ไม่รู้ผิดกฎไหม ผมเกลียดเครื่องฉายดิจิตอล

[ป๊อปอาย ไทยซีเน]

คำว่า  "ภาพยนตร์"  ใช้กับ ดิจิตอล ไม่ได้....  เพราะดิจิตอลไม่ใช่จักรกล เครื่องยนตร์ กลไก   ไปหาคำอื่นมาใช้ซะ...

[MISTERJUK]

    ก็รู้กันอยู่เวปนี้รักการฉายด้วยระบบฟิล์ม     มันต้องอยู่ครับ

[mac]

ทุกอย่างต้องมีการ พัฒนา
- เลนส์สีออกมาไม่สวย ไม่คม ยังต้องพํมนาเปลี่ยนเพื่อทำให้ดี
- แสงไม่ออก ยังต้องพํมนาเปลี่ยนเพื่อทำให้ดี
- เสียงไม่ดี ยังต้องพํมนาเปลี่ยนเพื่อทำให้ดี

เกลียดพวกเขา (ต่างประเทศ)  แต่ยังจะหาซื้อมาใช้กัน (น่าคิด)......
จริงไหม .......
ดิจิตอลเข้ามาตั้งนานแล้ว.....เพราะว่าหนังทุกเรื่องที่ปริ้นฟิล์ม ก็มาจากไฟล์หนัง และมาแปลงเข้าฟิล์มจริงไหม ...... เขาอยู่ส่วนเขา เรารักฟิล์มก็ไม่ต้องไปวุ่นวายกับเขา คิดถึงคำพูดของเพื่อนสมาชิกไว้่ "จะสาวฟิล์มจน เมตรสุดท้าย" จำไม่ได้ว่าใครพูดไว้ แต่ประทับใจ....

อยากจะแสดงความคิดเห็นว่า ฝรั่งไม่ได้มาหลอกแดกอะไรกับเรา ... มีแต่เราเต็มใจที่จะซื้อของเขาเองจริงหรือเปล่า......
เช่น มี K... มาตั้ง คุณเข้าไปซื้อ คุณก็ไม่เสียเงินให้เขาจริงเปล่า
ถ้าเกลียดDiggital กอย่าไปเอาอะไรของมันมาใช้......
แสดงแค่ความเป็นส่วนตัว.... เพื่อแบ่งปันความคิด เท่าไรนั้น....

[วุฒิพงษ์ จันทร์ฉาย]

ใครก็ได้ช่วยตอบที พอพูดถึงเครื่องฉายดิจิตอล จะต้องมีสมาชิกท่านหนึ่งพูดถึงเครื่องฉายโปรเจ็คเตอร์ ทุกครั้งไปจากหลายๆหัวข้อ คือผมอยากทราบว่าเครื่องฉายดิจิตอลกับเครื่องฉายโปรเจ็คเตอร์มันตัวเดียวกันเหรอครับ (หมายถึงเครื่องโปรเจคเตอร์ที่ใช้ๆกัน)

[วุฒิพงษ์ จันทร์ฉาย]

you hate but I very Hate
Digital cinema...Sloppy...Exploit...Not invest
I will not support digital cinema.
คุณเกลียด แต่ผมเกลียดยิ่งกว่า
หนังโปรเจกเตอร์ มักง่าย เอาเปรียบ ไม่ลงทุน
ฉันจะไม่สนับสนุนหนังโปรเจกเตอร์มักง่าย
(มาแล้วครับกระทู้ล่อเป้า) เอ้า..เชิญ.....................

ผมว่าโรงหนังเขาคงไม่เอาเครื่องฉายโปรเจ็คเตอร์มาแหกตาคนดูหรอกครับ เท่าที่ผมเคยได้สัมผัสแลได้เห็นเครื่องฉายดิจิตอลไม่เห็นว่ามันจะเหมือนกับเครื่อฉายโปรเจ็คเตอร์เลย ผมว่าเขาลงทุนสูงอยู่ครับแค่เครื่องมือสองสั่งจากเมืองนอกยังหลักล้วนเลยครับ ถ้าโรงหนังที่ไหนเอาโปรเจ็คเตอร์ฉายช่วยบอกชื่อโรงหน่อยครับจะได้ไม่เข้าไปดูครับ

[วุฒิพงษ์ จันทร์ฉาย]

คำว่า  "ภาพยนตร์"  ใช้กับ ดิจิตอล ไม่ได้....  เพราะดิจิตอลไม่ใช่จักรกล เครื่องยนตร์ กลไก   ไปหาคำอื่นมาใช้ซะ...

