• ชื่อไทย : แค้นลั่นนรก
• ปีที่เปิดตัว : 2562
• เข้าฉายในไทย : 14 มีนาคม 2562
• นำแสดง : Liam Neeson, Laura Dern, Micheal Richardson
• กำกับโดย : Hans Petter Moland
• เขียนโดย : Frank Baldwin, Kim Fupz Aakeson
• ประเภท : Action / Drama / Thriller
• ความยาว : 118 นาที
• เรต : R
• สร้างโดย : UK / Norway / Canada / USA
• จำหน่ายโดย : Mono Film
เรื่องย่อ Cold Pursuit เนลส์เป็นหัวหน้าครอบครัวที่สงบสุขและสันโดษ เขาใช้ชีวิตอย่างเรียบง่ายทำงานขับรถกวาดหิมะในช่วงฤดูหนาว แต่แล้วลูกชายของเขากลับถูกฆาตกรรมโดยเจ้าพ่อค้ายาเสพติด เมื่อชีวิตที่ไม่มีอะไรจะเสีย เขาได้เลือกเส้นทางแห่งการชำระบาปและการล้างแค้น
ขอต้อนรับสู่เมือง “คีโฮ” อากาศอันหนาวเหน็บด้วยอุณหภูมิ -10 องศา ที่นี่เป็นเมืองสกีรีสอร์ท ท่ามกลางหุบเขาร็อกกี้ ที่นี่เป็นเมืองเงียบสงบ ตำรวจท้องที่ไม่คุ้นเคยกับคดีอุกฉกรรจ์ แต่แล้วก็มีคดีการถูกฆาตกรรมลูกชายของคนขับรถกวาดหิมะอย่าง เนลส์ ค็อกซ์แมน (เลียม นีสัน) ซึ่งเป็นการออกคำสั่งของ ไวกิ้ง (ทอม เบทแมน) พ่อค้ายาเสพติดรายใหญ่ ด้วยความแค้นและอาวุธครบมือ เนลส์ ได้ออกไล่ฆ่าแก๊งอันธพาลทีละคนๆ โดยอาศัยความรู้ ความเข้าใจของการฆ่าคนจากนิยายฆาตกรรม ในขณะที่ศพเริ่มเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ การกระทำของเนลส์ได้เป็นการจุดชนวนก่อให้เกิดสงครามระหว่างแก๊งผู้ค้ายาเสพติดของไวกิ้ง และ ไวท์บูล (ทอม แจ็คสัน) มาเฟียชนเผ่าอินเดียนแดง จากเมืองที่เงียบสงบจะกลายเป็นเมืองที่เดือดระห่ำ เต็มไปด้วยเลือดในชั่วพริบตา
เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2562 สำนักข่าวบีบีซี รายงานว่า เลียม นีสัน (Liam Neeson) นักแสดงชื่อดังชาวไอร์แลนด์เหนือ วัย 66 ปี ผู้สร้างชื่อเสียงจากภาพยนตร์โด่งดังมากมาย รวมทั้ง Schindler's List และ Taken ได้เปิดอกเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นจริงกับตัวเองเมื่อหลายปีก่อน โดยเขาเคยเดินถืออาวุธไปตามถนนน ตั้งใจจะฆ่าผู้ชายผิวสีสักคนให้ตาย เนื่องจากความโกรธแค้นสุมอก เพราะคนใกล้ตัวของเขาถูกผู้ชายผิวสีข่มขืน เขาจึงต้องการออกไปตามล่าตัวผู้ชายคนนั้นเพื่อเป็นการล้างแค้นให้กับเธอ
เรื่องเล่าของพระเอกดังได้สร้างประเด็นถกเถียงอย่างกว้างขวางบนสังคมออนไลน์ โดยเฉพาะในเรื่องเชื้อชาติและสีผิว หลายคนที่ได้รับรู้ รู้สึกตกตะลึงอย่างมากที่เขาเคยคิดออกไปตามฆ่าผู้ชายผิวสีแปลกหน้าตามถนน จนอาจมีใครเสียชีวิตจากไปได้จริง ๆ แค่เพราะว่าคนร้ายที่ล่วงละเมิดเพื่อนของเขา เป็นคนผิวสี
