ผู้เขียน หัวข้อ: ภาพเก่าเล่าอดีตเล่าความหลังเกี่ยวกับหนัง “มนต์รักลูกทุ่ง” กันสักหน่อย..  (อ่าน 179 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ มนัส กิ่งจันทร์

  • มนัส กิ่งจันทร์ ภาคสอง ชุมทางหนังไทยในอดีต
  • Moderator
  • พี่น้อง thaicine Gold member
  • ***
  • กระทู้: 2853
  • พลังใจที่มี 35
  • เพศ: ชาย
    • มนัส ชุมทางหนังไทยในอดีต
          ภาพเก่าเล่าอดีต : วันนี้ จะขอชวนเชิญทุกท่านๆ เล่าความหลังเกี่ยวกับหนัง “มนต์รักลูกทุ่ง” กันสักหน่อย.. เป็นต้นว่า ท่านเคยดูครั้งแรกเมื่อไหร่.. และอะไรคือสิ่งที่ประทับใจหรืออยากจะพูดถึงหนังเรื่องนี้นะครับ

          สำหรับผมแล้ว ตอนที่ มนต์รักลูกทุ่ง ออกฉายครั้งแรกในปี 2513 นั้น ผมอายุเพียง 8 ขวบ สมัยนั้นหนังโรงก็ไม่มีปัญญาดู ก็ต้องอาศัยรอดูจากหนังกลางแปลง.. ก็เรียกว่า รอนานมากๆ จึงจะได้มีโอกาสดู ตอนนั้นเจ้าภาพเขาจ้างหนังมาฉายในตรอกตาลอน ใกล้ๆ บ้านผม คนพูดกันว่า คืนนี้ จะมี มนต์รักลูกทุ่ง มิตร-เพชรา มาฉาย.. ตอนนั้นชื่อมิตร-เพชรา เป็นอะไรที่คนดูหนังชอบกันมากๆ และยิ่งเป็นหนังดังๆ อย่าง มนต์รักลูกทุ่ง ด้วยแล้ว ยังไม่ทันค่ำเลย คนก็มาปูเสื่อจับจองรอดูหนังกันเต็มถนนแล้วครับ

          สมัยนั้น หนังกลางแปลงเมืองสุรินทร์ ก็เป็นจอผ้า ปักหลักด้วยเสาไม้ไผ่ 2 เสา มีลำโพงฮอนแค่ 2 ตัวเองครับ ผมไปเตร่ๆ ยืนแถวๆ เครื่องฉายหนังตั้งแต่ยังไม่ทันหัวค่ำ เห็นเขาพูดกันว่า ต้องฉายหนัง 8 เซียนกายสิทธิ์ก่อน แล้วค่อยต่อด้วยหนัง มนต์รักลูกทุ่ง.. เครื่องฉายหนังสมัยนั้น ก็เป็นหัวฉายแบบ 16 มม. แต่เขาใส่เตาอ๊าคเพิ่มเข้าไปด้านหลัง.. คืนนั้น 8 เซียนกายสิทธิ์ แม้หนังจะดูสนุกและตื่นเต้นมากๆ แต่คนก็ยังใจจดใจจ่ออยู่กับ มนต์รักลูกทุ่ง กันครับ

          มนต์รักลูกทุ่ง คืนนั้น ฉายจากฟิล์ม 16 มม. ฟิล์มเล็กๆ หนังก็เป็นสีแดงๆ เป็นเส้นฝนแล้ว (ก็คล้ายๆ กับที่เห็นเป็นแผ่นดีวีดีในปัจจุบันนะครับ) แต่ตอนนั้น ผมก็ไม่รู้เรื่องหรอกว่า หนังเป็นเส้นๆ หนังเป็นสีแดงๆ เพราะสมัยนั้นเวลาดูหนังจากจอหนังกลางแปลงทีไร ก็เห็นเป็นภาพแบบนี้ตลอดครับ

          มนต์รักลูกทุ่ง กับวัยเด็กๆ อย่างผม ดูแล้วก็ไม่พ้นชอบเรื่องฉากตลกๆ อย่างฉากไอ้แว่น ไอ้หมึก ฉากหมู่น้อยติดคุก ก็เรียกเสียงฮาจากคนดูได้ ผมเองก็ชอบและชอบเพลงในหนังด้วย คืนนั้น มนต์รักลูกทุ่ง เป็นอะไรที่ดูแล้วสนุกมากๆ และก็ดีใจที่ได้ดูหนังเรื่องนี้ แหละนั่นก็เป็นครั้งแรกและครั้งเดียวของการได้ดู มนต์รักลูกทุ่ง ครับ

