• ชื่อไทย : บูโกเนีย
• ปีที่เปิดตัว : 2568
• เข้าฉายในไทย : 6 พฤศจิกายน 2568
• นำแสดง : Jesse Plemons, Aidan Delbis, Emma Stone
• กำกับโดย : Yorgos Lanthimos
• เขียนโดย : Will Tracy, Jang Joon-hwan
• ประเภท : Comedy / Crime / Sci-Fi
• ความยาว : 118 นาที
• เรต : R
• สร้างโดย : Ireland / UK / Canada / South Korea / USA
• จำหน่ายโดย : United International Pictures (UIP) Thailand
เรื่องย่อ Bugonia บูโกเนีย เรื่องราวที่ติดตามชายหนุ่มสองคน เท็ดดี (เจสซี พลีมอนส์) ดอน (ไอแดน เดลบิส) ที่หมกมุ่นอยู่กับการสมรู้ร่วมคิดเมื่อพวกเขาตัดสินใจพุ่งตัวออกจากโพรงกระต่ายในโลกออนไลน์ของพวกเขาและลักพาตัว มิเชลล์ (เอ็มม่า สโตน) ซีอีโอผู้ทรงอิทธิพลที่พวกเขาเชื่อว่าเป็นมนุษย์ต่างดาวที่มาเพื่อทําลายพวกเราหลังจากทั้งคู่ล่ามโซ่เธอเอาไว้ในห้องใต้ดิน และเผชิญหน้ากับศัตรูผู้นี้แบบซึ่งๆ หน้า ทั้งสองฝ่ายไม่ว่าจะเป็นสองหนุ่มผู้อาศัยอยู่ในห้องใต้ดินและสวมหมวกดีบุกป้องกันสมองและผู้บริหารองค์กรที่ไร้จิตวิญญาณในไม่ช้าพวกเขาพบว่าตัวเองกระโดดลงไปในการต่อสู้ที่คาดเดาไม่ได้ขณะที่เหตุการณ์เดินหน้าไปอย่างคาดไม่ถึง
เป็นการกลับมาร่วมงานกันอีกครั้ง..ครั้งที่เท่าไหร่ก็ไม่ได้นับแล้ว สำหรับผู้กำกับ "ยอร์กอส แลนธิมอา" กับดาราสาว "เอ็มมา สโตน" ที่กลับมาในตลกร้ายปมไซไฟสุดโต่งใน "Bugonia บูโกเนีย" ที่เป็นการละเลงรีเมคสร้างใหม่จากหนังเกาหลีเรื่องดังยุค 2000s ปลุกปั้นเป็นเวอร์ชันฮอลลีวูดรังสรรค์ ที่ยังคงเอกลักษณ์จัดจ้านและอรรถรสที่คงเอาไว้ด้วยลายเซ็นในผลงานของยอร์กอสอย่างเจิดจ้า
เรื่องราวพิลึกพิลั่นของสองชายหนุ่มผู้หมกมุ่นกับทฤษฎีสมคบคิดที่สุดโต่ง ที่นำพวกเขาไปสู่การก่อเหตุลักพาตัวผู้บริหารหญิงบริษัทยักษ์ใหญ่แห่งหนึ่ง ซึ่งเธอคือคนสำคัญในวงการและทรงอิทธิพลไม่น้อย เพราะพวกเขาเชื่อว่าเธอคือสิ่งมีชีวิตจากต่างดาวที่แอบแฝงตัวแทรกซึมกับมนุษย์ และเชื่อว่าเธอมีเป้าหมายที่จะทำลายล้างโลกและมวลมนุษยชาติ พวกเขาจึงต้องทำเช่นนี้
หนังเรื่องนี้ดัดแปลงสร้างมาจากต้นฉบับหนังเกาหลีสุดคัลท์ Save the Green Planet! ในปี 2003 ของผู้กำกับ จางจุนฮวัน ที่เป็นหนังไซไฟสุดโต่งสุดคลาสสิกที่ขึ้นหิ้งจนถึงวันนี้ ฉบับนี้ได้ "วิล ทราซีย์" มือเขียนบทดาวรุ่งจากซีรีส์ Succession กับหนัง The Menu มาช่วยรื้อและเขียนบทหนังเวอร์ชันใหม่ครั้งนี้ให้ ที่ปรากฏว่าฉบับใหม่ยังค่อนข้างเคารพเค้าโครงจากต้นฉบับเอาไว้ แต่ได้มีการปรับชั้นเชิงในเข้ากับยุคสมัยได้เหมาะเจาะยิ่งขึ้น