อย่างหนังเรื่องไอรอนแมน3เป็นทั้งฟิล์มและดิจิตอล แล้วจะให้เรียกว่าอะไรครับ ผมคิดว่าสมาชิกในเวปเกือบทั้งหมดเคยดูหนังดิจิตอลกันทั้งนั้น

[วุฒิพงษ์ จันทร์ฉาย]

จริงๆแล้วผมคิดว่าที่ทุกวันนี้ฟิล์มจะหมดไปมันไม่เกี่ยวกันฝรั่งหรอกครับ คนไทยนี่แหละครับตัวแปลสำคัญ ไม่ว่าจะเส้นเสียงที่เปลี่ยนสีฟ้าและจากฟิล์มสู่ดิจิตอล ฝีมือคนไทยทั้งนั้นจะเปลี่ยนหรือไม่เปลี่ยนขึ้นอยู่กับคนไทยทั้งนั้น ถ้าคนไทยยังผลิตฟิล์ม พิมพ์ฟิล์มอยู่ คนไทยก็ได้ดูหนังฉายด้วยฟิล์ม แต่ทำไม่คนไทยถึงเลิกผลิตและพิมพ์ฟิล์ม เพราะคนไทยซึมซับวัฒนธรรมชาติตะวันตกมากไป ถ้าคนไทยไม่รับตรงนี้ก็จะมีฟิล์มใช้ไปทั้งชาติครับ ความคิดเห็นส่วนตัวล้วนๆ

[ฉัตรชัยฟิล์มshop]

คำว่า  "ภาพยนตร์"  ใช้กับ ดิจิตอล ไม่ได้....  เพราะดิจิตอลไม่ใช่จักรกล เครื่องยนตร์ กลไก   ไปหาคำอื่นมาใช้ซะ...

อย่างหนังเรื่องไอรอนแมน3เป็นทั้งฟิล์มและดิจิตอล แล้วจะให้เรียกว่าอะไรครับ ผมคิดว่าสมาชิกในเวปเกือบทั้งหมดเคยดูหนังดิจิตอลกันทั้งนั้น

ภาพยนต์ผมว่าก็คือหนังที่เราเรียกอยู่ สมัยก่อนโน้น หนังผลิดออกเป็นฟิล์มอย่างเดียว ต่อมาก็เริ่มทำเป็น VDO เป็นระบบอนาล็อก ต่อมาอีก 10กว่าปีที่แล้ว ก็เริมทำเป็นระบบดิจิตอล คือทำเป็นแผ่น LD หรือเลเซอร์ดิส   แผ่น CD VCD DVD BLU-RAY คนทุกคนเกือบ 100% ดูหนังจากเครื่องดิจิตอล ยกเว้นคนตาบอด

[ฉัตรชัยฟิล์มshop]

ใครก็ได้ช่วยตอบที พอพูดถึงเครื่องฉายดิจิตอล จะต้องมีสมาชิกท่านหนึ่งถึงเครื่องฉายโปรเจ็คเตอร์ ทุกครั้งไปจากหลายๆหัวข้อ คือผมอยากทราบว่าเครื่องฉายดิจิตอลกับเครื่องฉายโปรเจ็คเตอร์มันตัวเดียวกันเหรอครับ

โปรเจ็คเตอร์ ก็คือเครื่องฉาย ขึ้นอยู่กับคุณว่าจะเอาอะไรมาฉาย
 เอาหลอดฉาย โปรเจ็คเตอร์ ของ 16 ม.ม.มาให้ดู หลอด PROJECTOR LAMP  เครื่องฉายหนัง 16 ม.ม. ก็คือ โปรเจ็กเตอร์ 16 ม.ม.

