• ชื่อไทย : เกมล่าคนบาปโซเชียล
• ปีที่เปิดตัว : 2568
• เข้าฉายในไทย : 18 กันยายน 2568
• นำแสดง : Zhang Xiao Fei, Chen Yu Si, Mei Ting
• กำกับโดย : Yao Wen Yi
• เขียนโดย : Zhang Zhen
• ประเภท : Drama / Mystery
• ความยาว : 100 นาที
• สร้างโดย : China
• จำหน่ายโดย : Encore Films Thailand & Warner Bros. Thailand
เรื่องย่อ Malice เกมล่าคนบาปโซเชียล ความจริงหรือการบิดเบือน ? เมื่อนักข่าวกลายเป็นผู้พิพากษา และสื่อโซเชียลกลายเป็นศาลประชาชน ร่วมค้นหาความจริงไปด้วยกัน ใน Malice - เกมล่าคนบาปโซเชียล หนังระทึกขวัญที่จะทำให้คุณต้องคิดว่าใครคือฆาตกรตัวจริง
ในโลกที่โซเชียลมีเดียมีอิทธิพลสูงสุด Malice เกมล่าคนบาปโซเชียล นำเสนอประเด็นที่น่าสนใจเกี่ยวกับจรรยาบรรณของนักข่าว โดยเฉพาะเมื่อความจริงถูกบิดเบือนเพื่อสร้างกระแสและยอดเอนเกจ ภาพยนตร์เรื่องนี้จะพาผู้ชมไปตั้งคำถามว่า “ใครกันแน่ที่คือคนร้ายตัวจริง ?” และ “นักข่าวเป็นเพียงแร้งกระหายเลือดที่ยอมแลกความจริงเพื่อยอดเอนเกจจริงหรือ ?”
เรื่องราวของ นักข่าวผู้ได้รับรางวัลนักข่าวยอดเยี่ยมอย่าง เย่ ผาน (จาง เสี่ยวเฝ่ย) เดินหน้าค้นหาความจริงเบื้องหลังเหตุลึกลับว่าด้วยการตกตึกคู่ หลังการสืบสวน เธอได้ระบุว่านางพยาบาล ลี่ เยว่ (เฉิน อวี่ซือ) และ โหยว เชี่ย (เมอิ ทิง) แม่ของ หยาง จิ้งโหยว เป็นผู้ต้องหาคนสำคัญ จนก่อให้เกิดกระแสความโกรธแค้นของผู้คนในวงกว้าง ในไม่ช้าการค้นหาคำตอบก็ได้นำไปสู่ความสับสนวุ่นวาย และสถานการณ์ก็ผันแปรไปอย่างรวดเร็วเกินควบคุม
Malice – เกมล่าคนบาปโซเชียล ไม่ได้เล่าเพียงปริศนาคดีฆาตกรรม แต่ยังสะท้อนด้านมืดของการนำเสนอข่าวในสังคมยุคใหม่ ว่านักข่าวสามารถเป็นได้ทั้งผู้แสวงหาความจริง และผู้สร้างแรงโน้มน้าวให้สังคมเชื่อตามสิ่งที่ถูกเสนอ นอกจากนี้ ภาพยนตร์ยังได้ เฉิน ซือเฉิง มือเขียนบทจาก Detective Chinatown และ Lost in the Stars มารับหน้าที่โปรดิวเซอร์และผู้เขียนบท สร้างความเข้มข้นน่าติดตามทุกนาที เสริมทัพนักแสดงคุณภาพอย่าง จาง เสี่ยวเฝ่ย, เม่ยถิง และ เฉินอวี่ซือ ที่พร้อมถ่ายทอดอารมณ์ดราม่าและความระทึกได้อย่างเข้าถึง
เตรียมตัวร่วมไขปริศนา และค้นหาความจริงที่อาจไม่ได้เป็นอย่างที่คุณคิดใน Malice – เกมล่าคนบาปโซเชียล ภาพยนตร์ที่จะชวนคุณตั้งคำถามกับอำนาจของสื่อ และความจริงในโลกโซเชียล เข้าฉาย 18 กันยายน 2025 ในโรงภาพยนตร์
รีวิวหนัง "Malice เกมล่าคนบาปโซเชียล" คลุกวงข่าว-หิวกระแส ฉบับจงกั๋วเหรินคลั่งทราฟฟิค เป็นหนังจีนแผ่นดินใหญ่ที่ไม่พูดพร่ำทำเพลง อยู่ ๆ ก็ลัดคิวลงโรงฉายในบ้านเราแบบเงียบ ๆ แต่เพราะว่าเนื้อหาและสอดไส้ข้างในของหนังเรื่องนี้ค่อนข้างน่าสนใจและสะกิดต่อมสังคมปัจจุบันได้ดีเกินกว่าที่จะมองข้ามไป เราจึงอยากจะชูหนังเรื่องนี้ขึ้นมาแนะนำให้ทุกคนได้สนใจกัน เพราะนี่คือ "Malice เกมล่าคนบาปโซเชียล" หนังดรามาระทึกขวัญแนวสืบสวนสอบสวนไขปริศนาคดีในลักษณะเชิงช่าวโซเชียล ที่เป็นการปลุกเร้าประเด็นที่สามารถตบหน้าฉาดใหญ่ให้กับวันที่ทุกคนต่างก็มีสื่ออยู่ในมือตัวเอง
