ผู้เขียน หัวข้อ: พบความยิ่งใหญ่ของ พระมหาชนก ฉบับแอนิเมชั่นอลังการ ชมฟรี!  (อ่าน 367 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ นายเค

  • Thaicine Movie Team
  • PublicCoreTeam
  • พี่น้อง thaicine Gold member
  • ****
  • กระทู้: 3814
  • พลังใจที่มี 616
  • เพศ: ชาย
         เมื่อครั้งวโรกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษาครบ 6 รอบ ในปี พ.ศ. 2542 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าให้จัดพิมพ์บทพระราชนิพนธ์เรื่อง พระมหาชนก ในรูปแบบของการ์ตูน โดยมี ชัย ราชวัตร ศิลปินผู้ชำนาญการเป็นผู้วาดภาพการ์ตูนประกอบ และครั้งนี้บทพระราชนิพนธ์ พระมหาชนก จะกลับมาในรูปแบบภาพยนตร์แอนิเมชั่น โดยมีบริษัทผู้ผลิตแอนิเมชั่นเข้าร่วมกว่า 15 ราย และได้ศิลปิน นักวาด นักพัฒนาภาพเคลื่อนไหว ผู้ชำนาญการด้านแสงและเงา ผู้ชำนาญการด้านแอนิเมชั่น กว่า 250 คน มาช่วยกันสร้างสรรค์ภาพยนตร์เรื่องนี้ โดยแบ่งมีเรื่องราวแบ่งออกเป็น 3 องก์ ได้แก่


องก์ ๑ กำเนิด
         พระเจ้ามหาชนกฯ ผู้ครองกรุงมิถิลาแห่งแคว้นวิเทหะที่มีอาณาเขตกว้างใหญ่ไพศาล ทรงมีพระโอรส 2 พระองค์ พระองค์แรกทรงมีพระนามว่า พระอริฏฐชนกผู้ทรงมีความเข็มแข็งเฉียบขาด ส่วนองค์ที่สองทรงพระนามว่าพระโปลชนก ผู้ทรงมีพระทัยเมตตาโอบอ้อมอารีครั้นพระเจ้ามหาชนกฯ ทรงสวรรคต พระอริฏฐชนก ทรงขึ้นครองราชย์ โดยมีพระโปลชนกเป็นอุปราช ทั้ง 2 พระองค์มีความคิดเห็นในการปกครองที่แตกต่างกัน พระอริฏฐชนกทรงเห็นว่าอาณาจักรมิถิลาจะต้องยิ่งใหญ่ภายใต้กองทัพที่เข้มแข็ง ส่วนพระโปลชนกทรงเห็นว่าต้องไม่ลืมจิตใจที่เปี่ยมสุขของประชาชนด้วย

         ในเวลาต่อมามีอำมาตย์ผู้ใกล้ชิดที่ทุตจริตได้ออกอุบายใส่ความว่าพระโปลชนกกำลังซ่องสุมผู้คนเพื่อก่อการกบฎ พระองค์จึงถูกจับไปขังไว้ แต่พระองค์ทรงตั้งจิตอธิฐานต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์จนสามารถหลบหนีออกมาพร้อมผู้จงรักภักดีและได้ไปพำนักอยู่ ณ เมืองชายแดน จนกระทั่งวันหนึ่ง พระโปลชนกได้นำทัพกลับมามิถิลาเพื่อหวังจะขอปรับความเข้าใจกับพระอริฏฐชนก จึงส่งสาส์นเพื่อแสดงเจตนาขอปรับความเข้าใจกัน แต่ถูกขัดขวางจากอำมาตย์ผู้นั้นด้วยการปลอมแปลงข้อความในสาส์นให้เป็นสาส์นท้ารบ

         ขณะเดียวกันพระอริฏฐชนทรงเป็นห่วงพระเทวี มเหสีของพระองค์ที่กำลังทรงครรภ์อยู่ จึงได้ให้หลบหนีออกไปจากวังเสีย ในสนามรบพระอริฏฐชนกทรงสิ้นพระชนม์จากอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นจากฝีมือของอำมาตย์ผู้นั้น หลังจากนั้นพระโปลชนกจึงทรงขึ้นครองราชย์สืบต่อแทน พระเทวีทรงหนีออกจากเมืองมิถิลาอย่างยากลำบาก แต่ด้วยบุญญาธิการของพระโอรสในครรภ์จึงทำให้ทรงได้รับความช่วยเหลือจากท้าวสักกเทวราชที่ช่วยให้พระองค์สามารถหลบหนีไปถึงเมืองจัมปากะได้ ณ ที่นี้พระเทวีได้ทรงรับความช่วยเหลือจากอุทิจจพราหมณ์ โดยอุปการะรับพระเทวีเป็นน้องสาว ต่อมาพระโอรสในครรภ์ทรงประสูติกาล โดยมีพระนามตามพระอัยยิกาว่า พระมหาชนกกุมาร


