เวบบอร์ดสำหรับผู้ชื่นชอบระบบการฉายภาพเคลื่อนไหว
Show time กิจกรรมยามว่าง แสดงความคิดเห็น ประชาสัมพันธ์และอื่นๆ => ไปดูหนังกลางแปลงกันแถอะ => ข้อความที่เริ่มโดย: Thawatchai ที่ 02 เมษายน 2013, 01:12:02
-
หนังแฟนฉัน เป็นหนังที่ผม ดูได้บ่อยๆ ไม่เคยเบื่อ เพราะดูแต่ละครั้ง จินตนาการ วัยเด็ก เกิดขึ้น ไม่เคยซ้ำกันสักครั้ง และความสนุกครั้งใหม่เกิดขึ้นอีกครั้งเมื่อ ดูแฟนฉันแบบหนังกลางแปลง กับ
กำธรฟิล์ม ไทยซีนภาพยนตร์
ติดต่อ 081 2550196
ยึดมั่นอุดมย์การ คุณภาพ, มาตราฐานและความรับผิดชอบ ที่ต้องมาพร้อมกัน
ให้บริการทั้งงานการกุศล และตามกำลังหาของท่านผู้มีพระคุณ ทั้งในกรุงเทพและต่างจังหวัด
เริ่มกันที่หนังตัวอย่างก่อนครับ
http://www.youtube.com/watch?v=3TDondaBfcc
http://www.youtube.com/watch?v=zhhdXZ4k9AI
แฟนฉันแบบญี่ปุ่น น่ารักสุดๆ
http://www.youtube.com/watch?v=KqbMmPZ3434
แฟนฉันแบบ อินโดนีเซีย
http://www.youtube.com/watch?v=Ys8zmprBE6Q
หมายเหตุ
ขอบพระคุณ ทุกข้อมูลครับ การนำเสนอเรื่องราวต่อไปนี้ ดำเนินการไป เพราะความรักและศรัทธา ในสองประการคือ หนึ่ง ด้วยความรักชอบ หนังเรื่องนี้ด้วยความจริงใจ สอง สนับสนุน รักษาไว้ ซึ่งการนำเสนอการฉายหนังในรูปกลางแปลงให้อยู่คู่ สังคมไทยต่อไป
หากข้อมูลที่นำเสนอ นั้นกระทบสิทธิ์หรือ สิขสิทธิ์ของท่าน ต้องขออภัยมา ณ. ที่นี้ด้วย และหากต้องการให้แก้ไข หรือ ตัดออก สามารถ แจ้งได้ที่ ที่กระทู้นี้ ครับ
ขอบพระคุณครับ
-
อยากบอกเธอ..รักครั้งแรก" ต้นกำเนิด"แฟนฉัน"
เรื่องสั้นเรื่องนี้ คือต้นกำเนิดของหนังเรื่อง"แฟนฉัน" คุณวิทยา ทองอยู่ยง 1 ใน 6 ผู้กำกับ ได้เขียน เรื่องสั้นเรื่องนี้เอาไว้ ในเว็บไซต์www. nitade.net
ลองอ่านสิครับแล้วจะรู้ว่า ทำไมมันถึง“โดน”
" อยากบอกเธอ.......รักครั้งแรก
มันเป็นเรื่องที่อยู่ในลิ้นชักความทรงจำของผมมานานแล้วนานจนความทรงจำใหม่ๆเข้ามาทับ
เข้ามาซ้อน จนมันหลุดไปอยู่ลึกๆ จนหาไม่เจอ แล้วจู่ๆ
แม่ก็โทร.ทางไกลมาจากสระบุรีบ “น้อยเขาส่งการ์ดมาให้บอลน่ะ
เค้าจะแต่งงานวันเสาร์หน้าแล้วนะ”
“น้อย.......ไหนแม่” ผมงงน่ะ “ก้อ น้อย......หน่า ของเอ็งไง” แม่เฉลย
ภาพเก่าสมัยเด็กๆ ลอยขึ้นมาทันทีที่สิ้นคำว่า“ไง” ของแม่เด็กหญิงช่างพูด
อายุประมาน 6 ขวบ แก้ม แดง ตาแป๋ว ผมยาว ยาวจนต้องถักเปียทั้งสองข้าง
ตัวบางร่างเล็ก แต่มีของเยอะจนเด็กๆแถวบ้านชอบล้อเธอว่า“น้อยหน่านมใหญ่”
ผมก็ไม่รู้หรอกครับว่ามันใหญ่หรือไม่อย่างไร เพียงแต่เวลาเธอโดนล้อมากๆ
