ผู้เขียน หัวข้อ: บทที่ 443 หนึ่งในโครงการภาพยนตปีนเกลียว 2 (2538 วีรศาสตร์-ใจ) รีมาสเตอร์กากฟิล์ม  (อ่าน 1030 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ นายเค

  • Thaicine Movie Team
  • Moderator
  • พี่น้อง thaicine Gold member
  • ***
  • กระทู้: 3814
  • พลังใจที่มี 616
  • เพศ: ชาย

บทที่ 443
ชุมทางหนังไทยในอดีต เสนอฉาย
หนึ่งในโครงการภาพยนตร์ไทยคงเหลือ
ปีนเกลียว 2 (2538 วีรศาสตร์-ใจ) รีมาสเตอร์กากฟิล์ม
โดย มนัส กิ่งจันทร์

(facebook 23 พฤศจิกายน 2556)


หนังไทยคงเหลือ ปีนเกลียว 2 2538 วีรศาสตร์ รีมาสเตอร์กากฟิล์ม

            สวัสดีครับทุกท่าน วันนี้ โครงการภาพยนตร์ไทยคงเหลือ ขอเสนอฉายหนังจากกากฟิล์ม 35 มม.พากย์เสียงในฟิล์ม ซึ่งพวกเราไปช่วยกันเก็บภาพไว้ก่อนที่กากฟิล์มจะตายไป.. นั่นก็เรื่อง ปีนเกลียว 2 .. เป็นหนังบู๊ภูธร สร้างโดย 138/1 เอ็นเตอร์เทนเมนท์ นำแสดงโดย วีรศาสตร์ หมื่นไวย์-พัชวัตร์ สุขศีล-ใจ จันทร์มูลตรี-ธัญญาลักษณ์ ราชธา-สมภพ วงศ์ก่อ.. กำกับการแสดงโดย อรนุช ลาดพันนา ซึ่งก็เป็นหนังในเครือค่ายคิวบู๊ตามแบบฉบับของ พันนา ฤทธิไกร ออกฉายครั้งแรกวันที่ 8 เมษายน 2538 ที่โรงหนังราชเทวีรามา..


            สมัยนั้น หนังบู๊แนวนี้จะขายดีกันในภาคอีสาน เรียกว่า หน่วยหนังกลางแปลงแย่งกันซื้อฟิล์มไปฉายเลยล่ะครับ แต่ในกรุงเทพฯ จะฉายกันตามโรงชานเมือง หรือไม่ก็ฉายเป็นหนังควบ แต่เหตุที่ต้องนำหนังมาเปิดตัวฉายในกรุงเทพฯก่อนก็เพราะเป็นธรรมเนียมหรือความเคยชินที่ผู้สร้างหนังกระทำเช่นนี้ติดต่อกันมานานหลายปีแล้วครับว่า หนังจะต้องฉายครั้งแรกในกรุงเทพฯ ก่อนเพื่อให้สายหนังต่างจังหวัด ได้เห็นรูปแบบการโฆษณาลงหนังสือพิมพ์ เห็นกระแสหนัง ถ้าเป็นสมัยก่อนก็ต้องแย่งกันลงหนังสือพิมพ์ไทยรัฐหรือเดลินิวส์..

            หนังเรื่องนี้ แม้จะเคยออกวีซีดีแล้ว แต่ภาพยังไม่ค่อยสวย เผอิญว่า พวกเราไปเจอกากฟิล์มสีเฟดแดงๆ มีเส้นฝนบ้าง แต่ภาพยังคมชัด ฟิล์มยังฉายได้ ก็เลยแปลงสัญญาณเก็บภาพไว้ก่อนที่ฟิล์มจะเหม็นเปรี้ยวและเสียหายไป เรียกว่า เป็นการสำรองภาพไว้นะครับและมีการปรับแต่งภาพ แก้สีบ้างนิดหน่อยเพื่อให้ดูเหมือนธรรมชาติ..หนังมี 5 ม้วนจบ แต่วันนี้ ตัดย่อๆ มาให้ดูเป็นตัวอย่าง อย่าลืมว่า อดีตของหนังไทย..ไม่มีวันตาย หากวันนี้ เราช่วยกันเก็บภาพจากฟิล์มไว้ก่อน ร่วมแรง ร่วมใจ ช่วยหนังไทยจากกากฟิล์ม..


