาณไพร รัตนาภรณ์เล่น ก็ไม่ค่อยคุ้นชื่อเลย แต่เพราะเป็นหนังไทยก็เลยอยากได้ไว้ก่อน..ก็บอกคุณสุรินทร์ว่า ลองต่อราคาใหม่ แล้วยังไง ผมจะช่วยหารด้วย..เวลานั้นคุณสุรินทร์ก็ถามผมว่า ตอนนี้อยู่ที่ไหน ผมก็บอกว่า อยู่คลองถม..คุณสุรินทร์เลยบอกว่า ฟิล์มเรื่องนี้อาจจะถูกนำไปขายคลองถมก็ได้ ลองไปเดินหาดู อาจเจอและแนะนำว่า อาจอยู่ตรงไหนของคลองถม..ผมกำลังเดินอยู่พอดี ก็เลยเดินดุ่มๆ ไปดูตามละแวกที่เคยขายฟิล์ม..ไปเจอจริงๆ ครับ คนขายเป็นผู้หญิง เข้าใจว่าเป็นเมียคนขายฟิล์มที่สนามหลวง 2 สภาพฟิล์มยังดีอยู่เลยครับ ในกระเป๋าฟิล์มมีใบเซ็นเซอร์เรียบร้อย ลงไว้ปี 2513 มีรูปนิ่งหรือโชว์การ์ดนิดหน่อย มีบทพากย์หนังด้วย แต่ไม่ครบ..ผมหยิบบทพากย์มาเิปิดดูจึงรู้ว่า หนังเรื่อง วิญญาณไพร นี้ นำแสดงโดย อนุชา รัตนมาลย์-รัตนาภรณ์น้อย อินทรกำแหง ไม่ใช่รัตนาภรณ์..แล้ว นล นเรนทร์-กันทิมา ดาราพันธ์..กำกับการแสดงโดย ดาวร้ายหน้าผี ชาณีย์ ยอดชัย.. ดูรูปการณ์จากการเก็บฟิล์มแล้ว เข้าใจว่าเจ้าของหนังคงเก็บฟิล์มไว้เองและอาจไม่ได้นำออกฉายด้วยซ้ำไปเนื่องจากหน้าหนังอาจไม่ถูกใจตลาดในตอนนั้น แถมพระเอก-นางเอกของเรื่อง ในช่วงนั้นก็ไปเล่นเป็นดาราสมทบหมดแล้ว ข้อมูลที่ผมทำไว้ ก็ไม่มีวันแรกฉายของหนังเรื่องนี้ด้วย..ไม่เคยเห็นใบปิดโฆษณามาก่อน..ตามรูปการณ์แล้วจึงเป็นหนังไม่มีราคาค่างวดอะไร ไม่โดดเด่น การบอกราคาไว้สูงถึงหมื่นบาทจึงค่อนข้างขายได้ยาก ก็เลยบอกคุณสุรินทร์ว่า รอให้เขาลดราคาลงอีกหน่อย อาจจะช่วยหุ้นซื้อมาทำภาพไว้เฉยๆ นี่แหละครับ หนังอาภัพที่ผมว่าเพราะปี 2513 ก็ไม่ได้เกิด ฟิล์มอุตส่าห์อยู่ถึงปีนี้ 2556 ก็ยังไม่ต้องตาคนซื้อหนังอีก... ครับ ขอบคุณสำหรับไมตรีในการจะช่วยหนังเรื่องนี้.. เงินที่เพื่อนๆ ให้เราไว้เมื่อครั้งช่วยหนังที่วัดบ้านดง ยังเหลือเ็ก็บไว้เป็นทุนต่ออีกไม่มาก.. แต่เพราะพวกเรามีเงินจำกัด แล้วก็มีข่าวเกี่ยวกับฟิล์มเข้ามาเรื่อยๆ บางข่าวก็เป็นเรื่องที่น่าสนใจ บางข่าวก็ยังเฉยๆ กับชื่อหนัง แต่เท่าที่ผมทำมานั้น ส่วนใหญ่จะเป็นการให้ความร่วมมือต่อกัน ผมก็เลยต้องรอฟังข่าวก่อนว่า จะเป็นกากฟิล์มเรื่องอะไรบ้าง..พอเมื่อวานนี้ เจอกับการบอกราคาฟิล์มเรื่องนี้ที่สูงมากๆ แม้อยากจะช่วยหนัง อยากจะได้หนังมาไว้เป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์ แม้หนังจะไม่ดังก็ตาม แต่เราก็ต้องสงวนเงินทองไว้รอฟังเรื่องอื่นๆ ที่หน้าหนังดีกว่านี้ก่อนครับ.. คุณสุรินทร์ฯ ที่ไปเจอฟิล์มก่อนใคร ก็ยังถามผมว่า ถ้าไม่ซื้อ ไม่กลัวฟิล์มหายไปหรือ ผมก็บอกว่า ขนาดคุณสุรินทร์เป็นนักซื้อฟิล์มยังไม่ซื้อเลยเพราะราคาสูงเกินไป แล้วใครจะซื้อล่ะ หน้าหนังก็ไม่ดี ไม่ชวนดูด้วย..คุณสุรินทร์ฯก็เลยบอกว่า ถ้างั้นรออีกสักพักให้ราคาลงอีก แล้วค่อยไปดูใหม่...แล้วที่ผมบอกว่า หนังเรื่องนี้อาภัพนั้น เป็นการบอกจากประสบการณ์ที่ผ่านๆ มานะครับ..เพราะฟิล์มหนังที่ถูกเมินตั้งแต่ครั้งแรกที่นำมาปล่อยขายแล้ว..สุดท้ายก็จะหายไปจากตลาดอย่างไร้ร่องรอย..ไม่ใช่มีคนมาซื้อไปในราคาสูงๆ นะครับ แต่สุดท้ายคนขายก็อาจจะตัดใจขายถูกๆ ให้คนซื้อที่นำไปทำอย่างอื่น บางคนก็ซื้อเอากระเป๋าใส่ฟิล์มไปตั้งโชว์..บางคนก็ซื้อเอาแต่รีลเหล็กไปใช้ บางคนก็ซื้อเพื่อเอาฟิล์มไปทำหนังหัวม้วน.. แต่รับรองว่า หนังเรื่องจะไม่มีใครซื้อไปออกแผ่นวีซีดีแน่ๆ ประวัติศาสตร์หนังเรื่องนี้ก็จะอาภัพซ้ำซ้อนไปอีก.. นี่ถ้า เจ้าของฉายา แจ๊คพาแล้นท์เมืองไทยคือ ชาณีย์ ยอดชัย ผู้กำกับหนังเรื่องนี้ยังมีชีวิตอยู่และรู้เรื่อง เขาคงเศร้าใจแน่ๆ เพราะหนังที่เขาทำไว้ขายไม่ได้ง่ายๆ..ยิ่งคนขายบอกราคาสูงแบบนี้ ก็เอ วัง นี่แหละครับ อาภัพ.. ปล. รอไว้ให้ราคาลดมาสักครึ่งหนึ่งก่อนนะครับเพราะผมตกลงกับคุณสุรินทร์แล้วว่า ผมก็จะช่วยหารกับคุณสุรินทร์ โดยมีข้อตกลงกันว่า คุณสุรินทร์ก็เอาฟิล์มไป แต่ผมจะขอฉายและทำภาพไว้เท่านั้น..
