ผู้เขียน หัวข้อ: ถ้าคุณชอบ แผลเก่า คุณจะชอบ เพื่อน-แพง ไม่น้อยไปกว่ากัน?  (อ่าน 43 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ มนัส กิ่งจันทร์

  • มนัส กิ่งจันทร์ ภาคสอง ชุมทางหนังไทยในอดีต
  • Moderator
  • พี่น้อง thaicine Gold member
  • ***
  • กระทู้: 2814
  • พลังใจที่มี 35
  • เพศ: ชาย
    • มนัส ชุมทางหนังไทยในอดีต
          คำโฆษณาหนังคุณเชิด ทรงศรี ที่ว่า "ถ้าคุณชอบ แผลเก่า คุณจะชอบ เพื่อน-แพง ไม่น้อยไปกว่ากัน?" ก็ใช้ได้กับหนังของคุณคมน์ อรรฆเดช เพราะถ้าเปรียบ มหาหิน เหมือน แผลเก่า.. ข้ามากับพระ ก็เหมือนเป็น เพื่อน-แพง.. หนังคู่แฝดที่คนเคยชอบ มหาหิน แล้วมาได้ดู ข้ามากับพระ จะรู้สึกอย่างนั้นจริงๆ
ข้ามากับพระ นั้น หอภาพยนตร์ฯ นำฟิล์มต้นฉบับมาสแกนฟิล์มใหม่ เป็นไฟล์ 4K ภาพชัดๆ ฉายเต็มจอยักษ์ 35 มม.สโคป ให้ดูกันฟรีๆ ในฉายวันเสาร์ที่ 11 มีนาคม 2566 รอบเวลา 13.00 น. ซึ่งก่อนหน้านี้ ผมเคยดู ข้ามากับพระ จากม้วนวีดีโอเทป ภาพเต็มจอโทรทัศน์ระบบ 4:3 เท่านั้น เมื่อมีการสแกนฟิล์มใหม่ จึงจะต้องไม่พลาดครับ

          ข้ามากับพระ ผมเคยเขียนบทความลงหนังสืออินไซด์บันเทิง ของคุณทินกร ฉบับเดือนเมษายน 2558 วันนี้ นำกลับมาให้อ่านอีกนะครับ.. 

          ในเร็ววันนี้ เราอาจจะได้ดูละคร ข้ามากับพระ กันอีกครั้ง โดยคุณพรพิมล มั่นฤทัย ภริยาของคุณคมน์ อรรฆเดช อดีตผู้กำกับหนังชื่อดังซึ่งเสียชีวิตไป จะนำกลับมาสร้างเป็นละครโทรทัศน์ทางช่อง 7 สี

          ข้ามากับพระ.. เมื่อ 31 ปีที่แล้วเคยเป็นหนังบู๊ตลกๆ ของคุณคมน์ที่ได้รับความนิยมอย่างมากและก็มีบางท่านนำเรื่องนี้ไปเปรียบเทียบกับเรื่อง มหาหิน ที่สร้างออกมาฉายก่อนหน้านั้นในปี 2521

          อะไร..ที่ทำให้แฟนหนังนำ ข้ามากับพระ ไปเปรียบเทียบกับ มหาหิน แต่ก่อนที่เราจะคุยกัน มาดูข้อมูลหนังสองเรื่องนี้ก่อนนะครับ

          มหาหิน เป็นบทประพันธ์ของ ชาติ อินทรี นำแสดงโดย สมบัติ เมทะนี-ปิยะมาศ โมนยะกุล-ไพโรจน์ ใจสิงห์-วิยะดา อุมารินทร์-เกชา-ดามพ์-สุวิน-มานพ-ครรชิต-ลักษณ์-อดินันท์-ฤทธิ์.. สร้างโดย โคลีเซี่ยมฟิล์ม โดย พรพิมล มั่นฤทัย เป็นผู้อำนวยการสร้าง..กำกับการแสดงโดย คมน์ อรรฆเดช เข้าฉายครั้งแรกวันที่ 29 เมษายน 2521 ที่โรงหนังเพชรรามา-เพชรเอ็มไพร์-เจ้าพระยา (ฉายรอบมิดไนท์คืนวันที่ 21 เมษายน 2521 ที่โรงหนังเพชรรามา-เพชรเอ็มไพร์-เฉลิมบุรี-แมคเคนนา-เจ้าพระยา)