คลิกดูได้เลยครับ
หนึ่งในโครงการภาพยนตร์ไทยคงเหลือ ปีนเกลียว 2 (2538 วีรศาสตร์) รีมาสเตอร์กากฟิล์ม
<iframe width="560" height="315" src="//www.youtube.com/embed/Fg7XDzzPBgQ?fs=1&start=" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>
.....



 :) :) :) :) :)









----------


แตง โปสเตอร์ โห..พี่มนัสสีสวยมากเลยอ่ะ อยากได้เรื่อง มนต์รักเพลงลูกทุ่ง สีสวยๆแบบนี้จังค่ะ เรื่องปีนเกลียว2 ชัดเป๊ะเลยนะคะดูจบไปเมื่อกี้ค่ะ สิบห้านาทีกว่าๆชอบมากเลยค่ะพี่มนัสทำเสร็จแล้วใช่มั้ย ขอบคุณมากเลยคร่า..ขอบคุณ คุณฉัตรชัย นุ และพี่ๆทุกๆท่านที่ทำให้หนังไทยไม่มีวันตายค่ะขอบคุณมากที่สุดเลยค่ะ

        คุณหทัยชนก มงคล ครับ หนังเรื่องนี้ฉายครั้งแรกปี 2538 สำหรับพวกเรานั้น ยังไม่ถือว่า เ่ก่า นะครับเพราะหนังเป้าหมายของพวกเรานั้น ถ้าเป็นหนัง 35 มม.ก็จะอยู่ในช่วงปี 2515-252..กว่า ไม่เกินปี 2539 ซึ่งคาดว่า ถ้าเราเจอกากฟิล์ม ก็น่าจะยังฉายแปลงสัญญาณภาพเก็บไว้แบบนี้ได้.. แต่เพราะวันนั้น วันที่เราไป "ส่องหนัง" ที่เมืองกาญจน์ฯ เราก็ไม่พบ หนังที่เก่ากว่านี้ แต่พอถามถึงหนังไทยเก่าๆ เขาก็บอกว่า พอฟิล์มมันสีเฟด แดงๆ มีเส้นฝนแบบเรื่อง เขาก็จะทิ้งฟิล์มไปเพราะไม่มีใครเช่าไปฉายอีกแล้ว.. ก็ต้องทิ้งฟิล์มและเอารีลเหล็กเก็บไว้ใส่หนังเรื่องใหม่ๆ นั่นแหละครับ จึงทำให้พวกเราได้ความคิดว่า ถ้าเจอหนังไทยเก่าๆ สีเฟดแดงๆ ก็ต้องรีบนำกากฟิล์มกลับมาทำภาพไว้ก่อนเพราะอย่างน้อยๆ ภาพที่เราทำออกมาก็ดูดีกว่าวีดีโอหรือวีซีดีที่เราซื้อมาก่อนหน้านี้..

        วันนั้น เรานำฟิล์มมา 5 เรื่องเองครับเพราะกลัวจะแปลงสัญญาณไม่ทัน..ส่วนเรื่องปีนเกลียว 2 นี้มีฟิล์ม 5 ม้วนเต็ม ฉายแล้วก็ยังสมบูรณ์ครับ มีเฉพาะช่วงหัวม้วนและท้ายม้วนที่มีรอยต่อ เป็นเ้ส้นฝนครับ..แต่สีเฟดนั้น ผมใช้โปรแกรมตัดต่อหนัง แก้สีช่วยนะครับ สีจึงดูเป็นธรรมชาติขึ้น..วันนี้ ฉายเ็ป็นเรื่องแรกของ โครงการช่วยหนังจากกากฟิล์ม.. ซึ่งตอนต้นเรื่อง ผมจะใส่โลโก้อธิบายไว้ครับ..เมื่อพวกเราผ่านจุดนี้ไปได้แล้ว ต่อไปก็คือ ตามหากากฟิล์มครับ ซึ่งตอนนี้ เข็มทิศเป้าหมายไปทางสายอีสานครับ..

        เจ้านี้เขาฉายหนังมาเกือบจะ 50 ปีแล้ว ยังมีกากฟิล์มเก็บไว้หลายเรื่อง จะไปขอแบ่งปันมาทำภาพเก็บไว้แบบนี้แหละครับ เดี๋ยวรออ่านรายละเอียดในบทที่ 444 นะครับ...ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาเยี่ยมชมและแสดงความคิดเห็นนะครับ..