[วุฒิพงษ์ จันทร์ฉาย]

ใครก็ได้ช่วยตอบที พอพูดถึงเครื่องฉายดิจิตอล จะต้องมีสมาชิกท่านหนึ่งถึงเครื่องฉายโปรเจ็คเตอร์ ทุกครั้งไปจากหลายๆหัวข้อ คือผมอยากทราบว่าเครื่องฉายดิจิตอลกับเครื่องฉายโปรเจ็คเตอร์มันตัวเดียวกันเหรอครับ

โปรเจ็คเตอร์ ก็คือเครื่องฉาย ขึ้นอยู่กับคุณว่าจะเอาอะไรมาฉาย
 เอาหลอดฉาย โปรเจ็คเตอร์ ของ 16 ม.ม.มาให้ดู หลอด PROJECTOR LAMP  เครื่องฉายหนัง 16 ม.ม. ก็คือ โปรเจ็กเตอร์ 16 ม.ม.

ผมเข้าใจครับ หัวกระเป๋าที่ทางกันอยู่ก็เรียกโปรเจคเตอร์ แต่มันคนละความหมายกันครับ ทุกท่านย่อมรู้ดีว่าสิ่งที่กำลังพูดอยู่นี้คืออะไร ผมอธิบายไม่เป็นครับ

[นันทวัฒน์(โหน่ง)]

จะว่าไป กลุ่มมือสมัครเล่น ทำไว้ฉายดูในบ้านอย่างเดียว หรือคนที่มีงานอื่นอยู่แล้ว ทำเอามันส์เฉยๆ กลุ่มนี้ไม่น่าได้รับผลกระทบอะไร มีก็เล่น ไม่มีก็เลิก

เหมือนคนที่สะสมแผ่นเสียง ตราบใดที่ยังหาแผ่นมาเพิ่มได้อยู่ ตราบนั้นก็ยังเล่นต่อไปได้เรื่อยๆ ถ้าหาซื้อแผ่นใหม่ไม่ได้แล้ว ก็ฟังแต่แผ่นเก่าๆไป จนกว่าแผ่นพังหมด หรือเบื่อ เลิกฟังไปเอง ก็เท่านั้น


ส่วนกลุ่มที่ต้องศึกษาเรื่องนี้อย่างถ่องแท้ ก็คือคนที่ยึดเป็นอาชีพอย่างจริงจัง และไม่มีธุรกิจการงานอื่นใดรองรับ หากจะคิดทุ่มหมดตัวกับระบบฟิล์มตอนนี้ ก็ขอให้กลับไปคิดอีกหลายๆๆๆๆๆตลบ ก่อนจะตัดสินใจอะไรลงไป
แต่สุดท้าย ผมคงไปห้ามใครไม่ได้ เพราะกระเป๋าใครกระเป๋ามัน ใครจะกระเป๋าตุงหรือกระเป๋าฉีก ก็ไม่เกี่ยวกับผม เพียงแต่อยากให้ตรึกตรองกันให้ดีๆ ไม่อยากให้รีบร้อนควักกระเป๋า แล้วกลายเป็นการสูญเปล่า ก็เท่านั้นเองครับ

[นันทวัฒน์(โหน่ง)]

Case Study - ไม่ใช่ที่ใหนอื่นไกล ที่บ้านผมเองนี่แหละ เจอ(เจ็บ)มาแล้ว

สี่สิบปีก่อน พ่อผมเริ่มทำร้านล้างอัดรูป ก็สั่งสมประสบการณ์และชื่อเสียงมาเรื่อยๆ ช่วงสูงสุดเมื่อสักยี่สิบปีก่อน เป็นถึงมือวางอันดับต้นๆในภูมิภาค เคยมีรายได้เดือนละเป็นแสนๆเลยทีเดียว
แต่สิบกว่าปีก่อน แกเห็นแล้วว่า เทคโนโลยีกล้องดิจิตอล ซึ่งเพิ่งตั้งไข่อยู่ในตอนนั้น จะต้องไล่ทัน และแซงหน้ากล้องฟิล์มได้ในที่สุด จึงได้พยายามเตรียมการตั้งรับไว้ตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว โดยพยายามลดต้นทุน/ขนาดกิจการลง หวังว่าในอนาคต น่าจะยังพอมีตลาดคนใช้กล้องฟิล์มรองรับอยู่บ้าง
แต่พอถึงตอนนี้ ปรากฏว่า ก็ต้านไม่อยู่จริงๆ ประกอบกับอายุมากขึ้น ลูกๆก็โตแล้ว มีงานการทำกันหมด ไม่มีภาระอะไรอีก เลยตัดสินใจเลิกกิจการดีกว่า

