เวบบอร์ดสำหรับผู้ชื่นชอบระบบการฉายภาพเคลื่อนไหว

ภาพยนตร์ของเรา...การฉายภาพด้วยแผ่นฟิล์ม => ข้อมูลภาพยนตร์โดย นักพากย์ย้อนยุค => ข้อมูลทั่วไป => ข้อความที่เริ่มโดย: นายเค ที่ 12 มิถุนายน 2015, 00:22:22

หัวข้อ: เนื้อเรื่อง Jurassic Park ทั้ง 3 ภาคที่ผ่านมา ก่อนดูภาคใหม่ Jurassic World
เริ่มหัวข้อโดย: นายเค ที่ 12 มิถุนายน 2015, 00:22:22
(http://f.ptcdn.info/244/032/000/1433818253-1431187972-o.jpg)

       คศ. 1993 มหาเศรษฐี John Hammond ประธานบริษัท InGen มีความฝันที่จะสร้าง Jurassic Park ขึ้นมาเนิ่นนานแล้ว แฮมมอนด์ออกทุนวิจัยให้ผู้เชี่ยวชาญ ไปขุดค้นยังแหล่งต่างๆทั่วโลกที่มีฟอสซิลไดโนเสาร์อยู่ และค้นหาวิธีเพื่อเพาะพันธุ์ไดโนเสาร์ขึ้นมาอีกครั้งให้จงได้ ในที่สุด แฮมมอนด์ก็พบวิธี ด้วยการนำเอายุงที่อยู่ในอำพันมาหลายร้อยล้านปี และสกัดเอาเลือดของไดโนเสาร์ที่ยุงกินในสมัยนั้นออกมา ก่อนที่จะนำดีเอ็นเอออกมาจากเลือดเหล่านั้น และเพาะพันธุ์หรือโคลนนิ่งไดโนเสาร์ขึ้นมาใหม่นั่นเอง (อย่าไปอิงวิทย์ฯมากนักนะครับ^^ นี่มันเรื่องที่แต่งขึ้น แฮ่...)

(http://f.ptcdn.info/238/032/000/1433782434-878-o.jpg)
ยุงที่อยู่ในอำพันมาหลายร้อยล้านปี จุดเริ่มต้นแห่งการเพาะพันธุ์ไดโนเสาร์ขึ้นมาใหม่

       เมื่อทุกอย่างกำลังจะสร้างเสร็จสมบูรณ์พร้อมที่จะเปิดในอีกหนึ่งปีข้างหน้า ก็มีเหตุการณ์ที่พนักงานตายในปาร์คเพราะโดนไดโนเสาร์เล่นงาน ทำให้เหล่าผู้ถือหุ้นในบริษัทอินเจนยังไม่มั่นใจในความปลอดภัยของจูราสสิคปาร์คเท่าที่ควร เหล่าผู้ถือหุ้นจึงต้องการให้นักวิชาการผู้เชี่ยวชาญมารับรองปาร์คแห่งนี้  ก่อนจะเปิดปาร์คให้คนทั่วไปเข้าชม แฮมมอนด์จึงไปเชิญ Dr. Alan Grant  และ Dr. Ellie Sattler นักบรรพชีวินวิทยา ที่ทำงานภายใต้ทุนวิจัยของแฮมมอนด์นั่นเอง เพื่อให้ทั้งคู่มารับรองความปลอดภัยในปาร์คแห่งนี้ และแฮมมอนด์ยังได้เชิญ Dr. Ian Malcolm นักคณิตศาสตร์ผู้เชี่ยวชาญทฤษฎีความผันผวนมารับรองอีกคน โดยที่เหล่าผู้ถือหุ้นได้ส่ง Donald Gennaro ทนายความเขี้ยวลากดินมาเป็นตัวแทนผู้ถือหุ้นทั้งหลาย เพื่อให้โดนัลด์เป็นพยานว่า นักวิชาการทั้งสามรับรองว่าจูราสสิคปาร์คแห่งนี้ผ่าน และพร้อมเปิดใช้งาน โดยนักวิชาการทั้งสามมีเวลาอยู่ในปาร์คแห่งนี้เพื่อวิเคราะห์ 48 ชั่วโมง

(http://f.ptcdn.info/238/032/000/1433782298-gg-o.jpg)
Donald Gennaro, Dr. Ian Malcolm, John Hammond, Dr. Ellie Sattler, Dr. Alan Grant, กำลังไปที่ Isla Nublar

       คนทั้งห้าจึงออกเดินทางด้วยเฮลิคอปเตอร์ไปยัง " ไซต์ A " ที่ตั้งของจูราสสิคปาร์คซึ่งอยู่บนเกาะ อิสลา นูบลาร์ อันอยู่ในเขตประเทศคอสตาริก้า  เมื่อทุกคนไปถึงที่นั่น ขณะนั่งรถจิ๊ปจากจุดที่เฮลิคอปเตอร์จอด เพื่อมุ่งหน้าไปยังอาคารส่วนกลาง สิ่งแรกที่นักวิชาการทั้งสามเห็นระหว่างทางก็คือ แบรกคิโอซอรัส ไดโนเสาร์กินพืชคอยาวนั่นเอง ดร.แกรนท์ กับ ดร.แซตเลอร์ รวมถึง ดร.มัลคอล์ม แทบจะไม่เชื่อสายตาตนเอง ว่าแฮมมอนด์จะปลุกชีพสัตว์ดึกดำบรรพ์ขึ้นมาให้มีชีวิตอีกครั้งได้สำเร็จในยุคสมัยนี้

(http://f.ptcdn.info/238/032/000/1433782174-fg-o.jpg)
Brachiosaurus

       เมื่อไปถึงอาคารส่วนกลางของปาร์ค แฮมมอนด์จึงอธิบายรายละเอียดการเพาะพันธุ์ และพานักวิชาการทั้งสามเยี่ยมชมกระบวนการทั้งหมดให้ได้รับรู้ ด้านดร.มัลคอล์มนั้นเริ่มแสดงออกว่าไม่เห็นด้วยอย่างชัดเจน ดร.มัลคอล์มพูดว่า "ชีวิต ย่อมมีหนทาง"