เธอจะร้องไห้กลับบ้าน
ทำให้ผมไม่มีเพื่อนเล่นผมจึงต้องไล่ตีไอ้คนล้อเธอทุกที(ไอ้สิ่งที่ผมทำไปเนี่ย
ถ้าผู้ใหญ่เค้าทำให้แก่กัน เค้าเรียกว่า ปกป้อง)
เราสองคนบ้านอยู่ติดกัน บ้านผมขายกาแฟและน้ำดื่ม
บ้านเธอขายข้าวราดคนกินข้าวร้านเธอ ก็จะสั่ง น้ำจากร้านผม คนมานั่งกินกาแฟ
พูดคุยสนทนาสภากาแฟ คุยกันเป็นวันๆที่ร้านผม พอหิวข้าว ก็สั่งข้าวร้านเธอ
ร้านของเรามีบริการdelivery โดยที่เราสองคนคือคนไปส่งของ และมักจะไปพร้อมๆกัน
เพราะคนสั่ง พร้อมกันเสมอๆ เธออายุมากกว่าผม 4 เดือน
และด้วยความที่แถวละแวกบ้านเรามีเด็กผู้หญิงเยอะกว่าเด็กชาย เวลาเล่นกัน
ถ้าไม่เล่นกระโดดยาง ก็จะเล่นขายของบ่อยๆ ผมก็ต้องยอม เพราะไม่งั้นก็ไม่
ได้เล่น ผมต้องเล่นเป็นพ่อ
น้อยหน่าเล่นเป็นแม่เพื่อนเธออีกคนเป็นลูกที่เหลือเป็นคนซื้อ
แม่ขายของอยู่บ้าน พอพ่อกลับบ้าน แม่ก็จะทำอาหารให้กิน
อาหารคือใบไม้มาหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ แช่น้ำเป๊บซี่ ที่ผม
แอบหยิบมาจากตู้แช่โดยไม่ให้แม่รู้ (ขโมย)
เอามาให้พวกเราเล่นกันส่วนกระโดดยางนั้น
เป็นเกมโปรดของน้อยหน่าเลยทีเดียวเพราะเธอเล่นเก่งมาก กระโดดได้สูง
ตั้งแต่อีตาตุ่ม ไล่ขึ้นไปอีเข่า อีตรง อีกระเป๋าล่าง อีกระเป๋าบน อีเอว อีพุง
อีอก อีคอ อีติ่ง อีหัว อีสูงสุด เธอโดดผ่านหมด
เธอเคยบอกว่าเธออยากเป็นนักกระโดดสูงไปแข่งโอลิมปิค ผมว่าเธอมีลุ้นทีเดียว
เราเล่นซนประสาเด็กๆ กันเกือบทุกวัน เช้าๆ
เธอตื่นเช้ากว่าผมก็จะขึ้นไปปลุกผมบนบ้าน
โดยใช้วิธีกระโดดทับตัวผมที่กำลังนอนหลับสบายอยู่บนเตียงจนผมตกใจสะดุ้งตื่นต้องรีบลุก
ไม่งั้นเธอกระโดดทับอีก ออกไปล้างหน้าแล้วลงไปเล่นกับเธอเที่ยงก็กลับมากินข้าว
จานใครจานมัน แต่กินน้ำ กระป๋องเดียวกัน ตกบ่ายก็เล่นกระโดดยาง
เย็นก็มานั่งดูโทรทัศน์ พวกไอ้มดแดง หน้ากากเสือ ด้วยกัน(ไอ้สิ่งเหล่านี้
ถ้าเป็นผู้ใหญ่เค้าทำกัน เค้าเรียกว่าออกเดท)
-
ต่อครับ
เวลามีงานปีใหม่ ผู้ใหญ่ก็จะจับเราเต้นประกอบเพลง
และต้องเต้นคู่กันจนได้สตางค์เอามากินขนมกันหลายวัน(ถ้าเป็นผู้ใหญ่ทำ
เค้าเรียกกันว่า ช่วยกันทำมาหากิน) เวลาผ่านไป พอเราเข้าโรงเรียน
ผมก็เริ่มมีเพื่อนผู้ชายเหมือนน้อยหน่าที่เริ่มมีเพื่อนผู้หญิงมากขึ้น
โลกของผมกว้างใหญ่ขึ้น เริ่มมีจักรยาน ลูกข่าง เป่ากบเข้ามาในชีวิต แต่ยังไงๆ
ผมก็ยังมีกระโดดยาง เล่นขายของ และน้อยหน่า อยู่เหมือนเดิม
เรายังคงเล่นด้วยกันอยู่บ่อยๆ จนกระทั่ง
-ผ ม เ ป็ น เ ห า!........................................
