ผู้เขียน หัวข้อ: เดินทางไปร่วมฟังพระสวดอภิธรรมศพ คุณสมพงษ์ ตรีบุบผา อดีตผู้กำกับหนังชื่อดัง  (อ่าน 82 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ มนัส กิ่งจันทร์

  • มนัส กิ่งจันทร์ ภาคสอง ชุมทางหนังไทยในอดีต
  • Moderator
  • พี่น้อง thaicine Gold member
  • ***
  • กระทู้: 2815
  • พลังใจที่มี 35
  • เพศ: ชาย
    • มนัส ชุมทางหนังไทยในอดีต
         วันที่ 28 มีนาคม 2565ที่ผ่านมา ตอนเย็นๆ ผม พี่เทพ Ponthep Kaewmarung เลขาแตง มัทธิมา สายจันดา ก็เดินทางไปร่วมฟังพระสวดอภิธรรมศพ คุณสมพงษ์ ตรีบุบผา อดีตผู้กำกับหนังชื่อดัง เจ้าของฉายา "เศรษฐีอารมณ์ขัน" ที่วัดภคินีนาถวรวิหาร ศาลา 1 (เชิงสะพานซังฮี้) ถ.ราชวิถี แขวงบางยี่ขัน เขตบางพลัด กรุงเทพมหานคร..

         โดยมีผู้ที่เกี่ยวข้องกับวงการบันเทิงหลายท่านไปร่วมไว้อาลัยด้วย เช่น คุณกรุง ศรีวิไล (พระเอกหนัง) คุณสุรินทร์ ชะอุ่มพานิช (ผู้สร้างหนัง) คุณจารึก สงวนพงษ์ (ผู้กำกับหนัง) คุณตุ๊กตา จินดานุช (ดาราหนัง) คุณอรรคพล สงวนเกียรติ (ตากล้อง) ฯลฯ โดยจะมีการสวดพระอภิธรรมอีกในวันที่ 29-30 มีนาคม 2565 เวลา 18.00 นาฬิกา และกำหนดประชุมเพลิง วันที่ 31 มีนาคม 2565 เวลา 17.00 นาฬิกา ครับผม


"มนัส กิ่งจันทร์ ภาคสอง ชุมทางหนังไทยในอดีต" โดยเติมคำว่า "ภาคสอง" คั่นกลางไว้..
อดีตจากฟิล์มภาพยนตร์ ไม่มีวันตาย..

ออฟไลน์ มนัส กิ่งจันทร์

  • มนัส กิ่งจันทร์ ภาคสอง ชุมทางหนังไทยในอดีต
  • Moderator
  • พี่น้อง thaicine Gold member
  • ***
  • กระทู้: 2815
  • พลังใจที่มี 35
  • เพศ: ชาย
    • มนัส ชุมทางหนังไทยในอดีต
    คุณสุรินทร์ ชะอุ่มพานิช Surin Chaumphanit โทรบอกข่าวเศร้าว่า.. เมื่อคืนวันศุกร์ที่ 25 มีนาคม 2565 คุณสมพงษ์ ตรีบุบผา ผู้กำกับภาพยนตร์ชื่อดังเสียชีวิตแล้ว (อายุ 77 ปี) โดยศพจะตั้งสวดพระอภิธรรม ที่วัดภคินีนาถวรวิหาร ศาลา 1 (เชิงสะพานซังฮี้) ถ.ราชวิถี แขวงบางยี่ขัน เขตบางพลัด กรุงเทพมหานคร ในวันจันทร์ที่ 28 มีนาคม 2565 นะครับ

    สมพงษ์ ตรีบุบผา มีชื่อเล่นว่า เบิ้ม เกิดปี พ.ศ. 2488 เป็นคนบ้านแพน อำเภอเสนา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เริ่มเรียนหนังสือที่โรงเรียนมัธยมผดุงวิทยา อำเภอเสนา ซึ่งเป็นโรงเรียนราษฎร์ สมพงษ์เรียนดี เรียนเก่งแต่ฐานะทางบ้านยากจนไม่มีเงินส่งเสียให้เล่าเรียน จะให้เลิกเรียน แต่โชคดีที่ครูใหญ่ให้ทุนเรียนฟรีๆ จึงได้เรียนต่อจนจบชั้นมัธยม 6

