ขอร่วมไว้อาลัย สุรสีห์ ผาธรรม เสียชีวิต 25 มีนาคม 2566
สุรสีห์ ผาธรรม เพิ่งจะมีงานฉลองวันเกิด อายุ 75 ปีไปเมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2566 ที่ผ่านมานี้เอง แต่เช้านี้ facebook สุรสีห์ ผาธรรม ก็โพสต์แจ้งข่าวว่า คุณสุรสีห์ ผาธรรม เสียชีวิตแล้วครับ.. (เสียชีวิต 24 มีนาคม 2566 เวลา 23.30 น.) ผมเองมีโอกาสพบกับคุณสุรสีห์ ผาธรรม ครั้งสุดท้ายก็เมื่อวันที่ 1 มกราคม 2566 ปีใหม่ที่ผ่านมา ผมไปเยี่ยม ไปไหว้ท่านที่อุบลราชธานี.. และเนื่องในวันเกิดของท่าน 17 มีนาคม ผมทำคลิป 75 ปีสุรสีห์ ผาธรรม ขึ้นมา
กำหนดการงานศพ นายสุรสีห์ ผาธรรม
ณ วัดปทุมมาลัย ถ.สุริยาตร์ ต.ในเมือง อ.เมือง จ. อุบลราชธานี
วันอาทิตย์ที่ 26 มีนาคม 2566 รดน้ำศพ เวลา16.00 น.
สวดอภิธรรม วันที่ 26-27-28 มีนาคม 2566
พิธีฌาปนกิจ วันพฤหัสบดีที่ 30 มีนาคม 2566 เวลา 16.00 น.
สุรสีห์ ผาธรรม ผู้กำกับการแสดงภาพยนตร์คนอีสาน ชอบทำหนังสะท้อนชีวิตและความเป็นอยู่ของคนอีสาน สุรสีห์เป็นคนอำเภอพิบูลมังสาหาร จังหวัดอุบลราชธานี ชอบดูหนังกลางแปลง หนังขายยามาตั้งแต่เรียนชั้นประถมสี่ ถึงขนาดแทบจะทิ้งการเรียนเพื่อไปดูหนัง ยิ่งดูก็ยิ่งชอบ ใจคิดจะเอาดีทางหนังจึงหัดการพากย์หนัง
สุรสีห์เริ่มเป็นนักพากย์หนังกลางแปลง สมัยนั้นจะเป็นการพากย์สดๆ คนเดียวทั้งเรื่อง สุรสีห์ใช้ชื่อในการพากย์ว่า สกุลรัตน์ พากย์หนังอยู่แถบภาคอีสานหลายปี จึงคิดที่จะทำหนังบ้างซึ่งก็เป็นเวลาเดียวกับ กมล กุลตังวัฒนา ซึ่งเคยเป็นนักพากย์ภาคอีสานเข้ามาเปิดบริการจัดจำหน่ายหนังในกรุงเทพฯ สุรสีห์จึงตามเข้ามาช่วยงาน
ช่วงแรกๆ ก็จะจัดจำหน่ายหนังอินเดีย แต่ทำไปสักพัก การเงินก็ไม่ดีขึ้น สุรสีห์จึงออกความคิดว่า น่าจะลองสร้างหนังเองดูบ้างซึ่งตรงกับความฝันของกมลพอดี โดยคิดที่จะสร้างหนังเพลงตามแนวที่ครูรังสี ทัศนพยัคฆ์ เคยสร้างมนต์รักลูกทุ่งสำเร็จมาแล้ว แต่นี่จะเป็น มนต์รักลูกทุ่ง ของคนอีสานโดยคนอีสาน
สุรสีห์จึงมีโอกาสได้เป็นผู้ช่วยผู้กำกับหนังเรื่อง มนต์รักแม่น้ำมูล เป็นเรื่องแรก หนังออกฉายวันที่ 12 สิงหาคม 2520 ที่โรงหนังเพชรรามา ก็ประสบความสำเร็จอย่างมาก กมลจึงผลักดันให้สุรสีห์ขึ้นแท่นเป็นผู้กำกับหนังเองครั้งแรกจากเรื่อง ครูบ้านนอก ปี 2521 หนังก็ประสบความสำเร็จเกินคาดอีกทั้งๆ ที่ใช้พระเอก-นางเอกหน้าใหม่
ชื่อของสุรสีห์ ผาธรรม จึงเริ่มเป็นที่รู้จักในฐานะผู้กำกับคลื่นลูกใหม่ จากนั้นสุรสีห์ก็ได้กำกับหนังภาคต่อคือ หนองหมาว้อ ปี 2522 แม้จะทำรายได้ไม่ค่อยดี แต่สุรสีห์ก็ได้รับคำชมถึงพัฒนาการการทำหนังที่ดีขึ้น
ปี 2524 สุรสีห์กำกับหนังเรื่อง ครูวิบาก ให้กับ เพชรเกษมโปรดักชั่น ของ รักษ์ หล่อเกษมศานต์ โดยนำชีวิตครูเดินสอนมาเล่าสะท้อนความจริง แต่เป็นความจริงที่น่าหัวเราะ หนังเรื่องนี้ชี้ให้เห็นความสามารถของคน 2 คน คนแรกคือ คำหมาน คนไค ซึ่งเป็นคนเขียนเรื่อง ครูบ้านนอก แต่ครั้งนี้เขียนออกมาในแนวตลกได้อย่างสนุกสนาน เช่นเดียวกับสุรสีห์ที่ได้แสดงถึงความสามารถในการกำกับหนังแนวตลกด้วยเช่นกันและครูวิบากยังได้รับ 2 รางวัลสุพรรณหงส์ทองคำ ประจำปี 2524 ด้วยคือ บทภาพยนตร์ยอดเยี่ยมและภาพยนตร์สร้างสรรค์
จากนั้นสุรสีห์ก็กำกับหนังให้สหมงคลฟิล์มอีก 2 เรื่องคือ ครูดอย ปี 2525 ซึ่งมีเนื้อเรื่องต่อจาก ครูวิบาก หนังจะเล่าถึงภารกิจของครูเดินสอนที่ขึ้นไปช่วยพัฒนาหมู่บ้านบนดอยของจังหวัดเลยและอีกเรื่องก็คือ ผู้แทนนอกสภา ปี 2526 และสุรสีห์ก็ได้รับรางวัลตุ๊กตาทองผู้กำกับภาพยนตร์ยอดเยี่ยมจากเรื่องผู้แทนนอกสภา ก่อนที่จะกำกับเรื่อง สวรรค์บ้านนา ครูชายแดนและราชินีดอกหญ้า ซึ่งราชินีดอกหญ้าก็ได้รับ 3 รางวัลสุพรรณหงส์ทองคำ ปี 2529 คือผู้ประพันธ์ดนตรีประกอบยอดเยี่ยม ผู้ประพันธ์เพลงยอดเยี่ยมและภาพยนตร์ยอดเยี่ยม
