บทที่ 673 ชุมทางหนังไทยในอดีต เสนอ ขุนทาส (2513 มิตร-เพชรา) อีกหนึ่งเรื่องที่ไร้

[นายเค]

บทที่ 673
ชุมทางหนังไทยในอดีต เสนอ
ขุนทาส (2513 มิตร-เพชรา) อีกหนึ่งเรื่องที่ไร้ร่องรอย
โดย มนัส กิ่งจันทร์
(facebook 24 พฤษภาคม 2558)


        สวัสดีครับทุกท่าน... ถ้าเป็นสมัยนั้น แค่เห็นใบปิดโฆษณาเรื่องนี้ ผมว่า ก็เรียกคนดูได้แล้ว..ภาพวาดตัวละครแต่ละคนหรือฉากแต่ละฉากบนใบปิดนั้น วาดให้ชวนติดตาม อยากรู้ อยากเห็นยิ่งนัก.. ลองคิดเล่นๆ ว่า ถ้าใบปิดใบนี้ปิดอยู่ข้างฝาบริการรับจ้างฉายหนังกลางแปลง..แล้วมีเจ้าภาพมาว่าจ้างให้ไปฉายหนัง.. มีหรือที่เจ้าภาพจะไม่เลือกเอาหนังเรื่องนี้ไปฉาย..ฉะนั้น แม้เพื่อนๆ ท่านใดที่เกิดทันหนังเรื่องนี้ แล้วไม่ได้ดู.. ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกเพราะฟิล์มหนังเรื่องนี้อาจจะไม่เคยถูกปล่อยออกไปยังจังหวัดท่านก็ได้.. สำหรับผมแล้ว ก็เคยเห็นใบปิดใบนี้อยู่ที่บริการหนังกลางแปลงแห่งหนึ่งในจังหวัดสุรินทร์ซึ่งรับฉายหนัง 16 มม.มาตั้งแต่ผมเด็กๆ เช่นกัน แต่ก็ยังไม่เคยได้ดูหนังกับเขาเลยครับ และถึงวันนี้ ก็ยังไม่มีวี่แววว่า จะเจอฟิล์มหนังเรื่องนี้อีกเลย

        ขุนทาส.. ที่ผมจะกล่าวถึงในวันนี้.. อย่างแรกที่แปลกก็คือ ผู้เขียนบทประพันธ์ซึ่งระบุไว้ว่ามีถึง 5 ท่านคือ รพีพร-แก้วฟ้า-เนรมิต-พรานบูรพ์-ส.อาสนจินดา...นับเป็นจุดขายอย่างหนึ่งเหมือนกันเพราะความจริงแล้ว แค่ท่านหนึ่งท่านใดเป็นคนเขียนเรื่อง หนังก็ขายได้อยู่แล้ว นี่มาถึง 5 ท่านเลย... ส่วนพระเอก-นางเอกของเรื่อง จะถูกแบ่งออกเป็น 3 คู่

• โดยคู่แรกก็ต้องเป็นดาราคู่ขวัญคือ มิตร ชัยบัญชา-เพชรา เชาวราษฎร์...
• คู่ที่สองก็คือ เพชร พิษณุ-ปริม ประภาพร..
• และคู่ที่ 3 ก็คือ ฤทธี นฤบาล-เนาวรัตน์ วัชรา..

        ยังมีดาราคนอื่นๆ อีกหลายคน เช่น อดุลย์ ดุลยรัตน์-ฑัต เอกฑัต-อดินันท์ สิงหิรัญ-ล้อต๊อก... ขุนทาส สร้างในระบบ 16 มม. พากย์สดๆ โดยบริการพงศ์ไทยภาพยนตร์.. โดยมี ลัดดา ประทีปสิงห์ เป็นผู้อำนวยการสร้าง.. ส่วนผู้ที่รับหน้าที่กำกับการแสดงก็คือ ครูเนรมิต..หนังเข้าฉายครั้งแรกเมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2513 ที่โรงหนังเอ็มไพร์