       แฮมมอนด์จัดทัวร์รอบๆปาร์คให้นักวิชาการทั้งสาม ซึ่งจะเป็นรูปแบบเดียวกับในอนาคต ที่จะเปิดให้คนทั่วไปได้ทัวร์แบบนี้เช่นกัน ในการทัวร์ด้วยรถอัตโนมัติรอบปาร์คครั้งนี้ เหลนทั้งสองของแฮมมอนก์คือ Tim และ Lex ก็ได้ไปกับเหล่านักวิชาการด้วย ระหว่างทางในการทัวร์ครั้งนี้ ดร.แกรนท์ กับ ดร.แซทเลอร์ก็พบกับไทรเซราท็อปส์ที่นอนป่วยอยู่ ดร.แซทเลอร์ จึงแนะนำให้เจ้าหน้าที่ที่ดูแลถึงสาเหตุการป่วย เนื่องจากเธอเชี่ยวชาญเรื่องพืชโบราณ และไทรเซราท็อปส์ก็กินพืชมีพิษเข้าไป ทำให้ป่วยนั่นเอง

(http://f.ptcdn.info/245/032/000/1433821176-grr-o.jpg)
Triceratops

       เนื่องจากมีพายุกำลังจะเข้าเกาะ แฮมมอนด์จึงต้องยกเลิกการทัวร์นี้ทันที แต่ ดร.แซทเลอร์ ขออยู่ดูอาการไทรเซราท็อปก่อน ดร.มัลคอล์มและดร.แกรนท์จึงกลับ และนั่งรถคันเดียวกัน โดนัลด์ทนายความก็นั่งรถกลับมากับเด็กๆทั้งสอง

       Dennis Nedry โปรแกรมเมอร์คอมพิวเตอร์ในแลปฯ ของแฮมมอนด์ แอบมีข้อตกลงลับที่จะขโมยตัวอ่อนไดโนเสาร์และขายให้คนภายนอก โดยที่เน็ดลี่นัดผู้ซื้อไว้ในเวลา 1ทุ่ม เน็ดลี่จึงวางยาในระบบรักษาความปลอดภัยทั่วปาร์ค เพื่อปิดรั้วไฟฟ้าทั้งเกาะ เหล่าไดโนเสาร์จึงออกมาจากโซนอันตรายของมันเอง และออกมาเพ่นพ่านเต็มไปหมดในโซนปลอดภัยของมนุษย์ทั่วทั้งปาร์ค

       รถอัตโนมัติที่นำทัวร์ก็ดับ เพราะควบคุมด้วยระบบไฟฟ้าเช่นกัน รถของดร.ทั้งสองกับรถของเด็กๆกับโดนัลด์จอดดับสนิท และอยู่ห่างกันไม่มากนัก ทันใดนั้น ที-เร็กซ์ ไดโนเสาร์กินเนื้อที่หลุดออกมาจากรั้วไฟฟ้าได้ ก็ตรงเข้าโจมตีรถของเด็กๆทั้งสอง โดนัลด์ทิ้งเด็กๆหนีไปซ่อนในห้องน้ำ ดร.แกรนท์ ต้องช่วยเบนความสนในที-เร๊กซ์ และล่อที-เร๊กซ์ไปทางอื่นให้พ้นจากเด็กๆ ดร.มัลคอล์มก็ช่วยล่อที-เร๊กซ์ไปอีกทางเพื่อให้ดร.แกรนท์ไปช่วยเด็กๆนั่นเอง และที-เร๊กซ์ก็พุ่งไปกระแทกดร.มัลคอล์มชนกับห้องน้ำจนสลบไป โดนัลด์ซึ่งซ่อนอยู่ในห้องน้ำจึงโดนที-เร๊กซ์กิน

(http://f.ptcdn.info/245/032/000/1433822683-ryy-o.jpg)
Tyrannosaurus Rex หรือ T-Rex

       ด้านเน็ดลี่ก็กำลังมุ่งหน้าไปที่ท่าเรือของเกาะตามที่นัดกับผู้ซื้อไว้ แต่ระหว่างทาง เนื่องจากพายุฝนที่หนักหน่วง รถของเน็ดลี่จึงประสบอุบัติเหตุ เน็ดลี่จึงคิดจะเดินเท้าต่อไป แต่เน็ดลี่ก็ไปเจอกับไดลอฟโฟซอรัส ไดโนเสาร์กินเนื้อพันธุ์เล็ก และเน็ดลี่ก็โดนไดลอฟโฟซอรัสกิน ตัวอ่อนไดโนเสาร์พันธุ์ต่างๆที่เน็ดลี่ขโมยมาก็เลยหล่นลงไปที่พื้น "ชีวิต ย่อมมีหนทาง"

(http://f.ptcdn.info/246/032/000/1433823258-ngj-o.jpg)
Dilophosaurus

       ดร.แกรนท์ กลับไปเข้าเฝือกสนามให้มัลคอล์ม และรีบไปช่วยเหลือทิมมี่และเลกซ์ ก่อนจะพาเด็กๆทั้งสองขึ้นไปนอนบนต้นไม้ เพื่อหลบไดโดเสาร์ และรอจนเช้าเพื่อจะเดินทางกลับสำนักงานส่วนกลางนั่นเอง ด้านทางดร.แซทเลอร์นั้น หลังจากกลับมาที่สำนักงานกลาง และรับรู้ว่าคนทั้งหมดยังไม่กลับมา เธอและโรเบิร์ตซึ่งเป็นหัวหน้ารักษาความปลอดภัย จึงออกไปตามหา พบเพียง ดร.มัลคอล์มนอนขาเจ็บอยู่ จึงรีบพาดร.มัลคอล์มกลับมาที่สำนักงานกลาง