แม่บอกว่าติดมาจากน้อยหน่า ก็ผมเปียยาวสลวยคู่นั้นแหละ
เราโดนเพื่อนล้อแซวต่างๆนานา เรียก น้อยหน่าว่า อีเหา เรียกผมว่า ไอ้เหา
จนแม่ผมต้องเอาใบน้อยหน่ามาคั้นน้ำ แล้วโปะหัวไว้ ถึงจะหาย
แต่เพื่อนๆก็ยังเรียกผมว่าไอ้เหาอยู่ดี ต่อมาเมื่อผมเรียนลูกเสือสำรอง
ต้องตัดผมเกรียนนั่นแหละที่พวกมันเลิกเรียกชื่อนี้น้อยหน่าเสียใจที่
เป็นต้นเหตุให้ผมต้องเป็นเหา ผมบอกเธอว่า
ติดเหาจากเธอแต่ใบของเธอก็ทำให้ผมหายจากเหานะ (ไอ้สิ่งที่ผมทำนี้
ถ้าเป็นผู้ใหญ่เค้าเรียกว่า เกี้ยว)
ต่อมาไม่นานน้อยหน่าก็ตัดผมสั้น โดยบอกเหตุผลว่าต้องเรียนยุวกาชาด
แต่ผมว่าเธอต้องกลัวว่าจะทำให้ผมติดเหาเธออีกแน่เธอถึงยอมตัดเปียทิ้ง
(สิ่งที่เธอทำผู้ใหญ่เค้าเรียกว่า เสียสละเพื่อคนที่ตนรัก)
แต่เพื่อนๆก็ยังคงแซวเราเรื่อยๆ ว่าผมชอบเล่นกับผู้หญิงบ้าง
เป็นเหาเหมือนผู้หญิงบ้าง สงสัยม*งจะเป็นกะเทย จนผมทนไม่ได้
ต้องพิสูจน์ให้เพื่อนๆเห็นว่า ผมเป็นผู้ชาย การจะเป็นผู้ชายได้นั้น
มันต้องเกเร แกล้งผู้หญิง และขี่จักรยานปล่อยมือ
-
ต่อครับ
เย็นนั้นผมขี่จักรยานแต่ปล่อยมือข้างเดียวนำแก๊งซิ่งของพวกเ
ราไปที่วงกระโดดยางที่น ้อยหน่าเล่นอยู่เธอพูดเหมือนทุกครั้งว่าธอ “ บอล
มาช้าอีกแล้ว ไปหาคู่มา แล้วเป่า ยิ้ง ฉุบ เลือกข้าง”
แต่วันนี้ผมไม่ได้ช้า เพราะผมเดินไปถึงคนที่ถือหนังยางตั้งแต่เธอเรียกชื่อ บอล
แล้วพร้อมทั้งล้วงเอา กรรไกรออกมาตัดยางที่พวกเธอใช้กระโดดยาง
จนขาดเป็นเส้นเล็กเส้นน้อย เธอโมโห วิ่งมาตีผม
ผมผลักเธอล้มจนกระโปรงนักเรียนเธอเปิดเห็นกางเกงใน
แล้วก็วิ่งหนีขี่จักรยานจากไป(สิ่งที่ผมทำกับ เธอ ผู้ใหญ่ผู้หญิงเค้าเรียกว่า
งี่เง่า) คืนของเย็นนั้น ผมกลับเข้าบ้าน เจอแม่ของน้อยหน่า
ถามว่าทะเลาะอะไรกันหรือเปล่า น้อยหน่ากลับ ถึงบ้าน ไม่พูดไม่จา ข้าวปลาไม่กิน
ขังตัวเองอยู่ในห้องน้ำตั้งนานออกมาก็เข้านอนเลย ผิดวิสัยที่เธอ ช่างพูด