องก์ ๒ ความเพียร

         เมื่อพระโอรสทรงเจริญวัยได้ถูกเพื่อนๆ ล้อว่าเป็นลูกหญิงหม้ายพระมารดา จึงเล่าความจริงให้ทราบว่าพระองค์เป็นใคร พระองค์จึงตั้งพระทัยว่าเมื่อเติบใหญ่แล้ว จะไปเอาราชสมบัติและนครมิถิลาคืนมาให้ได้ ครั้นเมื่อพระมหาชนกกุมารทรงเจริญวัยเติบใหญ่เปี่ยมไปด้วยพระปรีชาสามารถ พระองค์ทรงตรัสกับพระมารดาว่าจะไปล่องเรือทำการค้าขายที่ดินแดนสุวรรณภูมิ เพื่อสะสมทุนรอนและกำลังพลเพื่อหวังที่จะชิงราชสมบัติคืนมาให้ได้

         ระหว่างทางในมหาสมุทรพระมหาชนกได้มองเห็นว่าจะเกิดพายุขึ้น แต่ไม่มีใครเชื่อจนกระทั่งพายุกระหนำเรืออย่างรุนแรง บรรดาลูกเรือทั้งหลายหวาดกลัวครำครวญหนีตายกันอย่างโกลาหล ตรงกันข้ามกับพระมหาชนกที่ทรงตระหนักว่าเรือใกล้จะแตกเต็มที จึงเตรียมพระองค์โดยทรงเสวยให้อิ่ม และนำผ้าชุบน้ำมันมาพันกายให้แน่นหนา เมื่อเรือล่มเหล่าบรรดาลูกเรือที่ขาดสติและเดิมไม่เชื่อในสิ่งที่พระมหาชนกได้เตือนเกี่ยวกับพายุ ได้ตกน้ำกลายเป็นอาหารของฝูงปลาและสัตว์ทะเลทั้งหลาย ส่วนพระมหาชนกก็ทรงแหวกว่ายด้วยความเพียรอยู่ในมหาสมุทรนี้เป็นเวลาถึง 7 วัน 7 คืน

         นางมณีเมขลาเทพธิดาผู้รักษาท้องมหาสมุทรเห็นพระมหาชนกว่ายน้ำอยู่จึงลงมาช่วยพระมหาชนก และได้มีโอกาสสนทนาแลกเปลี่ยนความเห็น จนทำให้นางมณีเมขลาเข้าใจถึงหลักปรัชญาของการบำเพ็ญวิริยบารมีของพระมหาชนก จากนั้นนางมณีเมขลาจึงช่วยอุ้มพระมหาชนกจนมาถึงฝั่งเมืองมิถิลา


องก์ ๓ ปัญญา

         ที่เมืองมิถิลานี้พระโปลชนกกำลังทรงพระประชวรอย่างหนัก พระองค์ต้องการให้พระธิดาคือพระนางสิวลีเทวีได้ทรงมีคู่ครอง โดยได้ทรงตรัสทิ้งไว้ก่อนสิ้นพระชนม์ว่า ผู้ใดไขปริศนาของพระองค์ได้ จะทรงยกพระราชสมบัติทั้งหมดให้พร้อมด้วยพระราชธิดา เมื่อพระโปลชนกสิ้นพระชนม์ลงเหล่าอำมาตย์ได้จัดพิธีเสี่ยงราชรถเพื่อหาผู้มีบุญญาบารมีมาไขปริศนานั้น ราชรถได้มาหยุดที่พระมหาชนกผู้ซึ่งทรงบรรทมอยู่ในสวนพระองค์ทรงไขปริศนาได้หมดทุกข้อ ทุกคนในเมืองมิถิลาต่างพากันสรรเสริญ ในพระปรีชาสามารถของพระองค์ จึงได้อัญเชิญพระองค์ให้ทรงอภิเษกกับพระนางสิวลีเทวี


