บทที่ 153 ชุมทางหนังไทยในอดีต เสนอฉาย ฟ้าคะนอง (2513 ไชยา-อรัญญา-ภาวนา)

[ฉัตรชัยฟิล์มshop]

บทที่ 153
ชุมทางหนังไทยในอดีต เสนอฉาย
หนึ่งในโครงการภาพยนตร์ไทยคงเหลือ
ฟ้าคะนอง (2513 ไชยา-อรัญญา-ภาวนา)
โดย มนัส กิ่งจันทร์
(facebook 25 พฤษภาคม 2556)

ฟ้าคะนอง 2513 ไชยา อรัญญา ภาวนา

            สวัสดีครับ วันนี้ โครงการภาพยนตร์ไทยคงเหลือ นำหนังชื่อแปลกๆ มาให้ดูกันครับ.. แค่เห็นชื่อ หลายคนก็พากันสงสัยแล้วครับว่า ทำไมถึงชื่อ “ฟ้าคะนอง”..  นั่นซิ..ถ้าอยากรู้ ก็ต้องลองดูกันเองนะครับว่าเป็นอย่างไร.. ฟ้าคะนอง..  นำแสดงโดย ไชยา สุริยัน-อรัญญา นามวงษ์-ภาวนา ชนะจิต-สุรสิทธิ์ สัตยวงศ์-รุจน์ รณภพ-วงศ์ทอง ผลานุสนธิ์-วิไลวรรณ วัฒนพานิช-ชูศรี มีสมมนต์-สุรชาติ ไตรโภค... สร้างโดย ละโว้ภาพยนตร์ โดย หม่อมอุบลยุคล เป็นผู้อำนวยการสร้าง.. และกำกับการแสดงโดย พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอนุสรมงคลการ.. เข้าฉายครั้งแรกเมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 2513 ที่โรงหนังศาลาเฉลิมกรุง…

            ปี 2513 ที่หนังเรื่อง ฟ้าคะนอง กำลังสร้างนั้น วงการหนังไทยบ้านเรา ยังนิยมสร้างด้วยฟิล์ม 16 มม.พากย์สด.. แต่สำหรับผู้สร้างรายนี้ท่านเป็นเจ้าครับ ก็เลยสร้างในระบบมาตรฐานสากล คือ 35 มม. สโคป พากย์เสียงลงในฟิล์ม..พระเอกของเรื่องก็คือ ไชยา สุริยัน พระเอกตุ๊กตาทอง ซึ่งขณะนั้นกำลังกลับมาแจ้งเกิดอีกครั้งในวงการ เรื่องนี้ ไชยารับแสดงเป็น 2 บทครับ..

            ส่วนนางเอกเจ้าประจำของวังละโว้ก็ยังเป็น อรัญญา นามวงษ์ ที่เคยแสดงเรื่อง อีแตน (2511 มิตร) เกาะสวาทหาดสวรรค์ (2512 สมบัติ) แม่นาคพระนคร (2513 มิตร) มาแล้ว..  แต่ครั้งนี้ มีการดึงตัว ภาวนา ชนะจิต มาแสดงประกบด้วย..

            ส่วนผู้ร้ายสำคัญในเรื่องก็คือ สุรสิทธิ์ สัตยวงศ์..  และคนที่เล่นเป็นพี่สาวอรัญญาก็คือ วิไลวรรณ วัฒนพานิช นางเอกตุ๊กตาทองคนแรกของเมืองไทย..และที่ต้องจับตามองก็คือ สรพงศ์ ชาตรี ซึ่งตอนนั้นยังไม่ได้แสดงเป็นพระเอกหนัง ก็เข้าฉากเป็นตัวประกอบช่วยถือกระเป๋าให้ ภาวนา ชนะจิต ตอนต้นเรื่องฉากเดียว ก็คนที่ใส่เสื้อเชิ้ตนั่งใกล้ภาวนานั่นแหละครับ... ฟ้าคะนอง เป็นหนังที่มีความยาวเกิน 2 ชั่วโมง ปัจจุบันนี้ ยังไม่เคยมีการทำวีดีโอหรือวีซีดีลิขสิทธิ์ออกมาจำหน่าย..แต่สถานีโทรทัศน์ช่องหนึ่งเคยฉายมาครั้งหนึ่ง ตัดหนังเหลือแค่ชั่วโมงครึ่งครับ..

            วันนี้ ก็เลยนำมาให้ดูแบบย่อๆ กันครับ..เพราะนี่ก็คือ หนึ่งในโครงการภาพยนตร์ไทยคงเหลือ ฟ้าคะนอง (2513 ไชยา-อรัญญา-ภาวนา)




คลิ๊กดูที่นี่...
หนึ่งในโครงการภาพยนตร์ไทยคงเหลือ ฟ้าคะนอง (2513 ไชยา-อรัญญา-ภาวนา)

 

<iframe width="560" height="315" src="//www.youtube.com/embed/CfeTu3lY1cw?fs=1&start=" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>
.............

            ในเรื่อง ไกรทอง มีภาษิตอยู่บทหนึ่งว่า "หมอตะเข้ที่ดี ย่อมไม่ฆ่าตะเข้" ผมว่า มันเป็นเพียงแค่คำพูดที่พูดให้ฟังดูดีเฉยๆ ครับเพราะถ้าหมอตะเข้ไม่ฆ่าตะเข้ แล้วใครจะฆ่า ต่อให้หมอตะเข้ไม่ลงมือฆ่าด้วยตัวเอง แต่หมอตะเข้เป็นคนใช้เวทย์มนต์นำตะเข้ขึ้นมาติดกัปชาวบ้านแล้ว ฉะนั้น การละเว้นด้วยการเพียงไม่ฆ่าด้วยตัวเอง แต่ก็รู้เห็นเป็นใจให้ชาวบ้านฆ่าตะเข้ หมอตะเข้นั้น ก็ผิดไม่ต่างไปจากผู้ลงมือหรอกครับ..

            คติพจน์ของนักอนุรักษ์ที่ดีก็มีการพูดทำนองว่า นักอนุรักษ์ต้องไม่ค้าขาย..ก็แล้วแต่จะพูดกันไปนะครับ..สำหรับผมแล้ว คุณจะเป็นนักอนุรักษ์หรือไม่ ไม่สำคัญ แต่ถ้าคุณมีของ ซึ่งในอดีตของสิ่งนั้นเป็นที่เคยเปิดเผยมาก่อน เคยเผยแพร่กันมาแล้ว..

            การอนุรักษ์ที่ดีอย่างหนึ่งก็คือ การเผยแพร่ให้คนอื่นๆ ได้เห็นของที่คุณคิดว่า มีคุณค่าจึงนำมาเก็บอนุรักษ์ไว้นั้นด้วย...ฉะนั้น การอนุรักษ์กับเผยแพร่ จึงเป็นของคู่กัน ขาดอย่างหนึ่งอย่างใดมิได้ มิเช่นนั้น ก็ไม่รู้ว่า เราจะอนุรักษ์กันไว้ทำไม..เพราะการเก็บอนุรักษ์ ก็ย่อมจะมีความหมายอยู่ในตัวแล้วว่า อนุรักษ์ไว้ให้อนุชนคนรุ่นหลังๆ ได้เห็ันกันอีก..และคำว่า อนุชนคนรุ่นหลังๆ นั้น ก็ย่อมหมายถึง ใครก็ได้ที่จะอยากเห็นอยากจะดูด้วยนะครับ..