          ส่วนเรื่อง ข้ามากับพระ นั้นเป็นบทประพันธ์ของ พนา ภาณุมาศ นำแสดงโดย สมบัติ เมทะนี-สรพงศ์ ชาตรี-บิณฑ์ บันลือฤทธิ์-ชลิดา เสาวดี-ธิติมา-ชาลี-มานพ-ดามพ์-ฤทธิ์-ฉัตร-โดม-สมศักดิ์.. สร้างโดย โคลีเซี่ยมโปรดักชั่น โดย พรพิมล มั่นฤทัย เป็นผู้อำนวยการสร้าง..กำกับการแสดงโดย คมน์ อรรฆเดช เข้าฉายครั้งแรกวันที่ 13 เมษายน 2527 ที่โรงหนังเพชรรามา-เพชรเอ็มไพร์-สามย่าน-เจ้าพระยา-ลาดพร้าวรามา

          ถ้าเป็นแฟนหนังบู๊ ก็จะรู้ว่า แต่ไหนแต่ไรมาแล้ว คมน์ อรรฆเดช ถนัดที่จะสร้างหนังบู๊ๆ เพราะเดาใจแฟนหนังต่างจังหวัดออกว่า ชอบหนังแนวนั้น หนังบู๊ของคมน์จึงมักจะประสบความสำเร็จในต่างจังหวัดเป็นอย่างมาก อย่างเรื่อง มหาหิน เมนหลักๆ ก็เป็นหนังบู๊ แม้จะมีบางฉากติดตลกแทรกเป็นยากระสายบ้าง แต่จุดเด่นๆ ของ มหาหินก็คือ การนำ สมบัติ เมทะนี มาโกนหัวโล้นเล่นหนังเป็นครั้งแรก สมัยนั้นเรียกว่า เกิดเป็นข่าวโด่งดังจนแฟนหนังตั้งหน้าตั้งตารอคอยจะดูว่า มหาหินจะมหามันส์อย่างยี่ห้อคมน์หรือเปล่า

          ชาติ อินทรี เขียนบทให้เราเห็นสมบัติอยู่ในผ้าเหลืองเพียงแค่ฉากไตเติ้ลเรื่องเท่านั้น พอพระภิกษุหิน ภูธรได้รับจดหมายจากทรายน้องสาว ก็ตบะแตกสึกออกมาเป็นทิด แต่ชาวบ้านชอบเรียกว่า มหาหิน แรกๆ ทิดหินก็ไม่คิดจะแก้แค้น ล้างแค้นใคร สึกออกมาก็เพื่อหวังจะดูแลน้องและหลาน แต่ฝ่ายคนร้ายกลับตามรังแกรังควานอย่างไม่เลิก หวังจะฮุบที่ดินทำกิน..สุดที่ทิดหินจะทนได้ จึงต้องลุกขึ้นสู้..เรื่องราวของ มหาหิน ก็จบลงด้วยความแค้นที่ถูกชำระ

          สมัยนั้น มหาหิน จึงได้ใจแฟนหนังบู๊อย่างที่คมน์เคยทำมาแล้ว..จากนั้นเรื่องราวการโกนหัวเล่นหนังของสมบัติ เมทะนี ก็ค่อยๆ หายไปจากความทรงจำ กระทั่งปี 2527 มีข่าวว่า คมน์ อรรฆเดช ซื้อบทประพันธ์ของ พนา ภาณุมาศ เรื่อง ข้ามากับพระ จะมาสร้างเป็นหนัง ซึ่งในเรื่องจะมีต้องพระภิกษุเดินเรื่องเป็นเมนหลัก.. นี่แหละครับ สมบัติ เมทะนี ที่เคยเป็นพระภิกษุหิน ภูธร มาแล้ว จึงกลับมาโกนหัวรับบทเป็น หลวงพ่อเสือ ซึ่งในอดีตนั้นหลวงพ่อเสือก็เคยเป็นนายตำรวจมือปราบ แต่มีเหตุต้องให้ลาออกมาบวชเดินธุดงค์

          ส่วน ข้ามากับพระ นั้น แม้จะเรียกว่า เป็นหนังบู๊ แต่ก็ยังมีบทตลกๆ สอดแทรกไว้เกือบทั้งเรื่อง จนบางคนบอกว่า ดูข้ามากับพระแล้ว จะชอบกว่าเรื่องมหาหิน..ตัวละครหลักๆ ของ ข้ามากับพระ นอกจากจะมี หลวงพ่อเสือ แล้ว ก็ยังมี บิณฑ์ บารมี ซึ่งแสดงโดย สรพงศ์ ชาตรี หนุ่มพเนจรที่มาขอเป็นลูกศิษย์ติดตามหลวงพ่อเสือ แรกๆ หลวงพ่อก็ปฏิเสธอ้างว่า เป็นพระธุดงค์รับศิษย์ติดตามไม่ได้ แต่ในที่สุดก็ทนลูกตื้อของสรพงศ์ไม่ไหว ก็เลยรับส่งๆ ไปอย่างนั้นแหละ จากนั้นลูกศิษย์คนนี้ก็นำพามาแต่เรื่องร้ายๆ ให้หลวงพ่อเสืออยู่เสมอ แต่จุดนี้เอง ที่กลายเป็นเสน่ห์ของหนังเพราะแต่ละครั้งที่สรพงศ์นำเรื่องร้ายๆ มาให้นั้น ก็จะกลายเป็นจุดขำ จุดฮาของเรื่อง เรียกเสียงหัวเราะจากคนดูได้ตลอดเวลา