        ว่ากันตามคำโฆษณาแล้ว หนังจะเน้นโชว์ฉากใหญ่ๆ ที่ลงทุนเพื่ออวดคนดูในปี 2513 เช่น ฉากการต่อสู้กันทางเรือที่แม่น้ำโขง ฉากการต่อสู้ยึดค่ายฮ่อที่เมืองกาญจนบุรี.. ส่วนเนื้อหาของหนังนั้น จะเริ่มขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 5 ซึ่งโปรดสั่งให้เลิกทาสแล้ว แต่ ฑัต เอกฑัต ซึ่งเป็นเจ้าเมืองหนึ่งทางภาคอีสาน กลับไม่ยอมทำตามพระประสงค์ ยังคงใช้อำนาจเถื่อนกดขี่ข่มเหงทาสในเรือนของตนต่อไป..สร้างความไม่พอใจแก่เหล่าทาส จึงต้องการหลบหนีออกจากเรือน ต่อมาเพชราซึ่งแสดงเป็น อีเครือ ทาสสาวกับพรรคพวกหลายคน ก็เลยหาทางจะหลบหนีออกจากเรือนไปเป็นไท แล้วก็ทำได้สำเร็จเพราะมีพวกฮ่อเป็นผู้ช่วยด้วย.. แต่ที่ไหนได้ กลับเป็นการหนีเสือปะจระเข้เพราะพวกทาสที่หนีไปด้วยกันกลับถูกพวกฮ่อบังคับใช้แรงงานหนักยิ่งกว่าอยู่ในเรือนทาสเสียอีก.. คราวนี้ เพชราจึงลักลอบหนีออกมาจากค่ายพวกฮ่อด้วยหวังว่า จะหาคนไปช่วยทาสคนอื่นๆ ที่ถูกกักขังในค่ายดังกล่าว...

        ในการหนีออกมาตามคนไปช่วยนี้เองที่ทำให้เพชราได้เจอกับพระเอกมิตร ชัยบัญชา ที่รับบทเป็น ร้อยเอกขุนรณชิต ที่นำทัพออกมาติดตามทาส.. เมื่อมิตรรู้เรื่องจากเพชรา ก็เลยปลอมตัวเป็นทาสเข้าในค่ายพวกฮ่อ จากนั้นก็รวบรวมสมัครพรรคพวกทาสหนุ่มๆ ในการต่อสู้จนสามารถหนีออกจากค่ายพวกฮ่อได้สำเร็จ.. ทาสหนุ่มทาสสาวเมื่อหลุดเป็นไท ก็ลงเอยแต่งงานกัน โดยแยกเป็น มิตรคู่เพชรา.. เพชร-ปริม (ไอ้พัน-เกษร).. ฤทธี-เนาวรัตน์ (เจ้ากิ่ง-ไต้เหลียน)...หนังก็จบ

-------------------------------------

Regis Madec ขอบคุณครับคุณ มนัส ชุมทางหนังไทยในอดีต ที่ได้เกี่ยวกับหนังขุนทาส (2513 มิตร-เพชรา)ครับ. ถ้าคุณมนัสไม่ได้เขียน หนังถูกลืมแน่นอนครับ. หนังน่าดูครับ. เสียดายครับ. หวังว่าจะมีเพื่อนหลายคนช่วยตามหาฟิล์ม ให้หนังที่ถูกลืมหรือหายไปจะมีชีวิตใหม่ครับ.

      ครับ ก็พยายามหาเวลามาเขียน มาเล่าเรื่อง บางเรื่องถ้ามีฟิล์มอยู่บ้าง ก็จะฉายหนังประกอบ ถ้าไม่มีฟิล์มเลย ก็จะพยายามหาเรื่องย่อๆ มาเล่าสู่กันฟังเพื่อไม่ให้หนังถูกลืมนะครับ..

Itichai Patamasiriwat จำได้ว่าเคยดูแต่ไม่ได้ดูจนจบต้องกลับบ้านเพราะเช้าต้องตื่นไปโรงเรียน แต่ความรู้สึกสมัยเด็กๆจำว่า หนังไม่ค่อยสนุก(สำหรับเด็ก) คงเพราะมันมีเรื่องราวที่เด็กไม่มีแบ็คกราวด์และก็ไม่มีหนังที่พูดถึงการรบกับฮ่อให้ชมบ่อยนัก(หรือแทบไม่มีเลย) แต่เท่าที่ประเมินหนังเรื่องนี้คงไม่ประสบความสำเร็จมากเพราะมีคนพูดถึงน้อยกว่าหนังระดมดาราเรื่องอื่นๆในยุคนั้น

        สมัยเด็กๆ จำได้แต่หนังเรื่อง ขุนตาล กับ โป๊ยเซียน..ที่ตอนเป็นเด็กๆ เคยได้ดู แต่ดูไม่จบครับ.. ทุกวันนี้ ได้กากฟิล์ม ขุนตาล มาแล้ว.. ส่วน โป๊ยเซียน หาไม่พบครับ..