ผมโกหกแกไปว่า วันนี้ยังไม่ได้เจอกันเลย
สงสัยทะเลาะกับเพื่อนที่โรงเรียนมั้งครับ เช้าวัน ต่อมา น้อยหน่าหยุดเรียน
เธอไม่สบาย เป็นไข้หวัดต้องเข้าโรงพยาบาลหลายวัน ผมไม่กล้าไปเยี่ยมเธอ
เพราะรู้สึกผิดนิดๆ พอเธอกลับมาจากโรงพยาบาล
เธอก็ไม่พูดถึงเหตุการณ์วันนั้นเลย และเปลี่ยนไป ไม่ดื้อ ไม่ซน ไม่
เล่นเหมือนเด็กผู้ชายอีกต่อไป ส่วนผมก็รู้ว่าเธอโกรธ แต่ก็ไม่กล้าง้อเธอ
เดี๋ยวเพื่อนมันจะหาว่าเป็นกะเทยอีก ก็เลยพลอยไม่กล้าไปเล่นบ้านเธอไปด้วย
เอาแต่เล่นลูกข่าง เป่ากบ ไปตามประสาเด็กผู้ชาย ไม่ใช่ผู้หญิง
เราเริ่มห่างกันเรื่อยๆ จนกระทั่งแม่เธอถูกล็อตเตอรี่รางวัลที่สอง
จึงเลิกขายข้าวที่ร้านเดิม ไปเปิดห้องอาหารอยู่ข้างๆ โรงงานกระเบื้อง
ห่างไปประมาณ 4กิโล
วันสุดท้ายก่อนเธอจะย้ายบ้านผมรวบรวมวงยางที่ได้จากการเป่ากบที่เก็บไว้ในกระป๋องเยอะแยะ
มานั่งร้อยเป็นเส้นยาวๆ เอาไปให้เธอ แล้วบอกเธอว่า
“เราทำเส้นใหม่มาชดใช้ให้แล้ว” เธอหน้าบึ้งง “แล้วเล่นให้เก่งๆ
จนเป็นนักกีฬาทีมชาตินะ” เธอยังบึ้งอยู่แล้วค่อยๆยิ้มแก้มแดง ตาแป๋ว
(ไอ้แบบนี้ ถ้าผู้ใหญ่ทำกันเค้าเรียกว่า แง่งอน)
แล้วเราก็ไม่ค่อยได้เจอหน้ากันบ่อยเหมือนแต่ก่อน ....
จนกลายเป็นเพียงแค่ความทรงจำ
................................................................
หลังจากที่แม่วางหูไปแล้ว ผมมาทบทวนเรื่องราวดูก็พบว่า
นั่นอาจเป็นรักแรกของผมก็ได้ รักแรบที่จบลงเพราะความงี่เง่าไม่เข้าท่า
กล้าผิดเรื่อง ไอ้เรื่องที่ควรกล้าก็ไม่กล้าว พ่อเคยบอกว่า
สำหรับเรื่องของความรู้สึกนั้น เราใช้อวัยวะสำคัญสองอย่างนี้แค่อันเดียวก็พอ
เพียงแต่ เรื่องความรักครั้งนี้ ผมดันเลือกปอด แทน หัวใจ......
ปล. น้อยหน่า ชื่อจริงชื่อ สุนิตา แต่งงานกับคุณมานพ
รองผู้จัดการโรงงานมินิแบร์ บางปะอิน อายุห่าง กัน 19 ปี ณ โรงแรมเกียวอัน จ.
