ผู้เขียน หัวข้อ: ศึกลายฟ้าพญายม ผลงานเทคนิคพิสดารสะท้านฟ้าของ "เป๋าเสี่ยลี่"  (อ่าน 249 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ shawsbrothers

  • Shaws BrothersMovie
  • Moderator
  • นักเล่าเรื่อง ปรับชั้นต้องโพสรวม 80 กระทู้
  • ***
  • กระทู้: 32
  • พลังใจที่มี 100
  • เพศ: ชาย
  • Shaws BrothersMovie
         ยิ่งใหญ่มโหฬารพันลึกเหนือกว่าศึกทั้งหลาย เมื่อมันเป็นศึกของผู้วิเศษชั้นเซียนเหยียบเมฆ ผลงานเทคนิคพิสดารสะท้านฟ้าของ "เป๋าเสี่ยลี่" จากต้นฉบับนิยายขายดีของ กิมย้ง ผู้เขียน “มังกรหยก"


         ขณะที่คอหนังเอเชียกำลังตั้งตาคอย “มังกรหยก” ภาค 2 อย่างใจจดใจจ่อ "ชอว์ บราเดอร์" ก็ส่ง “ศึกสายฟ้าพญายม” (The Battle Wizard) 天龍八部 เปรื่องเข้ามาดังสายฟ้าฟาดทีเดียว

"ทำไมถึงว่ายังงั้น?"
“ศึกสายฟ้าพญายม” ที่ดังเหมือนสายฟ้าฟาดเปรื่องเข้ามากลางคัน ก็เพราะว่าพระเดช พระคุณคนเขียนหนังสือเรื่องนี้นั้น คือ มนุษย์ที่ชื่อ กิมย้ง(Jin Yong) 金庸

         ก็ "กิมย้ง" นี้แหละที่เขียนเรื่อง "มังกรหยก” อันลือลั่น ขายมากกว่า 10 ล้านเล่มในเอเซีย จากจำนวนพิมพ์ที่พิมพ์ขึ้นในแต่ละประเทศ รวมทั้งประเทศไทยซึ่งขายได้ทั้ง ฉบับไทย และฉบับจีนรวมกันนับแสนๆ เล่ม

         ก็หัวแหลม และฉับไวเสมอ สำหรับท่านเซอร์รันรันคนนี้ ที่เอา “ศึกสายฟ้าพญายม” มาช่วยระงับความกระหายหิวของคอหนัง ที่กำลังต้องการ “มังกรหยก" ภาค 2 (The Brave Archer Part II) 射鵰英雄傳續集


         ผลงานของกิมย้งเรื่องใหม่นี้ นับเป็นเรื่องสนุกผาดโผนโจนทะยานไม่แพ้เรื่อง “มังกรหยก” และที่เป็นพิเศษก็คือ กิมย้งกล้าใส่อาวุธวิเศษลงไปในนิยายบู๊ของเขา ในขณะที่นักเขียนคนอื่นๆ แม้กระทั่งโกวเล้งเจ้าตำรับยุทธจักรเองก็เถอะ ยังไม่กล้า
"เรียกว่า กิมย้งซะคน จะทำอะไรก็มันส์พะยะค่ะไปทั้งนั้น"




         ใน “ศึกลายฟ้าพญายม” กิมย้งเริ่มเรื่องของเขา โดยเท้าความจากพงษาวดารจีนฉบับพิสดารสมัยเมื่อต้วนเจิ้งตุง (นำแสดงโดย ซูเหวย) (Szu Wei) 思維 ออกญาแห่งเมืองตาลี่ในมณฑลยูนนาน (ก็คงจะเป็นบรรพบุรุษคนหนึ่งของไทยนั่นเอง) สมสู่คบชู้กับนางฉิงหงเหมียน ผู้เป็นภรรยาของเซียนผู้วิเศษตนหนึ่ง จนเกิดเหตุขึ้น ทำให้ต้วนเจิ้งตุงต้องตกกะไดพลอยโจน จับอาวุธเข้าราวีกับเซียนนั้น จนเซียนวิเศษสู้ต่อไปไม่ไหวต้องเผ่นหนีหายไปโดยไม่กลับมาอีก