เลียม ได้เปิดเผยเรื่องราวดังกล่าว ขณะให้สัมภาษณ์โปรโมต Cold Pursuit ภาพยนตร์เรื่องใหม่ของเขา กับทางดิอินดิเพนเดนท์ เลียมกล่าวถึงตัวเองเวลาโกรธว่า มันมี "สัญชาตญาณดิบ" ซ่อนอยู่ในความรู้สึกนั้น และได้เล่าเรื่องที่ไม่เคยเปิดเผยที่ไหนมาก่อน โดยเมื่อหลายปีที่แล้ว เขากลับบ้านหลังจากไปทำงานที่ต่างประเทศ เขาได้รับรู้ว่าผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งเป็นคนใกล้ชิดกับเขา ตกเป็นเหยื่อข่มขืน
เลียมไม่ได้เปิดเผยสถานะของเธอว่าเธอเป็นใคร เป็นเพื่อน ญาติ หรือมีความสัมพันธ์อย่างไรกับเขา เธอรับมือกับสถานการณ์นั้นได้อย่างน่าเหลือเชื่อ แต่มันทำให้เขาช็อกมาก เขาถามเธอว่าคนร้ายผู้ก่อเหตุคือใคร เธอรู้จักหรือไม่ และเธอบอกกลับมาว่าเป็นผู้ชายผิวสี เลียมจึงออกไปตามล่า
"ผมถือกระบองคอชออกไปข้างนอก เดินตระเวนไปตามชุมชนในละแวกนั้น ผมก็อับอายเหมือนกันนะที่พูดถึงเรื่องนี้ ผมทำแบบนี้ติดต่อกันอยู่ประมาณสัปดาห์หนึ่งเห็นจะได้ หวังว่าจะได้เห็น 'ไอ้มืด' คนนั้นเดินออกจากผับมาหาผม ผมจะได้ฆ่ามันให้ตาย" เลียม กล่าวขณะสัมภาษณ์
ขณะเล่าเรื่องนี้ เลียมรับรู้ดีว่าเขากำลังพูดอะไรอยู่ และมันเป็นเรื่องที่น่าตกใจมากแค่ไหน เขาเล่าอีกว่า ในช่วงเวลานั้น ผู้หญิงใกล้ชิดของเขามักจะเอ่ยปากถามอยู่เสมอว่า เขาออกไปไหน ออกไปทำอะไร ซึ่งเขาก็ตอบเธอไปว่า ไม่มีอะไร แค่ออกไปเดินเล่นเท่านั้น และไม่มีอะไรน่ากังวล เลียมเปิดเผยว่า เขาย้อนนึกไปถึงสิ่งที่ตัวเองทำในตอนนั้น และรู้ดีว่ามันเป็นอะไรที่แย่มาก มันเลวร้ายอย่างที่สุด แต่มันก็ได้เป็นบทเรียนสำคัญให้กับเขาว่าครั้งหนึ่งได้เคยคิดอะไรที่เหลือเชื่อมาก แต่ความรู้สึกโกรธแค้น รวมทั้งความรู้สึกอยากล้างแค้นเมื่อเกิดอะไรขึ้น มันเป็นสิ่งที่เขาเติบโตมากับมัน
"ผมมาจากสังคมที่แบบว่ามีแต่ปัญหา ผมเติบโตที่ไอร์แลนด์เหนือ ผมรู้จักคนที่ตายในช่วงประท้วงอดอาหารต่อต้านรัฐบาล (Hunger Strike 1981) ผมยังมีคนรู้จักที่ถูกจับในช่วงเวลาวุ่นวายนั้น ตอนนั้นมันทำให้ผมเข้าใจการแก้แค้น และสิ่งนี้ก็นำไปสู่การแก้แค้นเพิ่มขึ้นอีก มีการฆ่ากันเพิ่มขึ้นอีก ไอร์แลนด์เหนือก็เป็นตัวอย่างที่ดีของเรื่องนี้ และสิ่งเหล่านี้ก็เกิดขึ้นทั่วทุกมุมโลก พวกความรุนแรงต่าง ๆ อะไรก็ตามที่เกิดขึ้นนั่นแหละคือสิ่งที่เรียกว่าสัญชาตญาณดิบ" เลียม นีสัน กล่าว
เรื่องราวจากปากของ เลียม ได้สร้างความตกตะลึงให้กับนักข่าวผู้สัมภาษณ์ รวมทั้ง ทอม เบทแมน (Tom Bateman) นักแสดงร่วมในภาพยนตร์ Cold Pursuit ที่นั่งอยู่ด้วยกันในตอนนั้น อย่างไรก็ตาม หลังจากเรื่องนี้จบลง การสัมภาษณ์ก็เข้าสู่เรื่องภาพยนตร์ดังที่มันควรจะเป็น ทั้งนี้ทางสำนักข่าวบีบีซีได้ติดต่อไปยังตัวแทนของ เลียม นีสัน เพื่อสอบถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องนี้แล้ว แต่ยังไม่ได้มีความคืบหน้าใด ๆ