ผู้เขียน หัวข้อ: The Fabelmans : เดอะเฟเบิลแมนส์  (อ่าน 45 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ เซียวเหล่งนึ่งฯ

  • Administrator
  • พี่น้อง thaicine Gold member
  • *****
  • กระทู้: 1522
  • พลังใจที่มี 3
The Fabelmans : เดอะเฟเบิลแมนส์
« เมื่อ: 29 มกราคม 2023, 19:13:46 »

• ชื่อไทย : เดอะ เฟเบิลแมนส์
• ปีที่เปิดตัว : 2565
• เข้าฉายในไทย : 2 กุมภาพันธ์ 2566
• นำแสดง : Gabriel LaBelle, Michelle Williams, Paul Dano
• กำกับโดย : Steven Spielberg
• เขียนโดย : Steven Spielberg, Tony Kushner
• ประเภท : Drama
• ความยาว : 151 นาที
• เรต : G
• สร้างโดย : USA / India
• จำหน่ายโดย : UIP Thailand


เรื่องย่อ The Fabelmans

           ภาพยนตร์กึ่งสารคดีที่สร้างขึ้นมาจากชีวิตในวัยเด็กของ Steven Spielberg ที่เติบโตขึ้นในโลกหลังสงครามโลกครั้งที่สองในเมือง Arizona ตั้งแต่อายุ 7 ถึง 18 ปี

           เรื่องราวส่วนตัวอันลึกซึ้งถึงวัยเด็กแบบอเมริกันในศตวรรษที่ 20 ของ สตีเวน สปีลเบิร์ก ที่บันทึกความทรงจำบนจอภาพยนตร์เกี่ยวกับพลังและครอบครัวที่ช่วยก่อร่างสร้างชีวิตและหน้าที่การงานให้กับผู้กำกับผู้นี้ เล่าเรื่องราวการก้าวข้ามพ้นวัยรวมถึงตามล่าหาความฝันของ แซมมี เฟเบิลแมนส์ (กาเบรียล ลาเบลล์) อุทิศตนให้กับงานสร้างภาพยนตร์ ซึ่งเป็นความสนใจที่ได้รับการยกย่องและเชิดชูโดย มิตซี (มิเชล วิลเลียมส์) แม่ของเขาผู้มีใจรักในงานศิลปะ และ เบิร์ต (พอล ดาโน) พ่อผู้เป็นนักวิทยาศาสตร์ที่ประสบความสำเร็จ เขาให้การสนับสนุนงานของแซมมี แต่ก็มองว่ามันป็นเพียงงานอดิเรกที่ไม่ได้จริงจังอะไร

รีวิวหนัง The Fabelmans

           ตลอดหลายปี แซมมี กลายเป็นผู้สร้างสารคดีบันทึกการผจญภัยของครอบครัวของเขา รวมไปถึงยังเป็นผู้กำกับประจำงานถ่ายภาพยนตร์มือสมัครเล่นของเขาซึ่งนำแสดงโดยเหล่าพี่สาวน้องสาว กับเพื่อนๆ ด้วยวัย 16 ปี แซมมีเป็นทั้งผู้สังเกตการณ์และผู้เฝ้าเก็บบันทึกประสบการณ์เรื่องราวของครอบครัว แต่เมื่อครอบครัวของเขาต้องย้ายไปฝั่งตะวันตก แซมมี ต้องพบกับความจริงที่แสนเจ็บปวดหัวใจเกี่ยวกับแม่ของเขา ซึ่งมันได้เปลี่ยนแปลงความสัมพันธ์ของพวกเขา และเปลี่ยนอนาคตของทั้งตัวเขาเอง และสมาชิกครอบครัวทุกคนด้วย