       ทุกคนหาทางจะเปิดรั้วไฟฟ้าขึ้นมาใหม่ แฮมมอนด์จึงเสนอว่า ต้องปิดไฟฟ้าทั้งหมดในสำนักงานส่วนกลางด้วย เพื่อให้ระบบทุกอย่างที่เน็ดลี่วางยาไว้รีเซ๊ทใหม่ และได้ผล หลังจาก Ray Arnold ปิดเมนไฟฟ้าแล้ว ระะบบรักษาความปลอดภัยก็จะกลับมาเหมือนเดิม แต่ต้องไปเปิดสะพานไฟที่ควบคุมไฟฟ้าทั้งเกาะที่ห้องเครื่องนอกสำนักงานส่วนกลาง จึงจะทำให้ไฟฟ้าทั้งเกาะกลับมาใช้งานได้อีกครั้ง เรย์จึงอาสาออกไปสับสะพานไฟที่ห้องเครื่องเอง (เรย์คือช่างเทคนิคคอมพิวเตอร์อีกคน)

(และ งง ตรงนี้ ปิดเมนไฟฟ้าในสำนักงานกลาง แต่พอจะเปิด ต้องไปเปิดอีกที่อื่น ทำระบบยุ่งยากเช่นนี้ไว้เพื่อ? 555+)

       จนกระทั่งรุ่งเช้า ดร.แกรนท์จึงพาเด็กๆเดินเท้าเพื่อกลับสำนักงานส่วนกลาง ด้านทางแฮมมอนด์นั้นสงสัยว่าเรย์ออกไปเพื่อสับสะพานไฟทั้งคืนทำไมไม่กลับซักที ดร.แซทเลอร์และโรเบิร์ตจึงออกไปตอนรุ่งเช้า เพื่อไปสับสะพานไฟและตามหาเรย์ และโรเบิร์ตก็พบว่า ไดโนเสาร์ที่ฉลาดล้ำอย่างแรพเตอร์ก็หลุดออกมาจากกรงแล้วเช่นกัน แรพเตอร์มีทั้งหมดสามตัว โรเบิร์ตจึงรีบให้ดร.แซทเลอร์รีบวิ่งไปห้องเครื่องเพื่อสับสะพานไฟ และโรเบิร์ตก็โดนแรพเตอร์กิน

(http://f.ptcdn.info/247/032/000/1433826327-hty-o.jpg)
Velociraptor หรือ Raptor

       ดร.แกรนท์ พาเด็กๆทั้งสองเดินเท้ามาจนถึงส่วนกลาง และให้เด็กๆหาอะไรกิน ส่นตนเองจะออกไปตามหาคนอื่นๆ ด้านทางดร.แซทเลอร์ก็พบว่าเรย์ก็ตายแล้วเช่นกัน หลังจากเธอเปิดสะพานไฟและรีบหนีออกมา  ดร.แซทเลอร์ ก็พบกับ ดร.แกรนท์ เธอบอกกับดร.แกรนท์ว่า มีแรพเตอร์หลุดออกมาด้วย และแรพเตอร์ก็เข้าโจมตีเด็กๆ ก่อนที่ ดร.แซทเลอร์กับ ดร.แกรนท์จะมาช่วยเหลือ ทั้งสี่กำลังจนมุมแรพเตอร์ ที-เร๊กซ์ก็โผล่มากินแรพเตอร์และกัดกันอยู่ แฮมมอนด์ซึ่งพา ดร.มัลคอล์มขึ้นรถเตรียมหนี ก็มารับคนทั้งหมด และหนีไปขึ้นเฮลิคอปเตอร์เพื่อหนีออกไปจากเกาะอิสลา นูบลาร์ทันที การเปิดจูราสสิคปาร์คให้ผู้คนทั่วไปเข้าชมจึงล่มไปนับตั้งแต่นั้น

(http://f.ptcdn.info/248/032/000/1433827759-hj-o.jpg)

       พอทุกคนกลับมาถึงอเมริกา แฮมมอนด์ก็คิดได้ว่า ตนเองนั้นทำสิ่งที่ผิดพลาดลงไป ในการที่จะพยายามนำสัตว์ที่สูญพันธุ์มาหลายร้อยล้านปีกลับมา และแฮมมอนด์ก็หมดสิทธิ์หมดเสียงในบริษัทอินเจน ดร.มัลคอล์มพยายามจะเผยแพร่ต่อสาธารณะชนว่า มีไดโนเสาร์อยู่ที่เกาะอิสลา นูบลาร์ และทำให้มีผู้เสียชีวิตไป 3 คน บริษัทอินเจนพยายามบิดเบือนข้อมูล และโจมตี ดร.มัลคอล์มว่า จงใจใส่ร้ายอินเจย ดร.มัลคอล์มจึงโดนไล่ออกจากการสอนที่มหาลัย และกลายเป็นนักวิทยาศาสตร์อิสระนับแต่นั้น คนทั่วอเมริกามองว่ามัลคอล์มเพี้ยน ทางบริษัทอินเจนยังได้เสนองินจำนวนมากเพื่อปิดปากดร.มัลคอล์มด้วย

       ผ่านมา 4 ปี หลังจากจูราสสิคปาร์คล้มเหลวไม่เป็นท่า ลูกสาวตัวเล็กๆของครอบครัวนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ ก็โดนฝูงคอมพ์ซอกนาธัสรุมกัดกินจนบาดเจ็บสาหัสบนเกาะ อิสลา ซอร์น่า ซึ่งนี่คือ " ไซต์ B " ของโครงการเพาะพันธุ์ไดโนเสาร์ของแฮมมอนด์