สระบุรี เสาร์ที่ 28 ตุลาคมนี้18.00น. ถ้าว่างไปด้วยกันนะครับ
ผมคงจะไปบอกพี่มานพว่าฝากดูแลสุนิตาด้วย แล้วก็บอกน้อยหน่าว่า
ถ้าเธอมีน้องเมื่อไหร่ ตั้งชื่อว่า บอล นะ
-
แฟนฉัน เป็นภาพยนตร์เรื่องแรกที่เกิดขึ้นจากการที่ 3 บริษัทบันเทิงไทยอย่าง จีเอ็มเอ็ม พิคเจอร์ ที่พรั่งพร้อมด้วยแผนการตลาดและโฆษณามี ไท เอ็นเตอร์เทนเมนท์ ที่เชี่ยวชาญในเรื่องการจัดจำหน่ายแน่นด้วยประสบการณ์ที่เข้าใจคนดูหนังไทย และ หับโห้หิ้น ฟิล์ม ที่อัดแน่นด้วยทีมงานการสร้างภาพยนตร์ระดับแนวหน้าร่วมมือร่วมใจกันทำงานเพื่อบันทึกไว้เป็นเกียรติประวัติทั้ง 3 บริษัทมีมุมมองเดียวกัน
ภาพยนตร์เรื่อง แฟนฉัน กำกับโดย ผู้กำกับ 6 คน ในนาม กลุ่ม 365 ฟิล์ม กลุ่มคนรักหนังของเพื่อนๆ คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย รุ่น 29 วิชาเอกภาพยนตร์และภาพนิ่ง อันประกอบด้วย นิธิวัฒน์ ธราธร (ต้น), ทรงยศ สุขมากอนันต์ (ย้ง), คมกฤษ ตรีวิมล (เอส), วิทยา ทองอยู่ยง (บอล), วิชชา โกจิ๋ว (เดียว), อดิสรณ์ ตรีสิริเกษม (ปิ๊ง) โดยมี จิระ มะลิกุล, ยงยุทธ ทองกองทุน และ ประเสริฐ วิวัฒนานนท์พงษ์ เป็นโปรดิวเซอร์ เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับ ความรักวัยเด็ก ในอดีตแห่งความทรงจำ และเข้าฉายเมื่อวันที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2546
ในเรื่องการเขียนบท ที่ผู้กำกับฯ ทั้ง 6 คนร่วมกันเขียน ยังได้ อมราพร แผ่นดินทอง รุ่นน้องที่เป็นนักเขียนนิตยสารเด็ก มาร่วมเขียนบทอีกด้วย โดยดัดแปลงมาจากเรื่องสั้น อยากบอกเธอรักครั้งแรก ในเว็บไซต์ นิเทศฯ ดอตเน็ต ที่บอล (วิทยา ทองอยู่ยง) เป็นคนเขียน
เป็นภาพยนตร์ที่ทำรายได้มากที่สุดในปีนั้น ด้วยมูลค่าถึง 137 ล้านบาท
ชื่อภาพยนตร์ มาจากชื่อเพลง แฟนฉัน ของวงชาตรี โดยฉากในภาพยนตร์ ส่วนใหญ่อยู่ในจังหวัดเพชรบุรี
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
-
มาชมการติดตั้ง ระบบเครื่องฉาย เครื่องเสียง และ จอ ครับ
สามารถ ดูเพิ่มเติม ได้จาก กระทู้ตามลิ้งค์ได้เลย ครับ สำหรับรายละเอียดอื่นๆ ในงานวันฉายครับ
http://www.thaicine.org/board/index.php?topic=2587.0 (http://www.thaicine.org/board/index.php?topic=2587.0)
-
มาชมการติดตั้ง ระบบเครื่องฉาย เครื่องเสียง และ จอ อีกชุดครับ
สามารถ ดูเพิ่มเติม ได้จาก กระทู้ตามลิ้งค์ได้เลย ครับ สำหรับรายละเอียดอื่นๆ ในงานวันฉายครับ
http://www.thaicine.org/board/index.php?topic=2587.0
-
ภาพบนจอครับ
สามารถ ดูเพิ่มเติม ได้จาก กระทู้ตามลิ้งค์ได้เลย ครับ สำหรับรายละเอียดอื่นๆ ในงานวันฉายครับ
http://www.thaicine.org/board/index.php?topic=2587.0
-
เรื่องย่อ หลังจากถูกเขียนเป็นบทภาพยนตร์แล้ว
ภาพ แห่งอดีต จริงๆ แล้วมันไม่เคยจากไปไหน มันอาจจะซุกอยู่ที่ซอกหนึ่ง ในลิ้นชักความทรงจำ และอยู่อย่างนั้นมาตลอด จนความทรงจำใหม่ๆ เข้ามาทับ เข้ามาซ้อน ดันมันไปจนสุดลิ้นชัก แต่เมื่อใดก็ตามที่ได้ยินเพลงอย่างนี้แว่วมา หรือเห็นรูปภาพสีเหลืองๆ แดงๆ เก่าๆ ความทรงจำในครั้งนั้น ก็เหมือนถูกมือซนๆ หยิบมันออกมาปลุกให้กลับมามีชีวิต... อีกครั้งหนึ่ง
