(http://image.ohozaa.com/i/521/tu7e6Y.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/xoZKbXXvSwe5YiAF)
บทที่ 18
ชุมทางหนังไทยในอดีต เสนอฉาย
หนึ่งในโครงการภาพยนตร์ไทยคงเหลือ
ดรรชนีนาง (2504 พิศมัย - แสน)
โดย มนัส กิ่งจันทร์
(facebook 24 เมษายน 2556)
สวัสดีครับทุกท่าน วันนี้ โครงการภาพยนตร์ไทยคงเหลือ ภาคภูมิใจเสนอฉายหนัง 16 มม.พากย์สด ๆ ซึ่งเป็น ตำนานรักของสาวสงขลา ในเรื่อง “ดรรชนีนาง” บทประพันธ์ของ “อิงอร” ผลงานการสร้างของ ภาพยนตร์สหะนาวีไทย โดย สุพรรณ พราหมณ์พันธุ์ เป็นผู้อำนวยการสร้าง..นำแสดงโดย พิศมัย วิไลศักดิ์-แสน สุรศักดิ์-งามตา ศุภพงษ์-อบ บุญติด-ม.ร.ว.ประสิทธิศักดิ์ สิงหรา-พูนสวัสดิ์ ธีมากร..ออกฉายครั้งแรกต้อนรับตรุษจีนวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2504 ที่โรงหนังศาลาเฉลิมกรุง-เฉลิมบุรี..
เป็นหนังรักที่โด่งดังมากในอดีต.. จนมีแฟนๆ อยากจะดูกันอีก แต่ก็ไม่สามารถค้นหาหรือตามหากากฟิล์มหนังได้เลย..หรือแม้กระทั่งใบปิดโปสเตอร์ฉบับเหมือนจริง ก็ยังตามหากันไม่ได้เลย.. หนังเรื่องนี้จึงเหมือนหนังเรื่องหนึ่งที่ถูกลืม.. แต่หากย้อนหลังกลับไปเมื่อประมาณ 40 กว่าปีที่แล้ว กากฟิล์มหนังเรื่องนี้ถูกใช้ให้ความบันเทิงกับผู้คนต่างอำเภอในจังหวัดนครสวรรค์..
คนที่ฉายก็คือ นายหลุย ปานขลิบ เจ้าของร้านขายยาหมอหลุยที่ชาวบ้านอำเภอหนองบัว คุ้นเคยกันดีสมัยนั้น นายหลุยยังมีกิจการเล็ก ๆ เป็นโรงหนังหรือที่ชาวบ้านเรียกว่า “วิกศรีประทุม” ฉายหนัง 16 มม.เก็บสตางค์จากคนดู บางครั้งก็ปิดวิก แล้วออกไปเร่ฉายหนังขายยาแทน..
ว่ากันว่า หนังเรื่องสุดท้ายที่อยู่ในมือนายหลุย ก็คือเรื่อง ดรรชนีนาง นี่แหละครับ..เมื่อหมดยุคหนัง 16 มม.ได้ไม่นาน ประมาณปี 2520 นายหลุยก็ลาอุปสมบทไปเป็นพระภิกษุในบวรพุทธศาสนา คงเหลือไว้แต่เครื่องฉายหนัง 16 มม.กับฟิล์มหนังเรื่อง ดรรชนีนาง เก็บไว้เป็นที่ระลึกในร้านขายยาแห่งนั้น..ระหว่างเป็นพระภิกษุก็เผอิญเพื่อนใน facebook คือ คุณอนุกูล Anukool Vimoolsak หรือที่เพื่อนๆ ชอบเรียกว่า ครูนุ...
ซึ่งไปบวชในวัดเดียวกัน ครูนุเป็นคนที่สนใจเกี่ยวกับหนังอยู่แล้ว พอทราบข่าวว่า หลวงพ่อท่านนี้ (นายหลุย) เคยเป็นคนฉายหนังขายยามาก่อน ครูนุก็ได้แต่ฟังไว้ แต่ยังไม่ได้คุยกันเพราะยังบวชเรียนอยู่ กระทั่งสึกออกมาทำงานทำการแล้วและเริ่มรู้จักกับเพื่อนๆ ที่ชอบฉายหนัง รู้ว่าเพื่อนๆ กำลังตามหาฟิล์มหนังเก่าๆ ก็เลยนึกถึงคำพูดที่ว่า หลวงพ่อท่านนี้เคยเป็นคนฉายหนังมาก่อน..
