• ชื่อไทย : ปีศาจปรสิต
• ปีที่เปิดตัว : 2567
• เข้าฉายในไทย : 6 กุมภาพันธ์ 2568
• นำแสดง : Park Shin-Yang, Lee Min-Ki, Lee Re
• กำกับโดย : Hyun Moon-Sub
• ประเภท : Horror
• ความยาว : 95 นาที
• สร้างโดย : South Korea
• จำหน่ายโดย : M Studio Handmade
เรื่องย่อ Devils Stay ปีศาจปรสิต Devils Stay หรือในชื่อไทยว่า ปีศาจปรสิต หรือในชื่อเดิมของเกาหลีที่แปลว่า ‘3 วัน’ เป็นงานแนวเขย่าขวัญปนปริศนาลี้ลับ ว่าด้วยเรื่องราวของคุณพ่อที่เผชิญกับเรื่องหลอนประหลาดซึ่งเกิดขึ้นในช่วงการจัดพีธีศพ 3 วันของลูกสาวสุดรัก ที่ทำให้เขาเชื่อว่าลูกยังไม่ได้ตาย
เริ่มเรื่องราวที่ ศัลยแพทย์ชาซึงโด (รับบทโดย พัคชินยัง) ได้ดีใจชั่วขณะที่ลูกสาวซึ่งรักและผูกพันกันมากคือ ชาโซมี (รับบทโดย อีเร) ฟื้นได้สติหลังจากบาทหลวงพันแฮชิน (รับบทโดย อีมินกิ) ทำพิธีไล่ผีให้เสร็จ แต่มิทันไร โซมีก็สิ้นใจไปต่อหน้าต่อตาอย่างสุดแสนปวดใจ โดยมีการสรุปสาเหตุการตายว่าเพราะหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลัน หมอชาก็ยิ่งทำใจยอมรับไม่ได้ เพราะเขาเป็นหมอผู้ลงมือผ่าตัดปลูกถ่ายหัวใจให้ลูกสาวเองกับมือเมื่อไม่กี่เดือนก่อน ซึ่งประสบความสำเร็จดีสมกับความเป็นหมอมือหนึ่ง
ระหว่างการจัดเตรียมตั้งศพเพื่อทำพิธีเป็นเวลา 3 วัน ก็มีแต่เรื่องแปลกประหลาดเกิดขึ้นมากมาย ทำให้ผู้เป็นพ่อตีความว่าลูกกำลังสื่อสารว่ายังไม่ตาย เช่น เครื่องทำความเย็นของตู้เก็บศพเสีย ศพกำมือไม่แบและพบว่ากำสร้อยข้อมือรูปดาวที่พ่อให้ไว้ รวมถึงการที่เขาเป็นคนเดียวที่เห็นศพโซมีลืมตาได้ เห็นมาอยู่ต่อหน้าเขา ได้ยินโซมีเรียก บอกหนาว และมีเลือดไหลทะลักออกมาตรงหัวใจ ญาติๆจึงมองว่าหมอชาคงสติหลุดและหลอนจิตไม่ยอมปล่อยลูกจากไปและคอยขัดขวางการทำพิธี
เมื่อย้อนเหตุการณ์ก่อนตายซึ่งเล่าผ่านการเมาท์มอยของเพื่อนๆโซมีหรือแขกในงาน พบว่าโซมีมีอาการแปลกๆเป็นอันตรายกับผู้คนรอบตัว เหมือนถูกผีสิงมาสักพักหนึ่งแล้ว
ในขณะที่ บาทหลวงพันก็คลางแคลใจในพิธีปราบผีของตนที่ทำไปไม่สำเร็จ จึงค้นหาสาเหตุและค้นคว้าข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตำนานปีศาจร้ายซึ่งเคยถูกปิดผนึกไว้ในหัวใจ ซึ่งก็เป็นปีศาจที่ครั้งหนึ่งเคยสร้างปมให้เขาต้องโทษตัวเองจนถึงทุกวันนี้ที่ทำให้เพื่อนรัก คือมิคาเอล (รับบทโดย ยุนจงซอก) ตายไปต่อหน้าต่อตา เขาจึงมุ่งมั่นที่จะต้องจัดการปีศาจร้ายตนนี้ให้ได้