Bugonia อาจจะเป็นผลงานหนังจากฝีมือ ยอร์กอส แลนธิมอส ที่น่าจะเสพย์และบริโภคได้ง่ายที่สุดแล้ว เพราะด้วยเนื้อหาของหนังฉบับนี้ค่อนข้างลื่นไหลและลำเลียงเรื่องราวได้ค่อนข้างเรื่อย ๆ เป็นคอนเทนท์ที่ดูง่าย เพลินง่าย และสัมผัสอรรถรสบันเทิงได้อย่างตรงไปตรงมาได้ง่าย ชั้นเชิงของบทหนังอาจจะไม่ได้ซับซ้อนมากนัก แค่อาจจะสุดโต่งไปบ้าง แต่กระนั้นความหนักแน่นในพล็อตเรื่องก็ยังเข้มข้น รักษาระดับความสนุกเอาไว้ได้ดีเกือบตลอด 2 ชั่วโมง
ลายเซ็นการเป็นหนังของยอร์กอส ยังคละคลุ้งไปทั่วอย่างเด่นชัด ไม่ว่าจะเป็นท่วงท่าการออกแบบมุมภาพอันเป็นเอกลักษณ์ของเขา ยังคงใส่มุมชวนพิกล ๆ เข้ามาได้อย่างจึ้งใจ งานถ่ายภาพของ "ร็อบบี้ ไรอัน" ก็ยังชวนประทับใจและไหลลื่นกับเนื้อหาได้ดี ทางด้านเทคนิคสร้างแสงสีต่าง ๆ ในหนังเรื่องนี้ก็ทำได้เหมาะเจาะกับสไตล์ของหนังได้อย่างมั่นคง จึงเป็นหนังที่ย่อยได้ง่ายมาก ๆ ไม่งง ไม่หลับ และชวนสนุกประทับใจได้ถึงแก่นด้วยซ้ำ
หนังยังมาพร้อมกับดนตรีประกอบของ "เจอส์กิน เฟนดริซ" ที่มาในท่วงทำนองที่เล่นใหญ่รัชดาลัยเกินเบอร์ไปมาก แต่เป็นจุดที่ช่วยบิวท์อารมณ์คนดูได้มากเช่นกัน โดยเฉพาะการปล่อยพลังเสียงสุดเปี่ยมในช่วง 20 นาทีของหนัง เป็นการกระหน่ำยิงเนื้อหาและซาวน์ต่าง ๆ แบบไม่ยั้ง ที่เป็นจุดช่วยปลุกเร้าอารมณ์ผู้ชมให้ไปได้ถึงแก่นสารอย่างมั่นคง
และแน่นอนว่า Bugonia ทรงพลังเพราะลีลาการแสดงของทีมนักแสดง แม้ว่าหนังเรื่องเหมือนจะเอา "เอ็มมา สโตน" มาต้มยำทำแกง แต่พลังระดับดาราเจ้าของ 2 รางวัลออสการ์ ย่อมไม่ทำให้ผิดหวังสักนิด เพราะเอ็มมาเอาอยู่ ปล่อยพลังทางการแสดงออกมาได้อย่างเป็นมืออาชีพ เรียบแต่โก้ แอคติ้งเฉียบขาดอย่างมีชั้นเชิง และเปล่งประกายด้วยดีตลอดเรื่อง ซึ่งแน่อนว่าเธอเข้าขากับผู้กำกับคนนี้ด้วยดีอยู่แล้ว
ยิ่งเสริมด้วยแอคติ้งปัง ๆ ของ "เจสซี พลีมอนส์" ก็สุดโต่งอย่างทรงพลัง เขาคนนี้ก็จัดได้ว่าเป็นนักแสดงชายที่การแสดงจัดจ้านอีกคนหนึ่งของวงการ บทความท้าทายอยู่ที่เขา และเขาก็สามารถรับมือได้อย่างทรงพลัง ถึงบทจะค่อนข้างซับซ้อนมากกว่า แต่พลังทางการแสดงของเขาก็ถึงใจถึงอารมณ์ด้วยดี เต็มไปด้วยเสน่ห์และกิมมิกที่ชวนเชื่อกับคนดู คือนั่งดูการแสดงที่ตอบโต้ไปมาระหว่าง 2 นักแสดงหลักก็คือกำไรแล้ว
ดังนั้นโดยสรุปแล้ว Bugonia จัดได้ว่าเป็นอีกหนึ่งผลงานรีเมคใหม่ที่ค่อนข้างจัดจ้านเทียบเคียงกับต้นฉบับได้สบาย ๆ ยิ่งเป็นผลงานหนังของยอร์กอสที่บริโภคได้ง่ายสุด ๆ เท่าที่เคยมีมาด้วยแล้ว ก็ให้คนดูน่าจะเข้าถึงทุกรายละเอียดสุดโต่งที่หนังต้องการสื่อสารได้อย่างเข้าใจถ่องแท้ นี่คือการรังสรรค์ใหม่ที่ยังเคารพต้นฉบับเอาไว้ แต่ปรับรายละเอียดต่าง ๆ ในมุมมองที่ดียิ่งขึ้นจากเดิม กลมกล่อมและเพลินดีตลอดทั้งเรื่อง ความตลกร้ายที่ยังแสบสันต์แบบมีชั้นเชิง ต้องยกนิ้วให้ทีมนี้เขาเลยจริง ๆ