เย่พาน นักข่าวสาวที่กำลังตามสืบหาความจริงเบื้องหลังการเสียชีวิตอันเป็นปริศนาของเด็กหญิงที่ผลักตกมาจากอาคารโรงพยาบาล แต่ระหว่างการสืบสวนนั้น เธอเปิดเผยชื่อ หลี่เยว่ พยาบาลสาว กับ โหย่วเฉียน แม่ของเด็กหญิงที่เสียชีวิต ที่พวกเขาทั้งสองได้ต้องเป็นผู้ต้องสงสัยและเป็นจำเลยสังคมเพียงชั่วข้ามคืน กลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์จากโซเชียลมีเดียอย่างรุนแรง จนสถานการณ์เริ่มลุกลามบานปลายจนยากเกินจะควบคุมไปทั่วแผ่นดินใหญ่
Malice เกมล่าคนบาปโซเชียล ดัดแปลงสร้างมาจากนิยายออนไลน์เรื่องดังของจีน อย่าง E Nv A You (อ่านว่า เออร์-นั่ว-อ๋า-โยว่) ที่ได้ยินว่าได้แรงบันดาลใจมาจากเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นในสังคมจีนแผ่นดินใหญ่ โดยได้ผู้กำกับยอดฝีมือ "เหยาเหวินอี้" จาก Detective Chinatown ฉบับซีรีส์ทั้ง 2 ซีซัน มารับหน้าที่ดูแลงานสร้าง จากฝีมือการเขียนบทหนังของ "ชางเฉิน" (จากซีรีส์ Three of Them) ที่กลายออกมาเป็นคอนเทนท์หนังจีนแนวคลุกวงข่าวและสืบเสาะหาข้อเท็จจริงที่เน้นเร็วไม่เน้นความถูกต้อง จิกกัดวงการข่าวและการเสพย์ข่าวผ่านสังคมออนไลน์ได้อย่างตรงไปตรงมา
แต่แน่นอนว่าคอนเทนท์หนังจากแผ่นดินใหญ่จะแตะต้องประเด็นที่อ่อนไหวและละเอียดอ่อนลึกซึ้งเกินไปก็ไม่ค่อยจะได้ เพราะกองเซ็นเซอร์ของบ้านเขาค่อนข้างเข้มงวดไม่น้อย เป็นที่น่าเสียดายอยู่หน่อย ๆ เพราะ Malice เป็นหนังที่มีประเด็นค่อนข้างดีจัดจ้าน สบโอกาสที่จะขยี้ความดุเดือดได้อยู่หลายครั้ง แต่ว่ากลับต้องปล่อยผ่านละเลยไปอย่างในหลาย ๆ จุด ทำให้ในท้ายที่สุดแล้ว หนังเรื่องนี้ก็เป็นเพียงหนังป็อบคอร์น เน้นความมันส์ เน้นความสะใจ ปล่อยให้คนดูคล้อยตามเส้นเรื่องไปเรื่อย ๆ โดยที่ไม่ได้เน้นความตื้นลึกหนาบางของมิติหนังแต่อย่างใด ๆ
หนังค่อนข้างเล่าเรื่องได้สนุกดี ต้องขอบคุณต้นฉบับที่มีเส้นเรื่องปริศนาต่าง ๆ ที่คลี่คลายทีละมุมออกมาได้ชวนอินตามไปด้วย แต่เพราะความที่หนังไม่สามารถขยี้ประเด็นได้แรงสักเท่าไหร่ ทำให้ผลลัพธ์ที่ออกมาก็อารมณ์คล้ายกับดูหนังจากคลิปสั้น ที่มาประติดประต่อให้ดูแบบยาว ๆ ตลอด 100 นาทีเต็ม ถือว่าครบทุกอรรถรส เก็บทุกเม็ดได้ตามที่ต้องการ อยู่บนพื้นฐานของสูตรสำเร็จที่แทบจะไม่ออกนอกลู่นอกทางให้ได้ชวนตื่นเต้น พร้อมกับปิดท้ายด้วยการแฝงข้อคิดสอนใจตามสไตล์หนังจีนสอนชีวิตทั่วไป