เมื่อมีการตั้งคำถามเรื่องที่มาของหัวใจปลูกถ่าย ทำให้หมอชาตามไปหาต้นตอที่ศูนย์พักพิงคนรัสเซีย ได้พบกับผู้หญิงลึกลับ บิ๊กมามา (รับบทโดย กิลแฮยอน) ปริศนาเรื่องราวจึงค่อยๆเผย พร้อมๆกับที่ชีวิตหมอชาก็ตกอยู่ในอันตราย จนบาทหลวงพันไปช่วยไว้ทัน
หลังจากนั้น พวกเขาจึงกลับมาร่วมทำพิธีปราบผีให้โซมีอีกครั้งก่อนจะสิ้นสุดเวลา 3 วันของการจัดงาน แต่ผลจะเป็นอย่างไร การต่อสู้และการคลี่คลายปมในช่วงท้ายเรื่องจะออกมาได้ผลอย่างไร ต้องไปติดตามดูค่ะ
โดยรวม เรียกได้ว่าเป็นหนังปราบผีที่ค่อนข้างมาตรฐาน เล่าได้ค่อนข้างราบเรียบ ถ้ายิ่งใครเป็นคอหนังผีสยองขวัญ อาจไม่รู้สึกถึงความขนลุกตื่นเต้นอะไรนักเลย จังหวะพีคไม่ขึ้น ฉากเฮี้ยนสุดก็ยังเป็นอะไรที่เห็นมาเจนตาแล้ว ซีนพีคทั้งหมดคือที่ตัดไว้ในหนังตัวอย่างแหละ
โดยปกติแล้ว จุดเด่นของหนังแนวนี้ของเกาหลี มักมีเสน่ห์เฉพาะตัวของการผูกเรื่องราวดรามาแรงๆตลบหักมุมปิดท้าย ซึ่งเรื่องนี้ก็เป็นเช่นนั้น โดยวางไว้ใน 15 นาทีท้ายของเรื่อง ซึ่งถือว่าทำได้ครบสูตร เพียงแต่อรรถรสไม่ได้ เข้าใจว่าเป็นเพราะบทไม่กลม ไม่คม ซีนต่อซีนอาจไม่ลื่นไหลบ้าง เหมือนแตะผ่าน ขาดการอธิบายขยายรายละเอียดหรือการบิวด์อารมณ์เลยไปได้ไม่สุด ทั้งๆที่ช่วงต้นๆก็ดูจะเดินเรื่องในแนว slow burn แต่ไปๆมาๆก็เหมือนเสียจังหวะการคล้อยตามไปเฉยๆซะงั้น
แต่ถ้าว่ากันเพียวๆเกี่ยวกับแนวคิดที่มา ผู้เขียนคิดว่าเขาตั้งต้นมาดีใช้ได้เลยค่ะ เพียงแต่ไม่ได้ใช้ประโยชน์ในการขยี้ขยายต่ออย่างเต็มที่ เช่น การผูกปมแรกของความรักของพ่อลูก ไขว้ด้วยจรรยาการแพทย์ของพ่อ ที่ขยี้ต่อให้สะเทือนใจว่าถูกหรือผิดได้ แต่ก็ดูจะผ่านไปผิวๆ หรือ การปราบผีที่ไม่ได้เน้นแต่พิธีกรรม แต่ต้องรวมถึงสภาพจิตใจที่พร้อมด้วย จิตมีปมคือจิตที่อ่อนแอ ทำอะไรก็ยากจะสำเร็จ แต่การแก้ปมก็ไม่ได้ถูกขยี้ให้เกิดอารมณ์ร่วม เวลาที่ใช้ไปกับการบริกรรมคาถาปราบผีเลยดูจืดไปเลย หรือการพยายามพาดพิงไปถึงผู้ด้อยโอกาสในสังคม ซึ่งเป็นชาวต่างชาติผู้อพยพ ก็ไม่ได้ขยายใช้ประโยชน์อะไรจากจุดนี้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ถ้าทุกจุดที่ว่ามาขยาย ก็คงจะยาวย้วยแตกเส้นเรื่อง จึงอยากสรุปว่าเป็นบททำได้ไม่ดีสมบูรณ์ และการเดินเรื่องที่พยายามจะกระชับจนอรรถรสหดหายไป
อย่างน้อยที่สุด ที่ย่อยมาได้ไวๆสั้นๆและน่าสนใจก็คือ การเปรียบเปรยความรักที่ยึดติดอยู่ในใจจนเป็นความทุกข์ ให้เป็นเรื่องของการฝังปิดผนึกปีศาจไว้ในหัวใจ และปีศาจผู้รู้ว่าความรักนี่แหละคือจุดอ่อนของมนุษย์ จึงใช้ความรักในการโจมตีมนุษย์ที่มันเกลียดชัง แต่ท้ายสุดแล้ว ความรักของพ่อที่หนักแน่น บริสุทธิ์ พร้อมเสียสละก็ยังเป็นสิ่งที่มีพลังและมีค่ายิ่งเสมอ
