ผู้เขียน หัวข้อ: บทที่ 18 ชุมทางหนังไทยในอดีต เสนอฉาย ดรรชนีนาง (2504 พิศมัย-แสน)  (อ่าน 1417 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ ฉัตรชัยฟิล์มshop

  • Thaicine Movie Team
  • Moderator
  • พี่น้อง thaicine Gold member
  • ***
  • กระทู้: 11595
  • พลังใจที่มี 441
  • เพศ: ชาย
  • รักการฉายด้วยฟิล์ม

บทที่ 18
ชุมทางหนังไทยในอดีต เสนอฉาย
หนึ่งในโครงการภาพยนตร์ไทยคงเหลือ
ดรรชนีนาง (2504 พิศมัย - แสน)
โดย มนัส กิ่งจันทร์

(facebook 24 เมษายน 2556)

           สวัสดีครับทุกท่าน วันนี้ โครงการภาพยนตร์ไทยคงเหลือ ภาคภูมิใจเสนอฉายหนัง 16 มม.พากย์สด ๆ ซึ่งเป็น ตำนานรักของสาวสงขลา ในเรื่อง “ดรรชนีนาง” บทประพันธ์ของ “อิงอร” ผลงานการสร้างของ ภาพยนตร์สหะนาวีไทย โดย สุพรรณ พราหมณ์พันธุ์ เป็นผู้อำนวยการสร้าง..นำแสดงโดย พิศมัย วิไลศักดิ์-แสน สุรศักดิ์-งามตา ศุภพงษ์-อบ บุญติด-ม.ร.ว.ประสิทธิศักดิ์ สิงหรา-พูนสวัสดิ์ ธีมากร..ออกฉายครั้งแรกต้อนรับตรุษจีนวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2504 ที่โรงหนังศาลาเฉลิมกรุง-เฉลิมบุรี..

           เป็นหนังรักที่โด่งดังมากในอดีต.. จนมีแฟนๆ อยากจะดูกันอีก แต่ก็ไม่สามารถค้นหาหรือตามหากากฟิล์มหนังได้เลย..หรือแม้กระทั่งใบปิดโปสเตอร์ฉบับเหมือนจริง ก็ยังตามหากันไม่ได้เลย.. หนังเรื่องนี้จึงเหมือนหนังเรื่องหนึ่งที่ถูกลืม.. แต่หากย้อนหลังกลับไปเมื่อประมาณ 40 กว่าปีที่แล้ว กากฟิล์มหนังเรื่องนี้ถูกใช้ให้ความบันเทิงกับผู้คนต่างอำเภอในจังหวัดนครสวรรค์..

           คนที่ฉายก็คือ นายหลุย ปานขลิบ เจ้าของร้านขายยาหมอหลุยที่ชาวบ้านอำเภอหนองบัว คุ้นเคยกันดีสมัยนั้น นายหลุยยังมีกิจการเล็ก ๆ เป็นโรงหนังหรือที่ชาวบ้านเรียกว่า “วิกศรีประทุม” ฉายหนัง 16 มม.เก็บสตางค์จากคนดู บางครั้งก็ปิดวิก แล้วออกไปเร่ฉายหนังขายยาแทน..


           ว่ากันว่า หนังเรื่องสุดท้ายที่อยู่ในมือนายหลุย ก็คือเรื่อง ดรรชนีนาง นี่แหละครับ..เมื่อหมดยุคหนัง 16 มม.ได้ไม่นาน ประมาณปี 2520 นายหลุยก็ลาอุปสมบทไปเป็นพระภิกษุในบวรพุทธศาสนา คงเหลือไว้แต่เครื่องฉายหนัง 16 มม.กับฟิล์มหนังเรื่อง ดรรชนีนาง เก็บไว้เป็นที่ระลึกในร้านขายยาแห่งนั้น..ระหว่างเป็นพระภิกษุก็เผอิญเพื่อนใน facebook คือ คุณอนุกูล Anukool Vimoolsak หรือที่เพื่อนๆ ชอบเรียกว่า ครูนุ...

