บทที่ 603 ชุมทางหนังไทยในอดีต เสนอ เสือกเกิดมาจน (2519 กรุง-นัยนา)

[นายเค]

บทที่ 603
ชุมทางหนังไทยในอดีต เสนอ
เสือกเกิดมาจน (2519 กรุง-นัยนา)
โดย มนัส กิ่งจันทร์
(facebook 18 ตุลาคม 2557)


          เสือกเกิดมาจน.. นี่ ผมไม่ได้ประชดประชันใครนะครับ แต่เป็นชื่อของหนัง เรียกว่า ช่างกล้าตั้งจริงๆ สมัยผมยังเด็กๆ พอได้ยินชื่อหนังเรื่องนี้ก็อดแปลกใจไม่ได้ ฟังแล้วเหมือนกับคล้ายๆ จะว่าใครกลายๆ อะไรทำนองนั่นแหละ.. ยิ่งพอหนังออกฉายด้วย ชื่อหนัง เสือกเกิดมาจน ก็มีการนำไปล้อเลียนคนที่ไม่ค่อยมีสตางค์ เวลาทำอะไรไม่สมหวัง ก็จะโดนคนพูดใส่ว่า ก็ เสือกเกิดมาจน นี่.. ช่วงนั้น โชเฟอร์ขับรถบางคัน ก็เอาชื่อหนังไปให้เขาเขียนป้ายติดบังโคลนรถ ติดกระจกรถ คำๆ นี้จึงเป็นคำยอดฮิตในปี 2519 ไปแล้วครับ..

          เสือกเกิดมาจน เป็นหนัง 35 มม.พากย์เสียงในฟิล์ม สร้างโดย ช.พจน์ฟิล์ม โดย เนียนนิภา จงโยธา เป็นผู้อำนวยการสร้าง.. กำกับการแสดงโดย ปริญญา ลีละศร นำแสดงโดย กรุง-นัยนา-ศิริขวัญ-นิรุตติ์-สะอาด-สายัณห์-นฤมล เข้าฉายครั้งแรกวันที่ 19 พฤศจิกายน 2519 ที่โรง หนังแกรนด์-สามย่าน

          พูดถึงผู้สร้างหนังเรื่องนี้แล้ว ก่อนหน้าก็เคยสร้างหนังดังๆ มาแล้วหลายเรื่องเช่น นางสาวมะลิวัลย์ ฝ้ายแกมแพร ตามล่า อ.ต.ล.(ไอ้ตอแหล).. ซึ่งถ้าดูจากแนวหนังที่สร้างผ่านมา จะเห็นได้ว่า ครั้งนี้ เป็นการฉีกแนวมาสร้างหนังบู๊ๆ ตามกระแสหนังบู๊ครองเมือง แต่ ปริญญา ลีละศร ผู้กำกับก็ยังไม่ทิ้งแนวเดิม ถ้าใครได้ดูเนื้อเรื่องแล้วก็จะเห็นว่า เป็นหนังบู๊ที่ยังคงแฝงไว้ด้วยบทชีวิตหนักๆ ที่กดดันจนทำให้พระเอก กรุง ศรีวิไล ต้องน้ำตาตก แล้วก็ออกมาลุยแหลก ล้างอิทธิพลเถื่อนกันครับ

          สมัยเด็กๆ ผมเคยได้ดูหนังเรื่องนี้จากจอหนังกลางแปลงเพียงครั้งเดียว ก็จำเรื่องได้บ้าง ไม่ได้บ้างและปัจจุบันนี้ ก็ยังไม่มีโอกาสได้ดูหนังอีกเลย ยังตามหากากฟิล์มไม่เจอ คงมีแต่เรื่องย่อจากหนังสือดาราเก่าๆ ที่ลงไว้สั้นๆ ครับ...

          เสือกเกิดมาจน จะเริ่มเรื่องที่ กรุง แสดงเป็น “เหิม” มีอาชีพขับมอเตอร์ไซด์รับจ้าง แต่ไปหลงรักนางเอกคือ นัยนา ที่รับบทเป็น “มาลี” ซึ่งเป็นลูกสาวกำนันแม้น ก็ย่อมเป็นธรรมดา รักของคนจนอย่างกรุง ก็จะต้องถูกกีดกัน พอหนักๆ เข้ากรุงก็จะถูกรุมซ้อมรุมทำร้ายเพราะกำนันต้องการให้นัยนาไปแต่งงานกับนิรุตติ์ ที่รับบทเป็น “สุทธิ” ลูกชายเสี่ยเซ้ง (บู๊) ซึ่งมีฐานะร่ำรวยกว่ากรุง