ทุกคนคงมีภาพความทรงจำในวัยเด็กกันทั้งนั้น เหมือนกันในรูปแบบ ต่างกันในรายละเอียด มีสิ่งที่ชอบเล่นเหมือนกัน ผู้ชายอาจจะมีขี่จักรยาน เป่ากบ ผู้หญิงอาจจะมีกระโดดยาง เล่นขายของ ...แต่ผมมีทั้งสองแบบ บางคนอาจจะขลุกอยู่หน้าจอทีวี กับลีลาสุดเท่ของยอดมนุษย์ หรือจอมยุทธจากหนังจีนกำลังภายใน ในขณะที่บางคนอาจจะชอบใช้ชีวิตนอกบ้าน เที่ยวเล่นจนตัวดำ ออกจากบ้านตั้งแต่เช้า กลับมาอีกทีก็เมื่อฟ้ามืด ...แต่ผมเป็นทั้งสองแบบ บางคนอาจจะมีเพื่อนเป็นแก๊งค์ลิงทโมนอยู่กลุ่มใหญ่ ที่พากันดื้อซนจนแม่ๆ เอือมที่จะด่า ในขณะที่อีกคนกลับมีเพื่อนน้อยมาก เพื่อนที่ซี้ที่สุดอาจจะมีแค่คนเดียว และเป็นเด็กผู้หญิงแก่นกะโหลกด้วยก็มี ...และผมก็มีทั้งสองแบบ น้อยหน่า คือชื่อเด็กผู้หญิงคนนั้น เธอเป็นเพื่อนผมมาตั้งแต่ยังเล็ก เพราะบ้านเราอยู่ติดกัน แถมละแวกบ้านเรา ยังไม่ค่อยมีเด็กวัยเดียวกันอีก เราจึงเล่นด้วยกัน ถึงแม้ว่ามันจะเป็นการละเล่นแบบผู้หญิง พวกกระโดดยาง เล่นขายของก็ตาม ผมก็สนุกที่จะเล่นกับเธอ จนกระทั่ง...ผมเริ่มโต เริ่มอยากเล่นแบบเด็กผู้ชายที่มันโลดโผนบ้าง ถึงขนาดไปขอเข้าแก๊งค์เด็กผู้ชาย ที่เป็นคู่อริกับน้อยหน่าก็ยอม พวกมันยื่นคำขาด ให้ผมพิสูจน์ความเป็นลูกผู้ชายให้มันเห็น ลูกผู้ชายที่เข้มแข็ง สามารถเอาชนะศัตรูได้ และศัตรูของพวกมันก็คือน้อยหน่า และเด็กๆ ผู้หญิงละแวกนั้น ...ผมยอมทำ นั่นทำให้น้อยหน่าโกรธผม และอาจจะถึงขั้นเกลียดเลยก็ได้ และที่สำคัญก็คือ ผมไม่มีโอกาสได้ขอโทษเธอ เพราะไม่กี่วันต่อมา เธอก็ย้ายบ้านไปที่อื่น คนละจังหวัดกัน และไม่ได้เจอเธออีกเลย วันนี้ เธอส่งการ์ดงานแต่งงานมาให้ที่บ้านผม สิบกว่าปีที่เราไม่ได้เจอกัน เธอยังจำเพื่อนคนแรกของเธอได้ ลิ้นชักของเธอคงเป็นระเบียบกว่าของผมเยอะ ไม่รู้ว่าเธอจะเปลี่ยนไปแค่ไหน หรือว่าเห็นหน้าผมแล้วเธออาจจะงง ว่าไอ้ชายหนุ่มคนนี้ เป็นคนเดียวกับเด็กชายคู่หูเธอคนนั้นหรือเปล่า แต่ผมก็จะไปงานแต่งงานเธอ เพื่อนซี้เมื่อสิบขวบของผม...แน่ๆ
นักแสดง
ด.ช.ชาลี ไตรรัตน์ (แน็ค) - รับบท “เจี๊ยบ”
ด.ญ.โฟกัส จีระกุล (โฟกัส) - รับบท“น้อยหน่า”
ด.ช.เฉลิมพล ทิฆัมพรธีรวงศ์ (แจ๊ค) - รับบท “แจ๊ค”
ด.ช.อัญญาฤทธิ์ พิทักษ์ติกุล (เกตต์) - รับบท “บอย”
ด.ช.ธนา วิชยาสุรนันท์ (อ๋อง) - รับบท “พริก”*
ด.ช.หยก ธีรนิตยาธาร (หยก) - รับบท “มาโนช”
ด.ช.อภิชาญ เฉลิมชัยนุวงศ์ (ออฟ) - รับบท “ตี่”
ด.ญ.ภานุชนารถ สีหะอำไพ (น้ำผึ้ง) - รับบท “เงาะ”
ด.ญ.มัธณา ใจเย็น (เฟิร์สท์) - รับบท “โอเล่”
ด.ญ.หัทยา รัตนานนท์ (ไหม) - รับบท “จุก”
ด.ญ.สุวรี วรศิลป์ (เอิร์ธ) - รับบท “กิมเตียง”
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
-
เพลงประกอบภาพยนตร์