(http://f.ptcdn.info/251/032/000/1433834062-ddd-o.jpg)
Compsognathus หรือ Compy

       แฮมมอนด์จึงโดนปลดจากตำแหน่งประธานบริษัทอินเจนด้วยเหตุผลนี้ และ Peter Ludlow หลานชายของแฮมมอนด์  ก็เข้ามานั่งในตำแหน่งประธานแทน และลัดโลว์ก็คือพ่อของทิมและเลกซ์นั่นเอง โดยลัดโลว์มีแผนการที่จะรื้อฟื้นจูราสิคปาร์คขึ้นมาใหม่ และสร้างกลางเมืองซานดิเอโก จากการนำไดโนเสาร์พันธุ์ต่างๆมาจากเกาะ อิสลา ซอร์น่า ซึ่งอยู่ทางใต้ของเกาะ อิสลา นูบลาร์ โดยที่เกาะอิสลา ซอร์น่าในไซต์ B นี้ ไม่มีรั้วไฟฟ้าใดๆทั้งสิ้น เพื่อเพาะพันธุ์และป้อนให้กับจูราสสิคปาร์คเดิมที่เกาะ อิสลา นูบลาร์ เมื่อสี่ปีที่แล้วนั่นเอง แต่หลังจากจูราสสิคปาร์คล่มไป และโดนพายุเฮอริเคนถล่มใส่เกาะ ที่นี่จึงขาดการเหลียวแล ปล่อยให้ไดโนเสาร์เอาตัวรอดกันเอง และเติบโตสืบพันธุ์ตามธรรมชาติ และนี่จึงทำให้สัญชาตญาณนักล่าของไดโนเสาร์บนเกาะนี้ ดุร้ายกว่าที่จูราสสิคปาร์คแน่นอน

       แฮมมอนด์เห็นท่าจะไม่ดี จึงคิดหาทางขัดขวาง โดยการจ้างนักวิชาการกลุ่มนึงเข้าไปหาหลักฐานว่า ไดโนเสาร์มีอยู่จริงและอันตราย หนึ่งในนั้นก็คือแฟนสาวของดร.มัลคอล์ม เป็นนักบรรพชีวินวิทยาที่เชี่ยวชาญสัตว์กินเนื้อที่ชื่อ Sarah Harding และเธอก็ล่วงหน้าไปที่เกาะ แล้ว

       แฮมมอนด์ จึงเรียกตัว ดร.มัลคอล์มมาพบ และขอร้องให้เขาเป็นส่วนนึงในทีมและไปที่เกาะ แต่ ดร.มัลคอล์มปฏิเสธ แต่หลังจากดร.มัลคอล์มรู้ว่า แฟนสาวของตนก็อยู่ที่นั่น ดร.มัลคอล์มจึงตกลงไปที่เกาะ แต่ไปเพื่อช่วย ดร.ซาร่า ไม่ใช่เพื่อแฮมมอนด์

       มัลคอร์มไปพบอีกสองคนที่เหลือในทีมที่ท่าเรือ ลูกสาวดร.มัลคอล์มก็แอบตามมาขึ้นตู้คอนเทนเนอร์บนเรือมาด้วย และอีกสองคนก็คือ Eddie Carr วิศวกรสนาม และ Nick Van Owen ช่างภาพของกรีนพีช และเมื่อทั้งสามมาถึงเกาะ อิสลา ซอร์น่า ไดโนเสาร์ที่ทั้งสามเจอตัวแรกก็คือ สเตโกซอรัส ซึ่งอยู่รวมกันเป็นฝูง และในที่สุด ดร.มัลคอล์มก็เจอ ดร.ซาร่า และดร.มัลคอล์มก็รู้แล้วว่าลูกสาวของเขาแอบตามมาด้วย

(http://f.ptcdn.info/256/032/000/1433843957-yyuiy-o.jpg)
Stegosaurus

       ทุกคนในทีมต้องคอยหลบพวกนายพรานของลัดโลว์ ที่มาจับไดโนเสาร์เพื่อนำไปไว้ที่จูราสสิคปาร์คในซานดิเอโกนั่นเอง ขณะที่ทุกคนกำลังแอบดูการไล่ล่าเหล่าไดโดนเสาร์ของพวกนายพราน มาเมนจิซอรัส ไดโนเสาร์ที่ตัวใหญ่และยาวที่สุดก็โผล่มาให้เห็น

(http://f.ptcdn.info/258/032/000/1433846719-jyyu-o.jpg)
Mamenchisaurus

       ทีมของ ดร.ซาร่าได้แต่เฝ้ามองเหล่านายพรานขับรถไล่ล่าจับตัวไดโดนเสาร์กันอย่างหดหู่ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ และเหล่านายพรานก็กำลังรุมจับ พาราซอโรโลฟัส ไดโนเสาร์ที่มีกระโหลกเป็นตัวหัวหงอน

(http://f.ptcdn.info/258/032/000/1433847154-hjhj-o.jpg)
Parasaurolophus

       ในคืนนั้น ที่แคมป์นายพราน นิค และ ดร.ซาร่าก็แอบเข้าไปปล่อยไดโนเสาร์ทั้งหลายที่ลัดโลว์จับไว้ นิคได้ช่วยลูกที-เร๊กซ์ที่กระดูกข้อเท้าหัก และนิคก็อุ้มกลับมาที่ตู้คอนเทนเนอร์เพื่อรักษา พวกทีเร๊กซ์ตามเสียงลูกมา และโจมตีตู้คอนเทนเนอร์จนตกหน้าผาไป ในเหตุการณ์นี้ เอ็ดดี้ หนึ่งในทีมของดร.ซาร่าก็โดนที-เร๊กซ์กิน ทีมนายพรานของลัดโลว์มาช่วยทีมของ ดร.ซาร่า และในบัดนี้ ไม่มีอุปกรณ์สื่อสารเหลือแล้ว มีเพียงที่ตึกส่วนกลางของเกาะที่มีวิทยุ ทุกคนที่เหลือจึงมุ่งหน้าไปที่ตึกนั้นเพื่อวิทยุขอความช่วยเหลือด่วน