           ซึ่งไปบวชในวัดเดียวกัน ครูนุเป็นคนที่สนใจเกี่ยวกับหนังอยู่แล้ว พอทราบข่าวว่า หลวงพ่อท่านนี้ (นายหลุย) เคยเป็นคนฉายหนังขายยามาก่อน ครูนุก็ได้แต่ฟังไว้ แต่ยังไม่ได้คุยกันเพราะยังบวชเรียนอยู่ กระทั่งสึกออกมาทำงานทำการแล้วและเริ่มรู้จักกับเพื่อนๆ ที่ชอบฉายหนัง รู้ว่าเพื่อนๆ กำลังตามหาฟิล์มหนังเก่าๆ ก็เลยนึกถึงคำพูดที่ว่า หลวงพ่อท่านนี้เคยเป็นคนฉายหนังมาก่อน..



           แต่นึกได้ตอนนั้น ก็สายไปแล้วครับเพราะหลวงพ่อท่านมรณภาพไปแล้ว.. แต่ครูนุซึ่งบ้านอยู่ในอำเภอเดียวกัน ก็ไม่ละความพยายาม จึงเลียบๆ เคียงๆ ไปเสาะหาที่ตั้งของโรงหนังวิกศรีประทุม ถามหาร้านขายหมอหลุย จนไปพบ แล้วก็เข้าไปพูดคุยกับลูกหลานของหลวงพ่อ.. ก็เลยได้ความตามที่ผมเล่ามานั่นแหละครับ..วันนั้น ครูนุจึงได้กากฟิล์มหนังเรื่อง ดรรชนีนาง มาจากร้านขายาหมอหลุย 4 ม้วน ส่วนเครื่องฉาย RCA ที่หมอหลุยใช้ฉายนั้น สนิมเขลอะ เสีย ใช้ไม่ได้แล้วครับ.. จากนั้นครูนุก็เก็บฟิล์มชุดนี้ไว้ต่อมาอีก 4-5 ปี..

           กระทั่งเมื่อผมเริ่มเขียน “โครงการภาพยนตร์ไทยคงเหลือ” ก็นึกขึ้นได้ว่า แต่ก่อนหลายปีมาแล้ว ครูนุเคยพาคุณโต๊ะพันธมิตรและผมไปยืมฟิล์มจากหลวงพ่อที่วัดแห่งหนึ่งในอำเภอหนองบัว.. และยังมีฟิล์ม 16 มม.เหลืออีกเรื่องหนึ่งที่ไม่ได้ยืมมาตอนนั้น ความตั้งใจของผมก็คือ ถามครูนุว่า เราจะไปยืมฟิล์มเรื่องนั้นมาเข้าโครงการฯ ได้อีกหรือไม่..

           แต่สิ่งที่ได้คำตอบกลับมาตอนนั้นก็คือ ครูนุบอกว่า มีฟิล์ม ดรรชนีนาง เก็บไว้และทายาทเจ้าของฟิล์มก็อยากจะเห็นหนังที่พ่อตนเองเก็บไว้ด้วยว่าเป็นอย่างไร คราวนี้ ครูนุกับผมก็เลยนัดแนะกันว่า จะหิ้วฟิล์มเข้ากรุงเทพฯ มาหาในช่วงตรุษจีนนี่แหละครับ.. แล้ววันนั้นก็มาถึง ครูนุนำฟิล์ม 4 ม้วนมาหาผม แต่ละม้วนล้วนผ่านการฉายมาอย่างโชกโชน บางม้วนก็เลยไม่เต็มม้วน ครูนุก็พยายามซ่อมแซมหนามเตยเพื่อให้ฉายได้ แล้วเราก็ฉายดูกันจบเรื่อง แม้ฟิล์มจะไม่ค่อยสมบูรณ์นัก แต่ก็ยังพอรู้เรื่อง ยังลำดับเรื่องได้จนจบนะครับ...คราวนี้ มาที่ตัวหนังบ้างนะครับ..