          ต่อมากำนันแม้น เสี่ยเซ้ง ก็ได้ร่วมมือกับปลัดอำเภอที่ชื่อ สง่า (สะอาด) บีบบังคับให้ชาวบ้านไร่ขายที่ดินให้ทั้งหมดเพื่อจะเอาไปสร้างเมืองใหม่และจะนำรถเมล์มาวิ่งรับจ้างแทนรถมอเตอร์ไซด์ที่มีอยู่ แรกๆ ก็เอารถเมล์มาวิ่งรับคนโดยสารก่อน แต่ชาวบ้านก็ไม่ชอบขึ้นรถเมล์ จะไปแต่รถมอเตอร์ไซด์ ปลัดสง่าจึงหาทางรังแก รังควาน กลั่นแกล้งพวกคนขับมอเตอร์ไซด์ จนกรุงต้องถูกจับไปขังคุกนาน 6 เดือน สร้างความโกรธให้กรุงเป็นอย่างมากที่ถูกรังแกอย่างไม่เป็นธรรม

          เมื่อเห็นชาวบ้านไม่กล้าหือแล้ว จากนั้นปลัดสง่าและพวก ก็เริ่มขยายอิทธิพลเถื่อนไปถึงขั้นค้าอาวุธสงคราม กักตุนข้าวสาร จนทำให้ชาวบ้านไร่ได้รับความเดือดร้อนไปทั่ว ต่อมา บุญคำ (ศิริขวัญ) ทนไม่ได้ที่เห็นชาวบ้านเดือดร้อน จึงไปเยี่ยมกรุงในคุกและเล่าเรื่องให้ฟังว่า พ่อของกรุงก็ถูกพวกปลัดสง่าซ้อมจนเสียชีวิต ส่วน อร (นฤมล) ซึ่งเป็นน้องสาวของกรุง ก็ถูกข่มขืนและฆ่าทิ้งด้วย...แค่นี้ ก็ครบสูตรความแค้นหนังไทยแล้วครับ..กรุงรอจนถึงวันออกจากคุก..พกความแค้นมาเต็มพิกัด...  หมายจะตามฆ่าปลัดสง่ากับพวกให้ได้ แต่คนโกงเวลาอยู่ด้วยกัน ก็โกงกันเองเพราะกำนันแม้นกับเสี่ยเซ้ง ก็ถูกปลัดสง่าหักหลังและฆ่าตายไปก่อน จากนั้นกรุงก็เปิดฉากดวลกับปลัดสง่าเพื่อล้างแค้นแทนผู้เป็นพ่อ น้องสาวและยังมีชาวบ้านที่ออกมาร่วมระบายความแค้นครั้งนี้ด้วย...

นี่แหละครับ เสือกเกิดมาจน ที่ทุกวันนี้ พวกเราก็ยังตามหาฟิล์มหนังมาฉายดูอีกไม่ได้..
…………

---------------


           ครับ หนังไทยคงเหลือนั้น พวกเรายังทำอยู่ ยังออกตามหาฟิล์มอยู่ครับ แต่ว่าช่วงนี้จะไม่โพสลงยูทูปเท่านั้นครับ ส่วนหนังเรื่อง เสือกเกิดมาจน นี้คุณนุPraderm Sangaseang เขาอยากดูมากๆ เขาตั้งรางวัลตามล่าหาฟิล์มไว้กับบริการหนังเก่าแห่งหนึ่ง ไม่รู้ว่าจะยังหาเจออีกหรือไม่.. วันนี้ คุณนุไปทำงานที่จังหวัดอุดรธานีครับ เป็นงานที่เจ้านายส่งไปคืนความสุขให้ประชาชนที่ห้างเซ็นทรัลอุดรฯ พอว่างๆ คุณนุก็เดินๆ ไปแถวหน้าที่ทำการแห่งหนึ่งซึ่งเคยเป็นหนังขายยาครับ ไปคุยกับเขา ไปขอดูฟิล์มเก่าๆ ที่เขายังเก็บอยู่ ก็มีไม่มากครับ นี่คุณนุฯ ก็ถ่ายรูปฟิล์มมาฝากครับ...

