• ชื่อไทย : ดัมโบ้
• ปีที่เปิดตัว : 2562
• เข้าฉายในไทย : 28 มีนาคม 2562
• นำแสดง : Eva Green, Colin Farrell, Michael Keaton
• กำกับโดย : Tim Burton
• เขียนโดย : Helen Aberson, Ehren Kruger, Harold Pearl
• ประเภท : Family / Fantasy
• ความยาว : 130 นาที
• เรต : PG
• สร้างโดย : USA
• จำหน่ายโดย : Walt Disney Studios
เรื่องย่อ Dumbo เรื่องราวของเจ้าของคณะละครสัตว์ แม็กซ์ เมดิซี (แดนนี เดอวีโต) ที่ขอให้อดีตนักแสดง โฮลต์ ฟาริเออร์ (โคลิน ฟาร์เรลล์) และลูกๆ ของเขา มิลลี (นิโค พาร์คเกอร์) และ โจ (ฟินลีย์ ฮอบบินส์) ดูแลลูกช้างเกิดใหม่ ที่ใบหูขนาดใหญ่กว่าปกติ ทำให้เขาถูกหัวเราะเยาะ ในคณะละครสัตว์ที่สถานภาพไม่ค่อยจะสู้ดีอยู่แล้ว แต่เมื่อพวกเขาได้รู้ว่าดัมโบบินได้ คณะละครสัตว์ก็กลับมาเป็นที่นิยมอีกครั้งอย่างไม่น่าเชื่อ จนเข้าตานักธุรกิจผู้คร่ำหวอดอย่าง วี.เอ. แวนเดเวอร์ (ไมเคิล คีตัน) ที่คอยสรรหาสัตว์ใหญ่ที่มีความแปลกประหลาดสำหรับ ดรีมแลนด์ อัครสถานความบันเทิงสุดยิ่งใหญ่แห่งใหม่ล่าสุดของเขา ดัมโบ ทะยานไปสู่ความสำเร็จคู่ไปกับนักกายกรรมผาดโผนผู้มีเสน่ห์และฝีมือจัดจ้าน คอเลตต์ มาร์แชนท์ (เอวา กรีน) จนกระทั่งโฮลต์ได้รู้ว่าภายใต้ประกายวับวามภายนอกของมัน ดรีมแลนด์ เต็มไปด้วยความลับอันดำมืด
เรียกได้ว่าเป็นหนังอีกหนึ่งเรื่องที่ช่วยมาเติมเต็มความสุขในวัยเด็กอีกครั้ง สำหรับ Dumbo ภาพยนตร์ไลฟ์แอคชั่นจาก เดอะ วอลท์ ดิสนีย์ ที่ถูกต่อยอดมาจากแอนิเมชั่น ซึ่งได้ผู้กำกับสายดาร์ก ทิม เบอร์ตัน (Tim Berton) มากำกับภาพยนตร์ นำแสดงโดยนักแสดงรางวัลลูกโลกทองคำ โคลิน ฟาร์เรลล์ (Colin Farrell), ไมเคิล คีตัน (Michael Keaton), แดนนี เดอวีโต (Danny DeVito) และสาวทรงเสน่ห์ เอวา กรีน (Eva Green)
Dumbo ว่าด้วยเรื่องราวของ ดัมโบ ลูกช้างนิสัยน่ารัก ผู้มีหูโตเกินตัว เป็นสมาชิกใหม่ล่าสุดของคณะละครสัตว์ซอมซ่อของ แม็กซ์ เมดิซี ในตอนแรกความแตกต่างของเขาสร้างความตกใจให้กับเมดิซี ผู้คาดหวังว่าลูกช้างน่ารักตัวนี้จะช่วยดึงดูดผู้ชมจำนวนมากได้