(http://image.ohozaa.com/i/gf3/NPZHQG.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/xoZLjrNbswkG3A1z)
แต่นึกได้ตอนนั้น ก็สายไปแล้วครับเพราะหลวงพ่อท่านมรณภาพไปแล้ว.. แต่ครูนุซึ่งบ้านอยู่ในอำเภอเดียวกัน ก็ไม่ละความพยายาม จึงเลียบๆ เคียงๆ ไปเสาะหาที่ตั้งของโรงหนังวิกศรีประทุม ถามหาร้านขายหมอหลุย จนไปพบ แล้วก็เข้าไปพูดคุยกับลูกหลานของหลวงพ่อ.. ก็เลยได้ความตามที่ผมเล่ามานั่นแหละครับ..วันนั้น ครูนุจึงได้กากฟิล์มหนังเรื่อง ดรรชนีนาง มาจากร้านขายาหมอหลุย 4 ม้วน ส่วนเครื่องฉาย RCA ที่หมอหลุยใช้ฉายนั้น สนิมเขลอะ เสีย ใช้ไม่ได้แล้วครับ.. จากนั้นครูนุก็เก็บฟิล์มชุดนี้ไว้ต่อมาอีก 4-5 ปี..
กระทั่งเมื่อผมเริ่มเขียน “โครงการภาพยนตร์ไทยคงเหลือ” ก็นึกขึ้นได้ว่า แต่ก่อนหลายปีมาแล้ว ครูนุเคยพาคุณโต๊ะพันธมิตรและผมไปยืมฟิล์มจากหลวงพ่อที่วัดแห่งหนึ่งในอำเภอหนองบัว.. และยังมีฟิล์ม 16 มม.เหลืออีกเรื่องหนึ่งที่ไม่ได้ยืมมาตอนนั้น ความตั้งใจของผมก็คือ ถามครูนุว่า เราจะไปยืมฟิล์มเรื่องนั้นมาเข้าโครงการฯ ได้อีกหรือไม่..
แต่สิ่งที่ได้คำตอบกลับมาตอนนั้นก็คือ ครูนุบอกว่า มีฟิล์ม ดรรชนีนาง เก็บไว้และทายาทเจ้าของฟิล์มก็อยากจะเห็นหนังที่พ่อตนเองเก็บไว้ด้วยว่าเป็นอย่างไร คราวนี้ ครูนุกับผมก็เลยนัดแนะกันว่า จะหิ้วฟิล์มเข้ากรุงเทพฯ มาหาในช่วงตรุษจีนนี่แหละครับ.. แล้ววันนั้นก็มาถึง ครูนุนำฟิล์ม 4 ม้วนมาหาผม แต่ละม้วนล้วนผ่านการฉายมาอย่างโชกโชน บางม้วนก็เลยไม่เต็มม้วน ครูนุก็พยายามซ่อมแซมหนามเตยเพื่อให้ฉายได้ แล้วเราก็ฉายดูกันจบเรื่อง แม้ฟิล์มจะไม่ค่อยสมบูรณ์นัก แต่ก็ยังพอรู้เรื่อง ยังลำดับเรื่องได้จนจบนะครับ...คราวนี้ มาที่ตัวหนังบ้างนะครับ..