          ต่อมาชื่อของ มนต์รักลูกทุ่ง ก็ถูกนำกลับมาพูดถึงอีก เมื่อมีการสร้าง มนต์รักลูกทุ่ง รุ่นทูน-ฤทัยรัตน์ ออกฉายในปี 2525 ตอนนั้น ผมมาเรียนรามฯ แล้ว ก็ไม่ได้ดูหนัง แต่พอกลับไปเยี่ยมบ้านที่สุรินทร์ ก็มีคนพูดกันว่า สู้รุ่นมิตร-เพชราไม่ได้ ขนาดว่า คนมาจ้างหนังกลางแปลงไปฉาย เขาก็ยังอยากได้ มนต์รักลูกทุ่ง รุ่นมิตร-เพชรา ไปฉายในงานเลย แต่เถ้าแก่ก็บอกว่า หาฟิล์มหนังรุ่นมิตรไม่ได้แล้วครับ

          มนต์รักลูกทุ่ง กลับมาฟื้นชีวิตอีกครั้ง ก็เมื่อ คุณกมล กุลตังวัฒนา มาเช่าโรงหนังแอมบาสเดอร์ ฉายหนังไทยเก่าๆ และมีการนำฟิล์มหนัง 16 มม.สโคป เรื่อง มนต์รักลูกทุ่ง มิตร-เพชรา ซึ่งตอนนั้นถือว่า เป็นกากฟิล์มชุดสุดท้าย ที่ครูรังสี ทัศนพยัคฆ์ ไปหากลับคืนมาได้ สภาพฟิล์มก็เป็นเส้นฝน ออกสีแดงๆ และมาพิมพ์ขยายเป็นฟิล์ม 35 มม.สโคป ออกฉายอีกครั้งในปี 2534 แต่เนื่องจากเส้นเสียงพากย์เดิม (ขุนแผน-ดารณี พากย์) เสียหายมาก ก็เลยต้องพากย์เสียงทับลงไปใหม่โดย ทีมงาน รอง เค้ามูลคดี ซึ่งต่อมาคุณโต๊ะ พันธมิตร ก็ซื้อสิทธิ์มาออกจำหน่ายเป็นแผ่นซีดี-ดีวีดี

          กระแสคนอยากดู มนต์รักลูกทุ่ง ต้นฉบับมิตร-เพชรา แบบภาพชัดๆ ถูกพูดถึงอีกเมื่อช่อง 7 สี นำมาสร้างเป็นละครและได้รับความนิยมมากๆ ทำให้ครูรังสี ทัศนพยัคฆ์ พยายามติดต่อไปยังห้องแล็บต่างประเทศที่เก็บฟิล์มต้นฉบับ (เนกาตีฟ) มนต์รักลูกทุ่ง แต่ได้รับแจ้งว่า ฟิล์มต้นฉบับเสียหายไปแล้ว
สำหรับผมนั้น มนต์รักลูกทุ่ง ถือเป็นหนังมิตร ชัยบัญชา เรื่องแรกๆ ที่ได้ดูอย่างมีความสุขในสมัยวัยเด็กๆ ครั้นต่อมาเมื่อได้พบปะพูดคุยกับคนรักหนังไทยเก่าๆ ก็ยิ่งทำให้รู้ว่า ไม่ใช่แต่ มิตร ชัยบัญชากับมนต์รักลูกทุ่ง เท่านั้น ที่คนพูดถึงครับ ยังมีหนังมิตร ชัยบัญชา อีกหลายเรื่องๆ ที่คนถามถึง ถามหา แต่ก็ไม่มีใครทำออกมาจำหน่าย.. แหละนั่นก็คือ แรงผลักที่ให้รู้สึกว่า เราจะต้องทำอะไรสักอย่าง ขืนมัวแต่นั่งพูดถึงกันแบบนี้ หนังมิตรก็จะตายกันไปหมด.. ฯลฯ แหละนี่เองก็คือ ที่มาของการรวมตัวกันตามหาฟิล์มหนังเก่าๆ กันครับ


"มนัส กิ่งจันทร์ ภาคสอง ชุมทางหนังไทยในอดีต" โดยเติมคำว่า "ภาคสอง" คั่นกลางไว้..
อดีตจากฟิล์มภาพยนตร์ ไม่มีวันตาย..