         ใช่ครับ ม้วนนี้เป็น 16 มม.สโคป ซึ่งอาจเป็นหนังไทย 35 มม.หรือหนังต่างประเทศครับ.. แต่ว่าฟิล์มกรุนี้ ผมเคยเขียนถึงไปแล้ว เป็นของห้างขายยาศรีตระการเภสัช ตรานกกระจอกเทศ ซึ่งเลิกกิจการนานแล้ว ปัจจุบันทำกิจการโรงแรมชื่อเดียวกันครับ ในห้องโถงโรงแรมก็มีฟิล์มแขวนไว้โชว์ไม่กี่ม้วนครับ ส่วนฟิล์มอื่นๆ นั้นตอนนี้เสียหายหมดแล้วครับ.. ผมเคยเขียนในบทที่ 504 วันนั้น... กับวันนี้ที่เสียดาย

คลิกชม.. บทที่ 504 วันนั้น... กับวันนี้ที่เสียดาย
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=418782148266428&set=o.156185157894883&type=1&permPage=1

Sutdej Saladeped ก่อนหนังจะเข้าโปรแกรมฉาย เคยถูกค้านจากกองเซ็นเซอร์ (ถ้าผิดพลาดกอง ขออภัย) ว่าใช้คำไม่สุภาพ "เสือก" และให้เปลี่ยนชื่อ หรือหาคำอื่นมาใช้แทน ทีมงานสร้างตกลงเปลี่ยนแปลงชื่อเป็น "โธ่เอ๋ย เกิดมาจน" แต่ก็ไม่เข้าถึงอรรถรสของบทประพันธ์ จึงยังคงยืนกรานที่จะใช้คำว่า "เสือก" เช่นเดิม

ตาปีอีปัน


ทีใครมีมัน

Shusak Pramprayoon ตอนปี 19. มี มอเตอร์ไชร์ รับจ้างแล้วเหรอครับ! รูปแบบเป็นแบบใหนกันครับ! เพราะเท่าที่รู้. มอเตอร์ไซร์รับจ้าง. เป็นรูปเป็นรูปเป็นร่าง ก็เมื่อปี 26-27. อยากเห็นภาพ ในภาพยนต์จังครับ.

           คุณ Shusak Pramprayoon เรื่อง มอเตอร์ไซด์รับจ้าง นั้น สมัยก่อนเขาไม่ได้เรียกเหมือนอย่างทุกวันนี้ครับ อย่างในหนังเรื่องนี้ เขาก็ไม่ได้เรียกมอเตอร์ไซด์รับจ้าง ผมเปลี่ยนคำพูดเอาเองให้ตรงกับสถานการณ์ในปัจจุบัน สมัยนั้น หนังเขาใช้ว่า อาชีพขับรถเครื่องรับส่งคนโดยสาร.. ส่วนรูปร่างหน้าตามอเตอร์รับจ้างนั้น ก็เหมือนๆ อย่างภาพนี้แหละครับ ผมจำได้ว่า ช่วงผมมาอยู่กรุงเทพฯประมาณปี 2525 ก็เริ่มเห็นมอเตอร์ไซด์รับจ้างกันแล้ว แต่ไม่มีเสื้อวินครับ..มีครั้งหนึ่ง เพื่อนนักศึกษารามฯซึ่งเป็นผู้หญิงคนหนึ่ง เขานั่งรถเตอร์ไซด์รับจ้างในหมู่บ้าน (ที่ไม่มีรถสองแถว) ออกไปปากซอยเพื่อไปต่อรถเมล์ไปเรียนรามฯ ทำแบบนี้ทุกๆ วัน พอมีญาติมาจากต่างจังหวัด ก็โดนคนฟ้องว่า เห็นลูกสาวซ้อนมอเตอร์ไซด์ไปกับหนุ่มๆ ทุกวัน..ก็คือ เข้าใจผิดกันนะครับ..

Shusak Pramprayoon ขอบคุณมากครับสําหรับข้อมูล. พอคุณบอกแบบนี้ ผมก็เลยนึก ขึ้นใด้ว่า เคยมีคนบอกอยู่เหมือนกัน ว่า การขับมอเตอร์ไซร์ับจ้าง. จริงแล้ว ไม่ใด้เกิดขึ้นที่กรุงเทพฯ.เป็นที่แรก แต่เกิดขึ้นที่ต่างจังหวัด. แต่ก็ไม่คิดว่าจะเกิดขึ้น มานานขนาดนั้น!

"เหตุผลหนึ่งที่ผมชอบดูหนังเก่าๆ ไม่ว่ารุ่นใหนก็แล้วแต่. ผมชอบที่จะดูวิว ของหนัง. สถานที่ต่างๆ. เพราะสิ่งเหล่านี้ มันบอกปัจจุบันใด้ครับ! แม้แต่หนังเรื่อง

"เสือกเกิดมาจน" ที่คุณกล่าวถึงอยู่นี้ ก็ใด้บอกเรื่องราว ให้ผมใด้ฉุกคิด ใด้เช่นกัน! หนังเรื่องนี้ผมไม่เคยดูครับ. หรือใด้ดูหรือเปล่า ก็จําไม่ใด้แล้ว
แต่ปีทีออกฉาย. ผมเพิ่งจะใด้ 5 ขวบครับ"

"ขอบคุณมากครับ "