    ราวๆ ปี 2507 เมื่อไม่ได้เรียนหนังสือ สมพงษ์ก็ติดตามกองถ่ายทำภาพยนตร์ไปฝึกงาน ช่วยงาน ต่อมาสมพงษ์ได้เข้าไปอยู่ในกองถ่ายหนังเรื่อง วีระบุรุษเมืองใต้ ของ วิเชียร วีระโชติ ซึ่งมีศักดิ์เป็นอา (แม่ของวิเชียรเป็นพี่สาวแม่ของสมพงษ์) ตอนนั้นวิเชียร วีระโชติ เป็นผู้กำกับการแสดง สมพงษ์จึงได้ฝึกงานเป็นผู้ช่วยตากล้องคือ ปรีชา ทรัพย์พระวงศ์ จากนั้นสมพงษ์ก็ค่อยๆ เรียนรู้งานเข้าไปเป็นตากล้องภาพนิ่ง.. คนบอกบท.. ต่อมาจึงได้เข้าไปเป็นลูกศิษย์ของพันคำหรือพร้อมสิน สีบุญเรือง โดยทำหน้าที่บอกบท..จัดเสื้อผ้า เช่นเรื่อง พรายดำ (2507) ในม่านเมฆ (2509) นางกวัก (2512) ทิวาหวาม (2517) โอ้ลูกรัก (2519) ฯลฯ และสมพงษ์เริ่มแสดงเป็นตัวประกอบครั้งแรกในเรื่อง คุณครูคนใหม่ (2518) ต่อมาก็ทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยผู้กำกับการแสดงของพันคำ ต่อมาก็เข้าเป็นผู้ช่วยผู้กำกับของ ส.เนาวราช ที่ค่ายศรีสยามโปรดักชั่น ของสาธิต คล่องเวสสะ อยู่ 2-3 ปี เช่นเรื่อง หนึ่งนุช (2514) นี่แหละรัก (2515) จันทร์เพ็ญ (2515)

    ได้เป็นผู้กำกับการแสดงหนังเรื่องแรกคือ กามเทพเล่นกล ปี 2519 เป็นหนังตลกที่แหวกตลาดหนังบู๊ขึ้นมาทำรายได้สูงถึง 3 ล้านบาท เรียกว่าเป็นแชมป์ตรุษจีนปีนั้นก็ได้ แต่ขณะเดียวกันสมพงษ์ก็เกิดปัญหาคือ วัดดีดวด ซึ่งเก็บศพคุณพ่อไว้จะทำพิธีล้างป่าช้า สมพงษ์จะต้องรีบหาเงินไปจัดการศพคุณพ่อ ครั้นจะเผาก็ไม่ได้เพราะญาติๆ บอกว่า คุณพ่อสั่งไว้ไม่ให้เผา แต่ให้ฝังศพใกล้ๆ อากงที่วัดโคกเสือ อำเภอเสนา ความที่ไม่มีเงินเลย สมพงษ์จึงคิดที่จะสร้างหนังขึ้นเองบ้างโดยจุดธูปบอกศพคุณพ่อขอให้ทำหนังได้สำเร็จ ให้ได้สตางค์ จะได้มีสตางค์มาสร้างฮวงซุ้ย จากนั้นสมพงษ์ก็นำรถเก๋งของตนไปจำนำ ได้เงินมาก็มาซื้อฟิล์มถ่ายหนัง โชคดีที่ว่าพอออกโฆษณาไปก็มีสายหนังต่างจังหวัดมาวางเงินจองล่วงหน้า จึงมีเงินมาสร้างฮวงซุ้ยและถ่ายหนังไปพร้อมๆ กัน หนังที่ว่านี้ชื่อ ไอ้คุณเฉิ่ม ปี 2520 ทำรายได้ดีเช่นกัน

    ทั้ง กามเทพเล่นกลและไอ้คุณเฉิ่ม ต่างสร้างชื่อเสียงให้กับสมพงษ์ ตรีบุบผา ในฐานะผู้กำกับเศรษฐีอารมณ์ขันและยิ่งรู้จักมากขึ้นอีกเมื่อหนังตลกๆ เรื่อง เทพบุตรต๊ะติ๊งโหน่ง ออกมาฉายปี 2520 โดยสมพงษ์ขอให้นำดาวตลก เด่น-เด๋อ-เทพ มาแสดงเป็นพระเอก

     นอกจากนี้ยังทำให้มีการสร้างหนังแนวตลกตามมาอีกหลายเรื่อง ส่วนชื่อเสียงของสมพงษ์ ตรีบุบผา นั้นไม่ต้องพูดถึงแล้วเพราะมีหนังเข้ามาให้กำกับอีกหลายสิบเรื่องจึงเป็นที่มาของคำว่า เศรษฐีอารมณ์ขัน ผลงานลำดับถัดมาของสมพงษ์ ตรีบุบผา ได้แก่ วัยเสเพล ทรามวัยใจเด็ด กามเทพหัวเราะ สองเรา กิ่งทองใบตำแย เป๋อจอมเปิ่น เฉยแหลก ซูเปอร์เก๊าส์ กุ๊กมือเก่า เขยบ้านนอก ยุ่งนักรักซะเลย ตลุยโรงหมอ เฉิ่ม เฉิ่ม แล้วก็ฉ่ำ..
"มนัส กิ่งจันทร์ ภาคสอง ชุมทางหนังไทยในอดีต" โดยเติมคำว่า "ภาคสอง" คั่นกลางไว้..
อดีตจากฟิล์มภาพยนตร์ ไม่มีวันตาย..