เรื่องตามหาฟิล์มหนัง ก็ยังเจตนาเดิมครับ คือ ช่วยหนังไทยเก่าๆ ทุกเรื่องอยู่แล้ว เพียงแต่จังหวะ เวลา สตางค์จะเป็นตัวกำหนดให้เราต้องทำอย่างหนึ่งอย่างใดก่อน..มาดูภาพเก่าๆ กันต่อนะครับ.. ภาพนี้ ชื่อจะคุ้นๆ กันมาก กนกอร บุญมา..เคยเป็นนางสาวไทยหรือรองนี่แหละครับ..
ส่วนภาพนี้ สมัยสาวๆ ของ กรรณิการ์ ธรรมเกสร..
อดีตของกรรณิการ์ ธรรมเกสร กับใครคนหนึ่ง..
นี่ก็ นักแต่งเพลงชื่อดังสมัยก่อน ก้อง กาจกำแหง...
นี่ก็นักร้องดังในอดีต กังวานไพร ลูกเพชร ศิษย์สุรพล มีเพลงดังเยอะแยะไปหมด..เคยเล่นหนังด้วย..
รายนี้เป็นดาราหนังครับ กันทิมา ดาราพันธ์..
ส่วนภาพนี้เป็นอดีตของนักร้องดัง กาเหว่า เสียงทอง กับพ่อแม่..
ส่วนภาพนี้เป็น เกชา เปลี่ยนวิถี เมตตา รุ่งรัตน์ รสริน วิลาวัลย์..ดูนะครับว่า ใครอยู่ตรงไหน..
ฉลอง ภักดีวิจิตร..จากตากล้องหนัง 16..หนัง 35..ลำดับภาพ ตัดต่อ ผู้กำัักับการแสดงชื่อดังของไทย...
ครอบครัวของ ชุติมา สุวรรณรัตน์..จากนักพากย์..สร้างหนัง..จนเป็นที่รู้จักทั่วไป..แคนลำโขง..แว่วเสียงซึง..แม่อายสะอื้น...
ส่วนนี่ก็ตากล้องของ อัศวินภาพยนตร์..โชน บุนนาค..กับกล้อง 35 มม.
แล้วนี่ก็ ท่านมุ้ย กับวิธีการตั้งกล้องถ่ายสมัยก่อน..
นี่ก็ ประวิทย์ ลีลาไว..มากำกับหนังอีกครั้ง..
ส่วนท่านนี้กำกับหนังมาตั้งแต่ยุค 16 มม. แต่พอมาทำหนัง 35 มม.ก็มีชื่อเสียงเพิ่มมากขึ้น ท่านคือ ปริญญา ลีละศร..กับม้วนฟิล์ม 35 มม.
ส่วนท่านนี้เป็นช่างตัดเสื้อ แต่มีความใฝ่ฝันที่จะสร้างหนัง จะแสดงหนัง..ก็เลยลงทุนสร้างหนังเรื่อง เพชรพระอุมา..บอกว่า หาตัวพระเอกได้ยาก ก็เลยขอเป็นพระเอกซะเลย ท่านชื่อ วิทยา เวสสะวัฒน์..
นี่แหละมาดพระเอก เพชรพระอุมา...
มาแล้วครับ ตามคำขอ เพชรพระอุมา ภาพอาจไม่เรียงลำดับนะครับ เพิ่งทำเสร็จครับ..สุทิศา กับ วิทยา.
นี่ก็ยังเป็นมาดพระเอกอีก.. คงหมดหวังแล้วครับ เรื่องการตามหนังจากเมืองนอก ไม่มีใครลงทุนไปนำกลับหรอกครับ..ยิ่งผู้คนในปี 2514 ที่หนังเรื่องนี้ฉายด้วย ออกจะดูถูกดูแคลนงานชิ้นนี้มากครับ..ผมเสียดายครับเพราะอย่างน้อยๆ มันก็คือ หน้าหนึ่งของประวัติศาสตร์หนังไทย..
ภาพนี้รวมหมู่ 3 คน สุทิศา-ประชา-วิทยา จาก เพชรพระอุมา..