(http://f.ptcdn.info/259/032/000/1433849176-jj-o.jpg)
T-Rex ตัวเล็ก

       ระหว่างทาง ทีมทั้งหมดก็โดนทั้งที-เร๊กซ์และแรพเตอร์ตามล่าจนตายไปทีละคนสองคน ที่สุดแล้วนิคก็วิทยุไปที่ชายฝั่งและให้ทีมช่วยเหลือมาช่วยทุกคนได้ทัน หัวหน้าทีมนายพรานก็สามารถจับทีเร๊กตัวแม่และตัวลูกให้ลัดโลว์นำขึ้นเรือเพื่อกลับไปที่ซานดิเอโกได้สำเร็จ

       เมื่อ ที-เร๊กซ์มาถึงชายฝั่ง มันก็หลุดจากการกักขังและอาละวาดไปทั่วเมือง ผู้คนต่างหนีตายกระเจิดกระเจิง ที่สุดแล้ว ดร.มัลคอล์มและดร.ซาร่าก็ช่วยกันล่อมันเข้ากรงขังและจับมันได้อีกครั้ง โดยการใช้ที-เร๊กซ์ตัวน้อยล่อมานั่นเอง

(http://f.ptcdn.info/259/032/000/1433849161-ngnh-o.jpg)
T-Rex ตัวใหญ่

       ทางการจึงส่งตัวที-เร๊กซ์กลับไปที่เกาะอิสลา ซอร์น่า และประกาศให้ทุกๆเกาะที่อยู่ในพื้นที่แถบโซนนั้นเป็นเขตสงวนพันธุ์ไดโนเสาร์และอันตรายห้ามใครเข้าไปในโซนนั้นเด็ดขาดนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา..

       4 ปีต่อมา Eric Kirby กับเบนแฟนใหม่แม่ของเขา ก็แอบไปแล่น Parasailing บริเวณเกาะอิสลา ซอร์น่า ซึ่งเป็นเขตหวงห้าม และเรือที่ลากร่มก็ถูกโจมตี  เบนและอีริคจึงต้องตัดเชือกออกจากเรือ และร่อนลงที่เกาะอิสลา ซอร์น่า ทั้งสองจึงหายสาบสูญไปนับตั้งแต่นั้น

       ผ่านมา 8 อาทิตย์ Paul Kirby และ Amanda Kirby จ้างดร.แกรนท์ให้พานำเที่ยวบนเครื่องบินทัวร์รอบๆเกาะ โดยพอลจ้าง Udesky เป็นคนขับเครื่องบิน แต่แท้จริงแล้ว พอลและอแมนด้าต้องการไปตามหาลูกชาย ดร.แกรนท์พาลูกศิษย์ที่ชื่อบิลลี่มาด้วย เมื่อทุกคนบินมาถึงเกาะ ความจริงก็เปิดเผยว่า แท้จริงแล้วพอลและอแมนด้ามาตามหาอีริคลูกชายของทั้งสองนั่นเอง และสไปโนซอรัสก็โจมตีเครื่องบินของ Udesky โทรศัพท์ดาวเทียมของพอลก็โดนสไปโนซอรัสกินเข้าไป

(http://f.ptcdn.info/263/032/000/1433855347-kiu-o.jpg)
Spinosaurus

       ทั้งหมดพบกล้องวีดีโอของอีริค จึงรู้ว่าอีริคยังไม่ตาย และพบศพเบน แฟนใหม่ของอแมนด้าด้วย พอลและอแมนด้าจึงไม่สิ้นหวังในการตามหาอีริค ระหว่างทางบิลลี่แอบเอาไข่แรพเตอร์มาด้วย ฝูงแรพเตอร์จึงตามทุกคนไป

       เมื่อทุกคนเดินทางมาถึงสำนักงานกลางที่ร้างอยู่ ก็โดนฝูงแรพเตอร์โจมตี Udesky ก็โดนแรพเตอร์ฆ่า ต่างคนต่างหนีไปคนละทิศคนละทาง พอลและอแมนด้ากับบิลลี่หนีขึ้นไปบนต้นไม้ ส่วนดร.แกรนท์โดนฝูงแรพเตอร์ล้อมไว้ อีริคมาช่วยดร.แกรนท์ไว้ได้ และอีริคก็พาดร.แกรนท์มานอนพักในที่หลบภัยของเขา

(http://f.ptcdn.info/262/032/000/1433853907-dry-o.jpg)
Raptor

       พอรุ่งเช้า พอล และ อแมนด้า ก็พบกับอีริค ทั้งหมดจึงล่องเรือไปตามแม่น้ำมุ่งหน้าไปที่ชายฝั่งเพื่อหนีไปจากเกาะ ระหว่างทาง ดร.แกรนท์ก็ได้ยินเสียงโทรศัพท์ดาวเทียมของพอลอยู่ในกองอึไดโนเสาร์ ดร.แกรนท์จึงโทรทางไกลไปหา ดร.แซทเลอร์คู่หูเก่า ดร.แกรนท์พูดได้เพียงแค่คำว่า " ไซต์ B " ก่อนจะจมลงแม่น้ำเพราะโดนสไปโนซอรัสโจมตีอย่างหนัก

(http://f.ptcdn.info/262/032/000/1433854386-ghngh-o.jpg)
Brachiosaur

หัวข้อ: Re: เนื้อเรื่อง Jurassic Park ทั้ง 3 ภาคที่ผ่านมา ก่อนดูภาคใหม่ Jurassic World
เริ่มหัวข้อโดย: นายเค ที่ 12 มิถุนายน 2015, 00:26:48
       ระหว่างทางบิลลี่ก็ถูกฝูงเทอราโนดอนโจมตี ดร.แกรนท์ช่วยบิลลี่ไม่ทัน ฝูงแรพเตอร์ก็ยังตามพวก ดร.แกรนท์ไม่ลดละ ดร.แกรนท์ให้อแมนด้ามอบไข่แรพเตอร์คืน ฝูงแรพเตอร์จึงไม่ทำอะไรพวกของดร.แกรนท์ และจากไป

(http://f.ptcdn.info/262/032/000/1433854306-hhf-o.jpg)
Pteranodon

       ที่สุดแล้ว พอล, อแมนด้า,อีริค, และดร.แกรนท์, ก็รอดมาจนถึงชายฝั่ง และพบหน่วยนาวิกโนธินทั้งหน่วยมาช่วยเหลือ จากการประสานงานกับดร.แซทเลอร์นั่นเอง บนเฮลิคอปเตอร์ นาวิกโยธินยังได้ช่วยบิลลี่ที่บาดเจ็บหนักไว้ได้ด้วย ทั้งหมดจึงเดินทางกลับอเมริกา..


