(http://image.ohozaa.com/i/5e7/pRITOi.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/xqWpe5EvEWemPLX4)
หลังจากที่ Shrek Forever After หรือภาคที่ 4 ของเจ้ายักษ์ตัวเขียวทำเงินต่ำที่สุดตั้งแต่ที่เคยมีการสร้างภาคต่อกันมา เพราะเก็บไปได้แค่ 239 ล้านเหรียญเฉพาะอเมริกาในปี 2010 แต่เมื่อพิจารณาจากรายรับทั่วโลกแล้วสามารถทำรายได้ถึง 750 ล้านเหรียญ เมื่อคำนวณรายรับรวมจากทุกภาคแล้วมันทำเงินไปทั้งสิ้น 2.9 พันล้านเหรียญ เหตุผลนี้เองที่ทำให้ซีอีโออย่าง เจฟฟรีย์ แคทเซนเบิร์ก กล่าวว่า "เราจะให้คนดูและทีมงานได้พักกันซักหน่อย แต่มั่นใจได้เลยว่าเราจะทำภาคต่อของ Shrek ในบทต่อไปออกมาอย่างแน่นอน เราจะไม่หยุดอยู่แค่นี้"
ภาคต่อไปที่จะเกิดขึ้นอาจจะเป็นภาคที่ออกฉายทางโทรทัศน์แบบในปี 2007 ตอน Shrek the Halls ก็เป็นได้ แต่เราคิดว่าคนดูคาดหวังที่จะได้ชมอนิเมชั่นเรื่องนี้บนจอใหญ่มากกว่า อย่างไรก็ตามสิ่งที่จะเกิดขึ้นในปี 2015 และเกี่ยวข้องกับ Shrek โดยตรงก็คือสวนสนุกที่ชื่อว่า Shrek’s Far Far Away Adventure ซึ่งจะเปิดตัวในลอนดอน ประเทศอังกฤษ บนพื้นที่กว่า 20000 ตารางฟุตแถวคันทรี่ ฮอลล์ โซนริมแม่น้ำเทมส์
ดรีมเวิร์คส์ จะใช้ชื่อตัวละครในหนังมาดัดแปลงเป็นชื่อเครื่องเล่นในสวนสนุกและนอกเหนือไปจากนี้ใน Shrek’s Far Far Away Adventure จะมีการนำบรรดาตัวการ์ตูนยอดฮิตในค่ายเดียวกันอย่าง Madagascar, Kung Fu Panda และ How to Train Your Dragon เอามาใส่ไว้ในสวนสนุกแห่งนี้อีกด้วย
(http://image.ohozaa.com/i/69a/unpiEs.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/xqWpeNBSe9JNEvG0)
นอกจากนี้ เจฟฟรีย์ แคทเซนเบิร์ก ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า "เราตื่นเต้นมากที่จะได้สร้างสวนสนุกที่หยิบเรื่องราวมาจากการ์ตูนของเรา เราจะสร้างโลกของเชร็คขึ้นมาและเครื่องเล่นรวมไปถึงสิ่งก่อสร้างในสถานที่แห่งนี้จะพิเศษและไม่เหมือนกับสวนสนุกแห่งอื่นๆ ที่มีอยู่ เราคาดหวังว่า Shrek’s Far Far Away Adventure จะกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวของครอบครัวแห่งใหม่ครับ"
และถึงแม้ว่าในปีนี้หรือปีหน้าเราจะยังไม่ได้ชม Shrek ภาคใหม่แต่ในเดือนหน้าเราก็จะมี Mr. Peabody & Sherman ที่กำลังจะเตรียมเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ ตามมาด้วยภาคต่อของหนังคนเลี้ยงมังกร How to Train Your Dragon 2 ช่วงเดือนมิถุนายน และปลายปีกับ Happy Smekday! รวมไปถึงต้นปีหน้ากับภาคแยกของตัวละครในมาดากัสการ์อย่าง The Penguins of Madagascar