คลิกดู... หนึ่งในโครงการภาพยนตร์ไทยคงเหลือ ปีนเกลียว 2 (2538 วีรศาสตร์) รีมาสเตอร์กากฟิล์ม


         เห็นทีแบบนี้ ต้องให้ คุณอุ้ย Thawatchai Jai-aue หรือไม่ก็คุณโอ หจก. ส. ธรรมสุจริต มาเฉลยแทนแล้วล่ะครับ เพราะทั้งสองเขาคลุกคลีอยู่กับทีมงานสร้างหนังเรื่องนี้ครับ..คุณพุทธพร ดูหนังละเอียดจริงๆ นะครับ..ในเรื่องนี้ก็มีฉากหนึ่งที่วิ่งหนีกันแถวๆ รางรถไฟด้วย ซึ่งก็น่าจะเป็นขอนแก่นนะครับ..แต่มุมกล้องไม่เห็นมากเท่าเรื่อง ปีนเกลียว 1 ผมเลยไม่ตัดมาให้ชมนะครับ..

Thawatchai Jai-aue ฉากทางรถไฟในหนัง ถ่ายตรงบริเวณกม.452 เลยสถานีขอนแก่นไปทางด้านเหนือประมาณสามกิโลเมตรเศษ ในหนังจะเห็นถนนหลังศูนย์ราชการที่ตัดผ่านทางรถไฟไปยังถนนมิตรภาพ สองข้างทางรถไฟบริเวณนั้นเป็นชุมชนแออัดริมทางรถไฟ ซึ่งเป็นของเครือข่ายสลัม 4 ภาค ชุมชนเทพารักษ์ 3 และชุมชนเทพารักษ์ 4 ครับ  ในหนังจะมีขบวนรถเร็วที่ 137 กรุงเทพฯ-หนองคาย แล่นผ่านเข้าฉากด้วยครับ ปัจจุบัน รถเร็วเที่ยวนี้ถูกยกเลิกแล้ว    มาสเตอร์เทปที่เอามาทำวีซีดีขายเรื่องนี้ ความละเอียดของภาพและสัดส่วนยังไม่ดีเท่านี้เลยครับ แถมมีเส้นฝนด้วย เก่า ขลัง ไปอีกแบบ ชอบมากๆครับ   รายการอาหารคงอิงจากของจริงมามั้งครับ อาจารย์ พุทธพร ส่องศรี ฉากนี้ถ่ายยาวไม่มีตัดประมาณ 5-7 นาทีครับ เป็นคิวบู้ที่เล่นยาก เพราะต้องจำคิวให้ได้ แถมเหนื่อยด้วย

พุทธพร ส่องศรี ถ่ายแถว ๆ ถนนหลังศูนย์ราชการขอนแก่นนั่นเอง ตอนแรกเห็นจุดตัดทางรถไฟ นึกว่าเป็นแถว ๆ เซ็นทรัลขอนแก่นเสียอีกครับ (ผมเคยเดินตามทางรถไฟ จากเซ็นทรัลไปที่สถานีรถไฟขอนแก่น)

ผมชอบซอกแซกดูรายละเอียดในหนังครับ ยิ่งพอภาพชัด ๆ แบบนี้ยิ่งดูสนุก  รายการอาหาร แต่ละรายการดูแปลก ๆ ครับ เหมือนจัดฉากเขียนขึ้นสนุก ๆ เช่น ยำหมึกดำ ยำหมึกแดง ซึ่งคำว่าแดง ก็ใช้สีแดงจริง ๆ แถมราคาแพงตั้ง 800 ขณะที่ยำหมึกดำ 30 เอง แล้วยังมีผัดหนู ผัดหมูด้วยครับ