เกร็ดน่ารู้ Jurassic Park (1993)

เกร็ดน่ารู้ Jurassic World (2015)







 :GreenScarf (22):
ขอบคุณข้อมูลดีดี...

แฟนเพจ ภาพยนตร์ เก่า-ใหม่ ไทย-เทศ พรีวิว
https://www.facebook.com/PhaphyntrKeaHimThiyThesPhriWiw
หลวงจีนหอไตร
http://pantip.com/topic/33768269
Jurassic Park - Wikipedia, the free encyclopedia
http://en.wikipedia.org/wiki/Jurassic_Park
Jurassic Park - Siamzone
http://www.siamzone.com/movie/m/4919/jurassic-park
หัวข้อ: Re: เนื้อเรื่อง Jurassic Park ทั้ง 3 ภาคที่ผ่านมา ก่อนดูภาคใหม่ Jurassic World
เริ่มหัวข้อโดย: นายเค ที่ 12 มิถุนายน 2015, 01:04:02
รวมข้อมูลจุดเชื่อมโยงทั้ง 7 ระหว่าง Jurassic Park ไตรภาค กับ ภาคใหม่ล่าสุด Jurassic World


         ใน 7 ข้อนี้ ทางผู้สร้างปล่อยข้อมูลหลอกมา 2 ข้อ (หมายความว่าข้อมูลใน 2 ข้อจาก 7 ข้อนี้ ในหนังจริงได้นำเสนออีกอย่าง) ไปลุ้นกันในโรงภาพยนตร์กันได้ครับ ค่อนข้างเซอร์ไพรส์อยู่ทีเดียว****


1.เรื่องของเกาะ ISLA NUBLAR

(http://f.ptcdn.info/269/032/000/1433862782-sjurass02-o.jpg)

       เกาะอิสลา นูบลาร์ หรือ ไซต์ A ซึ่งเป็นฉากผจญภัยหลักของ Jurassic Park ภาคแรกนั้น เป็นเกาะเดียวกับที่มีการเปิดสวนสัตว์จูราสสิกเวิร์ลด์ในภาพยนตร์ภาคล่าสุด

โดยข้อมูลเกี่ยวกับประวัติของปาร์ค และแผนที่เกาะ สามารถดูได้ที่เว็บไซต์มาสรานีและจูราสสิกเวิร์ลด์
http://www.masraniglobal.com/about/divisions/jurassicworld/index.html (http://www.masraniglobal.com/about/divisions/jurassicworld/index.html)
http://www.jurassicworld.com/ (http://www.jurassicworld.com/)

       ส่วนเกาะของภาค 2 และ 3 นั้น เป็นเกาะที่ชื่อว่า อิสลา ซอร์น่า หรือ ไซต์ B เป็นเกาะที่ไม่มีระบบป้องกันไดโนเสาร์ และใช้ในการทดลองเพาะพันธุ์ไดโนเสาร์อันตรายต่าง ๆ โดยรูปทรงของเกาะจะต่างกันโดยสิ้นเชิง ดังภาพ

(http://f.ptcdn.info/269/032/000/1433862964-IslaSornan-o.jpg)


2.เรื่องของ T-Rex

(http://f.ptcdn.info/269/032/000/1433863018-jurass03ss-o.jpg)

       มีการยืนยันชัดเจนจากเว็บไซต์ทางการของจูราสสิกเวิร์ลด์ ว่า ทีเร็กซ์ตัวแรกและดั้งเดิมที่สุดที่ปรากฎตัวในภาคแรก (ชื่อว่า Rexy) คือทีเร็กซ์ตัวเดียวกับที่อยู่ในสวนสัตว์จูราสสิกเวิร์ลด์ และมันมีอายุถึง 25 ปีแล้ว

ที่มา :
http://www.jurassicworld.com/dinosaurs/tyrannosaurus-rex/

       จุดสังเกตเด่นคือ ที่บริเวณคอด้านซ้ายของทีเร็กซ์ตัวนี้ จะมีรอยแผลเป็น ที่เกิดจากการต่อสู้กับเวโลซิแรปเตอร์ในท้ายภาพยนตร์ภาคแรกอีกด้วย


3.เรื่องของสไปโนซอรัส / ภาพยนตร์ Jurassic Park ภาค 3 และกำหนดการเปิดทำการของจูราสสิกเวิร์ลด์ที่แท้จริง

[img width=800 height=500 ]http://f.ptcdn.info/269/032/000/1433863192-jurass04ss-o.jpg[/img]

       แม้ว่าผู้กำกับ Colin Trevorrow จะกล่าวออกสื่อว่า ภาพยนตร์จูราสสิกเวิร์ลด์จะต่อจากภาคแรก และไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับภาค 2 และ 3 คำกล่าวนั้นดูจะไม่เป็นจริงเสียทีเดียว เพราะว่าในเว็บไซต์ของมาสรานี (Masrani)

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
http://www.masraniglobal.com/about/divisions/jurassicworld/index.html

       ได้มีการให้ข้อมูลเกี่ยวกับบริษัทที่ทำธุรกิจน้ำมันและมีเงินทุนมหาศาล ซึ่งได้มีการรับช่วงต่อกิจการของบริษัท InGen (ผู้สร้างปาร์คตั้งแต่ภาคแรก) ที่จำเป็นต้องปิดกิจการลงในปี 1998 อันเป็นเวลาหลังจากภาค 2 (1997) 1 ปี ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ทั้งโลกรับรู้แล้วว่ามีการปลุกชีพไดโนเสาร์ขึ้นมาใหม่ จากเหตุการณ์ทีเร็กซ์บุกซานดิเอโกในท้ายภาค 2