ย้ำอีกที ว่านี่ขนาดแกเห็นภาพล่วงหน้ามาตั้งนานแล้ว และได้พยายามตั้งรับตั้งแต่สิบปีก่อนแล้วนะครับ ยังต้องเลิกทำจนได้

...แล้วคนที่ไม่ได้ตั้งรับ/เตรียมตัวเตรียมใจ/ทำอะไรใดๆเลยล่ะ??

(แต่ว่าไปก็แปลกดี ตอนที่ร้านล้าง-อัดรูป โดนกล้องดิจิตอลกวาดล้างจนเกือบสูญพันธ์ เห็นที่เจ๊งก็เจ๊งไป ที่ปรับตัวได้ ก็อยู่รอดมาถึงวันนี้ ไม่เห็นมีใครออกมาร้องแรกแหกกระเชออะไรกันเลย)

[นันทวัฒน์(โหน่ง)]

ต่อให้เราเกลียดระบบดิจิตอลเข้าใส้ขนาดใหน สุดท้าย มันก็ต้องเข้ามาแทนที่การฉายด้วยฟิล์มอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ครับ

- เพราะอุปสรรคสำคัญที่สุดก็คือ กระบวนการผลิตฟิล์มเปล่า ไม่ว่าจะฟิล์มถ่ายหรือฟิล์มฉาย ถ้าจะให้คุ้มทุน ก็ต้องลงทุนกันเป็นอุตสาหกรรม ผลิตปริมาณมากๆ ไม่สามารถทำแบบสินค้า OTOP ผลิตกันหลังบ้าน หรือทำในโรงงานห้องแถวได้ ยังไม่นับ Know How อีกมากมายที่ต้องใช้ด้วย ต้นทุนรวมของการใช้ฟิล์ม จึงไม่เคยราคา"ถูก"
แล้วยิ่งมาเจอกับ demand ที่ลดน้อยลงๆแบบนี้ ยิ่งจะทำให้จุดคุ้มทุนในการผลิต ถูกถ่างกว้างออกไปมากขึ้นๆ แปลว่า ถ้าจะให้ขายได้ไม่ขาดทุน ก็ต้องขึ้นราคาขายให้แพงขึ้นไปอีก ซึ่งจะเป็นการบีบให้ demand ลดลงไปอีก ก็ทำให้ราคายิ่งแพงขึ้นไปอีก วนกันเป็นงูกินหางอยู่อย่างนี้...

- ดังนั้น บ.ฟูจิ จึงประกาศยุติสายการผลิตฟิล์มหนังทั้งหมดลงแล้วครับ ทั้งฟิล์มถ่ายและฟิล์มฉาย ทั้งฟิล์ม 16 และ 35mm เหลือตัวเดียวที่ทำอยู่ คือฟิล์มสำหรับทำสำเนา เพื่อเก็บรักษาในหอภาพยนตร์เท่านั้น
อั๊กฟ่ายังทำอยู่ก็จริง แต่ก็เฉพาะฟิล์มสำหรับฉาย และมีอยู่เบอร์เดียว ไม่มีแบบอื่นให้เลือก
ส่วนโกดักนั้น...เอาว่าถ้าไม่"เจ๊ง"ไปเสียก่อน ค่อยมาว่ากันอีกที
ต้องยอมรับว่า การผลิตฟิล์มหนัง ไม่ได้เป็น core business ของทั้งสามบริษัทแล้ว ฟูจิดูจะเป็นผู้ที่ปรับตัวเข้ากับโลกใหม่ได้ดีที่สุด อั๊กฟ่าหันไปเอาดีกับงานกราฟิก&เครื่องมือเฉพาะทาง ส่วนโกดักนั้น ถ้ารอดไปได้ ก็จะไปเอาดีกับงานสิ่งพิมพ์อุตสาหกรรมแทน
(กล้าพูดตรงนี้เลยว่า ต่อให้ไปตั้งกลุ่มในเฟซบุ๊ค มีคน add เข้ามาซักล้านสองล้าน ฟูจิก็ไม่มีทางกลับมาเปิดโรงงานผลิตฟิล์มหนังอีก)