โปรดักชันงานสร้างใน Malice ก็ถือว่ามีจังหวะที่ค่อนข้างเร้าอารมณ์ผู้ชมได้ดีตลอทั้งเรื่องเลย โดยเฉพาะการตัดต่อแบบฉึบฉับกำลังเหมาะ แม้ว่าจะมีมุมกล้องประหลาด ๆ ปะปนอยู่บ้างนิดหน่อย แต่ก็ออกมาเป็นชิ้นงานที่ไม่ขี้เหร่ เช่นเดียวกับลูกเล่นการใส่เพลงประกอบที่ชวนบิวท์อารมณ์คนดูได้ในทุก ๆ สถานการณ์ ทั้งสุข ทั้งเศร้า ทั้งลุ้น ทั้งเครียด ซาวน์เพลงที่ใส่เข้ามาคลอในหนังเรื่องนี้ หยอดคิวเข้ามาได้ในห้วงเวลาที่กำลังพอดี ถึงสภาพโลเคชันและแวดล้อมต่าง ๆ ของหนังเรื่องนี้จะดูค่อนข้างเก่าและรกไปนิดนึง แต่ก็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่ใด ๆ
ส่วนพาร์ททางการแสดงนั้น "จางเสี่ยวเฟย" สามารถยืนหนึ่งแบกรับหนังทั้งเรื่องเอาไว้ได้อยู่หมัดจริง ๆ กับการแสดงที่ลุ่มลึกและการตีความบทบาทออกมาได้มีชั้นเชิงตามที่บทจะส่งให้กับเธอ ถือว่าเธอคือตัวละครนำที่ทรงพลัง พร้อมจะจูงมือนำพานักแสดงคนอื่นไปสู่ปลายทางต่าง ๆ ได้อย่างลงตัวด้วยดี ไม่ว่าเท่านั้น ดาราสาวอีกคนที่โดดเด่นไม่แพ้กันก็คือ "เหม่ยถิง" ที่มาด้วยบทที่มิติล้น ๆ แบบหนักอึ้ง ถ่ายทอดออกมาได้ซับซ้อนน่าประทับใจ แม้ว่าแอร์ไทม์จะมีให้กับเธอไม่ได้เยอะเท่าไหร่ก็ตาม
ขณะที่ทีมนักแสดงสมทบคนอื่น ๆ ก็ถือว่ามาช่วยเติมเต็มหนังเรื่องนี้ได้อย่างเพิ่มพูน โดยเฉพาะแคสติ้งฝั่งสาว ๆ ในเรื่องนี้ที่ดีทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น "เฉินอวี่ซือ" ที่ออกมาน้อยแต่สำคัญมาก เช่นเดียวกับ ดาราเด็กสาวดาวรุ่ง "หยางเอินโยว่" ที่ถ่ายทอดความดรามาได้ชวนน้ำตาไหล และ "หลี่เกิ่งซิ" มอบการแสดงในลักษณะน้อยแต่มาก กับการซุกซ่อนกุญแจสำคัญที่เป็นหนึ่งในตัวละครที่สบประมาทไม่ได้เลยจริง ๆ ในหนังเรื่องนี้
ดังนั้นโดยสรุปแล้ว Malice เกมล่าคนบาปโซเชียล เรื่องนี้ อาจจะไม่ใช่หนังจีนที่สมบูรณ์แบบทุกด้านแต่อย่างใด เพราะหนังยังค่อนข้างมีช่องโหว่ในส่วนที่ขาดไปพอสมควร เพราะท่วงท่าที่ตัวหนังไม่กล้าเล่นไปไกลกว่านี้ด้วยความเกรงใจ อย่างน้อย ๆ ประเด็นของหนังเรื่องนี้ก็ดีงามและหนักแน่นเป็นที่สุด เป็นหนังที่บริโภคและตอบโจทย์คนดูได้อย่างง่ายดาย สะท้อนสังคมปัจจุบันทีใคร ๆ ก็มีสื่ออยู่ข้างในมือกันทั้งนั้น พ่วงด้วยการแสดงที่ค่อนข้างลื่นไหลดีของทีมนักแสดง
แม้ว่าจะเป็นหนังที่อยู่บนสูตรสำเร็จแบบเดิม ๆ ที่ไม่ได้แตกแถวแต่อย่างใดจากหนังจีนเรื่องอื่น ๆ แต่อย่างน้อย Malice เกมล่าคนบาปโซเชียล ก็ไม่ต่างกับได้สั่งสอนสังคมได้อย่างตรงไปตรงมา โดยเฉพาะประเด็นการใช้วิจารณญาณในการเสพย์ข่าวจากสื่อโซเชียลต่าง ๆ ในทุกวันนี้ เพราะทุกอย่างมักจะถูกนำเสนออย่างรวดเร็ว เน้นทำยอดเอ็นเกจ เน้นปั่นทราฟฟิก เพื่อความชิงดีชิงเด่นในการนำเสนอ โดยที่ไม่ได้คำนึกว่าทุก ๆ ประเด็นล้วนมีหลายด้าน นี่จึงเป็นคอนเทนท์ที่ไม่ต่างกับมาเพื่อตบหน้าเรียกสติคนในยุคเสพย์โซเชียลเป็นหลักอย่างในปัจจุบันนั่นเอง