         แต่ว่าต้วนเจิ้งตุงนั้น เมื่อมันสมอารมณ์ของมันกับนางเมียของผู้วิเศษแล้ว มัมก็หาได้ตกแต่งอยู่กินให้สมกับที่ได้แย่งนางมาจากตัวอื่นไม่ มันกลับไปอภิเษกนางอื่น มีลูกชายกับนางนั้น แล้วให้ชื่อมันว่าต้วนอี้ (นำแสดงโดย หลีซิ่วเสียน) (Danny Li Hsiu-Hsien) 李修賢




         ฝ่ายตวนอี้ผู้ลูก เมื่อมันโตขึ้นก็กลับแปลก เป็นลูกไม้หล่นไกลต้น คือมันหาได้ใส่ใจเพลงอาวุธดั่งพ่อของมันไม่ กลับหมกมุ่นอยู่แต่หนังสือ อย่างกะจะเป็นนักปราชญ์ พ่อแม่ของมันจึงต้องบังคับขับไสทั้งเช้าทั้งเย็น

         ย้อนกลับไปถึงนางฉิงหงเหมียน นังเมียของผู้วิเศษที่ลอบเป็นชู้กับต้วนเจิ้งตุง นางผู้นี้เมื่อเสียทั้งผัวจริง และผัวชู้ไปทั้งสองคน มันก็คลอดลูกมาเป็นหญิง มันให้ชื่อลูกหญิงของมันว่า มู่วันชิง (นำแสดง โดยเถียนหนี) (Tanny Tien Ni) 恬妮

         นางฉิงหงเหมียนนั้น ความแค้นของมันมากนัก มันจึงถ่ายทอดวิชาคาถาอาคมต่างๆ ให้แก่ลูกหญิงของมันจนหมดสิ้น ทั้งยังได้ ให้ไปร่ำเรียนกับเซียนต่างๆ มา จนสามารถใช้อาวุธวิเศษต่างๆ ได้อย่างคล่องแคล่ว

         นางมู่วันชิงผู้นี้ เมื่อโตเป็นสาวก็เป็นหัวหน้าสำนักใหญ่ มีผู้คนนิยมยกย่อง และยำเกรงเป็นอันมาก แต่มันหาได้อยู่ติดที่ไม่ ด้วยแม่มันสั่งเอาไว้เป็นคำขาดว่าให้ตามหาชายที่ชื่อ ต้วนเจิ้งตุงให้เจอ และเมื่อเจอแล้วก็ให้สังหารเสียให้ได้ ไม่ว่าจะด้วยเล่ห์ด้วยกล ฤาด้วยอาวุธวิเศษใดๆ


         เจ้าต้วนอี้ ผู้ลูกของต้วนเจิ้งตุงกับนางเมียใหม่นั้น เมื่อถูกบังคับให้ร่ำเรียนเพลงศาสตราอาวุธหนักเข้า มันก็หนีออกจากวังของพ่อ แล้วตุหรัดตุเหร่เข้าไปในป่า หาที่วิเวกอ่านตำราจากหนังสือ หวังความเป็นปราชญ์ จนวันหนึ่งได้เจอเข้ากับนางแก่แดดเข้านางหนึ่ง ชื่อนางจงหลิง (นำแสดงโดย หลินเจิ้นฉี) (Lin Chen-Chi) 林珍奇 ผู้มีอาคมกล้า สามารถฝึกงู และสัตว์ต่างๆ ให้มาอยู่ในบังคับใช้งานได้

         ต้วนอี้ไม่สนนางนี้ ทว่านางจงหลิงเกิดใจปฏิพัทธิ์ และตามติดมันไปโดยไม่มียางอาย ต่อคำถากคำถาง จนกระทั่งถูกจับโดยฉับพลัน ด้วยกับดักของไอ้โจรป่าชื่อ ซือกงชวน (นำแสดงโดย เจียงฮัน) (Chiang Han) 強漢