        ขอบคุณครับที่เพิ่มเติมข้อมูลหนังให้นะครับ.. จากการออกตามหากากฟิล์ม วันนี้ เราก็เลยมีภาพที่แตกต่างจากเนื้อวีดีโอหรือวีซีดี เมื่อคืนคุยกับคุณนุ ประเดิม ซึ่งเป็นช่างกล้องของเราถึงเรื่อง ฟิล์มสีเฟดแดงๆ ว่า ปีนเกลียว 2 นี้เป็นเรื่องเดียวในกลุ่ม 5-6 เรื่องที่กากฟิล์มสีเฟดมากกว่าเรื่องใด..แต่โปรแกรมตัดต่อกับกล้องก็ช่วยหนังให้ดูดีขึ้น.. ตอนนี้ ได้ข่าวอีกว่า ฟิล์ม ปีนเกลียว ภาค 1 กับภาค 3 ยังอยู่ในมือคนรักหนังครับ คงต้องอาศัยเวลานิดหน่อยเพื่อเจรจามาทำภาพแบบนี้อีกครับ.. ผมน่ะ ถูกคุณนุกับเพื่อนๆ แซวตลอดว่า ไปกากหนังทีไร ได้แต่หนังภาคอีสานบ้านมนัสทั้งนั้นเลย..

Thawatchai Jai-aue ปีนเกลียว 1 คุณโอ หจก. ส. ธรรมสุจริตก็มีนะครับ ถ้าคุณมนัสมาขอนแก่น จะลองฉายให้ดูครับ  รายชื่อหนังพันนา ที่มีนะครับ 1 ปลุกมันขึ้นมาฆ่า ภาค 3 , เพชฌฆาตดำ ภาค 2, ไอ้เพชร บขส. ภาค 2, คนดิบเหล็กน้ำพี้, สงครามผี, พยัคฆ์ร้ายเซี่ยงชุน ภาค 2, ปลุกมันขึ้นมาฟัดผีกัด, นักสู้เมืองอีสาน, นักเลงหมอลำ,โหดตามคิว ขาดม้วน 1,2

        ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาเยี่ยมชมนะครับ..รายชื่อหนังพันนาที่คุณThawatchai Jai-aue กล่าวไว้ข้างต้นนั้น ผมเห็นแล้วบอกตรงๆ นะครับว่า อยากให้มีการนำมาแปลงสัญญาณใหม่จริงๆ ครับเพราะเทปหรือวีซีดีที่มีอยู่นั้น ภาพไม่สวยเลยครับ..เสียดายความเป็นหนังที่สายอีสานแย่งกันซื้อมาฉายนะครับ...

         ยินดีต้อนรับคุณKim Zaa ดาราอีกคนหนึ่งซึ่งผมเห็นหน้าบ่อยที่สุดจากหนังของ พันนา ฤทธิไกร..ครับ ผมเองกับ บรรพตหรือวีรศาสตร์ อยู่บ้านที่สุรินทร์ในซอยเดียวกันครับ แต่แถวบ้านผมจะเรียก บรรพต ว่า พงษ์..เขาเป็นรุ่นเดียวกันกับน้องชายผม แต่ว่าเราสนิทกันทั้งซอย สมัยเด็กๆ ก็เดินเก็บเศษฟิล์มหนังมาฉายสไลด์เล่นๆ ด้วยกัน ผมชอบไปฉายหนังกลางแปลง แต่พงษ์เขาชอบไปกระโดดเล่นยิมนาสติก บ้ามวยจีนกับอาจารย์ป้อม เมืองสุรินทร์..

         แล้วจุ่ๆ วันหนึ่ง ผมก็มาเจอพงษ์ในจอหนังครับ..ผมพยายามตามเก็บวีดีโอหนังที่พงษ์เล่นกับพันนาไว้นานแล้ว คิดว่าน่าจะครบหมด แต่ก็อย่างว่า ภาพจากวีดีโอไม่ค่อยสวย ไม่สโคปเหมือนดูในโรง ตอนนี้ พอผมทำโครงการช่วยหนัง รีมาสเตอร์จากกากฟิล์ม 35 มม.อย่างเรื่องนี้ ก็เลยคิดว่า ถ้าเราได้กากฟิล์มหนังพันนาเก่าๆ อย่างที่คุณอุ้ยบอกรายชื่อว่า มีฟิล์มอยู่ เราก็จะได้ภาพชัดๆ ของทีมงานพันนาทุกๆ คนนะครับ..มีอะไรเกี่ยวกับประสบการณ์ชีวิตการเป็นดาราก็เล่าสู่กันฟังได้นะครับ ส่วนภาพข้างล่าง นี้ยืมมาจากคุณอุ้ยนะครับ เป็นภาพของคุณ Kim Zaa ในจอหนัง..









