ผู้เขียน หัวข้อ: รู้หรือไม่ว่า..ท่านก็สามารถจะช่วยหนัง 16 มม.ได้  (อ่าน 125 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ มนัส กิ่งจันทร์

  • มนัส กิ่งจันทร์ ภาคสอง ชุมทางหนังไทยในอดีต
  • Moderator
  • พี่น้อง thaicine Gold member
  • ***
  • กระทู้: 2815
  • พลังใจที่มี 35
  • เพศ: ชาย
    • มนัส ชุมทางหนังไทยในอดีต
         หนัง 16 มม.พากย์สดๆ หมดยุคการสร้างในปี 2515 และต่อมาอีกประมาณ 5 ปีก็หมดยุคการฉายหนัง 16 มม.พากย์สดๆ แต่เชื่อเถอะครับว่า คนที่ผูกพันกับหนัง 16 มม.พากย์สดๆ มาเป็นเวลาสิบๆ ปี เขาจะไม่ทิ้งฟิล์มเหล่านั้น

         วันนี้ เพียงแต่ท่านช่วยกันคิดว่า เมื่อประมาณ 50 ปีที่แล้ว ท่านเคยเห็นใครฉายหนัง 16 มม.พากย์สดๆ ในจังหวัดหรือในอำเภอของท่านบ้าง..นึกชื่อให้ออก..แล้วบอกข้อมูลนั้นแก่พวกเรา พวกเราจะตามไปสืบ..ถ้าเขายังไม่ทิ้งฟิล์ม เราจะได้มีหนังมาฉายดูกันอีก..

         ผมจะลองยกตัวอย่างในจังหวัดสุรินทร์บ้านผมเมื่อ 50 ปีที่แล้วให้ฟังนะครับ ในเมืองสุรินทร์นั้น จะมีคนฉายหนัง 16 มม.พากย์สดๆ อยู่เพียง 2-3 บริการคือ 1) แรกๆ ก็จะเป็นบริการสหมิตรภาพยนตร์ เจ้าของเป็นพัสดีเรือนจำสุรินทร์ สำนักงานบริการหนังจะอยู่ริมสระน้ำวัดจุมพลฯ แต่พอเขาเลิกฉายหนัง 16 มม.ก็ไปฉายหนัง 35 มม.ก็เลยไม่มีฟิล์ม 16 มม.เหลืออีกเลย..2) บริการรัตนาภาพยนตร์ สุรินทร์ คนนี้เจ้าของชื่อ ตาเจิ้ด ก็ฉายมานาน มีทั้งหนังมิตร หนังสมบัติ เรื่องท้ายๆ สุดที่ผมดูประจำก็คือ ตุ๊กแกผี แต่ว่าตอนเลิกกิจการ ก็ขายกิจการให้อีกคนหนึ่งไป เป็นนักพากย์ตัวผอมๆ ทำอยู่ไม่กี่ปี ก็เลิกเพราะหมดยุคหนัง 16 มม.ผมก็ไม่รู้ว่า ตอนที่เลิกนั้น เขาย้ายบ้านไปอยู่ที่ไหน ทราบแต่เพียงว่า ฟิล์ม ตุ๊กแกผี นั้นเข้ามาในกรุงเทพฯแล้วครับ..3) บริการโพธิ์ทองภาพยนตร์ สุรินทร์ เจ้าของชื่อ ตาโพธิ์ นี่ก็ยืนหยัดฉายหนัง 16 มม. มานานมากๆ ในเมืองสุรินทร์ แต่ตอนเลิกกิจการนั้น ผมเข้ามาอยู่กรุงเทพฯแล้ว พอมีโอกาสไปตาม ก็ทราบว่า ตาโพธิ์ตายไปแล้ว มีคนบอกว่า ลูกสาวยังเก็บฟิล์ม 16 มม.ไว้ ผมก็ตามไปสืบอีก สืบจากเจ้าของห้องแถวที่ตาโพธิ์เช่าทำสำนักงาน แต่ก็ได้ความว่า ตอนที่ลูกสาวย้ายออกจากบ้านเช้านั้น ก็ไม่เห็นจะมีเครื่องฉายหนังหรือฟิล์มเลย.. นี่แหละครับ ตัวอย่างการสืบหาฟิล์มหนัง 16 มม.ที่พวกเราทำๆ กันอยู่..

          ที่เราต้องเร่งระดมหาข้อมูลนั้นก็เพราะว่า หลายต่อหลายที่ ที่พวกเราไปถึงนั้น ฟิล์มหนังก็มักจะเสียหายไปบ้างแล้ว หมายความว่า เรารู้ข่าวช้าเกินไปนะครับ ถ้าเรารู้เร็วกว่านี้ ฟิลฺ์มก็อาจจะรอด ตอนนี้ หัวเรือใหญ่ในการเจาะหาแหล่งข่าวฟิล์มหนัง 16 มม.ก็คือ คุณนุ Praderm Sangaseang ซึ่งทำงานเหนื่อยมากๆ แหล่งข่าวก็จะกระจุกอยู่ทางภาคอีสานเป็นหลัก นี่ ถ้าได้แหล่งข่าวจากภาคอื่นๆ บ้าง เราก็น่าจะช่วยหนัง 16 มม.ได้มากกว่าทุกวันนี้นะครับ..อย่างไรก็ตาม เมื่อหมดยุคการฉายหนัง 16 มม.พากย์สดๆ แล้ว ก็ต้องถือว่า หนัง 16 มม.พากย์สดๆ นั้นตายสนิทเพราะหากจะฉาย ก็จะต้องหานักพากย์มาพากย์และวางแบ็กกราวน์ ทำให้เกิดความยุ่งยากในการฉาย เจ้าภาพจึงไม่นิยม แต่ว่าปัจจุบันนี้ หนังไม่มีเสียง เราก็ช่วยกันให้มีเสียงพูดได้ ก็ต้องรีบทำตอนที่พวกเรายังมีแรงอยู่นี่แหละครับ..

          ฟิล์มข้างในกระเป๋าเสียหายหมดแล้วครับ น่าเสียดายจริงๆ เรารู้ช้าเกินไป พอรู้ ฟิล์มก็เน่าหมดแล้วครับ ณ นาทีนี้ ขอให้มีข่าวก่อนเถอะครับ..ตอนนี้ที่ตามหาไม่ได้ก็เพราะไม่มีแหล่งข่าวช่วยนี่แหละครับ บุรีรัมย์ก็เป็นจังหวัดหนึ่งที่มีบริการหนังดังๆ เยอะมาก แต่ผมทันข่าวแต่รุ่นหนัง 35 มม. ไม่เคยได้ข่าวคนฉายหนัง 16 มม.เลยครับ เพิ่งเมื่อเร็วๆ นี้ที่ไปเจอ โปโลเธค ซึ่งเป็นจอ 35 มม. แต่รุ่นคุณพ่อเขาเคยฉายหนัง 16 มม.ครับ เราก็เลยได้ฟิล์ม 16 มม.มาครับ..


"มนัส กิ่งจันทร์ ภาคสอง ชุมทางหนังไทยในอดีต" โดยเติมคำว่า "ภาคสอง" คั่นกลางไว้..
อดีตจากฟิล์มภาพยนตร์ ไม่มีวันตาย..