          หลวงพ่อเสือ จะออกเดินธุดงค์โปรดสัตว์ไปเรื่อยๆ แต่ในหนังก็ยังไม่บอกจุดหมายปลายทางของหลวงพ่อ ว่า จะเดินธุดงค์ไปถึงไหน ส่วนคนดูอย่างเราๆ ก็ลืมคิดข้อนี้ไปเพราะมัวแต่สนุกกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นตามรายทาง หนังเพิ่งจะมาบอกความจริงเอาตอนท้ายเรื่องว่า เป็นการเดินธุดงค์เพื่อตามหาซ่องโจรเสือเข้ม (มานพ อัศวเทพ) เสือร้ายที่เคยฟาดฟันกับหลวงพ่อเสือมาก่อน เสือเข้มมีลูกชายชื่อ เสือน้อย (บิณฑ์ บันลือฤทธิ์) ซึ่งหลวงพ่อเสือเคยช่วยชีวิตเสือน้อยไว้ตั้งแต่เด็กๆ และเมื่อพบเสือน้อยอีก หลวงพ่อเสือก็ยังได้ช่วยชีวิตเสือน้อยจากการถูกยิงได้อีก

          ตัวเสือน้อยนั้น แม้จะเป็นลูกโจร แต่ก็ยังมีใจคุณธรรม รู้ผิดชอบชั่วดี จึงสำนึกในบุญคุณของหลวงพ่อเสือ ครั้นหลวงพ่อเสือได้พบกับเสือเข้มจริงๆ ก็เกิดการเข้าใจผิดกัน เสือเข้มคิดจะแก้แค้น จะฆ่าหลวงพ่อเสือ แต่เสือน้อยก็โดดเอาตัวเข้าขวางลูกกระสุนปืนแทน เสือเข้มสงสัย เสือน้อยจึงบอกว่า หลวงพ่อเสือ ไม่ใช่สายตำรวจ แต่เป็นคนที่เคยช่วยชีวิตเสือน้อย.. ตอนนี้เอง หลวงพ่อเสือจึงบอกถึงสาเหตุที่ต้องออกบวชเดินธุดงค์..ว่าแล้ว ก็ล้วงมือเข้าไปในย่ามหยิบห่อผ้ามาขึ้นมาห่อหนึ่ง แล้วยื่นให้เสือเข้มพร้อมกับบอกว่า รับไปเถอะโยม.. สิ่งนี้มันติดค้างอยู่ในใจอาตมามานานแล้ว นี่ เป็นเถ้ากระดูกของภริยาเสือเข้มเอง..อาตมานำติดตัวตลอดมา เมื่อเสือเข้มทราบเช่นนั้นก็ก้มตัวลงกราบและรับห่อเถ้ากระดูกเมียรักจากหลวงพ่อเสือ ส่วนเหล่าลูกสมุนโจรต่างก็ลดปืนและลงจากหลังม้ามานั่งพนมมือ..หนังก็จบลง นอกจากนี้ ข้ามากับพระ ยังเป็นหนังเปิดหน้าให้กับพระเอกใหม่คือ บิณฑ์ บันลือฤทธิ์ ก่อนที่จะไปแจ้งเกิดอย่างพระเอกเต็มตัวในเรื่อง ทับทิมโทน ของ คมน์ อรรฆเดช ในปีถัดมา

          สิ่งที่ทำให้เห็นว่า ทำไม แฟนหนังกลุ่มหนึ่งจึงบอกว่า ชอบเรื่องข้ามากับพระ มากกว่า มหาหิน..ก็น่าจะเป็นที่เนื้อเรื่องเพราะหนังไม่เน้นบู๊อย่างเดียว แต่ยังมีบทตลกสอดแทรกด้วย เมื่อคมน์นำมาสร้างหนัง ก็ถ่ายทอดบทประพันธ์กับบทภาพยนตร์ออกมาให้ชวนน่าติดตาม แม้ว่า ข้ามากับพระ จะมีตัวละครหลักๆ มากกว่ามหาหินก็ตาม คราวนี้ก็คอยดูว่า ข้ามากับพระ ที่จะกลับมาสร้างเป็นละครนั้น จะเป็นอย่างไรบ้าง


"มนัส กิ่งจันทร์ ภาคสอง ชุมทางหนังไทยในอดีต" โดยเติมคำว่า "ภาคสอง" คั่นกลางไว้..
อดีตจากฟิล์มภาพยนตร์ ไม่มีวันตาย..