เห็นภาพ คงจะำจำได้นะครับ เล่นหนังมาแต่เด็กรุ่นๆ เลยละ่ครับ..

Gim Zaa ขอบคุณครับ ประสบการณ์เบื้องต้นก็มาจากเด็กเสิร์พน้ำในกองถ่ายฯ ครับ พออยู่ไปสักระยะหนึ่ง พี่กฤติ(พันนา) เลยให้ผมมาฝึกเป็นสตั้นท์แมน โดยให้พี่น้อย (บรรลุ ศรีแสง) ฝึกให้ ต่อมาก็ให้พี่เปี๊ยก (มรกต แก้วธานี)มาฝึกให้ เริ่มงานในกองถ่ายครั้งแรกเลยคือ เรื่อง "เพชรลุยเพลิง" ... เข้าฉากบู้จริงๆไม่แน่ใจว่าเรื่องอะไร จำชื่อเรื่องไม่ได้ มันก็นานมากแล้ว...

กับพี่พต แกเก่งเรื่องยิมครับ พริ้วมาก....อาจารย์ป้อมฯ ผมชอบแหย่แกเวลาอยู่ในกองฯหรือหลังเลิกกองฯ 5555++ แกจะเป็นคนทำพิธีบวงสวรงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ก่อนถ่ายทำหนัง  กับน้องอุ้ย Thawatchai Jai-aue ก็มาเล่นที่บ้านผมบ่อยๆ 5555 แกสนใจถามเรื่องเบื้องหลังในกองฯถ่าย ..


(ขอยืมภาพจากคุณโอ หจก. ส. ธรรมสุจริต ครับ)


ขอบคุณข้อมูลเพิ่มเติมนะครับ..ถ้าเป็น เพชรลุยเพลิง ผมมีวีดีโอครับ...ปี 2531


แต่ที่ผมคุ้นตาและดูแล้วตลกมากๆ ก็น่าจะเป็นเรื่อง เกิดมาลุย 3 ที่ีคุณกิมเล่นเป็นนักเรียนนะครับ..ปี 2533

        หลายวันมาแล้ว บรรพตหรือพงษ์ โทรมาหาแล้วก็ถามถึงเรื่องนี้ว่า มีหนังหรือไม่ ตังเกเดือด ผมก็บอกว่า มี แต่ไม่ชัด อัดจากทีวีครับ..


        ผมเองก็ลืมถามไปว่า เล่นหนังมาตั้งเยอะ แล้วทำไมถามถึงเรื่องนี้ รู้สึกเรื่องนี้คุณกิมจะเล่นด้วยนะครับ ปี 2534 เล่นเป็นคู่กับเด็กผู้หญิงที่ มล.สุรีย์วัล กอดนั่นแหละครับ..


นายชำนาญ อารามศาสตร์ ผมจำพี่ กิม ติดตา ได้จากหนังเรื่ือง "เพชรฆาตดำ" ที่แสดงเป็นตัว ลูกน้อง พี่พันนา ที่ออกแนว กวน กวนมาก ๆ ทั้งเรื่อง เลย เรียกว่า ออกฉากไหน เป็นต้อง แย่งซีน พระเอก (บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์) และ พี่ พันนา ไปเลยครับ พี่ กิม เล่นเรื่องนี้ เด่นมาก ๆ ครับ เลยจำพี่กิม ได้ติดตา   อีกเรื่อง คือ "มังกรเหนือ อีสานใต้" เรื่องนี้ พี่กิม เล่น บท โหด และ เลวววว ได้ใจจริง ๆ ครับ เลววว ทั้งสี และ แววววตา ครับ (เฉพาะในหนังนะครับ อิ อิ) ซึ่งผิดกับเรื่อง "เพชรฆาตดำ" เลย

        ว่างๆ จะหาเวลาตัดต่อ "คิวบู๊หนังพันนาและทีมงาน" มาฝากนะครับ..ซึ่งนอกจากจะบู๊มันๆ แล้ว ทีมพากย์ก็ยังช่วยทำให้หนังมันยิ่งขึ้นด้วยครับ..