           ดรรรชนีนาง เป็นเรื่องราวความรักระหว่าง “ดรรชนี” (พิศมัย) ซึ่งเป็นลูกสาวของ “ดรรชนีไฉไล” กับ พันตรีราชิต (ประสิทธิศักดิ์) นายทหารที่ออกจากราชการมาเป็นชาวประมงอยู่เกาะที่สงขลา..  ต่อมา นาวาโทนิรันดร์ฤทธิ์ ธำรง (แสน) กับ จ่าอยู่ (พูนสวัสดิ์) ก็มาที่เกาะแห่งนี้และได้พบดรรชนีกับลิงจ๊อก พระเอก-นางเอกก็รักกัน แม้ผู้เป็นพ่อจะพยายามห้ามแล้ว แต่ทั้งคู่ก็ลักลอบได้เสียกัน ต่อมานิรันดร์กลับกรุงเทพฯ ไปแต่งงานกับ ศิริยุคล (งามตา) ขณะที่ดรรชนีตั้งท้อง พ่อก็ไปหาพระเอก แต่พระเอกไม่ยอมรับเป็นเมีย พ่อก็เลยกลับมาตรอมใจตายที่สงขลา ส่วนดรรชนีนั้นเมื่อรู้ว่า พระเอกแต่งงาน ก็เลยตัดนิ้วก้อยที่พระเอกเคยชมว่าสวย ให้เป็นของขวัญวันแต่งงาน..

           พอพระเอกเห็นก็เริ่มคิดถึงนางเอกและกลับไปหานางเอกที่สงขลา..ปรับความเข้าใจกัน แล้วก็จบ..ว่ากันว่า หนังมีเพลงถึง 7 เพลง แต่กากฟิล์มที่เหลือมานี้ ไม่มีเพลงอยู่แล้วครับ.. เอาล่ะครับ มาถึงตอนนี้ ก็คงต้องดูหนังกันแล้วครับ กากฟิล์มที่เหลือนั้น พอฉายแล้วมีความยาวประมาณ 1 ชั่วโมง 10 นาที วันนี้ ผมจะให้ดูทั้งหมดนะครับ ส่วนรายละเอียดอื่น ๆ นั้น ก็ฟังได้จากคำบรรยายประกอบหนัง..แหละนี่ก็คือ ดรรชนีนาง ปี 2504 อีกหนึ่งในโครงการภาพยนตร์ไทยคงเหลือ

คลิ๊กดูหนังได้เลยครับ...

หนังไทยคงเหลือ ดรรชนีนาง 2504

#Invalid YouTube Link#


 ;D ;D ;D ;D ;D ;D ;D ;D ;D










-------------------------

Atit Aree เพิ่งจะได้ชมคลิปจาก youtube เรื่อง "ดรรชนีนาง" ก็ไปสะกิดความทรงจำตอนทำงานท่ี่บริษัทเดิมเข้าอีกแล้ว ฟิล์มชุดนี้มาจาก จ. จันทบุรีครับ สภาพฟิล์มก็ไม่ต่างจากที่คุณอนุกูลนำมาให้คุณมนัสเทเลซีนในคลิปสักเท่าไหร่ วันนี้เลยเอา snapshot จาก youtube ของคุณมนัส เปรียบเทียบกับตัวที่เทเลซีนที่บริษัทเดิม ซึ่งทั้งฟิล์ม ทั้งตัวที่เทเลซีนก็ไปอยู่กับนักสะสมเป็นที่เรียบร้อย

          คุณ Atit Aree ครับ ตอนที่ผมทำเรื่อง ดรรชนีนาง นั้น ก็ไม่ได้คิดอะไรมาก ก็แค่อยากได้ภาพมาฉายประกอบบทความเพราะคิดว่า ถ้าไม่ทำไว้ ก็คงไม่มีใครพูดถึงหนังไทยเก่าๆ แบบนี้แล้ว แต่พอฉายออกไป ก็มีเพื่อนๆ หลายคนให้ความเห็นว่า ทำทั้งที ก็อยากให้ทำดีๆ ชัดๆ กว่านี้อีก แต่ผมก็ไม่ได้คิดอะไรเพราะต้องการได้ภาพมาเป็นข้อมูลประกอบเท่านั้น กระทั่งเพื่อนๆ เข้ามาช่วยหลายคน ก็เลยพยายามปรับปรุงระบบอัดภาพให้ดูดีขึ้นอีกหน่อย..ไม่ได้หวังใช้ในเชิงการค้าอะไร หลังจากที่ฟิล์มดรรชนีนางถูกส่งกลับคืนเจ้าของที่นครสวรรค์แล้ว พอเราจะำำนำกลับมาทำภาพใหม่อีก ก็ทราบจากคูรนุว่า ฟิล์มโดนน้ำเสียหายหมดแล้วครับ..ที่คุณเล่ามานั้น ทำให้อยากรู้จักนักสะสมท่านนั้นจริงๆ ครับ..