       และในภาพยนตร์ภาคที่ 3 (ปี 2001) ตอนที่พบกับสไปโนซอรัสครั้งแรก ดร.แกรนท์ ได้ตั้งข้อสังเกตว่า ทำไมถึงมีสไปโนซอรัส เพราะไดโนเสาร์ชนิดนี้ไม่อยู่ในรายชื่อการเพาะพันธุ์ของ InGen เขาจึงสงสัยว่ามีใครกำลังเคลื่อนไหวอยู่ลับ ๆ อย่างแน่นอน ซึ่งจุดนี้เว็บไซต์มาสรานีก็เฉลยอย่างอ้อม ๆ แล้วเช่นกันว่า นับตั้งแต่ปี 1998 นั้น ทางบริษัทมาสรานี ได้ริเริ่มโปรเจคฟื้นฟูปาร์คขึ้นใหม่ ดังนั้นมีความเป็นไปได้มากพอว่า เกาะอิสลา ซอร์น่า หรือ ไซต์ B จะถูกใช้เป็นแหล่งทดลองเพาะพันธุ์ไดโนเสาร์ใหม่อีกครั้ง และสไปโนซอรัสคือหนึ่งในพันธุ์ที่ถูกทดลองสร้างขึ้น และไม่สามารถควบคุมมันได้

อนึ่ง ในหน้าเว็บไซต์เดียวกันนั้น
http://www.masraniglobal.com/about/divisions/jurassicworld/index.html

ช่วงท้ายได้มีการระบุไว้ว่า
And come they did ... Jurassic World officially opened in June 2005 to an incredible 98,120 visitors in its first month of operation.

       แปลว่าสวนสัตว์จูราสสิกเวิร์ลด์นั้น เปิดทำการอย่างเป็นทางการได้ในปี 2005 และดึงดูดผู้เข้าชมได้เกือบ 1 แสนคนในเดือนแรก
และหมายความว่า ปี 2015 นี้ คือปีฉลองครบรอบ 10 ปีการเปิดทำการของสวนสัตว์แห่งนี้อีกด้วย


4.บุคลากรและงานวิจัยทางพันธุศาสตร์

[img width=800 height=500 ]http://f.ptcdn.info/270/032/000/1433863744-jurass05ss-o.jpg[/img]

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
https://www.youtube.com/watch?v=FYVUnaoyfkk (https://www.youtube.com/watch?v=FYVUnaoyfkk)

       มีบุคลากรคนสำคัญอีกคนหนึ่งจาก InGen ที่ได้มาร่วมงานกับบริษัทมาสรานีในการสร้างสวนสัตว์จูราสสิกเวิร์ลด์ขึ้นก็คือ ดร.เฮนรี่ วู (Dr.Henry Wu) ผู้ซึ่งเคยมีบทบาทปรากฎตัวในภาพยนตร์ภาคแรกในฐานะนักวิจัยคนหนึ่ง

ซึ่งในเว็บไซต์หน้านี้
http://www.masraniglobal.com/about/divisions/ingen/index.html (http://www.masraniglobal.com/about/divisions/ingen/index.html)

       ได้ให้ข้อมูลว่า ดร.วู ภายหลังจากเหตุการณ์ปาร์คถูกทำลายในภาคแรก (ปี 1993) ในปีถัดมา 1994 เขาและทีมงาน InGen ได้เข้าแก้ไขความเสียหายและทำวิจัยเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของสัตว์บนเกาะอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในเรื่องของการเปลี่ยนเพศของไดโนเสาร์ที่สามารถควบคุมได้ ในปี 1997 (ภาพยนตร์ภาค 2 - The Lost World) บริษัท InGen ประสบปัญหาทางการเงินอย่างหนัก  :yoyocici06: แต่ ดร.วู และทีมงาน ก็ยังประสบความสำเร็จในการวิจัยสร้างพืชพันธุ์ผสมชนิดใหม่ ซึ่งทำให้เป็นที่จับตามองอย่างมาก และไม่กี่ปีถัดมา เขาจึงได้ร่วมงานกับบริษัทมาสรานีในฐานะหัวหน้าทีมวิจัยเลยทีเดียว


5.ทีมรักษาความปลอดภัย

(http://f.ptcdn.info/270/032/000/1433864373-jurass06ss-o.jpg)

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
https://www.youtube.com/watch?v=0Ryzm9PTxzc (https://www.youtube.com/watch?v=0Ryzm9PTxzc)

และหน้าเว็บนี้
http://www.masraniglobal.com/about/divisions/ingen/security/index.html (http://www.masraniglobal.com/about/divisions/ingen/security/index.html)

       เป็นการแนะนำทีมรักษาความปลอดภัยของสวนสัตว์จูราสสิกเวิร์ลด์ และแนะนำหัวหน้าทีมก็คือคุณวิค ฮอสกิ้นส์ (Vic Hoskins) หัวหน้าทีมงานรักษาความปลอดภัยเก่าของ InGen ซึ่งรวม ๆ ก็ดูไม่มีอะไรมาก แต่จุดที่น่าสนใจก็คือ

"A seasoned security contractor, Vic Hoskins was involved in overseeing the infamous flying reptile "cleanup" operation over Canada in 2001."