         ผมเองในฐานะคนอีสาน..ก็ดู ก็เห็นและฟังเรื่องราวต่าๆ ของหนังภาคอีสานมานาน เห็นนักสร้างหนังคนอีสาน เห็นนักแสดงคนอีสาน มาหลายคนที่ทำงานภายใต้ต้นทุนที่จำกัด แต่ก็พยายามฝ่าฟันนำผลงานออกมา แม้บางเรื่องจะเป็นแค่หนังสายอีสาน แต่ก็ยังภาคภูมิใจครับที่คนอีสานมีหนัง มีประวัติศาสตร์เหมือนคนภาคอื่นๆ ผมเองก็รวบรวมและเก็บหนังภาคอีสานไว้แทบทั้งหมด ก็หวังว่า วันหนึ่งจะเป็นประโยชน์แก่สังคมไทยบ้าง... อย่างน้อยๆ ผมก็เป็นคนสุรินทร์ จึงพยายามรวบรวมหนังที่เข้าไปถ่ายทำในจังหวัดสุรินทร์ไว้ เคยนำมาโพสแล้วครับ ท่านใดยังไม่ได้ดู หนังเมืองสุรินทร์ ก็ลองดูตามลิงค์นี้นะครับ

คลิกชม.. รวมหนังถ่ายทำที่จังหวัดสุรินทร์


Regis Madec คุณ มนัส ชุมทางหนังไทยในอดีต คุณ Thawatchai Jai-auei ผมจำได้ว่าในหนัง ปีนเกลียว 2 มีฉาก ที่อยู่ข้างในโรงภาพยนตร์ครับ. โรงหนังที่ขอนแก่นหรือเปล่าครับ? นักแสดง ชื่อ วีรศาสตร์ หมื่นไวย์ เหมือนกับ บรรพต กิหมื่นไวย์ (Tom) ไหมครับ? นักแสดง ชื่อ พัชวัตร์ สุขศีล เหมือนกับ กฤษณะพงษ์ ราชธา (ตำรวจ) ไหมครับ? นักแสดง ชื่อ ใจ จันทร์มูลตรี เหมือนกับ สุรินทร์ สุขศีล (Wut) ไหมครับ?

        คุณ Regis Madec ครับ..วีรศาสตร์ กับ บรรพตหรือสุพจน์ คนเดียวกันครับ.. ส่วน สุรินทร์ สุขศีล กับ พัชรวัชร์ สุขศีล ก็คนเดียวกันครับ.. ส่วน สมใจ จันทร์มูลตรี หรือ ใจ จันทร์มูลตรี คนเดียวกัน แต่ว่า กฤษณะพงษ์ ราชธา นั้น ไม่รู้ครับว่า มีชื่ออะไรอีกครับ..ส่วนเรื่องโรงหนังนั้น คุณอุ้ยตอบให้แล้วครับ..

ปองพล วงศ์วราพุทธ ยังคิดถึงพี่กฤติ ที่ให้โอกาส
ผมได้สัมผัสกับการแสดง

ภาพยนตร์ตัวประกอบในเรื่อง
มังกรเหนือ อิสานใต้ ทุกคน
ทำงาน พร้อมเพียงกันดีมาก
อยู่กองถ่ายเหมือนญาติกันทุก
คน ขอขอบคุณทุกท่านนะครับ
ถึงอาจารย์จะจากเราไป แต่ความ
รู้สึก ว่าอาจารย์พันนา ยังอยู่กับ
เราเสมอนะครับ สวัสดีครับ
ส่วนอาจารย์หมูตากล้องเพิ่งเจอ
ในเฟซครับสบายดี



« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 14 ตุลาคม 2014, 23:12:52 โดย นายเค »


สรพงษ์ ลิ้มทองคำ
5 หมู่ 7 ต.คลองตาคต อ.โพธาราม ราชบุรี 70120    E-Mail soraphol@hotmail.com
ธ.กรุงเทพ ออมทรัพย์ สาขา อาคารยาคูลท์ สนามเป้า   หมายเลขบัญชี  210-036236-3
ธ.ไทยพาณิชย์  ออมทรัพย์ สาขา บางเขน   หมายเลขบัญชี  041-273435-0
ติดต่อ 0909040355

ชมรมรักหนังกางแปลง โพธาราม ราชบุรี เรามาคุยกันได