Permpoon Chaisalee ขอขอบคุณครับคุณครับคุณมนัสผมเคยดูหนังไทยเรื่อง หักปีกเหยี่ยว จำได้เลือนลางมาก คุ้นๆว่า แลน สุรศักดิ์ แสดงเป็นพระเอก ไม่ทราบว่าคุณมนัสมีภาพมั้ยครับ คิดว่าคุณแสน จะสวมห้ากากดำ อะไรทำนองนี้ ผืดพลาดขออภัยครับ


          คุณ Permpoon Chaisalee ครับ ใช่แล้วครับ หักปีกเหยี่ยว นำแสดงโดย แสน สุรศักดิ์-ขวัญใจ สะอาดรักษ์-ราชันย์ สร้างโดย สุรศักดิ์ภาพยนตร์ โดย แสน สุรศักดิ์ เป็นผู้อำนวยการสร้างเอง..กำกับการแสดงโดย บุญส่ง เคหะทัต.. หักปีกเหยี่ยว เป็นบทประพันธ์ของ ส.เนาวราช ฉายครั้งแรกวันที่ 17 พฤศจิกายน 2507 ที่โรงหนังเอ็มไพร์...  ถ้าเป็นตระกูลหน้าสีแดง ก็ต้อง เศก ดุสิต เขียน..แต่ถ้าเป็นหน้ากากดำ ก็ต้อง ส.เนาวราช เขียนครับ..ใบปิดยังหาไม่ได้ครับ ก็เลยนำ เหยี่ยวอีกเรื่องที่ฉายไล่ๆ กันมาให้ดูแทนครับ


           ครับ หนังตระกูลอินทรีแดง ที่เคยออกแผ่นวีซีดีหรือดีวีดีมาแล้วก็คือ อินทรีทอง จ้าวอินทรี อวสานอินทรีแดง ส่วนเรื่อง จ้าวนักเลง ทับสมิงคลา ปีศาจดำ ไม่มีครับ ยังหาฟิล์มที่สมบูรณ์ไม่ได้..

Regis Madec ขอบคุณครับคุณ @มนัส คุณครูนุที่ได้เขียนเกี่ยวกับหนังเก่าดรรชนีนาง (2504 พิศมัย-แสน). หลายครั้งแล้วที่มีหลวงพ่อหนึ่งองค์ได้ช่วยหนังไทยเก่าครับ. ที่วัดแห่งหนึ่งในอำเภอหนองบัว เคยมีหนัง16มมอะไรบ้างครับ?

Charoen Tanmahapran หักปีกเหยี่ยว บทประพันธ์ของ ส.เนาวราช เป็นพฤติกรรมของเหยี่ยราตรี ไม่ใช่อินทรีแดง ที่เป็นบทประพันธ์ของ เศก ดุสิต ผู้แสดงเป็นเหยี่ยวราตรี คนแรก คือ แมน ธีระพงษ์ แต่ตัวแสดงเปลี่ยน เลยไม่ดังเหมือนอินทรีแดง ที่มิตร ชัยบัญชา ตลอดจนวาระสุดท้ายของชีวิต
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 31 ตุลาคม 2014, 04:00:39 โดย นายเค »


ฉัตรชัย สุวรรณโสภา 
88/1 ม.4 ต.บางโตนด อ.โพธาราม จ.ราชบุรี 70120   
E-mail chatchai_suw@hotmail.com    โทร 081-7636195 
ต่อพงศ์ภาพยนต์ ระบบ 35 ม.ม.  ฉัตรชัยภาพยนตร์ กลางแปลงย้อนยุค 16 ม.ม.
ธ.ไทยพาณิชย์  สาขาบิ๊กซีราชบุรี ชื่อบัญชี ฉัตรชัย สุวรรณโสภา  หมายเลขบัญชี  940-202235-1