           และก็มาถึงอีกหนึ่งหวังรางวัลประจำปีนี้ที่เราอยากจะดูและลิ้มลองมาก ๆ เลยเกิน เพราะนี่คือเรื่องในตำนานที่ได้ตำนานมาเป็นผู้บรรเลงขับขานด้วยตัวเอง และนี่คือ "The Fabelmans" หนังชีวิตของพ่อมดฮอลลิวูดในช่วงวัยเยาว์อันเต็มไปด้วยรสชาติและสีสันมากมาย ทั้งความฝัน ความรัก ความหวัง และความทะเยอทะยาน ชีวิตจริงอาจจะไม่เหมือนในหนัง แต่บัดนี้เขาได้เอาชีวิตมาเป็นหนังที่ตัวเองสามารถออกมาได้สำเร็จ

           นี่คือเรื่องที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากชีวิตวัยเด็กของพ่อมดฮอลลิวูด สตีเวน สปีลเบิร์ก กับฉากหลังในรัฐแอริโซนา ช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ชีวิตของเด็กชายที่ชื่อ แซมมี่ ฟาเบิลแมน ที่ได้ค้นพบความน่าหลงใหลของโลกแห่งภาพยนตร์ หลังจากที่เขากับครอบครัวได้ไปชมหนังคลาสสิก The Greatest Show On Earth อีกทั้งเขายังได้พบกับความลับของครอบครัวที่กำลังแตกสลาย เขาจึงใช้เวลาอันสำคัญของวัยเด็กไปกับการสร้างภาพยนตร์ของตัวเองขึ้นที่บ้าน ด้วยแรงสนับสนุนและผลักดันอย่างแรงกล้าจากแม่ของเขา

           คงจะต้องบอก..แบบไม่กลัวว่าใครจะหาว่าโอเวอร์เลยว่า นี่คือช่วงเวลา 2 ชั่วโมงครึ่งที่เต็มไปด้วยมนต์ขลังและอบอวลไปด้วยบรรยากาศฟุ้งฝันที่มาจากสัตย์จริง เป็นหนังเรื่องยาวที่เราแทบจะละสายตาไปจากหน้าจอไม่ได้เลย ไม่มีแม้แต่อาการปวดเข้าห้องน้ำระหว่างที่นั่งชมหนังเรื่องนี้ มนต์เสน่ห์ของหนังเรื่องนี้มัดหัวใจคนดูเอาไว้ได้อยู่หมัด เพราะชีวิตและเรื่องราววัยเด็กของพ่อมดฮอลลิวูดผู้นี้ช่างน่าดื่มด่ำและตราตรึงใจยิ่งแท้

           แม้ว่าในทีแรกก็อาจจะมีคำถามตะหงิด ๆ ติดอยู่ในใจบ้างว่า หนังชีวประวัติวัยเด็กของสตีเวน สปีลเบิร์ก แต่ตัวเองก็ยังมาสร้างเองอีกเนี่ยนะ..มันจะเป็นหนังโฆษณาชวนเชื่อไปหรือเปล่า? แต่เมื่อได้มาสัมผัสดู The Fabelmans ด้วยตาตัวเองแล้วนั้น ความคิดเห็นได้มลายหายไปในทันที เพราะสปีลเบิร์กก็คือคนที่เหมาะที่สุดที่จะมาร้อยเรียงเล่าเรื่องชีวิตครอบครัวของเขาเอง บนหนังที่สร้างมาจากตัวละครที่เป็นแรงบันดาลใจให้กับประสบความสำเร็จได้อย่างทุกวันนี้

The Fabelmans เป็นหนังที่หยิบและอ้างอิงจากชีวิตสปีลเบิร์กมาเล่าแค่เพียงเสี้ยวเดียวด้วยซ้ำ เป็นเพียงช่วงชีวิตวัยเด็กจนถึงวัยรุ่น ก่อนที่เข้าจะย่างก้าวเข้าสู่เส้นอาชีพนักทำหนังอย่างเต็มตัว แต่ถึงแม้จะมีขอบเขตอยู่เพียงเท่านั้น แต่ทุก ๆ รายละเอียดแห่งวัยเยาว์ของเขาก็เต็มไปด้วยซอกซอยที่น่าค้นหา และเหตุการณ์เล็ก ๆ น้อย ๆ ที่เด็กคนหนึ่งต้องเผชิญหน้าผ่านมา ทั้งประเด็นในครอบครัว การเข้ากับสังคมใหม่ และแนวคิดเกี่ยวกับศาสนา ที่เรารู้กันดีว่าเขาเติบโตมากับครอบครัวชาวยิว

