Bullet in the Head กระสุนเจาะกระโหลก เพื่อนทรยศกลางไฟฝัน หนังเรื่องนี้ไม่ใช่แค่แอ็กชั่น มันคือกระสุนปืนใหญ่ที่จอห์น วูยิงใส่คำว่า “มิตรภาพ” ให้กระจายออกมาเป็นชิ้น ๆ
...ไม่ต่างจากหัวใจที่เพื่อนรักหักหลังกัน
---
ปี 1990 จอห์น วูหอบเอาความผิดหวังในใจ และภาพของอดีตเพื่อนสนิท
มาถักทอกลายเป็นหนังชื่อ Bullet in the Head มันเป็นหนังว่าด้วยสงครามเวียดนาม เต็มไปด้วยกระสุน ความบ้า ความสูญเสีย
แต่เหนือสิ่งอื่นใด มันคือ “เรื่องของเพื่อน”
จอห์น วู ให้สัมภาษณ์ไว้ชัดเจนว่าเขาทำหนังเรื่องนี้เพราะคิดถึงฉีเคอะมากที่สุดในชีวิต
เคยเป็นเพื่อน เคยร่วมฝัน เคยจับมือกันสร้างฮ่องกงให้ลุกเป็นไฟด้วยศิลปะการเล่าเรื่อง
แต่แล้ววันหนึ่ง ฉีเคอะกลับก้าวข้ามเขาไป
เลือกกำกับ A Better Tomorrow III หนังที่วูมองว่าควรจะจบไปตั้งแต่ภาคสอง
ไม่เพียงแค่นั้น มันคือจักรวาลที่วูเป็นคนปลุกปั้นด้วยมือ แต่กลับถูกอีกคนที่เคยเรียกว่า “พี่น้อง” แย่งไปหั่นต่อหน้า
Bullet in the Head คือจดหมายล่องหนที่เขาส่งถึงฉีเคอะ ด้วยเลือด
---
ในหนัง เราเห็นสามเพื่อนรักจากฮ่องกงเดินทางเข้าสู่นรกเวียดนาม จากเพื่อนสนิท กลายเป็นคนแปลกหน้าในสงคราม
จากรอยยิ้มวัยเด็ก กลายเป็นเสียงปืนที่ยิงเข้าขมับกันเอง หนึ่งคือชายหนุ่มที่เชื่อในมิตรภาพจนถึงวินาทีสุดท้าย
อีกคนคือผู้หักหลังได้แม้แต่เพื่อน คนสุดท้ายต้องทนทรมานกับความทรงจำอันเน่าเฟะ
สามเส้นทางที่เหมือนกับจอห์น วูตะโกนออกมาใส่ผู้ชมว่าเพื่อนร่วมฝัน กลับกลายเป็นคนลั่นไกใส่กันเอง
---
หนังมีฉากในสงคราม แต่สงครามที่แท้จริงไม่ได้อยู่ที่ปืน แต่อยู่ที่ใจคน มันคือสงครามระหว่างความทรงจำ กับความจริง
ระหว่างอดีตอันสวยงาม กับปัจจุบันที่โหดร้าย และในความจริงของวู มันคือการสื่อถึงฉีเคอะแบบไม่ต้องพูดชื่อ
แต่คนในวงการรู้ดีว่า Bullet in the Head คือสงครามส่วนตัวของชายสองคน
ที่เคยเป็นเพื่อน ที่ตอนนี้ต่างคนต่างอยู่กันคนละมุม และไม่มีเส้นทางใดให้เดินกลับมาเจอกัน
---
หนังเรื่องนี้ไม่ได้มีแค่ปืน มันเต็มไปด้วยเลือด น้ำตา และความเจ็บลึก
จอห์น วูถ่ายทอดโลกที่มิตรภาพถูกแลกด้วยเงิน ความซื่อสัตย์กลายเป็นเหยื่อของความทะเยอทะยาน
และสุดท้าย...ความหวังตายไปแล้ว
---
ฉากจบของหนัง ไม่ต่างอะไรกับมิตรภาพที่จบลง ไม่ต้องมีเสียงบรรยาย
ไม่ต้องมีคำว่า “ลาก่อน” แค่สายตาของตัวละคร ก็แทนเสียงตะโกนในใจของวูว่า
"ทำไมนายถึงหันกระบอกปืนมายิงใส่ฉัน"