       กล่าวคือ คุณวิคได้มีส่วนร่วมในภารกิจการปราบปรามสัตว์เลื้อยคลานบินได้ในแคนาดาปี 2001 ซึ่งเป็นช่วงที่ตรงกับเหตุการณ์ในภาพยนตร์ Jurassic Park 3 ซึ่งมีเทอราโนดอนฝูงเล็ก ๆ หลุดออกมาจากโดมเลี้ยงและอาละวาดไล่ล่าพวกตัวเอก ก่อนจะบินหายไป และ ดร.แกรนท์ ก็เอ่ยไว้ว่า พวกมันน่าจะไปหาแหล่งอาหารใหม่ ซึ่งมีความเป็นไปได้สูงว่าพวกมันจะเข้าสู่แผ่นดินใหญ่ที่มนุษย์อาศัยอยู่ และทีมงานที่นำโดย วิค ฮอสกิ้นส์ ผู้นี้ ก็สามารถกำจัดพวกมันได้ ทำให้เป็นผลงานสำคัญที่ทางบริษัทมาสรานี ดึงตัวพวกเขามาทำงานในสวนสัตว์จูราสสิกเวิร์ลด์นี้นั่นเอง


6.I-Rex

(http://f.ptcdn.info/271/032/000/1433864834-jurass08ss-o.jpg)

       ข้อนี้ต่อเนื่องกับข้อ 4 ครับ จากผลงานวิจัยของ ดร.วู ในเรื่องของการเปลี่ยนเพศของไดโนเสาร์บนเกาะในปาร์คภาคแรก และผลงานการสร้างพืชพันธุ์ผสมได้สำเร็จ ดังข้อมูลในเว็บไซต์ระบุไว้นั้น http://www.masraniglobal.com/about/divisions/ingen/index.html

       ในปี 2013 สวนสัตว์เปิดมาแล้วได้ 8 ปี บริษัทมาสรานีก็ได้ตั้งเป้าทางธุรกิจเพิ่มเติม http://www.masraniglobal.com/investors/index.html ให้สร้างจุดสนใจใหม่ให้แก่สวนสัตว์จูราสสิกเวิร์ลด์ ดังนั้นด้วยผลงานอันโดดเด่นที่ผ่านมาของ ดร.วู จึงทำให้เขาได้เป็นผู้ริเริ่มการวิจัยสร้างไดโนเสาร์พันธุ์ใหม่ขึ้น

       และไดโนเสาร์พันธุ์ใหม่นี้ ก็เกิดจากการผสม DNA ของไดโนเสาร์กินเนื้อ 4 ชนิด ประกอบด้วย
Carnotaurus / Giganotosaurus / Majungasaurus / Rugops ซึ่งเป็นไดโนเสาร์กินเนื้อในวงศ์ Abelisauridae ที่ขึ้นชื่อเรื่องความแข็งแกร่ง ทนทาน และวงศ์ Carcharodontosauridae ที่มีขนาดใหญ่และดุร้าย (โดยเฉพาะ Giganotosaurus เป็นไดโนเสาร์กินเนื้อที่มีขนาดใหญ่กว่าทีเร็กซ์)

       มันมีชื่อว่า Indominus Rex หรือ I-Rex มีความหมายว่า ราชาพยศ หรือ ราชาที่ไม่สามารถควบคุมได้
ซึ่งถูกวางเป้าหมายให้มาเป็นตัวชูโรงตัวใหม่ของสวนสัตว์ในโอกาสครบรอบ 10 ปี (2015) และก็นำมาซึ่งหายนะครั้งใหญ่นั่นเอง


7.เวโลซิแรปเตอร์

[img width=800 height=500 ]http://f.ptcdn.info/271/032/000/1433864933-raptor00-o.jpg[/img]

       ไดโนเสาร์สายพันธุ์เวโลซิแรปเตอร์ นั้น นับว่าเป็นตัวอันตรายที่มีบทบาทสำคัญในภาพยนตร์ทุก ๆ ภาค แต่ก็เป็นไดโนเสาร์ชนิดหนึ่งที่มีการออกแบบรูปร่างหน้าตาของมันแตกต่างกันในทุก ๆ ภาคเช่นกัน จุดนี้มีการอธิบายข้อมูลไว้อยู่บ้างในเรื่องของการโคลนนิ่ง DNA ที่แตกต่างกัน ก็จะมีการผสม DNA สัตว์ต่างชนิดกันในการสร้างไดโนเสาร์ตัวใหม่ขึ้น ทำให้แต่ละตัวมีลักษณะบางอย่างที่แตกต่างกันไปด้วย

       ยกตัวอย่างเช่น ทีมแรปเตอร์ของโอเว่น (สตาร์ลอร์ด ตัวเอกในภาพยนตร์ภาคล่าสุด) แรปเตอร์หัวหน้าทีมชื่อ Blue มีลายสีน้ำเงินพาดยาวกลางตัว ผสมขึ้นจาก DNA ของตะกวด หรือ Delta ตัวสีเขียวอ่อน ผสมขึ้นจาก DNA ของนก เป็นต้น

ข้อมูลจากเว็บเลโก้จูราสสิกเวิร์ลด์
http://www.lego.com/en-us/jurassicworld/characters

และข้อมูลเกี่ยวกับการผสม DNA
http://www.masraniglobal.com/about/divisions/ingen/index.html
http://www.jurassicworld.com/creation-lab/ (http://www.jurassicworld.com/creation-lab/)


       นอกจากนี้เพจ Reel Tours Hawaii ได้มีการเผยภาพจุดโชว์หุ่นแรปเตอร์โปรโมตภาพยนตร์ภาคใหม่นี้ที่สถานี Waterloo ในกรุงลอนดอน ปรากฎให้เห็นว่า แรปเตอร์ทั้ง 4 ตัวดังกล่าว ไม่ใช่แรปเตอร์ 4 ตัวเดียวกับที่โอเว่นฝึก และยังมีตู้คอนเทนเนอร์ของ InGen ตั้งไว้อยู่ด้วย อาจจะเป็นปริศนาบางอย่างที่ให้เราต้องไปค้นหาคำตอบกันในภาพยนตร์ก็เป็นไปได้

(http://f.ptcdn.info/271/032/000/1433865821-raptor3-o.jpg)

 :yoyocici11:
หัวข้อ: Re: เนื้อเรื่อง Jurassic Park ทั้ง 3 ภาคที่ผ่านมา ก่อนดูภาคใหม่ Jurassic World
เริ่มหัวข้อโดย: Sutham ที่ 12 มิถุนายน 2015, 11:21:36
 :GreenScarf (13):ไปดูมาแล้วมันดีสนุกสนานดูกันหรือยัง