           และเมื่อสปีลเบิร์กมาเล่าเรื่องราวชีวิตของตัวเอง ดังนั้นก็ต้องเป็นเขาเท่านั้นที่รู้ดีที่สุด กว่าอะไรเป็นสิ่งที่เหมาะจะใส่เข้าในหนัง ดัดแปลงอะไรตรงไหนที่จะสร้างความบันเทิงให้กับคนดูได้บ้าง ทำให้บทหนังที่เขาร่วมเขียนกับ "โทนี่ คุชเนอร์" ในครั้งนี้ กลายเป็นหนึ่งในบทหนังที่เต็มไปด้วยจังหวะที่แสนคมคาย เต็มไปด้วยมิติมากมายที่สัมผัสถึงได้โดยตรงและนำไปคิดวิเคราะห์ต่ออีกในหลายมุม เป็นหนึ่งองค์ประกอบที่ค่อนข้างแข็งแกร่งของหนังเรื่องนี้ทีเดียว

ไม่เพียงเท่านั้น เทคนิคงานสร้างและองค์ประกอบต่าง ๆ ที่อยู่ในหนังนั้น สปีลเบิร์กก็จัดแจงออกมาได้สมกับเป็นมืออาชีพ นี่คือผลงานระดับคนทำหนังชั้นครูที่แท้ทรู งานกำกับของเขาออกมาแบบคมกริบ ทุก ๆ ซีนเต็มไปด้วยความเฉียบขาดและไร้เทียมทาน อีกทั้งยังมีงานโปรดักชั่นดีไซน์ที่เต็มไปด้วยลูกเล่นมากมาย เล่นกับมุมภาพ เล่นกับทิศทางแสง ทุก ๆ อย่างในหนังเรื่องนี้ช่างบรรจบใส่มาจากจินตนาการและวิสัยทัศน์ที่เป็นระดับโปร

           ซึ่งเมื่อองค์ประกอบต่าง ๆ นำมาผนวกเข้ากับลีลาการแสดงของทีมนักแสดงชุดนี้ของ The Fabelmans แล้วนั้น มันยิ่งทวีคูณเพิ่มความทรงพลังให้กับตัวหนังได้อย่างเลี่ยงไม่ได้เลยจริง ๆ ทีมนักแสดงทั้งเรื่องนี้ถ่ายทอดออกมาได้มีกึ๋นมาก ๆ ที่ยืนหนึ่งมาเลยก็ต้องยกให้ "มิเชล วิลเลียมส์" แค่เห็นชื่อเธอคนนี้ก็ไว้วางใจได้เลย เพราะจ้างเธอแค่ร้อยแต่มักจะมอบการแสดงระดับล้านมาให้เสมอ ๆ และเรื่องนี้ก็เช่นเดียวกัน แม้จะมองดูเป็นบทง่าย ๆ แต่แฝงไปด้วยมิติทางอารมณ์ ความซับซ้อนทางความคิด ทั้งเปิดเผยและภายในใจ ต้องเป็นเธอคนนี้เท่านั้น...ที่จะทำได้ถึง

           อีกคนที่ทำให้รู้สึกเซอร์ไพรส์ไม่น้อย ก็คือดาราหนุ่มดาวรุ่ง "แกเบรียล ลาเบลล์" ที่มารับบทเป็นตัวละครหลักของเรื่อง เพราะทีแรกคิดว่าหนุ่มคนนี้น่าจะไม่ต้องทำอะไรเยอะ เพราะมีรุ่นพี่ระดับเทพมาช่วยพยุงหนังเอาไว้ให้ได้ แต่ผลลัพธ์ที่ออกมากลายเป็นว่าเขาก็มีส่วนหลัก ๆ ที่ช่วยประคับประคองหนังเรื่องนี้ได้อย่างน่าทึ่งเช่นกัน การแสดงต้องยกนิ้วให้เลย ทั้งที่ชั่วโมงบินทางการแสดงอาจจะยังไม่ได้เยอะมาก แต่ซีนต่าง ๆ เขาสามารถรับมือได้อย่างเป็นมืออาชีพ และถ่ายทอดผ่านอารมณ์และท่าทางได้ดีกว่าที่คิดเอาไว้เยอะ