เพลงประกอบภาพยนตร์เรื่องนี้ นำเพลงที่เคยโด่งดังในอดีต ถึง 19 เพลง ได้แก่ เพลงประตูใจ, รักคือฝันไป, เป็นแฟนกันได้อย่างไร, รักครั้งแรก ของ สาว สาว สาว, เพลงแฟนฉัน, รักครั้งแรก ของวงชาตรี, เพลงป้ากะปู่, รักบึงเก่า ของวงเพื่อน, เพลงใจเธอใจฉัน ของ 18 กะรัต, เพลงน่าอาย ของวงรอยัลสไปรท์, เพลงหัวใจสลาย ของเดอะฮอตเปปเป้อร์ซิงเกอร์, เพลงสายเกินไป จากวงโอเวชั่น, เพลงคนที่รู้ใจ ของ แหวน ฐิติมา สุตสุนทร, เพลงคอนเสิร์ตคนจน ของวงนกแล, เพลงอย่าดีกว่า ของวงไมโคร, เพลงสาวสวนแตง และ เป็นโสดทำไม ของ สุรพล สมบัติเจริญ รวมไปถึงเพลงเอก จากภาพยนตร์จีนชุดทางโทรทัศน์เรื่อง กระบี่ไร้เทียมทาน และเพลงสากลยอดนิยมในอดีต อย่างเพลง More Than I Can Say ของลีโอ เซเยอร์
ส่วนเพลงที่นำมาทำใหม่เช่น แฟนฉัน โดย AB Normal, เพลงรักครั้งแรก โดย จั๊ก - ชวิน, เพลงป้ากะปู่ โดย ดาจิม และเพลงความทรงจำสีจาง ที่แต่งใหม่ร้องโดย ปาล์มมี่
สาว สาว สาว - ประตูใจ
http://www.youtube.com/watch?v=9Cv5V6Wxg1M
สาว สาว สาว - รักคือฝันไป
http://www.youtube.com/watch?v=7K60bSyzT1I
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
-
ฟังเพลงกันต่อครับ
เป็นแฟนกันได้อย่างไร สาว สาว สาว
http://www.youtube.com/watch?v=GMxVp1UMOI4
รักครั้งแรก ของวงชาตรี
http://www.youtube.com/watch?v=nBmPh2CldFA
-
เพลงสายเกินไป จากวงโอเวชั่น
http://www.youtube.com/watch?v=06LDoscZW8M
กระบี่ไร้เทียมทาน
http://www.youtube.com/watch?v=IeAmuL3RiVg
-
GTH Family Ep.1 แฟนฉัน แฟนกัน 10 ปี
รายการที่นำเสนอเรื่องราวความประทับใจและชีวิตของดาราและนักแสดงจาก GTH ทั้งในอดีตและปัจจุบัน เพื่อให้เข้าถึง Lifestyle
ของพวกเขาอย่างใกล้ชิดในมุมที่ไม่มีใครเคยได้สัมผัสมาก่อน
ตอนแรก กับภาพยนตร์ เรื่อง "แฟนฉัน"
http://www.youtube.com/watch?v=C7_CW62ye20
รับชมรายการ GTH Family ได้ทางช่อง Play Channel ออกอากาศ : ทุกวันจันทร์ เวลา 22.00 น.
รับชมออนไลน์ได้ที่ www.myplaychannel.com/Onair
ดูรายการย้อนหลังได้ที่ http://www.myplaychannel.com/84-WeSho...
-
GTH Family Ep.2 แฟนฉัน แฟนกัน 10 ปี
http://www.youtube.com/watch?v=jmRrATg4e1s
-
GTH Family Ep.3 แฟนฉัน แฟนกัน 10 ปี
http://www.youtube.com/watch?v=8FPxeAqlqlc
-
GTH Family Ep.4 แฟนฉัน แฟนกัน 10 ปี
http://www.youtube.com/watch?v=XQDVa0DW2jk
-
GTH Family Ep.5 แฟนฉัน แฟนกัน 10 ปี
http://www.youtube.com/watch?v=Ras8MbdcOpg
-
GTH Family Ep.6 แฟนฉัน แฟนกัน 10 ปี
http://www.youtube.com/watch?v=p5sHLcqN86I
-
GTH Family Ep.7 แฟนฉัน แฟนกัน 10 ปี
http://www.youtube.com/watch?v=Mnu4RVMeeYM
-
GTH Family Ep.8 แฟนฉัน แฟนกัน 10 ปี The End
http://www.youtube.com/watch?v=IUNgew0eT8M
-
ขอบพระคุณทุกท่าน ที่เข้ามาเยี่ยมชม ลองชวนคนที่ท่านรัก ไปชมบรรยากาศ และเสน่ห์ ของหนังกลางแปลง กันนะครับ
แล้วคอยพบกับหนังกลางแปลงเรื่องต่อไปเร็วๆ นี้ครับ
Wat ThaiCine
-
ยอดเยี่ยครับ ข้อมูลเต็มร้อยเลย....