จนกระทั่งดัมโบ้ค้นพบว่าเขาสามารถใช้หูของตัวเองในการบินได้ แต่ดัมโบ้ก็พบว่ามันไม่ใช่เรื่องน่าเฉลิมฉลองเลยเมื่อแม่ที่รักของเขาถูกพรากไปจากเขา ทิ้งให้เขาอยู่กับความกลัวตามลำพัง ในฐานะดาวเด่นของสวนสนุกไฮเทคที่มีชื่อว่า ดรีมแลนด์
ต้องยอมรับกันก่อนว่าโดยส่วนตัวแล้วไม่ได้มีลึกอะไรมากนักกับเรื่องราวของเจ้าช้างบินได้ รู้เพียงแค่ว่ามันเป็นแอนิเมชั่นมาก่อนและมีตัวละครช้างบินได้เท่านั้น จึงไม่ได้เกิดความคาดหวังกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นในหนังมากนัก เมื่อได้เข้าไปดูหนังจนจบจึงเกิดความรู้สึกที่หลายๆ อย่างแบบที่ไม่คาดคิดเลย
นับตั้งแต่เปิดฉากแรกมาเราก็ได้เห็นและรับรู้เรื่องราวคร่าวๆ มาแล้วคณะละครสัตว์แห่งนี้มาถึงจุดที่ตกต่ำที่สุดแล้ว ซึ่งผู้ที่จะมาช่วยกู้วิกฤตครั้งนี้ไม่ใช่ใครที่ไหน เจ้าช้างน้อยดัมโบที่เพิ่งลืมตาขึ้นมาดูโลกนี่เอง แน่นอนว่าด้วยเส้นของความเป็นดิสนีย์ทำให้เราก็พอจะเดาออกได้อย่างง่ายดายว่าเรื่องราวมันจะเป็นไปในทิศทางไหน และตอนจบจะเป็นอย่างไร และไม่ได้มีความเหนือความหมายหมายไปมากกว่าที่คิด
แต่หนังมีจุดแข็งและเรียกได้ว่าอาจจะเป็นจุดที่ดีที่สุดของหนัง ซึ่งน่าจะช่วยกลบความเบาโหวงเรื่องมิติของตัวละครอื่นๆ เลยก็ว่าได้ นั่นคือฉากที่เปรียบเสมือนไคล์แม็กซ์ ที่ช้างน้อยดัมโบทำการแสดงโผบินต่อหน้าสาธารณะชนเป็นครั้งแรก ฉากนี้เองทำเอาคนที่มีอารมณ์ค่อนข้างอ่อนไหวถึงกับหลั่งน้ำตาเลยทีเดียว
เพราะมันไม่ใช่แค่เรื่องของสัตว์ที่บินได้เท่านั้น แต่มันยังสื่อให้เห็นการพิสูจน์ตัวตนและความพิเศษที่แฝงอยู่ในตัวของทุกคน เพียงแค่รอวันเวลาเหมาะสมเพื่อจะเผยมันออกมา ในขณะเดียวกันหนังยังใส่ประเด็นหลายๆ เรื่องเข้าไปให้ได้ขบคิด ไม่ว่าจะเป็นความเท่าเทียม ทุนนิยม และแน่นอนเรื่องความสัมพันธ์ของคนในครอบครัวด้วย
ส่วนในเรื่องของโปรดักชั่นงานสร้างแทบไม่ต้องพูดถึง เพราะชื่อของ เดอะ วอลท์ ดิสนีย์ นั้นก็สามารถการันตีคุณภาพได้ดีอยู่แล้ว ยิ่งได้ผู้กำกับฝีมือเนี้ยบอย่าง ทิม เบอร์ตัน มาเป็นแรงสำคัญก็ทำให้หนังออกมาใกล้เคียงความเป็นจริงและคงสไตล์ความเป็นตัวเองสูง แม้ภาพรวมของหนังจะไม่ได้ออกมาสว่างสดใสอย่างหนังของดิสนีย์เรื่องอื่นๆ แต่ความมัวสัวที่ปกคลุมไปด้วยความอึมครึมแบบนี้ก็ทำให้ได้รสชาติไปอีกแบบ เชื่อว่าแฟนตัวยงไม่ควรพลาดแน่นอน