         ฝ่ายนางจงหลิง เมื่อถูกจับก็หาระย่อไม่ มันได้ใช้คาถาเรียกงูตัวเล็กๆ ให้เจาะซอก เข้าไปในตัวของไอ้โจรซือกงชวน จนไอ้โจรต้องเจ็บปวดแทบขาดใจตาย มันจึงยอมปล่อยตัวตวนอี้เป็นอิสระไป

         นางจงหลิงนั้น เมื่อตวนอี้เป็นอิสระ มันสั่งความให้ไปตามหานางที่ชื่อ มู่วันชิงให้ได้ เพราะนางนี้เป็นผู้เดียวที่มีฤทธา สามารถบังคับให้ไอ้โจรไพร ซือกงชวนถอนคาถาอาคมจากตัวมันได้


         ฝ่ายต้วนอี้ก็ได้ออกตามหานางมู่วันชิง ตามคำขอของนางจงหลิง จนกระทั่งได้พบว่า นางผู้นี้อาศัยอยู่ในไพรสูง ใช้ผ้าดำคาดหน้าตลอดทั้งวัน และมีฤทธิ์วิเศษสมจริง ดังที่นางจงหลิงกล่าวอ้าง

         ระหว่างที่ ตวนอี้และมู่วันชิงกำลังสาละวนช่วยนางจงหลิงให้พ้นจากเงื้อมมือของซือกงชวน ก็เกิดมีอสูรกาย สาวกเซียนผู้วิเศษเข้ามาขัดขวาง และจะฆ่าตวนอี้กับมู่วันชิงเสียให้ได้ นางมู่วันชิงเกิดพลาดท่าถูกอาวุธอสูรกายจนเป็นแผลใหญ่ ต้วนอี้เข้าช่วยนาง จนได้แลเห็นใบหน้าแท้ของนางมู่วันชิง ซึ่งสาบานเอาไว้ว่า ถ้าชายใดแลเห็นหน้านางไซร้ ไอ้ผู้นั้นถ้าไม่ตายก็จะต้องเป็นผัวนาง












         นี้เป็นความเบื้องต้น และเบื้องกลางของนิยายสนุกสนั่น มันเหลือใจของกิมย้ง ในหนังสือเรื่อง “ศึกสายฟ้าพญายม"
เป๋าเสี่ยลี่(Pao Hsueh-Li) 鮑學禮
ผู้กำกับการแสดงชื่อดังของฮ่องกง และชอว์ บราเดอร์ กล่าวว่า “ศึกสายฟ้าพญายม” เป็นเรื่องที่ท้าทายความสามารถ ในการกำกับการแสดงเป็นที่ยิ่ง แต่ทว่าเขาก็ได้ทำสำเร็จแล้ว


         มันทำสำเร็จแน่นอน โดยเฉพาะฉากเด็ด อาวุธวิเศษต่างๆ นานา ซึ่งในรอบ 20 ปีที่ผ่านมา ยังไม่เคยมีใครทำมาเลย
ยูเนียนโอเดียนได้นำ “ศึกสายฟ้าพญายม" เข้ารอบมิดไนท์สบายไปแล้ว เมื่อวันศุกร์ที่ 3 เสาร์ ที่ 4 มีนาคมนี้ และขณะนี้กำลังฉายอยู่ในรอบ ปกติ 3 โรงพรัอมกันที่ วอเนอร์ นิวโอเดียน และ เซ็นจูรี่ จนถึงวันที่ 23 มีนาคม คอหนังต่างจังหวัดโปรดอดใจคอยสักเล็กน้อย ลงเป็นเครือยูเนียนโอเดียนซะอย่าง เรื่องฉายหนังแช่ไม่เคยมี

=================================
***"ศึกสายฟ้าพญายม" ปี 1977 เข้าฉายเมืองไทย วันที่ 10 มีนาคม 2521(1978)
***บทความจากนิตยสารโลกดารา ปีที่ 10 ฉบับที่ 214 วันที่ 15 มีนาคม 2521(1978)


พูดคุยสาระหนังชอว์ บราเธอร์, บันเทิงฮ่องกงบ้าง, ไทยบ้าง, มีฮอลลีวู๊ดแซมบ้างนิดหน่อยครับ !!!