ดรรรชนีนาง เป็นเรื่องราวความรักระหว่าง “ดรรชนี” (พิศมัย) ซึ่งเป็นลูกสาวของ “ดรรชนีไฉไล” กับ พันตรีราชิต (ประสิทธิศักดิ์) นายทหารที่ออกจากราชการมาเป็นชาวประมงอยู่เกาะที่สงขลา.. ต่อมา นาวาโทนิรันดร์ฤทธิ์ ธำรง (แสน) กับ จ่าอยู่ (พูนสวัสดิ์) ก็มาที่เกาะแห่งนี้และได้พบดรรชนีกับลิงจ๊อก พระเอก-นางเอกก็รักกัน แม้ผู้เป็นพ่อจะพยายามห้ามแล้ว แต่ทั้งคู่ก็ลักลอบได้เสียกัน ต่อมานิรันดร์กลับกรุงเทพฯ ไปแต่งงานกับ ศิริยุคล (งามตา) ขณะที่ดรรชนีตั้งท้อง พ่อก็ไปหาพระเอก แต่พระเอกไม่ยอมรับเป็นเมีย พ่อก็เลยกลับมาตรอมใจตายที่สงขลา ส่วนดรรชนีนั้นเมื่อรู้ว่า พระเอกแต่งงาน ก็เลยตัดนิ้วก้อยที่พระเอกเคยชมว่าสวย ให้เป็นของขวัญวันแต่งงาน..
พอพระเอกเห็นก็เริ่มคิดถึงนางเอกและกลับไปหานางเอกที่สงขลา..ปรับความเข้าใจกัน แล้วก็จบ..ว่ากันว่า หนังมีเพลงถึง 7 เพลง แต่กากฟิล์มที่เหลือมานี้ ไม่มีเพลงอยู่แล้วครับ.. เอาล่ะครับ มาถึงตอนนี้ ก็คงต้องดูหนังกันแล้วครับ กากฟิล์มที่เหลือนั้น พอฉายแล้วมีความยาวประมาณ 1 ชั่วโมง 10 นาที วันนี้ ผมจะให้ดูทั้งหมดนะครับ ส่วนรายละเอียดอื่น ๆ นั้น ก็ฟังได้จากคำบรรยายประกอบหนัง..แหละนี่ก็คือ ดรรชนีนาง ปี 2504 อีกหนึ่งในโครงการภาพยนตร์ไทยคงเหลือ
คลิ๊กดูหนังได้เลยครับ...
http://youtu.be/epkYVjXaXwc
หนังไทยคงเหลือ ดรรชนีนาง 2504
#Invalid YouTube Link#
;D ;D ;D ;D ;D ;D ;D ;D ;D
(http://image.ohozaa.com/i/504/CYuauy.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/xoZLiJPOTtRifwmR)
(http://image.ohozaa.com/i/642/um2UJi.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/xoZLjNLRJWYsRRWX)
(http://image.ohozaa.com/i/568/3Aeqfq.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/xoZLkvJej8imvBnM)
(http://image.ohozaa.com/i/0e6/ayiN1s.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/xoZLlVDXrChtw65z)
(http://image.ohozaa.com/i/577/29kOpZ.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/xoZMh0dL6akVFl9V)
(http://image.ohozaa.com/i/686/wO8lG3.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/xoZMhIb7FnoEBI2Z)
(http://image.ohozaa.com/i/05b/PRxbeE.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/xoZMiq8ueiKH0tVF)
-------------------------
Atit Aree เพิ่งจะได้ชมคลิปจาก youtube เรื่อง "ดรรชนีนาง" ก็ไปสะกิดความทรงจำตอนทำงานท่ี่บริษัทเดิมเข้าอีกแล้ว ฟิล์มชุดนี้มาจาก จ. จันทบุรีครับ สภาพฟิล์มก็ไม่ต่างจากที่คุณอนุกูลนำมาให้คุณมนัสเทเลซีนในคลิปสักเท่าไหร่ วันนี้เลยเอา snapshot จาก youtube ของคุณมนัส เปรียบเทียบกับตัวที่เทเลซีนที่บริษัทเดิม ซึ่งทั้งฟิล์ม ทั้งตัวที่เทเลซีนก็ไปอยู่กับนักสะสมเป็นที่เรียบร้อย
คุณ Atit Aree ครับ ตอนที่ผมทำเรื่อง ดรรชนีนาง นั้น ก็ไม่ได้คิดอะไรมาก ก็แค่อยากได้ภาพมาฉายประกอบบทความเพราะคิดว่า ถ้าไม่ทำไว้ ก็คงไม่มีใครพูดถึงหนังไทยเก่าๆ แบบนี้แล้ว แต่พอฉายออกไป ก็มีเพื่อนๆ หลายคนให้ความเห็นว่า ทำทั้งที ก็อยากให้ทำดีๆ ชัดๆ กว่านี้อีก แต่ผมก็ไม่ได้คิดอะไรเพราะต้องการได้ภาพมาเป็นข้อมูลประกอบเท่านั้น กระทั่งเพื่อนๆ เข้ามาช่วยหลายคน ก็เลยพยายามปรับปรุงระบบอัดภาพให้ดูดีขึ้นอีกหน่อย..ไม่ได้หวังใช้ในเชิงการค้าอะไร หลังจากที่ฟิล์มดรรชนีนางถูกส่งกลับคืนเจ้าของที่นครสวรรค์แล้ว พอเราจะำำนำกลับมาทำภาพใหม่อีก ก็ทราบจากคูรนุว่า ฟิล์มโดนน้ำเสียหายหมดแล้วครับ..ที่คุณเล่ามานั้น ทำให้อยากรู้จักนักสะสมท่านนั้นจริงๆ ครับ..