           นอกจากนี้ นักแสดงสมทบคนอื่น ๆ ก็ปล่อยของออกมาได้ยอดเยี่ยมแทบจะทุกคน ไม่ว่าจะเป็น "พอล ดาโน" คนนี้ไม่ต้องพูดอะไรเยอะ เล่นดราม่าได้เก่งจัดอยู่แล้ว "เซ็ธ โรแกน" รวมไปถึง "จัดด์ เฮิร์สช์" ที่เป็นตัวตึงจัด ๆ ของหนังเรื่องนี้ ออกมาแค่แปบเดียว แต่สร้างความตราตรึงและทรงพลังได้เป็นอย่างดี แคสติ้งของหนังเรื่องนี้ถือว่าคัดเลือกออกมาได้อย่างเยี่ยมยอด และเป็นทีมเวิร์กที่ดีในการผนึกกำลังกันสร้างสรรค์ผลงานระดับเทพ

           และแน่นอน The Fabelmans เป็นหนังที่มีความส่วนตัวของสปีลเบิร์กเป็นอย่างมาก แต่เขาก็กระเทาะเปลือกชีวิตตัวเองออกมาให้แฟนหนังได้สำรวจชีวิตที่ผ่านมาของเขาด้วยจังหวะที่ดี ซึ่งหนังเรื่องนี้เขาก็สร้างขึ้นเพื่ออุทิศให้กับบุคคลสำคัญในชีวิตวัยเด็กของเขา ผู้ซึ่งเป็นแรงผลักดันทำให้เขาประสบความสำเร็จได้อย่างทุกวันนี้ โดยหลัก ๆ เขาสร้างเพื่ออุทิศให้กับแม่และพ่อผู้ล่วงลับของเขา ผู้สนับสนุนเบอร์ใหญ่ที่คอยอยู่เบื้องหลังเสมอ ๆ ทำสิ่งที่เขาชื่นชอบ

           ดังนั้น นอกจากจะได้ความบันเทิงและความอิ่มเอมใจกับการสำรวจชีวิตของ สตีเวน สปีลเบิร์ก ใน The Fabelmans เรื่องแล้วนั้น เชื่อเลยว่าผู้ชมน่าจะได้ข้อคิดและแนวคิดในการใช้ชีวิตจากเขาเป็นแรงบันดาลใจได้ไม่มากก็น้อย ความฝันไม่ใช่เรื่องเพ้อเจ้อ แต่เป็นเป้าหมายที่อยู่ที่ว่าเราจะมีแรงผลักดันไปแตะหรือไม่ และบัดนี้ตำนานนักแสดงสร้างก็ได้มาตีแผ่ตำนานของตัวเองออกมาให้โลกได้เห็น และมันก็จะยังเป็นตำนานไปอีกนาน...แสนนาน


ตัวอย่างหนัง The Fabelmans


THE FABELMANS | Official Trailer | Thai Sub | UIP Thailand


The Fabelmans | Golden Globes Winner | TV Spot | UIP Thailand


The Fabelmans | Best Movie Review | YouTube TrueView | UIP Thailand


The Fabelmans | A Look Inside | Thai Sub | UIP Thailand


ภาพนิ่ง โปสเตอร์ The Fabelmans (2022)

 
 
 
 
 

 



ภาพโปสเตอร์










เซียวเหล่งนึ่งฯ  นายพนมกร คำวัง (ตู่)
โทร 094-3619414, 086-4025293
อีเมล์: tuu414@scryptmail.com
Line: Touu-panomkornsmfjusthost@gmail.com
ชื่อบัญชี : นายพนมกร คำวัง
ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาบิ๊กซีนครปฐม ออมทรัพย์ เลขบัญชี : 830-209795-5   
ธนาคารกรุงเทพ สาขาโลตัสนครปฐม ออมทรัพย์ เลขบัญชี : 637-001757-