-
ขอบคุณครับ เพลินมาก
-
แฟนฉันฉบับ อินโดนีเซีย เจี๊ยบ ชื่อ เจมิ น้อยหน่า ชื่อ นิน่า น่ารักดี เพลงใช้เพลงดัง ของเขาทั้งหมด สุดยอดเลยหนังไทย ;D ;D
-
นั่งดูตั้งแต่เช้าเลย งานการไม่ได้ทำเลย... :-*
-
นั่งดูตั้งแต่เช้าเลย งานการไม่ได้ทำเลย... :-*
Playchannel ออกอากาศ วันละตอน พี่ฉัตรชัย ดูหมดเลย อ่ะครับ สุดยอด เพลินเลย อิ อิ ;D ;D
คุณมีชัย ท่านป๊อป ก็เพลินเหมือนกัน อิ อิ ;D ;D
-
นั่งดูตั้งแต่เช้าเลย งานการไม่ได้ทำเลย... :-*
Playchannel ออกอากาศ วันละตอน พี่ฉัตรชัย ดูหมดเลย อ่ะครับ สุดยอด เพลินเลย อิ อิ ;D ;D
คุณมีชัย ท่านป๊อป ก็เพลินเหมือนกัน อิ อิ ;D ;D
ใช่ครับ ยังดูไม่หมดเลย.. ;D ;D
-
ดูหลายครั้งน่ะแต่ก็อดลุ้นไม่ได้ซะที ตอนที่เด็กๆนั้งซาเล้งตามรถย้ายบ้านน้อยหน่าอิอิ
-
ข้อมูลแน่นเยี่ยมมากครับ เป็นหนังที่ดูเมื่อไหร่ก้อทำไห้คิดถึงวัยกระเตาะๆของเราเลย
-
ชอบมากเลยครับเรื่องนี้ให้บรรยากาศและความรู้สึกเหมือนในชีวิตจริงในสมัยตอนเป็นเด็กได้มากที่สุด ผมคิดว่ามีหลายๆคนที่นั้งดูและต้องอดคิดไม่ได้ว่า เออวะในสมัยนั้นเราก็เป็นเช่นนี้ แก้ผ้าโดดน้ำ เป่ากบ โดดหนังยาง ขี่จักรยานBMX ขอบคุณขอมูลดีๆมากๆครับ
-
น่าภูมิใจนะ แล้วญี่ปุ่นเค้าไม่รู้สึกว่ากำลังดูโดเรม่อนภาคเด็กไทยอยู่หรอ แล้วในช่วงเวลานั้น ผู้สร้างฝั่ง ไทเอนเตอร์เทนเม้น ได้ดู VCD หนังสั้นเรื่องหนึ่ง ที่บรรยากาศ มีเด็กๆแกล้งกัน มีชนบท มีคลองชล ที่ไม่ใกล้จากชุมชน เรื่องนั้นคล้ายแฟนฉัน และทีมงานของไทฯ ชอบมาก ถึงขนาดติดต่อผู้กำกับหนังสั้นเรื่องนั้นให้เสนอบท แต่เรื่องที่เสนอ เป็นหนังแอ๊คชั้นทั้งหมด 2 เรื่อง ซึ่งงบสูง และบทร่างแรกเขียนยังไม่เสร็จ จนในปีต่อมา ไทฯ ได้ร่วมกับอีก 2 บ. สร้างแฟนฉันในที่สุด
ถึงวันนี้ ผู้กำกับหนังสั้นคนนั้น ก็ทำหนังยาวเล็กๆ 1 เรื่องสำหรับฉายกับโรง Apex อยู่ในขั้นตอนตัดต่อ และกำลังเสนอบทหนังรักวัยรุ่นกับค่าย M Pictures