         เมื่อขึ้นครองราชย์ได้ทรงปกครองด้วยหลักทศพิธราชธรรม และนำพาความผาสุกมาสู่ปวงประชาชน วันหนึ่งพระมหาชนกเสด็จประพาสอุทยานและทรงทอดพระเนตรเห็นต้นมะม่วงต้นหนึ่งมีผลงามและอีกต้นหนึ่งไม่มีผลเลย พระองค์ทรงเสวยมะม่วง และตรัสว่ามะม่วงรสชาติดีดุจรสทิพย์ หลังจากพระองค์เสด็จกลับบรรดาประชาชนทั้งหลายก็เข้ามาโค่นต้นมะม่วงต้นนั้นเพื่อหวังจะเอาผลของมันมาบริโภค จนเป็นเหตุทำให้ต้นมะม่วงต้นนั้นถูกถอนรากโค่นลงมา เมื่อพระมหาชนกทรงทราบความ ทรงเศร้าพระทัยอย่างยิ่ง พร้อมกันนั้นทรงได้เปรียบเปรยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แก่ต้นมะม่วงกับพระราชสมบัติดังนี้ ต้นมะม่วงที่มีผลอาจจะถูกทำลายหรือถ้าไม่ถูกทำลายก็ต้องคอยเป็นกังวลจักต้องดูแลระแวดระวังรักษาไว้ ในทางกลับกันพระองค์ทรงคิดว่าถ้าจะเข้าถึงความสุขได้นั้นจักต้องทำตัวให้เป็นเสมือนเช่นต้นมะม่วงที่ไม่มีผล ที่ไม่ต้องกังวลว่าผู้คนในสังคมที่ไม่รู้จักคิดการณ์ไกล ในการทำนุบำรุงต้นไม้เพื่อเก็บผลไว้กิ ในวันหน้า จะมาโค่นต้นมะม่วงนี้ได้

         หลังจากนั้นจึงมอบหมายให้ผู้เชี่ยวชาญนำหลักการของพระองค์ไปทดลองเพื่อฟื้นฟูต้นมะม่วงที่ถูกโค่นลง และหาวิธีการที่ทำให้ต้นมะม่วงที่ไร้ผลกลับมาเกิดผล พร้อมกันนั้นพระองค์ทรงมีพระราชดำริให้จัดตั้งสถาบันการศึกษาขึ้นชื่อว่าปูทะเลย์วิชชาลัย เพื่ออบรมวิชาการด้านต่างๆ แก่บรรดาเหล่าอำมาตย์ข้าราชการและประชาชนในเมืองมิถิลา เพื่อที่ทุกคนจะได้มีวิชาความรู้ทั่วไปและมีสามัญสำนึกไม่เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัวแฉกเช่นเหล่าคนที่ชอบกินผลมะม่วงแต่กลับทำลายต้นมะม่วงทิ้งไป และเพื่อสังคมจะได้เจริญรุ่งเรืองและอยู่กันอย่างผาสุกสืบต่อไปกาลนานเทอญ


ตัวอย่างภาพยนตร์ พระมหาชนก

        เตรียมพบกับความยิ่งใหญ่ของ พระมหาชนก ในรูปแบบภาพยนตร์แอนิเมชั่นสุดตระการตา หนึ่งในการเฉลิมพระเกียรติ 5 ธันวามหาราช ณ โรงภาพยนตร์ในเครือ เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ ใกล้บ้านท่านโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย!! ในวันที่ 29 พ.ย. และ 6 ธ.ค. นี้ รอบเวลา 10.00 น. และ 15.00 น. และฉายทาง โทรทัศน์ ระหว่างวันที่ 6 – 8 ธ.ค. นี้ ในช่วงเวลาตามความเหมาะสมของแต่ละสถานี เพื่อให้ประชาชน และเยาวชน ได้รับชม และเรียนรู้สาระจากบทพระราชนิพนธ์เรื่องนี้ ที่ทรงมุ่งเน้นทั้งในเรื่องความเพียร การใช้สติปัญญา และการศึกษาเพื่อนำไปใช้ประโยชน์ในการดำเนินชีวิตต่อไป

————————



สรพงษ์ ลิ้มทองคำ
5 หมู่ 7 ต.คลองตาคต อ.โพธาราม ราชบุรี 70120    E-Mail soraphol@hotmail.com
ธ.กรุงเทพ ออมทรัพย์ สาขา อาคารยาคูลท์ สนามเป้า   หมายเลขบัญชี  210-036236-3
ธ.ไทยพาณิชย์  ออมทรัพย์ สาขา บางเขน   หมายเลขบัญชี  041-273435-0
ติดต่อ 0909040355

ชมรมรักหนังกางแปลง โพธาราม ราชบุรี เรามาคุยกันได