- ยังไม่นับผู้ผลิตเครื่องฉายฟิล์ม ที่ถ้าไม่ผลิตเครื่องดิจิตอล ก็หันไปเอาดีกับธุกิจอื่นแทนกันหมดแล้ว ไม่อย่างนั้น ก็จะต้องเลิกกิจการไป เหมือนบ.ที่ผลิตเครื่องยี่ห้อ victory ของญี่ปุ่น

- ในภูมิภาคนี้ เหลือแต่ห้องแลปในบ้านเรา ที่ยังพิมพ์ฟิล์มป้อนประเทศแถวๆนี้อยู่ ซึ่งถึงแม้ว่าจะยังไม่เลิก แต่ก็ได้ลดต้นทุน (=ลดคุณภาพ) ลงเรื่อยๆ ไปตามปริมาณการผลิตที่ลดลง แปลว่า ฟิล์มหนังที่ออกจากแล็บทุกวันนี้ ก็อาจเสื่อมคุณภาพเร็วกว่าฟิล์มที่พิมพ์เมื่อซักสิบปีก่อนด้วยซ้ำไป

- ถ้าไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ตั้งแต่เดือนหน้าไป หนังฝรั่ง ที่เป็นหนังตึก (ตั้ง บ.ลูก จัดจำหน่ายหนังของตัวเองโดยตรง) ก็จะเลิกการพิมพ์ออกมาเป็นฟิล์มหนังอย่างเด็ดขาด ส่วนหนังที่ขายผ่านบ.ตัวแทน อย่างสหมงคลฯ ก็คงจะยื้อได้อีกปีสองปี ก่อนที่สต็อกฟิล์มเปล่าสำหรับพิมพ์จะหมดลง...

- เยอะไปแล้ว พอดีกว่า

ดังนั้น สิ่งที่ต้องยอมรับก็คือ ระบบฟิล์ม ได้ผ่านจุดสูงสุดของมันมาแล้ว และไม่ว่าจะชอบสุดขีด หรือเกลี่ยดชนิดผีไม่เผาเงาไม่เหยียบก็ตาม ระบบดิจิตอล ก็กำลังจะมาทำหน้าที่ตรงนี้แทน และจะไม่มีอะไรมาเปลี่ยนแปลงตรงนี้ได้

ถ้าเราศึกษาให้ผ่องแท้ รู้เขารู้เรา ก็จะผ่านช่วงเปลี่ยนถ่ายนี้ไปได้อย่างราบรื่น หรืออย่างน้อย ก็จะได้หลีกเลี่ยงการเจ็บเนื้อเจ็บตัวไปได้


อ้อ ผมไม่เคยแช่งให้ฟิล์ม"ตาย" หรืออยากให้ฟิล์มตายแต่อย่างใด จริงๆเคยหลงใหลใคล้คลั่ง เหมือนหลายๆคนในที่นี้มาแล้วด้วยซ้ำ ถ้าใครมีเวลา ก็ลองไปขุดดูกระทู้เก่าๆ ที่ผมเคยโพสต์ไว้ ตั้งแต่สมัยบอร์ดเก่าดูก็ได้ครับ

ผมเพียงแค่ถอยออกมา แล้วมองดูสถานการณ์อย่างเข้าใจ&ทำใจ แล้วก็หาวิธีอยู่ร่วมกับมัน ก็เท่านั้นเอง...

[rocket man]

[วู้ดดี้ ไทยชีเน]

ทุกคำถามและคำตอบก็อย่างที่ คุณโหน่ง เขียน ขอบคุณครับที่ให้ข้อมูลความรู้ดีๆ