Permpoon Chaisalee ขอขอบคุณครับคุณครับคุณมนัสผมเคยดูหนังไทยเรื่อง หักปีกเหยี่ยว จำได้เลือนลางมาก คุ้นๆว่า แลน สุรศักดิ์ แสดงเป็นพระเอก ไม่ทราบว่าคุณมนัสมีภาพมั้ยครับ คิดว่าคุณแสน จะสวมห้ากากดำ อะไรทำนองนี้ ผืดพลาดขออภัยครับ
(http://image.ohozaa.com/i/f5e/IIVnkM.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/xWgFWKigPLKXwhWE)
คุณ Permpoon Chaisalee ครับ ใช่แล้วครับ หักปีกเหยี่ยว นำแสดงโดย แสน สุรศักดิ์-ขวัญใจ สะอาดรักษ์-ราชันย์ สร้างโดย สุรศักดิ์ภาพยนตร์ โดย แสน สุรศักดิ์ เป็นผู้อำนวยการสร้างเอง..กำกับการแสดงโดย บุญส่ง เคหะทัต.. หักปีกเหยี่ยว เป็นบทประพันธ์ของ ส.เนาวราช ฉายครั้งแรกวันที่ 17 พฤศจิกายน 2507 ที่โรงหนังเอ็มไพร์... ถ้าเป็นตระกูลหน้าสีแดง ก็ต้อง เศก ดุสิต เขียน..แต่ถ้าเป็นหน้ากากดำ ก็ต้อง ส.เนาวราช เขียนครับ..ใบปิดยังหาไม่ได้ครับ ก็เลยนำ เหยี่ยวอีกเรื่องที่ฉายไล่ๆ กันมาให้ดูแทนครับ
(http://image.ohozaa.com/i/357/waPSOp.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/xWgGclmhjrWJJYhQ)
ครับ หนังตระกูลอินทรีแดง ที่เคยออกแผ่นวีซีดีหรือดีวีดีมาแล้วก็คือ อินทรีทอง จ้าวอินทรี อวสานอินทรีแดง ส่วนเรื่อง จ้าวนักเลง ทับสมิงคลา ปีศาจดำ ไม่มีครับ ยังหาฟิล์มที่สมบูรณ์ไม่ได้..
Regis Madec ขอบคุณครับคุณ @มนัส คุณครูนุที่ได้เขียนเกี่ยวกับหนังเก่าดรรชนีนาง (2504 พิศมัย-แสน). หลายครั้งแล้วที่มีหลวงพ่อหนึ่งองค์ได้ช่วยหนังไทยเก่าครับ. ที่วัดแห่งหนึ่งในอำเภอหนองบัว เคยมีหนัง16มมอะไรบ้างครับ?
Charoen Tanmahapran หักปีกเหยี่ยว บทประพันธ์ของ ส.เนาวราช เป็นพฤติกรรมของเหยี่ยราตรี ไม่ใช่อินทรีแดง ที่เป็นบทประพันธ์ของ เศก ดุสิต ผู้แสดงเป็นเหยี่ยวราตรี คนแรก คือ แมน ธีระพงษ์ แต่ตัวแสดงเปลี่ยน เลยไม่ดังเหมือนอินทรีแดง ที่มิตร ชัยบัญชา ตลอดจนวาระสุดท้ายของชีวิต